Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2098 ชิงโลงมรณะ
หลี่ชิเย่มีประกายสายฟ้าวูบวาบ ร่างกายของเขาสามารถจุสวรรค์ลงทัณฑ์เอาไว้ได้ทั้งหมด สวรรค์ลงทัณฑ์จึงเสมือนดั่งน้ำทะเลภายในร่างกายที่จะกระฉอกออกมา สายฟ้าแต่ละสายที่วิ่งพล่านอยู่บนตัวของเขา ส่วนสวรรค์ลงทัณฑ์ที่ถูกกลืนกินโดยตำหนักสวรรค์และลัคนาจตุลักษณ์นั้น ได้กลับกลายเป็นทะเลพิบัติที่สยดสยองยากจะหาใดเทียม
ท่ามกลางทะเลพิบัติเช่นนี้ สายฟ้าได้ก่อเกิดเป็นคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวยิ่ง คลื่นยักษ์ได้พุ่งปะทะกับจักรวาล ท่วมเหล่าชั้นฟ้าและดวงดาวจนมิด แต่สิ่งนี้หาใช่เป็นคลื่นจากน้ำทะเล มันคือสวรรค์ลงทัณฑ์ ดังนั้น เมื่อสวรรค์ลงทัณฑ์ที่เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่พุ่งเข้าปะทะนั้น มันสามารทำลายฟ้าดิน ทำลายสิบสามทวีปได้
แต่ว่า ด้วยพลังของสวรรค์ลงทัณฑ์ที่น่าสยองขวัญเช่นนี้แหละ กลับถูกลัคนาจตุลักษณ์และตำหนักสวรรค์กลืนกินเข้าไป แม้ว่าบนท้องฟ้ายังคงมีสายฟ้าฟาดที่เป็นสวรรค์ลงทัณฑ์จำนวนนับไม่ถ้วนฟาดลงมา แต่ทว่า ร่างกายของหลี่ชิเย่ที่เปรียบเสมือนหุบเขาที่ไม่มีขอบเขตจำกัด รองรับกับทุกๆ สวรรค์ลงทัณฑ์ที่ฟาดฟันลงมาได้หมด
ในขณะนี้ ตัวของหลี่ชิเย่เปรียบประดุจเป็นสวรรค์ลงทัณฑ์ร่างคน พลังสวรรค์ลงทัณฑ์ที่อยู่ภายในร่างกายของเขาสามารถตัดสินจอมราชันเซียนหวังใดๆ ก็ได้ สามารถตัดสินทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ยามที่ดวงตาทั้งสองของหลี่ชิเย่ลืมขึ้นด้วยความโกรธ ทั่วทั้งร่างของหลี่ชิเย่จะพวยพุ่งอำนาจการตัดสินความที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา เหมือนว่าภายใต้การตัดสินของเขา ผู้ดำรงอยู่ในสถานะใดก็ตามล้วนแล้วแต่ดูเล็กจิ๋วอะไรปานนั้น ไม่คู่ควรที่จะเอ่ยถึงเพียงนั้น
“ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ยืนเซ่ออยู่ตรงนั้นแหละ” พริบตาเดียวนั่นเอง มือของหลี่ชิเย่กางออกอย่างชำนาญ เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา นิ้วทั้งสิบของเขาพวยพุ่งเป็นสวรรค์ลงทัณฑ์แต่ละสายออกมา สวรรค์ลงทัณฑ์ดั่งธนูสวรรค์ที่โจมตีลงมา โดยพุ่งเป้าโจมตีไปที่พวกของราชันสวรรค์ยิว!
“อ๊ากก…” เสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น พวกของราชันสวรรค์ยิวได้ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์แต่ละสายตรึงเอาไว้อยู่กับพื้นดิน พวกของราชันสวรรค์ยิวถูก ‘เคล็ดปราบกบฏ’ แว้งกัด นาทีนี้พวกเขาต่างพยายามสยบพลังแว้งกัดของ ‘เคล็ดปราบกบฏ’ อยู่อย่างเต็มที่
เมื่อปรากฏสวรรค์ลงทัณฑ์ที่ฟาดลงมาในเวลานี้ พวกของราชันสวรรค์ยิวไหนเลยจะรองรับเอาไว้ได้ เมื่อหลี่ชิเย่เป็นผู้บงการสวรรค์ลงทัณฑ์ เมื่อมีการตัดสินความโดยฉับพลัน จึงพุ่งตรงเข้าสังหารจนพวกราชันสวรรค์ยิวรับมือไม่ทัน ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์แต่ละสายตรึงเอาไว้บนพื้นดิน ขยับตัวไม่ได้
“วันนี้สมควรจบสิ้นกันได้แล้ว!” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาว และกล่าวว่า “ได้เวลาที่ข้าจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์แล้ว!” ขาดคำ ปรากฏเสียงตึง ตึง ตึงที่ดังขึ้น ชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ทิ้งตัวลงมา กฎเกณฑ์ทั้งสิบสองสายดั่งโซ่เหล็กพลันเข้าพันธนาการโลงมรณะเอาไว้ ตึงเสียงรัดแน่นดังขึ้น หลี่ชิเย่ต้องการลากเอาโลงมรณะเข้ามา!
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว โลงมรณะภายใต้การลากดึงอย่างแรงของหลี่ชิเย่เพียงแค่เคลื่อนที่ไปได้นิดเดียวเท่านั้น เนื่องจากโลงมรณะนั้นมีน้ำหนักมากอย่างยิ่ง ส่งผลให้โลกดึกดำบรรพ์สั่นไหวโคลงแคลงไปทีหนึ่ง เหมือนว่าหลี่ชิเย่ได้ลากเอาโลกดึกดำบรรพ์ขึ้นมาอย่างสุดแรงเกิด
จะอย่างไรเสียโลงมรณะก็ไม่ใช่ของๆ หลี่ชิเย่ มันมีเจ้าของมานานแล้ว ถูกบ่มเพาะมาเป็นเวลานานนับไม่ถ้วน ดังนั้น การที่หลี่ชิเย่คิดจะฝืนบังคับแย่งชิงสิทธิการควบคุมในโลงมรณะจึงใช่เป็นเรื่องง่ายดาย
“อย่าคิดทำอะไร” ครั้นราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างอยู่เห็นว่าหลี่ชิเย่ต้องการบังคับชิงเอาโลงมรณะไป จึงร้องเสียงดังขึ้นมา ตรงเข้าหมายสังหารหลี่ชิเย่
“คิดจะแย่งชิงสมบัติสวรรค์กลับคืน ผ่านด่านพวกเราไปให้ได้ก่อน!” เซียนหวังอิเย่หัวเราะขึ้นมา เสียงตูมดังสนั่น ตราประทับเหรินหวังโจมตีเข้าใส่ เมื่อลงมือด้วยชุดเซียนแท้จริง สั่นคลอนไปทั่วทั้งสิบสามทวีป เปลวเพลิงเซียนดั่งคลื่นยักษ์ เป็นหนึ่งชั่วนิรันดร์ ภายใต้การปราบและผนึกของตราประทับเหรินหวัง ทันใดนั้นได้ปราบและปิดกั้นสวรรค์ ปิดกั้นสายน้ำแห่งกาลเวลาปิดกั้นทุกสิ่งทุกอย่าง
พลันที่ถูกโจมตีด้วยตราประทับเหรินหวัง ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังก็มีสภาพเหมือนกับมดปลวก มันสามารถปิดกั้นสวรรค์ สามารถปราบโลกมนุษย์ นาทีนี้ตราประทับเหรินหวังที่อยู่ในมือของเซียนหวังอิเย่จึงปะทุสุดยอดพลังอำนาจในหล้าออกมา!
“พูดได้ถูกต้อง!” เทพโบราณกุยฝานก็คำรามเสียงยาวออกมา เวลานี้เขาได้สวมใส่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้วเอาไว้ ดูเหมือนเป็นมนุษย์ยักษ์ยากจะหาใดเทียมในหล้า เบิกฟ้าดิน ประหัตประหารความขมุกขมัวฟ้าดิน ฝ่ามือทั้งสองที่ฟาดฟันลงมา พลันปิดกั้นขวางทางไปของราชันมารกวงหมิงเอาไว้
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น จากการโจมตีของเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝาน พลันทำให้ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้ต้องล่าถอยไปทันที การโจมตีของทั้งสองคน เสมือนหนึ่งได้ทำให้ฟ้าดินกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่ สรรพสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งบนโลกต่างสั่นเทาไม่หยุด ได้ยินเสียงดังคร๊ากก คร๊ากกที่ดังขึ้นไม่ขาดสาย ทั่วทั้งโลกดึกดำบรรพ์ทยอยกันแคกละเอียด!
ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ เซียนหวังอิเย่กับเทพโบราณกุยฝานน่ากลัวยากจะหาผู้ใดเทียม ใคร่อยากถามว่าจะมีผู้ใดสามารถขวางพวกเขาได้ จากการร่วมมือกันโจตีของทั้งสองคน? จะอย่างไรก็ตาม ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้เพียงแค่ถูกโจมตีจนต้องถอยกลับไปเท่านั้น ไม่สามารถสังหารเขาได้ ผู้ดำรงอยู่ในสถานะเช่นนี้ออกจะน่ากลัวยากจะหาใดเทียมแล้วกระมัง
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนมากต่างจ้องมองตากันและกัน ล้วนแล้วแต่ต้องมองหน้ากันและกัน คนผู้นี้มีประวัติความเป็นมาเช่นใดกันแน่ เขาเป็นผู้ใดกันแน่ ถึงกับสามารถรับมือกับเทพโบราณกุยฝานกับเซียนหวังอิเย่ได้
เสียงตึง…ดังขึ้น เวลานี้ปรากฎกระบี่คู่ของราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้ได้ออกจากฝัก มือซ้ายขวาถือกระบี่ โดยที่กระบี่ทั้งสองเล่มมีสีดำสนิท เสมือนว่าพวกมันล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดจากความืดอย่างนั้น มีพลังของโลกแห่งความมืดที่น่ากลัวที่สุดในครอบครอง พลังลักษณะเช่นนี้สามารถทดแทนความสว่าง สามารถกลืนกินทุกยุคทุกสมัยได้
“ฆ่า…” ในขณะนี้ ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้ได้คำรามเสียงยาวออกมา กำแหงดั่งมาร ดำมืดดั่งทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาล เขาก้าวออกมาจากความมืด และนำพาความมืดมายังโลกมนุษย์ ทำให้มนุษย์โลกทำตัวตกต่ำ สรรพชีวิตนับล้านล้านถูกกลืนกินไป
ตึง…เสียงคำรามของกระบี่ก้องรูหู พริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่ของราชันมารกวงหมิงแยกซ้ายขวาเข้าโจมตีต่อเซียนหวังอิเย่กับเทพโบราณกุยฝาน โดยลงมือพร้อมกันทั้งสองเล่ม กระบวนท่ากระบี่ผันเปลี่ยน สามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นหนึ่งเดียวในนิรันดร์
กระบี่ขวากำแหงและพาล คลื่นกระบี่ดั่งคลื่นยักษ์ ด้วยท่าทีของการทำลายล้างอย่างรุนแรง คมกระบี่สามารถกวาดล้างผืนแผ่นดินแลดวงดาว หนึ่งกระบี่ที่โจมตีลงมาปะทะซึ่งหน้ากับตราประทับเหรินหวังของเซียนหวังอิเย่
กระบี่ซ้ายดังฝนที่โปรยปรายต่อเนื่องไม่ขาดสาย แทรกเข้าทุกซอกทุกมุม ท่วงท่ากระบี่ที่ต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุดจนวิญญาณแทบออกจากร่าง พันธนาการเทพโบราณกุยฝานที่สวมใส่ชุดเกราะเซียนหยินโจ้ว มันเสมือนดั่งเป็นใยแมงมุมขนาดยักษ์ที่ทำการพันธนาการเหยื่อจนแน่ดิ้นไม่หลุด
ตึง ตึง ตึงเสียงโลหะที่ดังขึ้นไม่ขาดสาย สะเก็ดไฟที่แตกกระจายออกมา ต่อให้เป็นเพียงสะเก็ดไฟเพียงน้อยนิดที่กระเด็นลงพื้นดิน ก็สามารถทำให้ผืนแผ่นดินหลอมละลายเป็นลาวา ทำลายโลกทั้งโลกจนกลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า
เซียนหวังอิเย่กับเทพโบราณกุยฝานสู้รบพันตูอยู่กับราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้ บีบจนราชันมารกวงหมิงไม่สามารถฝ่าวงล้อมออกไปได้
คนหนึ่งคือเซียนหวังของร้อยชาติพันธุ์ที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายในครอบครอง อีกคนคือเทพโบราณร้อยชาติพันธุ์ที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบสองดวง การร่วมมือสังหารปราบปรามของพวกเขาทั้งสอง เรียกได้ว่าสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน พลันที่ลงมือเรียกได้ว่ามีอานุภาพที่ทำลายโลกได้!
เมื่อเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝานร่วมมือกันล้อมราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้นั้น ทำให้บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองดูจนจิตใจหวั่นไหว นาทีนี้จึงได้ทำให้ผู้คนจำนวนมากรับรู้ถึงความปราศจากผู้ต่อกรของเซียนหวังและเทพโบราณชะตาฟ้าสิบสองสายได้อย่างแท้จริง
ที่ทำให้ผู้คนต้องหวั่นไหวมากกว่าก็คือ ภายใต้การปราบของเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝานนั้น ราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้กลับยังสามารถรับมือได้ ไม่ได้ถูกสังหาร ช่างเป็นความน่ากลัวเพียงใด และช่างเป็นความปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด
เอี๊ยด…เอี๊ยด…เอี๊ยด…ระหว่างที่เทพโบราณกุยฝานกับเซียนหวังอิเย่กำลังล้อมสังหารราชันมารกวงหมิงที่มีอำนาจมืดสิงร่างเอาไว้อยู่นั้น หลี่ชิเย่ได้อาศัยกฎเกณฑ์สิบสองสายทำการลากโลงมรณะอยู่ ต้องการลากเอาโลงมรณะเข้ามาหา เพื่อบังคับแย่งชิงเอาสิทธิการควบคุมต่อโลงมรณะนี้.Aileen-novel.
แต่ว่า การจะบังคับแย่งชิงโลงมรณะมาดื้อๆ นั้นใช่เป็นเรื่องง่ายดาย แม้ว่าเวลานี้เลือดสดๆ ที่สลักเอาไว้บนโลงมรณะจะเปล่งประกายสีแดงเลือดออกมา แม้ว่ากฎเกณฑ์ทั้งสิบสองสายจะมีประกายที่ละลานตา ยังคงยากที่จะแย่งชิงเอาโลงมรณะมาได้
ภายใต้การใช้กำลังบังคับลากเข้ามา แม้ว่าจะเป็นไปด้วยความยากลำบากยิ่ง แต่โลงมรณะยังคงค่อยๆ เคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าหลี่ชิเย่มีโอกาสที่จะแย่งชิงเอาโลงมรณะไปได้ และทำการใช้กำลังบังคับแย่งชิงสิทธิ์การควบคุมที่มีต่อโลงมรณะจากราชันมารกวงหมิง
ราชันมารกวงหมิงที่ถูกอำนาจมืดสิงร่างถูกเซียนหวังอิเย่ และเทพโบราณกุยฝานปิดล้อมเอาไว้ เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ถึงกับสามารถลากให้โลงมรณะเคลื่อนที่ได้ เขาจึงคำรามเสียงยาวและร้องเสียงดังออกมาว่า “ไป”
ขาดคำ เสียงตูมดังสนั่น โลงมรณะได้พุ่งเข้ากระแทกใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง นาทีนี้ราชันมารกวงหมิงที่ถูกอำนาจมืดสิงร่างไม่ได้ดึงโลงมรณะของตนอีกต่อไป แต่อาศัยโลงมรณะเป็นอาวุธกระแทกใส่หลี่ชิเย่โดยตรง
การพุ่งชนของโลงมาณะสามารถทำลายสิบสามทวีปจนแหลกละเอียด สามารถปราบและสังหารสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ได้ สามารถกรแทกจอมราชันเซียนหวังใดๆ ให้ป่นปี้กลายเป็นผงได้
หลี่ชิเย่มีการระวังตัวอยู่แล้วกับการเผชิญกับโลงมรณะที่พุ่งเข้ามาชน เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น ร่างทั้งร่างพร่างพราวเจิดจรัส สว่างไสวละลานตา ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ได้อาศัย ‘กายผลึกชะตาฟ้า’ คุ้มครองกายา
ปังโลงมรณะได้พุ่งชนกระแทกร่างกายของหลี่ชิเย่เข้าให้อย่างจัง ได้ยินเสียงปังที่ดังขึ้น มองเห็นเศษชิ้นส่วนที่แวววาวปลิวว่อน ‘กายผลึกชะตาฟ้า’ ถึงกับถูกทำลายจนแตกละเอียดภายใต้การโจมตีของโลงมรณะ
มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่ง ‘กายผลึกชะตาฟ้า’ สามารถป้องกันการถูกทำร้ายได้ทุกกรณี ภายใต้ประสิทธิผลของ ‘กายผลึกชะตาฟ้า’ การโจมตีทุกอย่างล้วนแล้วแต่ไร้ผล แต่ทว่าเวลานี้นาทีนี้โลงมรณะกลับโจมตีและทำลาย ‘กายผลึกชะตาฟ้า’ จนแตกละเอียด ช่างเป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญเพียงใด
“ไม่เสียทีที่เป็นหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้า แม้แต่เคล็ดวิชาที่น่าอัศจรรย์เช่นนี้ยังทำลายได้” ราชันเซียนจากเก้าแดนที่มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
เสียงปัง…ดังสนั่นเกิดขึ้น เวลานี้โลงมรณะยังคงพุ่งชนเข้ากับตัวของหลี่ชิเย่ แม้ว่าอานุภาพของโลงมรณะจะลดทอนลงไม่น้อยจากการป้องกันของกายผลึกชะตาฟ้า แต่ยังคงน่ากลัวอยู่ดี
โชคดีที่หลี่ชิเย่ได้เตรียมพร้อมเอาไว้ก่อน ได้คลุมด้วยหนังคนเอาไว้ จากเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว หนังคนได้ป้องกันการโจมตีของโลงมรณะเอาไว้ แต่ทว่าหลี่ชิเย่ยังคงถูกกระแทกจจกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
แต่ว่า จังหวะที่โลงมรณะพุ่งชนบนตัวของหลี่ชิเย่นั้น ร่างกายของหลี่ชิเย่กลับกลายเป็นเหมือนแม่เหล็กอย่างนั้น พลันดูดจับโลงมรณะเอาไว้แน่น พริบตาเดียวนั้นเอง ร่างกายของหลี่ชิเย่เหมือนว่าต้องการกลืนกินโลงมรณะเข้าไปอย่างนั้น!
ได้ยินเสียงดังแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง คัมภีร์มรณะได้กลายเป็นบทคัมภีร์สัจธรรม และเข้าคลุมลงบนโลงมรณะในทันที ขณะที่รอยประทับเลือดที่หลี่ชิเย่ได้ทิ้งเอาไว้บนโลงมรณะถึงกับเบ่งบานเป็นดอกไม้ มองเห็นรอยประทับมรณะคล้ายดั่งเป็นดอกบัวดอกหนึ่งเจริญเติบโตอยู่ท่ามกลางรอยประทับเลือดนั้น เจริญเติบโตบนโลงมรณะ
“ที่ข้ารอก็คือนาทีนี้แหละ” หลี่ชิเย่หัวเราะออกมาอย่างคนบ้าคลั่ง
สมควรทราบว่า โลงมรณะในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้า สิ่งที่สอดคล้องเชื่อมโยงกับมันก็คือ ‘ตำรามรณะ’ ที่เป็นหนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้าเช่นกัน
ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้น เป็นเสียงของการพลิกหน้าตำรา พริบตาเดียวนี้เอง ปรากฎตำราโบราณเล่มหนึ่งลอยขึ้นมา มันถูกพลิกหน้าตำราไปทีละหน้าๆ และรองรับโลงมรณะเอาไว้ เหมือนวามันต้องการหลอมรวมเป็นร่างเดียวกันกับโลงมรณะ
“มันคือตำรามรณะ” มีจอมราชันเซียนหวังที่จดจำตำราโบราณเล่มนี้ได้ ถึงกับหวั่นไหวในใจ รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ และกล่าวว่า “ในมือของเขามี ‘ตำรามรณะ’ หนึ่งในสมบัติสวรรค์นพเก้า!”
“ฆ่า…” ราชันมารกวงหมิงที่ถูกอำนาจมืดสิงร่างคำรามเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นว่าหลี่ชิเย่กุมตำรามรณะอยู่ในมือ
………..