Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2103 แลกเปลี่ยน
เวลานี้ทุกคนต่างอยู่ในความเงียบสงัด ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดคนหนึ่งต้องจากไปด้วยการกล้ำกลืนความเจ็บช้ำ ไม่เพียงเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ยังสูญเสียสุดยอดสมบัติสวรรค์ไป นั่นก็คือโลงมรณะ!
แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดที่อยู่ด้านในประตูความมืดก็ต้องนิ่งเงียบ ศึกครั้งนี้อยู่เหนือความคาดคิดของพวกเขาโดยสิ้นเชิง เนื่องจากพวกเขายังคาดการณ์ว่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดจะเป็นฝ่ายกำชัยในเกมนี้
จะอย่างไรเสียผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดมีความแข็งแกร่งขนาดทำให้ผู้อื่นต้องอึดอัด ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีกระดูกแก่นนิรันดร์กาล และโลงมรณะในครอบครองในเวลาเดียวกัน เรียกได้ว่ายากจะหาผู้ต่อกรได้ในหล้า!
แต่มาวันนี้ ภายใต้สุดยอดหลุมพรางของหลี่ชิเย่แล้ว ยังคงต้องหลบหนีไปด้วยความพ่ายแพ้ และเสียหายอย่างหนัก ไม่เพียงเกือบจะถูกสังหารสิ้นชื่อ ยังถูกแย่งชิงเอาโลงมรณะไปได้ เกรงว่าความเสียหายลักษณะเช่นนี้จะส่งผลให้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดผู้นี้ยากจะกลับคืนสู่จุดสูงสุดอีกครั้งในห้วงเวลาที่ยาวไกลจากนี้ไป
“เสียดาย เขาต้องการฮุบเอาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนี่ของข้าเอาไว้เพียงคนเดียว มิฉะนั้นหละก็หากเขาร่วมมือกับพวกเจ้าด้วยการแบ่งสรรให้พวกเจ้าบ้าง ไม่แน่นัก อาจสามารถสังหารข้าได้จริงๆ” หลี่ชิเย่คนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูมิติแห่งความมืดยิ้มแต้กล่าวกับผู้ดำรงอยู่ในฐานะความมืดที่อยู่ด้านหลังประตูมิติ
ผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดหลายองค์นี้ต่างอยู่ในอาการนิ่งเงียบ สุดท้าย ได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง ประตูมิติแห่งความมืดแตกละเอียดไป พร้อมๆ กับผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเหล่านี้ที่หายตัวไป
นาทีนี้บรรดาผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ไม่ต้องการลงมืออีกต่อไป เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ยังคงมีท่าไม้ตายอื่นใดอีกหรือไม่ เวลานี้ฝั่งของหลี่ชิเย่ชิงความได้เปรียบเอาไว้ได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว
ถ้าหากพวกเขาไม่ได้เตรียมการให้พร้อมแล้วลงมือโจมตี ไม่แน่นักอาจหลงกลของอีกาทมิฬเข้าพอดี แล้วจะต้องถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดเฉกเช่นผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดผู้นั้น ถึงเวลานั้นก็จะได้ไม่คุ้มเสีย! ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะหายตัวไปโดยตรง
ครั้นประตูมิติแห่งความมืดสลายไป หลี่ชิเย่คนที่สองก็สลายไปเช่นกัน เสาคริสตัลกลับไปอยู่ในลัคนาของหลี่ชิเย่ตามเดิม
เวลานี้ หลี่ชิเย่เก็บโลงมรณะเรียบร้อย ถึงกับจ้องมองไปที่ที่ห่างไกลแวบหนึ่ง เขารู้ว่าใครเป็นผู้ลงมือขัดขวางการหลบหนีของผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดนั่น! สุดท้าย เขาทอดถอนใจเบๆ ออกมา ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเขาก็วางใจได้แล้ว เป็นการบ่งชี้ว่านางยังคงมีชีวิตอยู่ในโลก
ปัง…เสียงหนี่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง ในที่สุดราชันซื่อตี้ก็กลับจากมิติที่ถูกเนรเทศมาได้
“ราชันซื่อตี้ จะเล่นกันอีกสักรอบหรือไม่?” เวลานี้เทพโบราณกุยฝานได้ขวางทางของราชันซื่อตี้เอาไว้ ร่วมมือกับเซียนหวังอิเย่ ท่วงท่าที่ปราศจากผู้ต่อกรทำให้ผู้คนต้องแหงนหน้ามอง
ดวงตาทั้งสองของซื่อตี้ดูเข้ม และมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง เมื่อเห็นเทพโบราณกุยฝานและเซียนหวังอิเย่ขวางทางเอาไว้
“ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้ามาได้เวลาพอดีเลย” หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มจางๆ ออกมาเมื่อมองเห็นราชันซื่อตี้ และกล่าวว่า “พวกเรามาทำการค้าแลกเปลี่ยนกันสักครั้งดีไหม?”
“ข้าเฉี่ยนเต้าซินไม่ทำการค้าแลกเปลี่ยนกับเจ้า!” ราชันซื่อตี้จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่ ท่าทางเย็นชา
ในขณะนี้ทุกคนล้วนแล้วแต่กลั้นลมหายใจเอาไว้ ต่างจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ กับราชันซื่อตี้ ในเวลานี้ทุกคนอดที่จะเห็นใจราชันซื่อตี้ไม่ได้ เนื่องจากขณะนี้ราชันซื่อตี้ต้องแบกรับสถานการณ์ของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าเพียงคนเดียว ขณะที่ฝั่งของอีกาทมิฬนอกจากตัวเขาเองแล้ว ยังมีพวกเซียนหวังอิเย่และเทพโบราณกุยฝาน ซึ่งสามารถบดขยี้ค่ายของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าได้โดยตรงอยู่แล้ว
“ตาเฒ่าเฉี่ยน อย่าได้พูดอะไรที่ดูมั่นใจเกินไปนัก!” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้และกล่าวว่า “ลูกหลานของเจ้ายังอยู่ในมือของข้า การปฏิเสธเร็วเกินไปไม่เห็นจะเป็นเรื่องดี”
“อีกาทมิฬ จะฆ่าจะแกงแล้วแต่เจ้า หากข้าส่งเสียงออกมาแม้เพียงคำเดียวก็คือคนขี้ขลาดตาขาว ลูกหลานของตระกูลเฉี่ยนไม่กลัวตาย!” เวลานี้ราชันเจี้ยนตี้ร้องกล่าวเสียงดังออกมา
ในเวลานี้พวกของราชันสวรรค์ยิวล้วนแล้วแต่ถูกสวรรค์ลงทัณฑ์ตรึงเอาไว้กับพื้นดิน ไม่สามารถหนีไปไหนได้อยู่แล้ว!
“ลูกหลานตระกูลเฉี่ยนกล้าหาญดี แต่ว่าไม่ต้องรีบร้อน ต่อให้เจ้าไม่กลัวตายบรรพบุรุษของเจ้าไม่เห็นจะตัดใจให้เจ้าตายได้” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้เอ่ยขึ้น
ตึง ตึง ตึงพลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ กฎเกณฑ์สิบสองสายของชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์พลันแทงเข้าไปภายในร่างกายของพวกเซียนหวังจุ้งเทียน ราชันมารอวี่หลุน ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น
“ไม่…” พวกเซียนหวังจุ้งเทียนถึงกับร้องด้วยความน่าเวทนาออกมา นาทีนี้พวกเขาต่างรู้ดีว่าตัวเองนั้นจบเกมแล้ว ชะตาฟ้าถูกดึงออกไปทุกอย่างก็เหลือเพียงความว่างเปล่า
จี๊ด จี๊ด จี๊ดจากการที่ชะตาฟ้าถูกดึงแยกออกจากร่างไป พวกเซียนหวังจุ้งเทียนจึงกลายเป็นศพแห้งไปทั้งหมด
ตึง…ทันใดนั้น กฎเกณฑ์ที่เหลือถูกจุดติดทั้งหมด เปล่งประกายที่เจิดจ้าออกมา ส่วนชะตาฟ้าส่วนที่เหลือถูกวังวนทอง เงินและเหล็กดูดเอาไป เหมือนว่าวังวนทั้งสามจะเป็นถ้ำที่ถมไม่เต็ม สามารถกลืนกินชะตาฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนได้!
“ชั่วชีวิตข้าเกลียดที่สุดก็คือคนถ่อยประเภทนี้แล้ว” หลี่ชิเย่มองดูศพของพวกเทียนหวังจุ้งเทียนและเอ่ยขึ้นมาเฉยเมย
เวลานี้ จอมราชันที่ยังคงมีชีวิตอยู่ถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่ เฉกเช่นราชันสวรรค์ยิว และพวกจอมราชันหลายคนของสวรรค์ ในใจของพวกเขาต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง นาทีนี้พวกเขาต่างรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของความตาย นาทีนี้พวกเขารู้ว่าความตายอยู่ห่างจากพวกเขาแค่เอื้อมเท่านั้นเอง
“ตาเฒ่าเฉี่ยน พวกเราควรจะคุยเรื่องเงื่อนไขอีกสักครั้งหรือไม่หละ?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้และกล่าวว่า “แน่นอน คนอย่างข้ามีความอดทน ค่อยๆ ฆ่าไปเรื่อยๆ อย่างไรเสียก็มีโอกาสฆ่าจนกระทั่งเจ้าต้องใจอ่อนอยู่แล้ว”
ราชันซื่อตี้ยังคงมีสีหน้าที่เย็นชา กล่าวเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเลิกล้มความตั้งใจเสีย ข้าจะไม่เจรจาเงื่อนไขใดๆ กับเจ้าทั้งนั้น!”
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้จ้องมองดูราชันซื่อตี้ และกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “นี่ช่างเป็นเจ้าหนูที่แสนดีเหลือเกิน แม้ว่าจะหยิ่งทะนงตนสักนิด กำแหงมากไปหน่อย แต่ทว่า จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนับว่าแข็งแกร่งมาก ถ้าหากฆ่าเขาเสีย ตระกูลเฉี่ยนของเจ้าก็ไม่มีผู้สืบทอดอีกแล้วหละ”
“อีกาทมิฬ ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าข้าเสียสิ!” ราชันเจี้ยนตี้ก็นับว่าเป็นคนแข็งกร้าว และกล่าวว่า “ตระกูลเฉี่ยนข้ามีลูกหลานนับไม่ถ้วน มีคนรุ่นหลังจำนวนมากที่จะต้องล้ำหน้าไปกว่าข้าอยู่แล้ว!”
“ข้าฆ่าเจ้าอยู่แล้ว ถ้าหากบรรพบุรุษของเจ้าไม่ยอมอ่อนข้อ ข้าจะเก็บเจ้าเอาไว้ฆ่าเป็นคนสุดท้าย” หลี่ชิเย่กล่าวยิ้มแต้ออกมา
เวลานี้ ดวงตาทั้งสองของหลี่ชิเย่ทำการสำรวจ มองดูจอมราชันแต่ละคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่นราชันสวรรค์ยิว หรือจอมราชันหลายๆ คนของสวรรค์ และเทียนฉวน
“พี่ท่าน เหลือขุนเขาเอาไว้ ใยต้องกลัวไร้ฟืน เผ่าสวรรค์ของพวกเราต้องอาศัยผู้ที่สามารถแบกรับสถานการณ์เอาไว้ สิ่งของบางสิ่งเสียไปอนาคตสามารถเอาคืนมาได้ แต่หากสิ้นบุคลากรไปยากที่จะบ่มฟักขึ้นมาได้ใหม่” เวลานี้ราชันสวรรค์ยิวที่ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ออกปากพูดกับราชันซื่อตี้
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของราชันสวรรค์ยิวทำให้ราชันซื่อตี้ต้องนิ่งเงียบ เวลานี้ราชันซื่อตี้อดที่จะมองดูจอมราชันหลายๆ คนที่มีชาติกำเนิดมาจากเทียนฉวน ขณะที่จอมราชันจากเทียนฉวนและสวรรค์ต่างก็จ้องมองไปที่ราชันซื่อตี้ เวลานี้ผู้ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาได้มีเพียงราชันซื่อตี้เท่านั้น
“เจ้าต้องการอะไร?” สุดท้าย ราชันซื่อตี้เริ่มอ่อนลง เอ่ยขึ้นช้าๆ
“ข้ารู้ว่าตระกูลเฉี่ยนเจ้ามีสิ่งของอยู่สิ่งหนึ่ง ดังนั้น สิ่งของที่ข้าต้องการเจ้าเข้าใจอยู่แล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทียิ้มแต้
“ไม่ได้…” ราชันซื่อตี้ตอบปฏิเสธทันควันโดยไม่ต้องคิด เมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่ชิเย่ต้องการ เนื่องจากสิ่งที่หลี่ชิเย่ต้องการตระกูลเฉี่ยนจะไม่มอบออกมาอย่างเด็ดขาด ความจริงในขณะที่หลี่ชิเย่บอกเสนอข้อแลกเปลี่ยนในตอนนั้น ราชันซื่อตี้ก็คาดเดาได้ลางๆ ว่าหลี่ชิเย่ต้องการอะไรแล้ว! โลกนี้สิ่งที่ต้องใจอีกาทมิฬได้มีอยู่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้น ซึ่งตระกูลเฉี่ยนของพวกเขาก็มีอยู่ชิ้นหนึ่ง!
เวลานี้ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ราชันซื่อตี้ ผู้คนจำนวนมากล้วนแล้วแต่ไม่รู้ว่า ‘สิ่งของสิ่งหนึ่ง’ ที่หลี่ชิเย่และราชันซื่อตี้พูดถึงนั้นมันคืออะไรกันแน่
“ไม่…” เวลานี้ราชันเจี้ยนตี้รองเสียงดังออกมาว่า “ต่อให้ฆ่าข้าก็มอบให้ไม่ได้!”
เวลานี้ ราชันเจี้ยนตี้ก็รู้แล้วว่าหลี่ชิเย่ต้องการอะไรแล้ว แม้ว่าเขาก็ไม่เคยได้เห็นฉบับแท้จริง แต่เขาก็รู้ว่าสิ่งนี้ล้ำค่ามากเหลือเกิน กล่าวสำหรับตระกูลเฉี่ยนของพวกเขาแล้วมันคือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้! กระทั่งกล่าวได้ว่า ในตระกูลเฉี่ยนของพวกเขาก็มีเพียงราชันซื่อตี้เท่านั้นที่รู้ว่าฉบับจริงนั้นซ่อนอยู่ที่ใด คนอื่นๆ ล้วนแล้วแต่ไม่ทราบทั้งสิ้น!
“เจ้าหนู พูดมากเกินไปแล้ว” หลี่ชิเย่พลันปิดปากของราชันเจี้ยนตี้เสีย จากนั้นตบมือและหัวเราะกล่าวกับราชันซื่อตี้ว่า “เวลานี้ พวกเราสามารถคุยกันสะดวกแล้วหละ วางใจเถอะ ข้อเรียกร้องของคนอย่างข้าต่ำมาก ข้าต้องการเพียงฉบับสำเนาเท่านั้นเอง”
ราชันซื่อตี้นิ่งเงียบ เหมือนกำลังลังเลขึ้นมา
“พี่ท่าน ของนอกกาย เสียไปแล้วสามารถตามกลับมาได้ใหม่” เวลานี้ราชันสวรรค์ยิวรีบกล่าวต่อราชันซื่อตี้
ราชันซื่อตี้มองดูราชันเจี้ยนตี้ จากนั้นก็มองดูพวกจอมราชันเช่นราชันสวรรค์ยิวเหล่านั้น สุดท้ายเขากัดฟันตัดสินใจเด็ดขาด และกล่าวว่า “ข้ามอบให้เจ้าได้ แต่ว่า เจ้าจะต้องปล่อยพวกเขาไป!”
คำขอของราชันซื่อตี้หมายรวมถึงพวกราชันสวรรค์ยิวที่เป็นจอมราชันซึ่งยังคงมีชีวิตอยู่
“ตาเฒ่าเฉี่ยน เจ้าโลภมากไปแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวว่า “คนอย่างข้าเป็นคนดีเสมอมา ยิ่งไปกว่านั้น ไม่แน่นักข้าอาจจะต้องเรียกว่าท่านพ่อตาคำหนึ่ง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะอนุโลมเป็นกรณีพิเศษ ข้าให้เจ้าได้เก้าคน ให้เจ้าเป็นคนเลือก ส่วนคนอื่นๆ ข้าพูดได้คำเดียวเสียใจด้วย เรียกว่าข้าใจกว้างมากแล้วนะ ปรกติข้าไม่ใช่คนที่พูดกันง่ายๆ เช่นนี้ ใครใช้ให้เจ้าเป็นพ่อตาครึ่งตัวของข้าเล่า”
เวลานี้หลี่ชิเย่พูดจาฉะฉาน มีท่าทียั่วเย้าราชันซื่อตี้อยู่ในที
“ฝ่าบาท…”เวลานี้ ในบรรดาจอมราชันที่ยังคงมีชีวิตอยู่ประกอบด้วยจอมราชันจากเทียนฉวน และจอมราชันจากสวรรค์ ต่างอดที่จะเรียกขานราชันซื่อตี้ออกมาว่า ‘ฝ่าบาท’ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพสูงสุด!
ราชันซื่อตี้นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สุดท้ายเขามีท่าทีสลดและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “บรรดาสหายทั้งหลาย ข้าได้พยายามเต็มที่แล้ว” สุดท้าย เขาได้คัดเลือกจอมราชันมาเก้าคน แน่นอนจำนวนนี้รวมทั้งราชันเจี้ยนตี้ และราชันสวรรค์ยิวและจอมราชันจากเทียนฉวนและสวรรค์รวมเก้าคน
“ดีมาก ข้าพูดได้ย่อมทำได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว ได้ยินเสียงดังปุเสียงหนึ่ง ถอนสวรรค์ลงทัณฑ์ที่ตรึงอยู่บนตัวของพวกเขา ปรบมือและกล่าวว่า “ทุกท่าน ขอแสดงความยินดีด้วย ในที่สุดพวกเจ้าก็มีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว”
พวกราชันเจี้ยนตี้นิ่งเงียบไม่พูดอะไร ค่อยๆ ย้ายตัวเองไปอยู่ด้านหลังของราชันซื่อตี้ เวลานี้พวกเขาถือเอาราชันซื่อตี้เป็นผู้นำ
“ทุกท่าน ข้าส่งพวกเจ้าออกเดินทางแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้พูดกับจอมราชันอื่นๆ ที่เหลือ
เวลานี้ บรรดาจอมราชันที่ไม่ได้อยู่ในข่ายของการแลกเปลี่ยนต่างทยอยกันหลับตาลง พวกเขารู้ว่าวันนี้ไม่ว่าใครก็ช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้อีก ราชันซื่อตี้เองก็ทำเต็มที่แล้ว ในช่วงเวลานี้เขาสามารถช่วยเหลือจอมราชันของเผ่าสวรรค์ได้เก้าคน ถือว่าได้พยายามทำเพื่อเผ่าสวรรค์อย่างสุดความสามารถแล้ว เหลือเชื้อไฟเอาไว้ให้กับเผ่าสวรรค์
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น กฎเกณฑ์สิบสองสายได้แทงเข้าร่างของจอมราชันเหล่านั้น ปรากฏเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา ฉับพลันได้แยกเอาชะตาฟ้าของพวกเขาออกมา
บรรดาจอมราชันที่รอดจากเคราะห์กรรมคราวนี้มาได้ถึงกับร่างสั่นเทิ้มเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว หากไม่เป็นเพราะราชันซื่อตี้ยอมแลกเปลี่ยน พวกเขาก็คงยากจะรอดพ้นความตายได้
“พี่ท่าน ข้าติดค้างหนี้ชีวิตท่านหนึ่งชีวิต” ในเวลานี้ราชันสวรรค์ยิวได้แสดงคารวะต่อราชันซื่อตี้อย่างงาม หากไม่เป็นเพราะราชันซื่อตี้ยอมเสียสละ วันนี้เขาจะต้องตายอยู่ที่นี่
……..