Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2116 ราชันเซียนองค์ใหม่
ไม่เพียงมีหลี่ชิเย่เท่านั้นที่รับรู้ได้ถึงการมาของราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดน บรรดาจอมราชันเซียนหวังคนอื่นๆ ของสิบสามทวีปก็รับรู้ได้แล้วเช่นกัน นาทีนี้ได้ปรากฏเป็นประกายวงแหวนขึ้นมา ช่องว่างเกิดการสั่นไหวกระเพื่อมเบาๆ การเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยมากเช่นนี้คนทั่วไปไม่สามารถรับรู้ได้ แต่จอมราชันเซียนหวังจะแตกต่าง พวกเขาสามารถสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงที่เล็กน้อยมากเช่นนี้ได้
มีจอมราชันเซียนหวังที่คำนวณดูแล้วรู้ได้ทันทีว่า ราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนกำลังจะมาถึง ภายใต้การคำนวณแล้วได้สร้างความตระหนกตกใจพวกเขาเช่นกัน เนื่องจากราชันเซียนของเก้าแดนมาถึงเร็วกว่าที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้ พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นที่เก้าแดนกันแน่
เพราะอะไรเก้าแดนถึงได้ให้กำเนิดราชันเซียนรุ่นใหม่ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ และเพราะอะไรราชันเซียนรุ่นใหม่ของเก้าแดนจึงขึ้นมายังแดนสิบก่อนกำหนดเช่นนี้ ดังนั้น บรรดาจอมราชันเซียนหวังของแดนสิบจึงรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง พวกเขาก็ต้องการทราบเหตุผลว่าอะไรคือสาเหตุทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้
เวลานี้มีจอมราชันเซียนหวังที่ทำการเฝ้าดูและตรวจตราสิบสามทวีป กระทั่งมีการคำนวณหาพิกัดตำแหน่งที่ราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนจะมาถึง จอมราชันเซียนหวังระดับสูงกระทั่งสามารถคำนวณหาพิกัดตำแหน่งที่ราชันเซียนเก้าแดนจะมาถึงสิบสามทวีปได้แล้ว
แต่ทว่า เวลานี้มีราชันเซียนของเก้าแดนทำการเฝ้าดูและสำรวจตรวจตรา ยิ่งกว่านั้น ยังมีราชันทักษิณที่เดินทางไปต้อนรับราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนด้วยตนเอง ดังนั้น ต่อให้บรรดาจอมราชันเซียนหวังเหล่านั้นสามารถคำนวณหาพิกัดที่ราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนจะมาถึง ก็ไม่กล้ากระทำการบุ่มบ่ามเช่นกัน
เนื่องจากทั่วหล้าต่างก็รู้ดีว่า ราชันทักษิณคือศิษย์ที่อยู่ใต้บังคับบัญชาของอีกาทมิฬ เมื่อราชันทักษิณเดินทางไปให้การต้อนรับการมาถึงของราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดน ย่อมเป็นการบ่งบอกถึงท่าทีของอีกาทมิฬแล้ว
ในยุคนี้ อีกาทมิฬที่เข่นฆ่าตลอดกาล แม้แต่จอมราชันเซียนหวังก็ต้องสั่นเทา! ยังจะมีใครหาญกล้าฝืนปณิธานของอีกาทมิฬ แม้แต่ราชันซื่อตี้ยังสู้อีกาทมิฬไม่ได้ ที่เหลือหากกล้าเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬย่อมเป็นการรนหาที่ตาย รนหาความตายเอง!
ดังนั้น เมื่อราชันทักษิณไปให้การต้อนรับด้วยตนเอง จอมราชันเซียนหวังใดๆ ในสิบสามทวีปล้วนแล้วแต่นิ่งเงียบ จอมราชันเซียนหวังทั้งหมดไม่กล้ามีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย หากทำให้อีกาทมิฬโกรธแล้วล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงจุดจบให้มากความ เกรงว่าจะต้องน่าอนาถยิ่งนัก
อำนาจบารมีของอีกาทมิฬไม่มีผู้ใดในหล้าสามารถเทียบเทียม ก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งประหารจอมราชันเซียนหวังไปหลายสิบองค์ สังหารจนผู้ยิ่งใหญ่แห่งความมืดต้องวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ในวันนี้ยังจะมีใครหาญกล้าเป็นศัตรูกับอีกาทมิฬได้อีก!
เสียงตูม…ดังสนั่น ภายใต้การเฝ้าคอยของทุกคน ประกายเซียนพวยพุ่ง กฎเกณฑ์ลอยล่อง สุดท้าย มีผู้ที่ทำลายแนวกั้นระหว่างแดน ด้วยท่าทีที่แข็งแกร่งยิ่งนักจากเก้าแดนขึ้นสู่แดนสิบ แม้ว่าราชันเซียนที่ก้าวขึ้นสู่สิบสามทวีปได้จะมีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ท่าทีก็ดูจะกระเซอะกระเซิงยิ่งนัก เสื้อผ้าที่สวมใส่บนตัวขาดวิ่นไปไม่น้อยเลยทีเดียว ย่อมสามารถประเมินได้ว่า การขึ้นมายังสิบสามทวีปของเขาก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดายนัก
บรรดาจอมราชันเซียนหวังของสิบสามทวีปต่างนิ่งเงียบ เมื่อเห็นการมาถึงของราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดน
แดนสิบในยุสมัยนี้นับตั้งแต่อีกาทมิฬมาถึงแล้ว เหมือนว่าไม่เป็นผลดีต่อเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่า แม้ว่าเริ่มจากราชันสวรรค์เต้าหลงของเผ่าสวรรค์ที่ได้สืบทอดชะตาฟ้า จากนั้นตามด้วยจินเก๋อ ซึ่งดูไปแล้วเผ่าสวรรค์เหมือนได้เปรียบอยู่
แต่ว่าหลังจากนั้นมีราชันทักษิณที่ได้สืบทอดชะตาดั้งเดิมสี่สาย ซึ่งส่งผลให้บรรดาจอมราชันเซียนหวังของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่ารู้สึกถึงแรงกดดัน เนื่องจากราชันทักษิณมีพลังแฝงที่สามารถกลายเป็นเซียนหวังที่มีชะตาฟ้าสิบสองสายได้ ยิ่งไปกว่านั้น เวลานี้ราชันเซียนรุ่นใหม่ของเก้าแดนก็ได้มาถึงอีกแล้ว
ถ้าหากช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าไม่สามารถให้กำเนิดจอมราชันอีกหลายองค์ล่ะก็ เกรงว่ายุคนี้จะเป็นร้อยชาติพันธุ์ที่เปล่งรัศมีออกมา ขณะที่เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าจะต้องสลดและอับแสง
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกาทมิฬผู้ซึ่งดำรงอยู่ในฐานะน่าสยองขวัญยิ่งนั่งบัญชาการอยู่ ซึ่งสร้างความกดดันจนจอมราชันของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าต่างหายใจไม่สะดวก
ในพริบตาเดียวนี้เอง เผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าเสมือนหนึ่งได้มองเห็นชะตาที่พวกเขาทั้งสามเผ่าถูกร้อยชาติพันธุ์ปราบและสยบในชาตินี้!
บรรดาจอมราชันเซียนหวังของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าย่อมไม่รู้ว่าราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนนั้นคือใครกันแน่ สุดท้าย ราชันทักษิณได้นำราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนไปพบกับหลี่ชิเย่
เมื่อหลี่ชิเย่ได้เห็นหน้าราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนแล้วก็รู้สึกตกใจระคนกับแปลกใจอยู่หลายส่วน ราชันเซียนจากเก้าแดนที่อยู่ตรงหน้านับว่าเป็นสหายเก่าและเคยรู้จักกับหลี่ชิเย่มาก่อน หรือจะกล่าวว่าเป็นศัตรูอยู่ครึ่งตัวก็ว่าได้
บุรุษหน้าสวยที่อยู่ตรงหน้าสวยจนไร้เหตุผลสิ้นดี สวยจนหยาดเยิ้ม นี่คือสุดยอดบุรุษหน้าสวยแห่งยุค งดงามจนไม่เหมือนเป็นบุรุษ แต่เหมือนสุดยอดหญิงงามเสียมากกว่า เขาสวมใส่ชุดสีขาวที่ปลิวไสว ท่าทีเมินเฉยเหงาหงอย ดุจดั่งเป็นต้นเหมยฮวาที่อยู่ท่ามกลางหิมะต้นหนึ่ง ทำให้ผู้คนที่มองเห็นแล้วไม่รู้ว่าจะเปรียบเปรยว่าอย่างไรดี จะอาศัยหมึกและพู่กันก็ไม่สามารถบรรยายได้
หากจะกล่าวว่า ยามที่บุรุษผู้อยู่ตรงหน้าปะทุอานุภาพราชันเซียนขึ้นมาแล้วยังคงมีอำนาจสยบไปทั่วหล้า กลิ่นอายความเป็นบุรุษที่พาลและทระนงดุดัน แต่ว่าในเวลานี้เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่เขาได้เก็บงำกลิ่นอายของราชันเซียนเอาไว้ มองดูเหมือนเป็นบุรุษหน้าสวยที่งามหยาดเยิ้มที่มีเพียงหนึ่งเดียวในหล้าคนหนึ่ง และหากให้เขาสวมชุดของหญิงสาวล่ะก็ ต้องทำให้ผู้คนเชื่อว่าเขาคือสุดยอดหญิงงามแห่งยุคผู้หนึ่ง
‘เหมยอ้าวเสวี่ย’ หลี่ชิเย่มองดูราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนที่อยู่ตรงหน้าหัวเราะและกล่าวว่า “ผู้สืบทอดของตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงได้สืบทอดชะตาฟ้า ไม่นับว่าเป็นเรื่องเหนือวามคาดคิดใหญ่โตอะไรนัก”
หลี่ชิเย่เคยพบกับบุรุษหน้าสวยที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้มาก่อน เมื่อครั้นอยู่ที่แดนสมุนไพรแร่ธาตุ และยังนับว่าเป็นศัตรูอยู่ครึ่งตัว
คุณชายหิมะเหมยอ้าวเสวี่ย ผู้สืบทอดของตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลง พี่ชายของเหมยอ้าวหนาน เมื่อเทียบกับชื่อเสียงที่โด่งดังทะลุฟ้า เปี่ยมด้วยความพาล มีความทะเยอทะยานที่จะครอบครองชะตาฟ้าอย่างเหมยอ้าวหนานแล้ว เหมยอ้าวเสวี่ยในฐานะพี่ชายกลับดูจะค่อมต่ำกว่ามากมายนัก กระทั่งผู้คนจำนวนมากในยุคนั้นของแดนสมุนไพรแร่ธาตุก็ไม่รู้ถึงการดำรงอยู่ของเหมยอ้าวเสวี่ย ผู้คนจำนวนมากในแดนสมุนไพรแร่ธาตุรู้จักแต่เหมยอ้าวหนาน!
แต่ทว่า เหมยอ้าวหนานที่เคยพยายามช่วงชิงชะราฟ้ากลับไม่ได้เป็นราชันเซียน ขณะที่พี่ชายของนางที่ทำตัวค่อมต่ำมากที่สุด คุณชายหิมะเหมยอ้าวเสวี่ยกลับกลายเป็นราชันเซียนได้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดคิดโดยแท้ แต่ก็นับว่าอยู่ในความคาดคิด
“เหมยอ้าวเสวี่ยคารวะใต้เท้า…” หลังจากที่ราชันเซียนคนใหม่แห่งเก้าแดนได้พบกับหลี่ชิเย่แล้วก็ไม่ได้วางมาดความเป็นราชันเซียนใดๆ โค้งคำนับและกล่าวต่อหลี่ชิเย่
“นับว่าตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงก็ได้กลายเป็นสำนักที่ชื่อว่าหนึ่งสำนักสี่ราชันเซียนแล้ว” หลี่ชิเย่พยักหน้าและกล่าวเฉยเมยว่า “ดูท่าบรรพบุรุษตระกูลของพวกเจ้าคงได้ชี้แนะต่อเจ้า เป็นถูเสวียนที่บอกกล่าวต่อเจ้าน่ะสิ”
“เรียนใต้เท้าบรรพบุรุษถูเสวียนและผู้เฒ่าสือฝากทักทายถึงท่านผู้อาวุโส” เวลานี้เหมยอ้าวเสวี่ยได้คารวะหลี่ชิเย่อีกครั้ง
แม้ว่าขณะนี้เหมยอ้าวเสวี่ยคือราชันเซียนแล้ว แต่ว่าด้วยประสบการณ์ของเขายังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะรู้ฐานะของอีกาทมิฬได้ในขณะที่อยู่เก้าแดน แต่ว่าถูเสวียนซึ่งเป็นบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงได้บอกความลับบางอย่างให้กับเหมยอ้าวเสวี่ย
ถูเสวียนบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงเคยเข้าร่วมในศึกอาณาจักรสวรรค์อสูรเทวะในครั้งนั้น ต่อมา หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ทำลายหุบเขากีบสวรรค์แล้ว เขายังเคยไปขอคารวะต่อหลี่ชิเย่ เขารู้ถึงฐานะความเป็นอีกาทมิฬของหลี่ชิเย่
“ที่แท้เจ้ากับน้องสาวมีอาจารย์คนเดียวกัน” หลี่ชิเย่หัวเราะและพยักหน้า นับว่าไม่ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดคิด
ผู้เฒ่าสือที่ออกจากปากของเหมยอ้าวเสวี่ยก็คืออาจารย์ของเหมยอ้าวหนานน้องสาวของเขาเอง และก็คือมนุษย์ศิลาที่เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้พิทักษ์เมืองในแดนอสูรปีอานมาก่อน! ภายหลัง เขาได้กลายเป็นผู้คุ้มครองของเหมยอ้าวหนาน
ในขณะที่เหมยอ้าวเสวี่ยขึ้นไปยังแดนสิบ บรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงถูเสวียนและมนุษย์ศิลาหัวหน้าผู้พิทักษ์เมืองได้กล่าวเน้นย้ำกับเหมยอ้าวเสวี่ย ด้วยการบอกฐานะของหลี่ชิเย่ให้ทราบ และเตือนเหมยอ้าวเสวี่ยว่า เมื่ออยู่แดนสิบแล้วให้ไปสวามิภักดิ์ต่อหลี่ชิเย่ ขอเพียงมีหลี่ชิเย่คุ้มครองเขาอยู่ ต่อให้จอมราชันเซียนหวังที่แข็งแกร่งเพียงใดต้องการจะสังหารเขา หลี่ชิเย่ก็สามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับเขาได้
หลี่ชิเย่มองดูเหมยอ้าวเสวี่ยที่อยู่ตรงหน้า เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “สำหรับราชันเซียนรุ่นใหม่จากเก้าแดนนั้นข้ามีตัวเลือกในใจอยู่หลายคน น้องสาวเจ้าก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ที่ทำให้รู้สึกตกใจระคนกับแปลกใจก็คือ กลับเป็นเจ้าที่เร็วกว่าก้าวหนึ่ง”
“ไม่ขอปิดบังใต้เท้า น้องสาวของข้าผนึกร่างเอาไว้ยังไม่ได้ปรากฎตัวออกมา มิฉะนั้นล่ะก็ข้าเองก็ยากจะต่อกรกับนาง” เหมยอ้าวเสวี่ยดูจะกล่าวด้วยความถ่อมตน
ครั้งนั้นเหมยอ้าวหนานพ่ายแพ้ให้กับหลี่ชิเย่ เมื่อหลี่ชิเย่สำแดงฝีมือที่ปราศจากผู้ต่อกรออกมา เหมยอ้าวหนานก็รู้ตัวดีว่าไม่มีโอกาสได้เป็นราชันเซียนอีกแล้ว นางไม่สามารถแย่งชิงชะตาฟ้ากับหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง ในขณะที่หลี่ชิเย่สืบทอดชะตาฟ้านั้น เหมยอ้าวหนานภายใต้การเสนอแนะของอาจารย์ นางเลือกที่จะผิดยุคด้วยการปิดผนึกร่างของตนเสีย โดยมีเหมยอ้าวเสวี่ยพี่ชายของเขาที่ผนึกร่างด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ว่า ภายหลังเหมยอ้าวเสวี่ยได้ปรากฏตัวสู่ยุทธภพเร็วกว่าก้าวหนึ่ง ในขณะที่เหมยอ้าวหนานยังกับผนึกร่างอยู่ ดังนั้น จึงทำให้เหมยอ้าวเสวี่ยได้ไปก่อนก้าวหนึ่งในยุคสมัยนี้ ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการสืบทอดชะตาฟ้าสำเร็จเป็นราชันเซียน
จากนี้ไป จึงทำให้ตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงเร็วกว่าคนอื่นก้าวหนึ่ง กลายเป็นสำนักที่มีสี่ราชันเซียน! ซึ่งทำให้พวกเขากลายเป็นสำนักที่มีพลังแฝงไม่สิ้นสุดขึ้นโดยพลัน
“ไม่จำเป็นต้องถ่อมตนก็ได้ สติปัญญาของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าน้องสาวของเจ้า เพียงแต่เจ้าไม่ได้มีความทะเยอทะยานมากกว่าน้องสาวของเจ้าเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวขึ้นมาช้าๆ
ในครั้งนั้น ชื่อเสียงของเหมยอ้าวเสวี่ยด้อยกว่าน้องสาวเหมยอ้าวเสวี่ยมากทีเดียว แต่ไม่ได้หมายความว่าเหมยอ้าวเสวี่ยสู้เหมยอ้าวหนานไม่ได้ ความจริงแล้วศักยภาพของเหมยอ้าวเสวี่ยไม่ได้ด้อยไปกว่าเหมยอ้าวหนานเด็ดขาด เพียงแต่เขาทำตัวค่อมต่ำยิ่งเท่านั้นเอง ที่สำคัญมากว่านั้นก็คือ เขารักในน้องสาวของตนเป็นอันมาก
ถ้าหากจะกล่าวว่า เหมยอ้าวหนานมีความทะเยอทะยานที่จะได้เป็นราชันเซียนล่ะก็ เมื่อเป็นเช่นนี้เหมยอ้าวเสวี่ยยินดีหลีกทางให้กับนาง กระทั่งยินดีเป็นผู้คุ้มกันให้กับนางด้วยตนเอง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรเหมยอ้าวเสวี่ยที่ไม่ด้อยไปกว่าเหมยอ้าวหนานจึงมีชื่อเสียงสู้นางไม่ได้
ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่ก็เคยมั่นใจในตัวของเหมยอ้าวเสวี่ยขณะอยู่ที่แดนสมุนไพรแร่ธาติในครั้งนั้น เพียงแต่ครั้งนั้นเหมยอ้าวเสวี่ยดูจะมีความเบิกบานใจ ไม่ได้มีความทะเยอทะยานต้องการครอบครองชะตาฟ้า เขาดูไม่สนใจและทำตัวสบายๆ ดังนั้นจึงไม่เป็นที่รู้จัก
เหมยอ้าวเสวี่ยเพียงยิ้มๆ เท่านั้นกับการชื่นชมของหลี่ชิเย่เช่นนี้ ไม่หยิ่งไม่ร้อนรน จะอย่างไรเสียการเป็นราชันเซียนของเขานั้น เป็นการก้าวไปทีละก้าวๆ โดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าที่แดนสิบที่ผู้ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า เขาจึงไม่ทะนงตนไม่ร้อนรน และไม่พึงพอใจในตนเอง จะอย่างไรเสียหนทางยังอีกยาวไกล
“หนทางในอนาคตอีกยาวไกล ราชันเซียนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง เจ้ายังมีเส้นทางที่ต้องก้าวเดินไปอีกไกลมาก ถ้าหากอนาคตเจ้ายังคงรักษาความตั้งใจแรกเริ่มเอาไว้ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องเปล่งประกายที่เจิดจ้าแน่นอน ราชันเซียนจากเก้าแดนพวกเขาไม่มีผู้อ่อนแอ! ล้วนแล้วแต่ผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี ล้วนแล้วแต่ผ่านการชำระล้างกายาด้วยเลือดสดๆ มาแล้วทั้งนั้น!” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“ข้าน้อยเข้าใจ” เหมยอ้าวเสวี่ยคำนับ และกล่าวด้วยความจริงใจว่า “อ้าวเสวี่ยเพิ่งมาถึงแดนสิบ ยังมึนงงกับเรื่องราวต่างๆ ในอนาคตยังตั้งอาศัยใต้เท้าสนับสนุน ยังต้องการคำชี้แนะจากเหล่าผู้อาวุโส”
“ราชันเซียนตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงของพวกเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ เมื่อถึงเวลาเจ้าสามารถไปเยี่ยมคารวะ ข้าเชื่อว่าพวกเขาก็สามารถให้ข้อคิดเห็นให้กับเจ้ากับเส้นทางที่จะก้าวเดินไปในอนาคต” หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นมาช้าๆ
คำพูดนี้ทำให้เหมยอ้าวเสวี่ยรู้สึกดีใจ ไม่นึกเลยว่าเขาจะยังสามารถได้พบเห็นราชันเซียนที่เป็นบรรพบุรุษของตระกูลขุนนางโบราณเจี่ยนหลงในแดนสิบได้
………………………….