Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2202 หนึ่งไม่มีสอง
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว การโจมตีในครั้งนี้เสมือนดั่งดวงดาวที่ร่วงหล่นลงมา เหมือนดวงดาวที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารพุ่งเข้าชนหลี่ชิเย่อย่างนั้น ด้วยอานุภาพที่ทำลายฟ้าดินได้ สิ่งปลูกสร้างจำนวนไม่น้อยที่อยู่รอบๆ พังครืนลงมาภายใต้อานุภาพที่น่ากลัวเช่นนี้ในทันที คล้ายต้องการพุ่งชนทำลายทั่วปฐพีอย่างนั้น
ตันหวังร้องเสียงดังออกมาหวังขัดขวางเรื่องเช่นนี้ไม่ให้เกิดขึ้น เขาคาดหวังว่าสามารถเห็นหลี่ชิเย่กลั่นยาเม็ดอายุวัฒนะเตานี้ได้เป็นผลสำเร็จ
หลี่ชิเย่ไม่ได้มองสักแวบด้วยซ้ำเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หนึ่งการโจมตีสะเทือนฟ้า หลี่ชิเย่อาศัยมือข้างหนึ่งควบคุมเตา ยืนมืออีกข้างหนึ่งออกไป มือใหญ่พลันกางออก เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ส่งประกายเจิดจ้ายิ่งนัก
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง กลางฝ่ามือของหลี่ชิเย่พลันพวยพุ่งเป็นประกายขึ้นมา มองเห็นกลางฝ่ามือของหลี่ชิเย่ปรากฎเป็นวังวนสัจธรรมที่หมุนวนอยู่ตรงนั้น คล้ายดั่งต้นกำเนิดสัจธรรมทั้งหมดกำลังหม่นเคลื่อนไปบนกลางฝ่ามือของเขาอย่างนั้น นาทีนี้วังวนที่อยู่กลางฝ่ามือของหลี่ชิเย่เหมือนได้ครอบครองพลังของต้นกำเนิดสัจธรรมเอาไว้ทั้งหมด
ตูมจังหวะเส้นยาแดงผ่าแปดปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น กลางฝ่ามือของหลี่ชิเย่พลันพวยพุ่งเป็นลำแสงออกมา โดยลำแสดงนี้พลันพุ่งโจมตีออกไป เสมือนหนึ่งคือแรงกระแทกอย่างรุนแรงและเป็นจังหวะที่สามารถไล่ย้อนกาลเวลากลับไป สามารถก้าวข้ามนิรันดร์กาลได้อย่างนั้น ลำแสงที่พวยพุ่งออกมาเช่นนี้ไม่มีใครสามารถต้านได้ ปราศจากผู้ต่อกร
ต้นกำเนิดสัจธรรมในฝ่ามือสีหน้าของพวกของนักบวชหยางหมิงพลันแปรเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว แต่ว่า นาทีนี้ต่อให้พวกเขาคิดจะล่าถอยก็ไม่ทันกาลเสียแล้ว
พวกของนักบวชหยางหมิงไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลี่ชิเย่จะสามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้ตามใจปรารถนาถึงเพียงนี้ เสมือนหนึ่งต้นกำเนิดสัจธรรมทั้งหมดเป็นของเขาเองอย่างนั้น ซึ่งตามหลักแล้วมันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ทว่าหลี่ชิเย่กลับสามารถทำได้ มันคือเรื่องที่มหัศจรรย์ยิ่งโดยแท้ สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมได้ดั่งใจปรารถนาขนาดนี้ ต่อให้เป็นราชันแท้จริงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งก็ยากที่จะทำเช่นนี้ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อไร้เสียงเช่นนี้
ปังลำแสงสายนี้ของหลี่ชิเย่พุ่งปะทะกับการร่วมมือโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตของพวกนักบวชหยางหมิงอย่างแรง เสียงตูมสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสำนักพระราชวัง การโจมตีที่รุนแรงถึงชีวิตของพวกเขาพลันถูกพุ่งชนทำลาย แม้แต่โล่ยักษ์ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเป็นกำแพงโล่ก็แตกละเอียดพินาศย่อยยับไปในทันใด
จะเป็นนักบวชหยางหมิงก็ดี เทพหมื่นกรก็ช่าง และระดับบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์จำนวนหลายร้อยคนต่างถูกพลังต้นกำเนิดสัจธรรมที่น่ากลัวปราศจากผู้เทียบเทียมพุ่งเข้าปะทะจนตัวลอยออกไป และกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ นักบวชหยางหมิงและเทพหมื่นกรพวกเขาต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ลมปราณแปรปรวนจนไม่อาจควบคุมได้ ทำให้พวกเขาต้องกระอักเลือดออกมาอย่างแรง
แต่ว่า พวกของนักบวชหยางหมิงที่ถูกพลังกระแทกจนตัวลอยเพิ่งตกลงมาถึงพื้นยังไม่ทันได้ลุกขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงดังตึง ตึง ตึงขึ้นมา ทันใดนั้นเองบนพื้นดินปรากฏเป็นกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายขึ้นมา โดยที่กฎเกณฑ์แต่ละสายดังกล่าวคล้ายดั่งเป็นโซ่เหล็กอย่างนั้น พลันจัดการพันธนาการร่างของพวกนักบวชหยางหมิงเอาไว้อย่างแน่นหนา
“เปิด…” เมื่อร่างของพวกเทพหมื่นกรถูกกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษแต่ละสายพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาคิดจะดิ้นและลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งคำรามเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ แต่ก็ไร้ประโยชน์ กฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษได้พันธนาการพวกเขาเอาไว้ที่เดิม ไม่สามารถดิ้นหลุดได้อยู่แล้ว
ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง ไฟของเตาเทพหมื่นเตาได้สงบลง การกลั่นยาเม็ดอายุวัฒนะประสบผลสำเร็จ ไฟในเตาเสมือนดั่งน้ำที่ลดระดับลง ระดับความร้อนของไฟได้ที่พอดิบพอดี
“เก็บยา…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่เปิดเตาและหยิบเอายาเม็ดอายุวัฒนะที่อยู่ในเตาเก็บเอาไว้ในขวดวิเศษ ในที่สุดยาเม็ดอายุวัฒนะชนิดวิบากขั้นที่สี่ขวดนี้ก็ปรุงสำเร็จแล้ว.
หลังจากผ่านไปชั่วครู่ หลี่ชิเย่ได้เทเอายาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ออกมาจากขวดวิเศษ พิจารณาดูอย่างละเอียด มองเห็นยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ปรากฏเป็นไอน้ำสีแดงที่ไหลเคลื่อนไป เสมือนดั่งมีมังกรตัวหนึ่งที่บินวนเวียนอยู่ภายในยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ อีกทั้งยังมีเสียงคำรามของมังกรดังขึ้นเป็นระยะ ยาเม็ดอายุวัฒนะลักษณะเช่นนี้ ต่อให้เป็นเทพแท้จริงหากได้เห็นก็ต้องการครอบครองอย่างยิ่งเลยทีเดียว
“ยาเม็ดเยี่ยม ยาเม็ดเยี่ยม ยาเม็ดเยี่ยม” ตันหวังที่ยืนดูอยู่ด้านข้างถึงกับสองตาเป็นประกาย และเอ่ยชื่นชมเสียงดังออกมา เมื่อได้เห็นยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่
จากนั้น เขาได้ถูมือทั้งสองไปมา หัวเราะแห้งๆ และกล่าวว่า “แหะ แหะพี่ท่าน ให้ข้าได้ชมยาเม็ดวิเศษเม็ดนี้ของท่านได้หรือไม่?”
พวกของนักบวชหยางหมิง และเทพหมื่นกรที่เป็นระดับบรรพบุรุษต่างต้องอึ้งไปอย่างสิ้นเชิงกับคนอย่างตันหวัง พวกเขาสู้กับหลี่ชิเย่ชนิดที่ต้องตายไปข้างหนึ่ง ดีนี่ เขากลับเข้ากับหลี่ชิเย่เป็นปี่เป็นขลุ่ย ท่าทางมีการนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันอย่างนั้น
พวกของนักบวชหยางหมิงก็ต้องจนด้วยเกล้า เนื่องจากทุกคนต่างก็รู้ดีอยู่แล้วว่าตันหวังหลงใหลในเรื่องของวิชาปรุงยาเม็ด หากไม่เป็นเช่นนี้เขาก็คงไม่สามารถมีฝีมือด้านวิชาปรุงยาเม็ดที่สูงส่งถึงเพียงนี้
หลี่ชิเย่มองดูตันหวังทีหนึ่ง จากนั้นถือโอกาสโยนยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ให้กับตันหวัง
หลังจากตันหวังได้รับยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้มาและพิจารณาดูอย่างละเอียด เขามีฉายาว่าตันหวังซึ่งใช่ว่าเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอม เมื่อเขาพิจารณาดูอย่างละเอียดก็สามารถมองเห็นความนัยของยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ ถึงกับส่งเสียงจี๊ดจ๊ะออกมา และกล่าวว่า “นี่มันคุณภาพชั้นเลิศนะเนี่ย แม้แต่ระดับเทพแท้จริงขั้นสูงหากเป็นการทานเป็นครั้งแรก เมื่อทานยาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี่เข้าไปแล้ว ต่อให้ไม่สามารถยืดอายุได้ถึงหนึ่งหมื่นปีก็ต้องได้ถึงแปดพันปี สามารถอาศัยสมุนไพรเช่นนี้กลั่นเป็นยาเม็ดอายุวัฒนะประเภทวิบากขั้นที่สี่ชั้นคุณภาพเลิศเช่นนี้ได้นับว่ายอดเยี่ยมมาก ยอดเยี่ยมมาก ชาตินี้ข้าคงยากที่จะกลั่นยาเม็ดได้ดีเช่นนี้อีกแล้ว”
แม้แต่พวกระดับบรรพบุรุษอย่างนักบวชหยางหมิง และเทพหมื่นกรพวกเขาต่างสบตากันและกัน กล่าวสำหรับระดับบรรพบุรุษเช่นพวกเขาแล้ว ยาเม็ดอายุวัฒนะมีพลังเย้ายวนต่อพวกเขามากอย่างยิ่ง
สุดท้าย ตันหวังได้นำเอายาเม็ดอายุวัฒนะเม็ดนี้ส่งคืนให้กับหลี่ชิเย่ แสดงคารวะแบบจีนแล้วยิ้มแต้กล่าวว่า “แหะ แหะ แหะไม่ทราบว่าพี่ท่าน ไม่สิ ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสจะรับศิษย์หรือไม่? ช่วยแนะนำผู้เยาว์สักหน่อยจะได้หรือไม่?” การกระทำที่ไม่ชอบธรรมเช่นนี้ของตันหวัง ทำให้พวกนักบวชหยางหมิงและเทพหมื่นกรต้องอึ้งโดยสิ้นเชิง ไม่เพียงทำตัวสนิทสนมกับศัตรูแล้ว ยังแสดงท่าทีต้องการกราบอาจารย์อย่างนั้น
“ไม่รับ” หลี่ชิเย่ปฏิเสธคำขอของตันหวังตรงๆ
“ถ้าเช่นนั้นรับผู้ใช้แรงงานหนักหรือไม่? เป็นต้นว่าทำงานที่ลำบากอะไรทำนองนั้น” ตันหวังเกาหัวแครกๆ และหัวเราะแหะๆ และยังคงไม่ยอมแพ้และเอ่ยถามขึ้นมา
“ไม่รับ” หลี่ชิเย่ยังคงปฏิเสธตันหวังทันควัน โดยไม่เปิดโอกาสให้อย่างสิ้นเชิง
ตันหวังพลันหมดหนทางปราศจากวิธีอย่างสิ้นเชิง ได้แต่มองตาปริบๆ อยู่ตรงนั้น ลูกตาทั้งสองของเขากรอกกลิ้งไปมา
เปิดในเวลานี้เอง นักบวชหยางหมิงและเทพหมื่นกรพวกเขาต่างคำรามเสียงดังออกมา และสำแดงพลังที่มีอยู่ทั้งหมด หวังจะดิ้นหลุดจากพันธนาการของกฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษ แต่ทว่า แม้ว่าพวกเขาจะสำแดงพลังที่มีอยู่ทั้งหมดก็ไม่สามารถทำให้กฎเกณฑ์ปฐมบรรพบุรุษนี้ขาดได้ เหมือนว่ามันคือโซ่เหล็กที่แข็งที่สุดในโลกอย่างนั้น ต่อให้มีอภินิหารเพียงใดก็ตาม เมื่อถูกพันธนาการแล้วก็ได้แต่ให้จับเสียแต่โดยดี
“อย่าเสียแรงเปล่าอีกเลย” ขณะที่นักบวชหยางหมิงและเทพหมื่นกรพวกเขากำลังดิ้นรนอยู่นั้น หลี่ชิเย่เพียงมองดูพวกเขาแวบหนึ่งด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวเรียบๆ ว่า “นี่คือกฎเกณฑ์ของผู้เฒ่ากำแหงที่เชื่อมโยงกับต้นกำเนิดสัจธรรม เว้นแต่เจ้าสามารถพลิกเอาต้นกำเนิดสัจธรรมขึ้นมาทั้งหมด มิฉะนั้นแล้ว ต่อให้เจ้ามีอภินิหารที่ปราศจากผู้ต่อกรก็ดิ้นหลุดจากพันธนาการนี้ไปไม่ได้”
“ท่านคือใครกันแน่?” เวลานี้นักบวชหยางหมิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง กล่าวขึ้นมาช้าๆ ด้วยท่าทีที่ให้เกียรติ
“หลี่ชิเย่ ผู้ที่เดินทางผ่านโลกนี้เท่านั้น พูดไปพวกเจ้าก็ต้องไม่เคยได้ยิน” หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย
คำพูดลักษณะเช่นนี้ทำให้นักบวชหยางหมิงและเทพหมื่นกรที่เป็นระดับบรรพบุรุษถึงกับสบตากันและกัน ในบรรดาพวกเขามีอยู่ไม่น้อยที่มีความรู้กว้างขวาง กระทั่งรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับแดนลัทธิราชัน และแดนลัทธิเซียน แต่ว่า พวกเขากลับไม่เคยได้ยินชื่อของหลี่ชิเย่มาก่อน
“ไหนพวกเจ้าบอกมาสิ ข้าควรจะจับพวกเจ้ามาตุ๋นกิน หรือว่านึ่งกินดี?” หลี่ชิเย่มองดูพวกของนักบวชหยางหมิงและยิ้มกล่าวเมินเฉยว่า “พูดถึงเรื่องกินเนื้อคนนะเนี่ย ข้าไม่ได้กินมานานมากแล้ว เวลานี้เมื่อนึกถึงทีใด เรียกได้ว่ายังคงหวนนึกถึงรสชาติแบบนั้นอยู่บ้างเหมือนกัน” กล่าวพลางทำเสียงจี๊ดจ๊ะท่าทางเหมือนกำลังรำลึกถึงอย่างนั้น
ท่าทางเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้คนรู้หวาดกลัวจนขนลุกซู่ได้เหมือนกัน ทำให้ผู้คนสงสัยว่าเขาเคยกินเนื้อคนมาแล้วจริงหรือไม่ แม้แต่บรรดาระดับบรรพบุรุษที่ถูกพันธนาการอยู่ตรงหน้าก็รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่เช่นกัน
“จะฆ่าจะแกงสุดแล้วแต่เจ้า ในเมื่อพวกเรากล้ามาก็ไม่เคยคิดว่าจะรอดชีวิตกลับไป” นักบวชหยางหมิงที่มีชาติกำเนิดมาจากพรรคหยางหมิงนับเป็นบุรุษใจเพชรคนหนึ่ง กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นมา
เทพหมื่นกรกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “ต่อให้เจ้าสังหารพวกเราแล้วจะอย่างไร ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงพวกเรา และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิในแดนลัทธิพรรษทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะแก้แค้นให้กับพวกเรา แดนลัทธิพรรษจะไม่อนุญาตให้พรรคมารได้ก่อกรรมทำเข็ญอย่างเด็ดขาด จะไม่ยอมให้พวกพรรคมารเช่นพวกเจ้าทำร้ายผู้ร่วมลัทธิอย่างเด็ดขาด!”
นับแต่เทพแท้จริงเทียนเต๋อก่อให้เกิดกระแสดูดเลือดขึ้นมาแล้ว ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้ชื่อว่าเป็น ‘พรรคมาร’ ในที่อื่นๆ ของแดนลัทธิพรรษ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ครั้งนั้นกระแสดูดเลือดของเทพแท้จริงเทียนเต๋อได้ครอบคลุมไปทั่วแดนลัทธิพรรษในเวลานั้น นับว่าทำเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าได้ดูดกลืนเลือดของผู้คนไปเป็นจำนวนเท่าไร
“คงมีสักวันที่บรรดาระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนมากของแดนลัทธิพรรษจะต้องกำจัดระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงพวกเจ้าจนราบคาบ ถอนรากถอนโคนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงของพวกเจ้าขึ้นมา” ระดับบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้ และไม่กลัวคำขู่ลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ส่งเสียงฮึน่าเกรงขามขึ้นมา
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่หัวเราะตามอารมณ์ขึ้นมา และกล่าวว่า “เมื่อพวกเจ้าพูดเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วข้าต้องไปที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิพานหลงอะไรนั่นก่อนสักครั้ง ชิงลงมือก่อนจัดการทำลายล้างระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเจ้าทั้งหมดค่อยว่ากัน”
คำพูดที่มุทะลุดุดันและโหดร้ายเช่นนี้พลันทำให้พวกของนักบวชหยางหมิงต่างมองตากันและกัน คำพูดลักษณเช่นนี้เหมือนเป็นการประกาศศึกกับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งหมดที่อยู่ในแดนลัทธิพรรษอย่างนั้น ขอเพียงไม่ใช่คนเสียสติก็จะไม่ทำเรื่องเช่นนี้แน่นอน
“วาจาสามหาวมาก” ระดับบรรพบุรุษส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจ และกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “เมื่อออกไปจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงแล้ว ในแดนลัทธิพรรษ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่มีต้นกำเนิดสัจธรรมแข็งแกร่งมากยิ่งกว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงของเจ้ามีมากมายดั่งดอกเห็ด ไหนเลยจะปล่อยให้เจ้ามาพาลเกเร และทำกำเริบเสิบสานได้”
ที่บรรพบุรุษผู้นี้พูดมาใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล พวกเขาต่างมองออกว่า ที่หลี่ชิเย่เอาชนะพวกเขาได้นั้นเป็นการอาศัยพลังจากต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงล้วนๆ ลำพังพลังของตัวเขาเองไม่เห็นจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากหลี่ชิเย่ไปยังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอื่นๆ เขาไม่เพียงไม่สามารถควบคุมและใช้พลังต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงได้แล้ว ตรงกันข้ามศัตรูยังสามารถอาศัยพลังต้นกำเนิดสัจธรรมของตนมาสังหารหลี่ชิเย่ได้อีกด้วย
กล่าวได้ว่ามันคือข้อได้เปรียบมากที่สุดของผู้ที่อยู่ในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน
…………………………….