Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2585 ฉางจินต้ง
ตอนที่ 2585 ฉางจินต้ง
วันเวลาที่ผ่านไปวันแล้ววันเล่า มียอดฝีมือของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิต่างๆ ปรากฏตัวที่เมืองหมิงลั่วเฉิงมากขึ้นๆ จากการที่มียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจากภายนอกทะลักเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิงเป็นจำนวนมาก ทำให้จำนวนยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่มาจากภายนอกมีมากกว่าราษฎรดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ใสเมืองหมิงลั่วเฉิงมากกว่ามากทีเดียว
ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิที่ทะลักเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิที่ปรากฎก็จะมีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นๆ
นิกายร้อยใบไม้ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิมังกรเหิน พรรคกระเรียนร่ายรำ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหลินทง…ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิแต่ละแห่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้า ต่างทยอยกันปรากฏตัวขึ้นที่เมืองหมิงลั่วเฉิง ในเวลานี้ได้ทำให้บรรยากาศภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงกลับกลายเป็นตึงเครียดมากยิ่งขึ้นเป็นพิเศษ กระทั่งเริ่มมีความขัดแย้งเล็กๆ เกิดขึ้นแล้ว
แม้จะกล่าวว่ามีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิทะลักเข้ามายังเมืองหมิงลั่วเฉิงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่โชคดีก็คือยังไม่มีผู้บำเพ็ญตนคนใดมองบริเวณซากปรักหักพังที่พวกหลี่ชิเย่อาศัยอยู่นั้นอยู่ในสายตา จึงไม่มีใครมารบกวนหลี่ชิเย่
แต่ทว่า ความเงียบสงบของหลี่ชิเย่ก็ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้นานนัก มาวันนี้เอง พลันได้ยินเสียงตูมดังตูมตามขึ้นมาไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง บนท้องฟ้าได้ปรากฏประตูขนาดยักษ์ถูกเปิดออก เวลานี้ เรือรบขนาดยักษ์อย่างยิ่งได้แล่นออกมาจากประตูดังกล่าวอย่างช้าๆ
ขนาดของเรือรบลำนี้ใหญ่โตจนสุดที่จะจินตนาการได้ โดยรูปร่างของเรือรบลำนี้เหมือนดั่งกระสวย ด้านหลังมีปีกสองข้างที่กางออก รูปลักษณ์ดูเหมือนในโลกของจินตนาการอย่างยิ่ง ดุจดั่งเป็นเครื่องบินรบอย่างนั้น
เรือรบลักษณะเช่นนี้มีขนาดใหญ่โตเสมือนดั่งเป็นเมืองขนาดยักษ์เมืองหนึ่งอย่างนั้น ขณะที่เรือรบนี้เคลื่อนตัวออกมาจากประตูช้าๆ ด้านหลังของมันถึงกับมีเรือรบขนาดเล็กแต่ละลำทำการคุ้มครองอยู่
การจัดวางรูปขบวนเช่นนี้ กลายเป็นกองกำลังรบขนาดยักษ์ขึ้นมา เป็นกองกำลังรบของเรือรบบนท้องฟ้า ด้วยกำลังรบของเรือรบที่น่ากลัวเช่นนี้ ส่งไปยังที่ใดก็ตาม ก็สามารถทำลายล้างแคว้นเจ้าลัทธิใดๆ ก็ได้อย่างง่ายดาย
เรือรบขนาดยักษ์ที่แล่นออกมาจากประตูใช่จะมีเพียงลำนี้ลำเดียวเท่านั้น เมื่อเรือรบลักษณะเช่นนี้แล่นออกมาแล้ว ด้านหลังได้มีเรือรบขนาดยักษ์เช่นนี้ตามมาติดๆ อีกหลายลำ ทุกลำก็จะมีเรือรบขนาดเล็กหลายลำทำการปกห้องคุ้มครองอยู่
“เป็นกองเรือรบของฉางจินต้ง…” มองเห็นเรือรบขนาดยักษ์แต่ละลำภายใต้การคุ้มครองของเรือรบขนาดเล็กที่แล่นผ่านออกมาจากประตู ลอยอยู่บนท้องฟ้าสูง ทำให้ทุกคนที่อยู่ภายในเมืองหมิงลั่วเฉิงต่างแหงนหน้าข้นมอง
มียอดฝีมือสำนักเจ้าลัทธิสามารถจดจำประวัติความเป็นมาของเรือรบเหล่านี้ได้ ถึงกับตกใจอยู่ในใจ
“ฉางจินต้งก็มาด้วยแล้ว” ภายในใจของยอดฝีมืออดที่จะเย็นวาบไม่ได้ เมื่อมองเห็นเรือรบลำขนาดยักษ์แต่ละลำ
ฉางจินต้งคือหนึ่งในสำนักที่แข็งแกร่งมากที่สุดในแดนลัทธิราชัน กำลังความสามารถของพวกเขาเป็นรองแค่สามยักษ์ใหญ่ของแดนลัทธิราชันเท่านั้นเอง นอกจากเทียบไม่ได้กับตระกูลหลี่ ตระกูลมู่ และระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่แล้ว ในแดนลัทธิราชันยากจะหาสำนักที่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ได้อีกแล้ว
ฉางจินต้งเคยปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจั่วอ้านมายุคสมัยแล้วยุคสมัยเล่า ปกครองดูแลร้อยสำนักพันชาติพันธุ์ กำลังความสามารถเข้มแข็ง ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องหวาดผวา
สุดท้าย เรือรบขนาดยักษ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ลอยอยู่กลางอากาศที่สูงขึ้นไป ประกอบด้วยเรือรบขนาดยักษ์สิบลำที่ตั้งเป็นขบวนที่ปราศจากผู้เทียบเทียม รอบๆ ยังมีเรือรบขนาดเล็กอีกหลายสิบลำคอยให้การคุ้มกัน พลันกลายเป็นกองกำลังรบที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ด้วยกำลังอาวุธที่น่ากลัวเช่นนี้ สามารถทำลายล้างศัตรูใดๆ ได้ในพริบตาเดียว
“สิบวัชระฉางจินต้ง…” สีหน้าระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิเปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อมองเห็นกองเรือรบขนาดยักษ์สุดเปรียบเปรยเช่นนี้ และกล่าวว่า “สิบวัชระฉางจินต้งมาด้วยตนเอง สุดยอดกองเรือรบมาโดยตรง นี่เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่? ต้องการทำลายระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นทั้งหมดรึ?”
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซุ่ และหวาดกลัวในใจอย่างยิ่ง เมื่อมองเห็นกองเรือรบที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าจนถี่ยิบ
ชื่อเสียงของฉางจินต้งเป็นที่เลื่องลือทั่วหล้า โดยเฉาพอย่างยิ่งระดับปรมาจารย์ของฉางจินต้งก็มีชื่อเสียงโด่งดัง ฉางจินต้งมีสิบวัชระและสี่พุทธา พวกเขาเคยเกรียงไกรทั่วหล้า ชื่อเสียงสยบสำนักต่างๆ เป็นจำนวนมาก
มาวันนี้สิบวัชระฉางจินต้งมาด้วยตนเอง และยังนำพากองเรือรบที่แข็งแกร่งน่ากลัวที่สุดภายใต้บังคับบัญชาพวกเขามาด้วย มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเช่นใด
กระทั่งมีผู้สงสัยว่า ถ้าหากกองเรือรบของสิบวัชระฉางจินต้งระดมยิงพร้อมกันล่ะก็ ไม่แน่นักอาจสามารถยิงจนระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นทะลุได้ในทันที กระทั้งยิงจนระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นระเบิดไปทั้งหมด
“นี่ฉางจินต้งคิดจะทำอะไรกันแน่?” แม้แต่ยอดฝีมือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ สำนักเจ้าลัทธิที่มาจากภายนอกก็ต้องหวาดกลัวในใจเช่นกัน เมื่อมองเห็นการตั้งท่าเตรียมระดมยิงอยูเหนือท้องฟ้าของเมืองหมิงลั่วเฉิง
“หรือว่าฉางจินต้งต้องการยึดครองทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่เอาไว้แต่เพียงผู้เดียว และประกาศศึกกับผู้คนทั่วหล้า” มีระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิอดที่จะคาดเดาเอาไว้
ฟิววว…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในขณะที่ทุกคนกำลังตกใจกับการมาถึงของฉางจินต้งด้วยพลังทำลายที่แข็งแกร่ง มองเห็นกองเรือรบที่ขนาดใหญ่โตมโหฬารได้หย่อนเรือรบขนาดเล็กลงมาลำหนึ่ง และบินในระยะต่ำเข้าไปยังเมืองหมิงลั่วเฉิง
ได้ยินเสียงฟิวววดังขี้นเสียงหนึ่ง เรือรบขนาดเล็กได้บินระยะต่ำด้วยความเร็วสูงผ่านไปตามถนนของเมืองหมิงลั่วเฉิง จากนั้นบินไปยังบริเวณซากปรักหักพัง ได้ยินเสียงดังตึง ตึง ตึงดังขึ้น มองเห็นขณะที่เรือรบขนาดเล็กบินโฉบผ่านบริเวณซากปรักหักพังนั้น ปรากฏกระสวยบินแต่ละอันที่ปล่อยลงมาจากภายในเรือรบนั่น
กระสวยบินแต่ละอันดูไปแล้วคล้ายเป็นเสาเหล็กที่สูงสามจ้าง เมื่อกระสวยบินเช่นนี้ถูกทิ้งลงมาจากท้องฟ้า และลงไปตรึงอยู่บนพื้นดิน เมื่อมันถูกตรึงเอาไว้บนพื้นจะได้ยินเสียงคร๊ากกกดังขึ้น ส่วนหัวของกระสวยจะปริออก และยิงเป็นลำแสงออกมาสายหนึ่ง
ในเวลานี้ กระสวยบินแต่ละอันที่ถูกยิงให้ตรึงอยู่บนพื้นล้วนแล้วแต่ทำการยิงลำแสงออกมาจากส่วนยอดและประสานเข้าด้วยกันและกัน เสมือนดั่งเป็นการตีเส้นอาณาเขตเอาไว้อย่างนั้น
เรือรบขนาดเล็กได้บินรอบบริเวณซากปรักหักพังไปรอบหนึ่งภายในระยะเวลาอันสั้น พร้อมกับทิ้งกระสวยบินแต่ละอันลงมา และกระสวยบินทุกอันได้ยิงลำแสงออกมากลายเป็นเส้นเขตแดน โดยผนวกเอาบริเวณที่เป็นซากปรักหักพังเข้าไปในนั้นทั้งหมด
ขณะที่บริเวณซากปรักหักพังที่ถูกตีเส้นด้วยลำแสงก็คือบริเวณซากปรักหักพังเทียนยวี่นที่หลี่ชิเย่อาศัยอยู่นั่นเอง
“พวกเขาต้องการทำอะไร?” มีผู้ที่รู้สึกแปลกใจและเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นเรือรบขนาดเล็กของฉางจินต้งได้ทิ้งกระสวยบินลงมาเป็นจำนวนมาก และลำแสงล้วนแล้วแต่ประสานเข้าด้วยกัน
“ตีเส้นเป็นเขตแดนน่ะสิ” ผู้ที่รู้จักวิธีการกระทำของฉางจินต้งต่างเข้าใจดี และกล่าวว่า “ขอเพียงบริเวณที่ลำแสงของฉางจินต้งได้สำแดงเอาไว้ก็คืออาณาเขตของพวกเขา ไม่ว่าใครก็ต้องล่าถอยออกไป มิฉะนั้นล่ะก็จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตนเอง”
“นี่มันออกจะอันธพาลเกินไปแล้วกระมัง พลันยึดครองพื้นที่เอาไว้มากมายเช่นนี้” มีผู้บำเพ็ญตนที่อดที่จะซุบซิบด้วยความกังขาไม่ได้
“อันธพาล?” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสหัวเราะเยาะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ความอันธพาลของฉางจินต้งที่แท้จริงเจ้ายังไม่เคยได้เห็น กล่าวได้ว่าอาศัยศักยภาพของพวกเขาแล้ว เคยกลัวใครที่ไหนกัน? เว้นแต่สามยักษ์ใหญ่แห่งแดนลัทธิราชันแล้ว เกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่พวกเขาจะเห็นอยู่ในสายตาแล้ว โน่น มองดูให้ดีพวกเขากำลังจะเคลียร์พื้นที่กันแล้ว แม้แต่คนที่ดูชมความคึกครื้นก็ต้องไสหัวออกไป”
ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในเวลานี้เอง เรือรบขนาดเล็กลำนั้นที่ทิ้งกระสวยบินลงมาลำนั้น ซึ่งลอยอยู่เหนือท้องฟ้าของบริเวณซากปรักหักพังเทียนยวี่น ได้ยินเสียงดังแควกกกดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ประตูของเรือรบเปิดออก ปรากฏศิษย์แต่ละคนของฉางจินต้งที่กระโดดลงมา
“ให้ทุกคนออกจากพื้นที่แห่งนี้ทันที นับแต่นี้เป็นต้นไป พื้นที่แห่งนี้ควบคุมโดยฉางจินต้ง ไม่ว่าผู้ใดก็ตามหากไม่ได้รับอนุญาตจากฉางจินต้ง ล้วนแล้วแต่ไม่ให้รั้งอยู่บริเวณนี้ มิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเอง” ในเวลานี้ ศิษย์ของฉางจินต้งเริ่มขับไล่ผู้คนที่อยู่บริเวณซากปรักหักพังแห่งนี้
เดิมทีซากปรักหักพังเทียนยวี่นก็มีขนาดที่ใหญ่โตมากอยู่แล้ว นอกจากบรรดาผู้บำเพ็ญตนที่รุดมาดูความคึกครื้นแล้ว ยังมีผู้บำเพ็ญตนบางส่วนที่กำลังท่องอยู่บริเวณซากปรักหักพังแห่งนี้ แต่ว่า เวลานี้พวกผู้บำเพ็ญตนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ถูกศิษย์ของฉางจินต้งขับไล่ออกไปจากบริเวณซากปรักหักพังแห่งนี้
ผู้บำเพ็ญตนบางคนรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมา จากการที่ถูกเหล่าศิษย์ของฉางจินต้งแสดงความหยาบคาย อดที่จะบ่นขึ้นมาว่า “ที่ตรงนี้ไม่ใช่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจั่วอ้าน อาศัยอะไรมายึดครองไว้แต่ผู้เดียว ทำแบบนี้ออกจะพาลมากเกินไปแล้วกระมัง?”
“อันธพาล…” มีศิษย์ของฉางจินต้งพลันก้าวเข้าหาพร้อมทวนยาวในมือ หัวเราะเยาะว่า “อันธพาลแล้วอย่างไร ไม่พอใจรึ?”
ผู้บำเพ็ญตนผู้นี้ไม่อาจระงับอารมณ์ในใจได้ คิดจะตอกกลับไป สหายที่อยู่ข้างกายรีบเร่งลากตัวเขาออกไปจากบริเวณซากปรักหักพังแห่งนี้
“ระงับอารมณ์เอาไว้ การแข็งข้อกับฉางจินต้งจะไม่มีจุดจบที่ดีแน่ เป็นการรนหาที่ตายเอง” สหายของผู้บำเพ็ญตนผู้นี้ได้กล่าวเตือน และกล่าวว่า “เรื่องความป่าเถื่อนของฉางจินต้งใช่จะเพิ่งเป็นมาวันสองวัน”
ในขณะนี้ ศิษย์ของฉางจินต้งได้เคลียร์พื้นที่มาถึงบ้านไม้ของพวกเขาแล้ว
“คุณชาย มีคนมา เกรงว่าต้องการจัดการกับพวกเราแล้ว” หวูโหย่วเจิ้งมองเห็นกลุ่มคนกลุ่มย่อยของฉางจินต้งมุ่งหน้ามาทางพวกเขาถึงกับตระหนก วิ่งเข้าไปในบ้านและรีบแจ้งต่อหลี่ชิเย่
หวูโหย่วเจิ้งตกใจจนเซ่อไปเลย เมื่อมองเห็นกองเรือรบขนาดใหญ่โตมโหฬารที่อยู่บนท้องฟ้า เขาเองก็ไม่เคยไปจากระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น ยังไม่เคยได้เห็นพลังการสู้รบที่น่ากลัวอย่างแท้จริง ไม่เคยได้เห็นกองทัพของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิขนาดใหญ่ที่แท้จริง
ดังนั้น เมื่อมองเห็นกองเรือรบลักษณะเช่นนี้บนท้องฟ้า เขาถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึงจนขนลุกซู่ อย่าว่าแต่กองเรือรบลักษณะเช่นนี้เลย แค่เรือรบลำเล็กที่คอยคุ้มครองกองเรือรบบินลงมาสักลำ ก็สามารถทำลายเมืองหมิงลั่วเฉิงของพวกเขาได้ทั้งหมด กระทั่งทำลายล้างสำนักที่มีอยู่ในระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่นได้ทั้งหมด
“มาก็ให้มันมา” หลี่ชิเย่เรียบเฉยอย่างยิ่ง นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
เพียงชั่วพริบตาเดียว กองกำลังย่อยของฉางจินต้งก็ได้มาถึงด้านหน้าบ้านไม้ของพวกหลี่ชิเย่
โครมมม โครมมม ปัง…เสียงดังขึ้นเป็นระลอก หวูโหย่วเจิ้งยังไม่ทันออกไปพูดเจรจากับพวกเขา มองเห็นบ้านไม้ทั้งหลังถูกกองกำลังย่อยของฉางจินต้งจัดการรื้อจนพลิกหงายขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียว สิ่งของทุกอย่างถูกพวกเขารื้อจนปลิวกระจัดกระจายตกอยู่ในที่ที่ไกลออกไป
“พวก พวก พวกเจ้าทำอะไร…” หลินยี่เสวี่ยทั้งโมโหทั้งโกรธ บ้านไม้หลังนี้นางได้ทุ่มเทพลังกายใจไปไม่น้อย นางได้จัดแจงจัดตบแต่ทั้งด้านนอกและด้านใน มีการปลูกหญ้าและดอกไม้เอาไว้ไม่น้อย เรียกได้ว่า นี่คือบ้านหลังน้อยๆ หลังจากที่พวกเขากลับมายังเมืองหมิงลั่วเฉิง เวลานี้พลันถูกคนพลิกหงายทันที แล้วจะไม่ให้นางทั้งตระหนกทั้งโกรธได้อย่างไรเล่า?
“ทำอะไรรึ?” ผู้เป็นหัวหน้าของกองกำลังฉางจินต้งกลุ่มย่อยกลุ่มนี้หัวเราะเยาะทีหนึ่ง และมองดูพวกของหลี่ชิเย่สามคนด้วยท่าทีเย็นชา กล่าวน่าเกรงขามว่า “ที่ตรงนี้เป็นของฉางจินต้ง ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ห้ามรั้งอยู่ที่นี่ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นจะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นเอง”
หวูโหย่วเจิ้งถึงกับมองไปที่หลี่ชิเย่เมื่อได้ยินหัวหน้ากลุ่มคนกลุ่มนี้ที่ยกตนข่มท่าน ต่อให้เขามีความกล้ามากเท่าไรก็ไม่กล้าเป็นศัตรูกับสำนักที่แข็งแกร่งเช่นนี้