Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2592 คัมภีร์พุทธหัตถ์
ตอนที่ 2592 คัมภีร์พุทธหัตถ์
เพียงชั่วพริบตาเดียว สิบวัชระถูกถล่มจนลงไปกองกับพื้นทั้งหมด สิบวัชระเสมือนหนึ่งเป็นเมฆที่หลงเหลืออยู่และเศษใบไม้ร่วง ขณะที่หลี่ชิเย่เปรียบประดุจเป็นลมพายุ เมื่อลมพายุกวาดผ่านไป ปรากฎความเงียบสงบไปทั่วบริเวณ เมฆที่หลงเหลืออยู่และใบไม้ร่วงล้วนแล้วแต่ถูกวาดจนหมดเกลี้ยง
การลงมือของหลี่ชิเย่รวดเร็วเหลือเกิน ผู้คนจำนวนมากยังไม่ทันมองเห็นได้อย่างชัดเจน สิบวัชระก็ถูกซัดจนตกลงมาจากท้องฟ้าสูงแล้ว มองเห็นสิบวัชระที่เสมือนดั่งเป็นลูกอุกาบาตรแต่ละลูกที่ตกลงมาจากบนท้องฟ้า พุ่งชนภูเขาแต่ละลูกจนแหลกละเอียด พุ่งทะลุลึกลงไปใต้พื้นดิน ทำให้ผู้คนมองจนตาค้างและพูดอะไรไม่ออก
เวลานี้ สูงขึ้นไปบนท้องฟ้ามีแต่ความเงียบสงบ มีเพียงหลี่ชิเย่คนเดียวเท่านั้นที่ยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ยามที่เขายืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้นในขณะนี้ ให้ความรู้สึกกับผู้คนถึงความสูงเด่นของเขา ทำให้ผู้คนอดที่จะต้องแหงนหน้ามอง
ในเวลานี้ ทั่วทั้งเมืองหมิงลั่วเฉิงกลับกลายเป็นเงียบสงัดเยิ่งนัก สิ่งที่ทุกคนสามารถมองเห็นก็คือรอยเลือดที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่สามารถได้สติกลับมาจากความสะเทือนหวั่นไหวที่น่ากลัวนี้
ในเวลานี้ ทุกคนต่างถูกทำให้ตกใจและอ้าปากกว้างค้างอยู่กับภาพที่มองเห็นตรงหน้า ดวงตาทั้งสองเบิกกว้างมาก ล้วนแล้วแต่ไม่อยากเชื่อกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นอยู่ตรงหน้า
สิบวัชระนะเนี่ย คือผู้ดำรงอยู่ในฐานะแข็งแกร่งมากที่สุดของแดนลัทธิราชัน เคยเกรียงไกรไปทั่วหล้า แต่ว่า มาวันนี้กลับถูกผู้อื่นถล่มจนตกลงมาจากบนท้องฟ้าเพียงชั่วพริบตาเดียว เรื่องแบบนี้หากพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
“เจ้า เจ้า เจ้าหยิกข้าที ข้า ข้า ข้า ข้ากำลังฝันอยู่ใช่หรือไม่” หลังจากผ่านไปนานมาก มียอดฝีมือได้สติกลับมารู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันอย่างนั้น และพึมพำขึ้นมา
อ๊ากกก…ติดตามด้วยเสียงร้องที่น่าเวทนา เมื่อพรรคพวกของเขาได้หยิกเข้าให้อย่างแรง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทำให้ในขณะนี้เขารู้แล้วว่าไม่ได้ฝันไป ทุกสิ่งทุกอย่างที่เห็นล้วนเป็นความจริง
“โอ้แม่เจ้า นี่ นี่ นี่ นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว สิบวัชระเสมือนหนึ่งเป็นเมฆที่ยังคงหลงเหลือและใบไม้ที่ร่วงหล่นถูกกวาดรวมเป็นกองขยะ โลกนี้ โลกนี้มีคนที่แข็งแกร่งเช่นนี้จริงรึ?” หลังจากที่ผู้บำเพ็ญตนผู้นี้ได้สติกลับมาแล้วอดที่จะร้องเสียงแหลมขึ้นมาไม่ได้
ความจริงแล้ว คนที่ถูกทำให้ตกใจใช่จะมีเพียงผู้บำเพ็ญตนผู้นี้เท่านั้น บรรดาผู้บำเพ็ญตนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิก็ต้องตกใจกับภาพเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตกใจจนหวาดหวั่นพรั่นพรึง
“นี่ นี่มันน่ากลัวมากเกินไปแล้ว เพียงชั่วพริบตาเดียว สิบวัชระก็คล้ายดั่งเป็นเมฆที่หลงเหลือและเศษใบไม้ร่วงถูกกวาดทิ้งไป” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิก็ต้องถูกทำให้ตกใจจนร่างสั่นเทาและหวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นกัน
“สิบวัชระประมาทศัตรูมากเกินไปแล้ว มิฉะนั้นล่ะก็คงไม่พ่ายแพ้ยับเยินขนาดนี้” มีระดับปรมาจารย์รุ่นดึกดำบรรพกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
“ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม สามารถเสมือนดั่งพายุทำการกวาดสิบวัชระจนสิ้น กำลังความสามารถเช่นนี้ถือว่าเหนือกว่าสิบวัชระอยู่มากทีเดียว ชั่วดีอย่างไรสิบวัชระแต่ละคนก็อยู่ในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะนะ” ยอดฝีมือกล่าวพร้อมกับรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ เพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวก็กวาดล้างสิบวัชระจนสิ้น เป็นความจริงที่ว่า ทอดสายตามองออกไปในแดนลัทธิราชัน ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้คงมีไม่กี่คนที่สามารถทำได้
“นี่คือการปรากฎตัวของยอดฝีมืออีกคน สืบต่อจากราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยน” ระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งพยักหน้ากล่าวด้วยท่าทีไม่อาจไม่ยอมรับว่า “กำลังความสามารถเช่นนี้ เกรงว่าไม่ด้อยไปกว่าราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยน”
“รอดูต่อไปก็แล้วกัน ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ จึงจะเป็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุด ถ้าหากเขาสามารถต้าน ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ของสิบวัชระได้ล่ะก็ เป็นความจริงที่แข็งแกร่งมาก ไม่แพ้ราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอย่างเด็ดขาด” ระดับบรรพบุรุษตระกูลขุนนางโบราณอีกผู้หนึ่งก็พยักหน้าเบาๆ และเอ่ยขึ้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกสั่นเทา มองดูหลี่ชิเย่ที่ยืนอยู่บนท้องฟ้าเงียบๆ ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง และกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “เจ้าหนูคนนี้น่ากลัวเหลือเกิน จู่ๆ ก็โผล่ออกมา แต่กลับมีกำลังความสามารถของราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยนในครอบครอง เป็นเพียงผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อไร้เสียงคนหนึ่งกลับแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ นี่มันหลอกกันชัดๆ ว่าฆ่าคนแล้วต้องชดใช้ชีวิต โชคดีที่ไม่ได้ไปหาเรื่องกับเขา” เมื่อเอ่ยมาถึงตรงนี้ อดรู้สึกโชคดีเงียบๆ ไม่ได้
ช่าาา ช่าาา ช่าาา…ในเวลานี้เอง เสียงเศษหินเศษดินปลิวกระจายดังขึ้น มองเห็นร่างเงาร่างแล้วร่างเล่าที่พุ่งขึ้นมาจากหลุมลึก
สิบวัชระแต่ละคนที่ถูกหลี่ชิเย่ซัดจนตกลงไปนั่นเอง แม้ว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บไม่เบา แต่ก็ยังสามารถรอดชีวิตมาได้ กล่าวสำหรับระดับอย่างเช่นพวกเขาเหล่านี้แล้ว ล้วนแล้วแต่สามารถสู้จนถึงที่สุดได้ ขอเพียงยังคงมีลมหายใจอยู่
สิบวัชระต่างพุ่งขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าทีละคนๆ เมื่อขึ้นมาอีกครั้งก็จัดการปิดกั้นทุกทิศทุกทาง ทำการปิดล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ตรงกลางอีกครั้ง
แม้ว่าสิบวัชระที่ยืนอยู่บนท้องฟ้ายังคงมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว เสมือนดั่งภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่สูงเด่น แต่ว่า ไม่ได้มีท่าทีที่ปราศจากผู้ต่อกรทั่วหล้าเหมือนดั่งเช่นเมื่อครู่อีกแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนตัวของพวกเขาล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยรอยเลือด ท่าทางและดูกระเซอะกระเซิงยิ่งนัก ต่อให้ท่าทางแกร่งมากกว่านี้ ก็ถูกบั่นทอนบารมีของพวกเขาไปไม่น้อย
นาทีนี้ สิบวัชระต่างจ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธ ดวงตาทั้งสองของพวกเขาเผยให้เห็นถึงปณิธานการฆ่าที่น่ากลัว พวกเขาเคยเกรียงไกรทั่วหล้า ไร้เทียมทานปราศจากผู้ต่อกร ไม่รู้ว่ามีผู้บำเพ็ญตน สำนักต่างๆ จำนวนเท่าไรที่หวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อเมื่อได้ยินชื่อของพวกเขา แต่ทว่ามาวันนี้พวกเขาถูกกวาดให้ตกลงไปบนพื้นโดยหลี่ชิเย่เพียงชั่วพริบตาเดียว ทำให้หน้าตาของพวกเขาเสียหายอย่างหนัก ทำให้บารมีพวกเขาถูกลดทอนไปมากทีเดียว
มาวันนี้ หากพวกเขาสังหารหลี่ชิเย่ไม่ได้ ต่อไปจะสยบใต้หล้าได้อย่างไรกัน แล้วจะให้คนอื่นๆ ในแดนลัทธิราชันต้องหน้าถอดสีเมื่อเอ่ยถึงพวกเขาได้อย่างไรเล่า?
“เจ้าหนู ฝีมือไม่เลวนี่ แต่ว่า พวกเรายังไม่ได้สำแดงฝีมือที่แท้จริงออกมา” วัชระเหล็กตวาดเสียงดังขึ้นมา ดวงตาทั้งสองได้พวยพุ่งประกายออกมาไม่ขาดสาย เสมือนดั่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สาดส่องให้สว่างไสวอย่างนั้น
“อย่างนั้นรึ? ดังนั้น ข้าจึงรอฝีมือที่แท้จริงของพวกเจ้าอยู่” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “เวลานี้มีฝีมือแท้จริงอะไรก็สำแดงออกมาได้เลย”
“ดี มีความกล้าหาญ!” ดวงตาของวัชระอีกคนที่ดูไม่เป็นมิตร กล่าวน่าครั่นคร้ามขึ้นมาว่า “ผู้เยาว์ ใช่ว่าพวกเราคุยโตโอ้อวด รอให้ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ สำแดงออกมา เจ้าก็จะมีแต่ความตายสถานเดียว!”
“เอาล่ะ คำพูดที่คุยโม้ก็อย่าได้พูดให้มันมากเลย” หลี่ชิเย่โบกมือเบาๆ เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “คำพูดที่คุยโม้ข้าฟังมามากแล้ว สิบวัชระอะไรของพวกเจ้า ข้ามองว่าเป็นสิบยอดคุยโม้น่าจะเหมือนกว่า รีบๆ ลงมือเถอะ”
สีหน้าของสิบวัชระดูปั้นยากถึงขีดสุด พวกเขาถูกยั่วโมโหจนตัวสั่น เห็นหน้าอกที่ขึ้นลง พวกเขามีอำนาจที่สยบทั่วหล้า เคยถูกลบหลู่ดูแคลนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แต่ทว่า เวลานี้มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ พลันที่พวกเขาลงมือก็ถูกหลี่ชิเย่จัดการกวาดลงพื้นทั้งหมด ซึ่งสิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเป็นความอัปยศอย่างยิ่ง วันนี้พวกเขาจะต้องเอาชนะรอบนี้ให้ได้
ในเวลานี้ สิบวัชระได้มองตากันและกัน สุดท้ายพวกเขาทั้งสิบคนในแสดงท่ามุททรา ปากท่องบ่นคาถาออกมาพร้อมกันว่า อัมมานีปามีฮง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะที่คำพูดของสิบวัชระพูดขาดคำ มองเห็นประกายที่เจิดจ้า ในพริบตาเดียวนี่เองด้านหลังของพวกเขาปรากฎประตูพุทธะขึ้นมา ประตูพุทธะเปิดออก แสงแห่งพุทธะทะลักออกมา
นาทีนี้ สิบวัชระเริ่มล่าถอยออกไป พวกเขาทั้งสิบเสมือนหนึ่งค่อยๆ ล่าถอยเข้าไปอยู่ในประตูพุทธะ ร่างของพวกเขาประดุจดั่งหายไปท่ามกลางแสงแห่งพุทธะ
จังหวะที่สิบวัชระหายไปท่ามกลางแสงแห่งพุทธะนั้น ได้ยินเสียงดังตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ประตูพุทธะทั้งสิบพลันพวยพุ่งแสงแห่งพุทธะที่ดั่งคลื่นยักษ์ออกมา แสงแห่งพุทธะที่ไม่มีสิ้นสุดที่พวยพุ่งออกมาพลันท่วมโลกทั้งโลกจนจมมิด เหมือนดั่งน้ำหลากของศตวรรษที่โลกทั้งโลกล้วนแล้วแต่จมอยู่ภายใต้แสงแห่งพุทธะอย่างนั้น
ธรรมะไร้ขอบเขต ละลานตายิ่งนัก เวลานี้นาทีนี้ เหมือนว่าแสงแห่งพุทธะมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง โปรดเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกข์โดยทั่วกัน ขณะที่อนุภาคของแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่โปรยปรายลงมา ทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งปกคลุมไปด้วยผ้าแพรสีทองชั้นหนึ่ง แลดูมีความศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ทั้งยังดูลึกลับยิ่งนัก
เสียงปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ครั้นแสงแห่งพุทธะที่เจิดจ้าละลานตาหายไปแล้ว มองเห็นบนท้องฟ้าปรากฎดอกบัวพุทธะขึ้นมาดอกหนึ่ง ดอกบัวพุทธะดอกนี้มีขนาดที่ใหญ่โตยิ่งนัก ขณะล่องลอยอยู่บนท้องฟ้านั้น เสมือนดั่งเป็นเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเมืองหนึ่ง
‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ มีผู้ที่อดจะพึมพำขึ้นมาไม่ได้ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
“นี่คือ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ของสิบวัชระมีอานุภาพที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม นี่คือเคล็ดวิชาโจมตีร่วมที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา ทั่วหล้ายากจะมีผู้ทำลายได้”
“คัมภีร์พุทธหัตถ์คือคัมภีร์โบราณที่ปรัชญาเมธีผู้หนึ่งของฉางจินต้งได้มา โดยที่คัมภีร์โบราณดังกล่าวมีความลึกซึ้งยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง และอานุภาพก็ทรงพลังยิ่ง มันไม่เพียงเป็นเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งยิ่งแขนงหนึ่งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นเคล็ดวิชาโจมตีร่วมที่แข็งแกร่งมากที่สุดของพวกเขาอีกด้วย ทั่วหล้ายากจะมีผู้ทำลายได้” ระดับบรรพบุรุษถึงกับกล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่มีศิษย์คนใดในฉางจินต้งสามารถสำแดงอานุภาพที่แท้จริงของมันออกมาได้ ภายหลังเมื่อมาอยู่ในมือของสิบวัชระแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ฝึกปรือ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ได้สำเร็จ อีกทั้งเวลาที่พวกเขาร่วมมือกันนั้นรู้ใจกันอย่างยิ่ง อานุภาพไร้ขีดจำกัด
เมื่อเป็นดังนี้ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ของสิบวัชระเคยถูกผู้คนมองว่าเป็นเคล็ดวิชาการโจมตีร่วมที่แข็งแกร่งที่สุด
“เป็นความจริงที่คัมภีร์พุทธหัตถ์นั้นแข็งแกร่งมาก ครั้งนั้นราชันแท้จริงต้วนยวี่สู้รบไปทั่วหล้าอย่างบ้าคลั่ง ด้วยความโกรธ เคยบุกสังหารเข้าไปยังฉางจินต้ง ได้ยินมาว่าสิบวัชระล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ สุดท้ายต้องงัดเอา ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ออกมา” มียอดฝีมือผู้ไวเรื่องการข่าวเอ่ยขึ้น
“ศึกครั้งนั้นเป็นอย่างไร?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างอยากรู้อยากเห็น รีบเร่งเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
ยอดฝีมือผู้นั้นกล่าวว่า “ได้ยินว่าสิบวัชระอาศัย ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ต้านราชันแท้จริงต้วนยวี่เอาไว้นอกฉางจินต้ง ท้ายที่สุด ราชันแท้จริงต้วนยวี่จึงได้ล่องลอยจากไป”
“แข็งแกร่งปานนี้เชียว…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกใจหายใจคว่ำ และกล่าวด้วยความตระหนกเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
“มันเป็นเรื่องที่นมนานมากแล้ว ครั้งนั้นราชันแท้จริงต้วนยวี่ยังเยาว์วัยไม่ได้แข็งแกร่งเท่าวันนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สมรภูมิสู้รบในครั้งนั้นคือฉางจินต้ง สิบวัชระได้ควบคุมพลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ภายใต้เงื่อนไขกาลเวลา และสถานที่ที่เหมาะสม แน่นอนย่อมสามารถสำแดงอานุภาพที่ทรงพลังที่สุดของ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ออกมาได้ มาวันนี้สมรภูมิรบไม่ใช่ฉางจินต้งนะ” ยอดฝีมือผู้นี้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ต่อให้สมรภูมิสู้รบในวันนี้ไม่ใช่ฉางจินต้ง แต่ว่า ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ของสิบวัชรน้อยคนที่จะทำลายได้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของมันก็คือแข็งแกร่งยากที่จะตีแตก กายเพชรไม่มีดับสลาย เล่าลือกันว่า ยามที่มันสำแดงอานุภาพสูงสุดขึ้นมาสามารถต้านการโจมตีของอาวุธปฐมบรรพบุรุษได้ ดังนั้น ต่อให้คนโหดอันดับหนึ่งต้องการทำลาย ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ก็เป็นเรื่องที่ยากเย็นอย่างยิ่ง” ระดับบรรพบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“เป็นความจริงที่ศักยภาพของฉางจินต้งนั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก สิบวัชระก็น่ากลัวมากพออยู่แล้ว หากสี่พุทธะพลันลงมือมิแย่เลยรึ มิเท่ากับยิ่งน่ากลัวมากขึ้นไปอีก” มีผู้บำเพ็ญตนอดหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ ร่างสั่นเทาทีหนึ่ง และพึมพำขึ้นมา
การที่ฉางจินต้งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งที่สุดนอกเหนือจากสามผู้ยิ่งใหญ่ ความแข็งแกร่งของพวกเขาหาได้มาจากการคุยโตโอ้อวด พวกเขามีกำลังความสามารถเช่นนี้อยู่จริง
……………………………………….