Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2593 มหันตภัยพุทธหัตถ์
ตอนที่ 2593 มหันตภัยพุทธหัตถ์
คัมภีร์พุทธหัตถ์มีชื่อเสียงโด่งดังใต้หล้า เรียกได้ว่าปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า ดังนั้น เมื่อสิบวัชระสำแดง ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ออกมานั้น ทุกคนถึงกับมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและกลั้นลมหายใจเอาไว้
เสียงแว้งค์…ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ บนท้องฟ้าปรากฏบัวพุทธที่เบ่งบาน ยามที่บัวพุทธขนาดยักษ์ต้นนี้บานเบ่งนั้น เสมือนดั่งเป็นเมืองพุทธที่ปรากฏขึ้นมาอย่างนั้น
กลีบดอกแต่ละกลีบค่อยๆ บานออกมา แสงแห่งพุทธสาดส่องลงมา ทุกๆ กลีบดอกที่บานเบ่งเสมือนดั่งได้เปิดหน้าประวัติศาสตร์ของแคว้นพุทธขึ้นมา มีความนิรันดร์และสูงสุด
ท่ามกลางเสียงปุเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น ภายในแคว้นพุทธะเหล่าพระสงฆ์เทศนาธรรม พระอรหันต์ และภิกษุจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังสวดพระคัมภีร์ ในเวลานี้ทั่วฟ้าดินเสมือนหนึ่งได้กลับกลายเป็นแคว้นพุทธะ พลังพุทธะที่ศักดิ์สิทธิ์ตลบอบอวลระหว่างฟ้าดิน ทำให้ผู้คนบังเกิดปฏิกิริยาอยากจะก้มกราบ
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น เมื่อบัวพุทธะเบ่งบานเต็มที่แล้ว มองเห็นด้านบนของบัวพุทธะปรากฎพุทธหัตถ์ลอยขึ้นมาคู่หนึ่ง โดยที่พุทธหัตถ์คู่นี้อยู่ในท่าเหมือนประคองเล็กน้อย นิ้วมือทั้งสิบงอเล็กน้อย เป็นท่ามุทราตราประทับพุทธะที่แลดูมีความศักดิ์สิทธิ์ และมีความเคร่งขรึมน่าเคารพยิ่ง ทำให้ผู้คนต้องให้ความเคารพเลื่อมใส ผู้ที่มีทักษะอ่อนกระทั่งอดที่จะก้มกราบกับพื้นไม่ได้
“อานุภาพของคัมภีร์พุทธหัตถ์ไร้ขอบเขตจริงๆ” แม้แต่ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสก็อดที่จะทอดถอนใจออกมาเบาๆ ไม่ได้ เมื่อรับรู้ถึงพลังพุทธะที่ศักดิ์สิทธิ์และมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เสมือนดั่งเป็นพระธรรมที่โปรดเวไนยสัตว์ให้หลุดพ้นจากห้วงแห่งความทุกโดยทั่วกัน
“ด้วยพลังพุทธะเช่นนี้ เกรงว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของผู้คนจำนวนมากยังไม่ทันลงมือก็หวั่นไหวแล้ว ยิ่งสู้ไปก็ยิ่งรู้สึกขลาดกลัว พลันที่ไม่ทันระวังตัวก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับพุทธหัตถ์คู่นี้ทันที” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิมองดูพุทธหัตถ์คู่นั้นที่อยู่บนท้องฟ้าแล้วก็ให้รู้สึกประทับใจทางใบหน้า
“ฉางจินต้งคือสำนักเพื่อการสืบทอดที่ตั้งขึ้นในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจั่วอ้าน ไม่ได้มีพระธรรม และหาใช่แคว้นที่เป็นแคว้นพุทธะ ถึงกับมีสุดยอดคัมภีร์ที่มีอานุภาพยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม นับว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ” มีผู้ที่รู้สึกตระหนกยิ่งนักเมื่อได้เห็น ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ เป็นครั้งแรก
“เล่าลือกันว่า สิ่งนี้ปรัชญาเมธีของฉางจินต้งไปได้มาครอบครอง กระทั่งมีผู้คาดเดาว่ามันคือหนึ่งในต้นกำเนิดเคล็ดวิชาของฉางจินต้ง ภายหลังได้อาศัยความพยายามของปรัชญาเมธีฉางจินต้งทำการวิวัฒนาการให้กลายเป็นเคล็ดวิชาที่เป็นของตนเอง กลายเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาสูงสุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจั่วอ้าน” ผู้บำเพ็ญตนเฒ่าผู้หนึ่งที่รู้ถึงประวัติความเป็นมาเก่าแก่ช่วงนี้เอ่ยทอดถอนใจขึ้นมา
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี้เอง นิ้วมือที่เดิมอยู่ในท่ามุททราได้มีการเคลื่อนไหวแล้ว พลันที่นิ้วมือทั้งสิบมีการขยับ นิ้วมือทั้งสิบเหมือนมีการหมุนรอบไปรอบหนึ่ง ครั้นนิ้วมือทั้งสิบหมุนไปเช่นนี้รอบหนึ่งก็เหมือนกับหมุนโลกทั้งโลกไปรอบหนึ่ง เหมือนว่าแคว้นพุทธะทั้งแคว้นล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นจากร่องระหว่างนิ้วอย่างนั้น
ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น มองเห็นนิ้วทั้งสิบที่หมุนไปโดยรอบนั้นมีเพียงนิ้วมือนิ้วเดียวที่เหินฟ้าย้อนมา หนึ่งนิ้วที่ก้าวข้ามท้องฟ้าดุจดั่งมิติชะงักงัน ทุกคนรู้สึกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลับกลายเป็นเชื่องช้าขึ้น แทบจะเรียกว่าช้ากว่าปรกติสิบเท่ากระทั่งร้อยเท่า
หนึ่งนิ้วมือพุทธะที่ย้อนเข้ามา ท้องฟ้าที่อยู่ภายใต้นิ้วพุทธะก็คล้ายเป็นน้ำในทะเลสาบอย่างนั้น เมื่อพุทธหัตถ์ค่อยๆ จุ่มลงในช่องว่าง จากนั้นค่อยๆ แทรกผ่านช่องว่า ขั้นตอนทั้งหมดดูช่างแผ่วเบาและเชื่องช้าอะไรอย่างนั้น ช่างนุ่มนวลอะไรอย่างนั้น กระทั่งไม่ทำให้เกิดระลอกคลื่นแม้แต่น้อย
ตลอดขั้นตอนเสมือนดั่งลมที่โชยมาปะทะกับใบหน้า ทำให้ผู้คนรู้สึกสบายอย่างยิ่ง และเหมือนหนึ่งเป็นฝนในฤดูใบไม้ผลิที่ไร้เสียงอย่างนั้น และนิ้วมือนี้ก็ได้โจมตีเข้าร่างของหลี่ชิเย่เข้าให้แล้ว
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อนิ้วมือนิ้วนี้สัมผัสกับร่างของหลี่ชิเย่แล้วจึงได้ระเบิดเสียงที่สะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นมา เสมือนดั่งโลกทั้งโลกถูกระเบิดแตกออกเป็นเสี่ยงอย่างนั้น
ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนได้มองเห็นภาพที่น่าสะเทือนหวั่นไหวอย่างยิ่ง บริเวณท้องฟ้าสูงที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่นั้นพลันถูกนิ้วมือนิ้วหนึ่งทำให้กลายเป็นหลุมดำหลุมหนึ่ง อีกทั้งไม่เพียงแต่ช่องว่างถูกทำลายจนแหลกละเอียดเท่านั้น แม้แต่ท้องฟ้าที่อยู่ด้านหลังของเขา กระทั่งดวงดาวที่อยู่ด้านหลังก็ถูกยิงจนแหลกละเอียดไป
ท้องฟ้าที่อยู่ด้านหลังหลี่ชิเย่ซึ่งกว้างไกลนับพันนับหมื่นลี้ที่เต็มไปด้วยดวงดาว ล้วนแล้วแต่กลายเป็นซากปรักหักพังไปในทันที ดวงดาวขนาดใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนล้วนแล้วแต่ถูกยิงทำลายจนแหลกละเอียดไป กลายเป็นเศษชิ้นส่วนละเอียดจำนวนนับไม่ถ้วนด้วยนิ้วมือนิ้วเดียว
นิ้วมือลักษณะเช่นนี้เสมือนดั่งทำลายโลกทั้งโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่มันระเบิดขึ้นในฉับพลันนั้น ได้สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ต้องหวั่นไหว
ทุกคนต่างอดที่จะผวาขึ้นมาไม่ได้ และรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงใจหายใจคว่ำ มองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพังภายใต้นิ้วมือนิ้วเดียว
ไม่ง่ายนักกว่าทุกคนจะได้สติคืนกลับมา เมื่อมองไปยังจุดที่เป็นหลุมดำ และบริเวณซากปรักหักพังของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้ เห็นเพียงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้เหลือไว้เพียงเศษชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วน ตัวหลี่ชิเย่เองก็หายไป เหมือนว่าภายใต้นิ้วมือนิ้วนี้ที่ชี้เข้ามา หลี่ชิเย่ได้หายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียวแล้ว
“คัมภีร์พุทธหัตถ์สมดังคำเล่าลือจริงๆ มิน่าเล่าในครั้งนั้นจึงสามารถจัดการกับราชันแท้จริงต้วนยวี่ที่อันธพาลยิ่งให้อยู่แต่ด้านนอกสำนักได้ นับว่าแข็งแกร่งโดยแท้จริง” มีระดับบรรพบุรุษอดที่จะกล่าวชื่นชม เมื่อเห็นนิ้วมือเพียงนิ้วเดียวที่ชี้เข้ามาก็ทำลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้จนแหลกละเอียดไป
“โอ้แม่เจ้า นิ้วชี้นิ้วเดียวที่ชี้เข้ามามิเท่ากับสามารถทำลายแคว้นเจ้าลัทธิได้แคว้นหนึ่ง” ศิษย์กลุ่มคนรุ่นใหม่มองเห็นภาพที่น่าสะเทือนหวั่นไหวแล้วถึงกับเข่าอ่อนทั้งสองข้าง กล่าวด้วยท่าทีที่หวาดผวา
“เรื่องนี้มีอะไรน่าแปลก” ผู้อาวุโสส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “กล่าวสำหรับฉางจินต้งแล้ว การที่สิบวัชระลงมือเป็นเรื่องใหญ่มาก ระหว่างที่ฉางจินต้งปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจั่วอ้านนั้น ได้ทำลายแคว้นเจ้าลัทธิไม่รู้จำนวนเท่าไร ที่ต้องให้สิบวัชระร่วมมือกันจริงๆ มีแคว้นเจ้าลัทธิเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น เมื่อพวกเขาสิบวัชระร่วมมือกัน และสำแดง ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ทำลายล้างหนึ่งแคว้นเจ้าลัทธิภายใต้นิ้วมือเดียวก็ใช่เป็นเรื่องแปลกอะไร”
มองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ได้ทำให้ผู้บำเพ็ญตนของเมืองหมิงลั่วเฉิงต้องเข่าอ่อนทั้งสองข้างไปไม่รู้จำนวนเท่าไร อดที่จะสั่นเทาและหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ ถ้าหาก ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ เช่นนี้โจมตีลงมา เกรงว่าเมืองหมิงลั่วเฉิงของพวกเขาจะรองรับไม่ไหว และถูกยิงจนทะลุ และหายวับไปกับตาในชั่วพริบตาเดียวภายใต้นิ้วมือนิ้วเดียว
“คนโหดอันดับหนึ่งล่ะ?” มีผู้เบิกตามองดูบริเวณที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ถูกยิงจนกลายเป็นหลุมดำ และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้กลายเป็นซากปรักหักพัง พบว่าหลี่ชิเย่ได้หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย
“เกรงว่าจะตายไปแล้ว” มียอดฝีมือหลังจากมองหาร่องรอยของหลี่ชิเย่แล้วแต่ก็ไม่พบ เหมือนว่าหลี่ชิเย่ระเหยไปแล้วอย่างนั้น
“เกรงว่าเขาไม่สามารถรับกับนิ้วมือนิ้วนี้ของ ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ได้ นิ้วเดียวทำลายฟ้าดิน แม้คนโหดอันดับหนึ่งจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้องถูกยิงจนหายวับไปกับตาในชั่วพริบตา” ยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงส่ายหัวและกล่าวว่า “ดูท่าคนโหดอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับราชันแท้จริงต้วนยวี่ และราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงห่างชั้นกันมากนะเนี่ย”
“จบสิ้นกันแล้วรึ?” มีผู้ที่รู้สึกเสียใจเมื่อเห็นท้องฟ้าถูกยิงจนกลายเป็นหลุมดำ พึมพำขึ้นมาว่า “ยังเข้าใจว่าผู้ที่มาใหม่สามารถโด่งดังไปทั่วหล้า ไม่นึกเลยว่าจะเสียชีวิตเร็วขนาดนี้”
ฮึ…ในเวลานี้เอง เสียงฮึเย็นชาดังขึ้น ดูเหมือนจะออกมาจากสิบวัชระ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า สิบวัชระพอใจกับการโจมตีด้วย ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ของตนอย่างยิ่ง
“จะดีใจไปทำไม?” ขณะที่เสียงฮึเย็นชาเพิ่งขาดคำ เสียงที่เอ้อระเหยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น และกล่าวว่า “นิ้วมือลักษณะเช่นนี้ ช่วยเกาที่คันให้ค่อยยังชั่ว”
ทุกคนต่างเบิ่งตามองไปเมื่อได้ยินเสียงนี้ มองเห็นหลี่ชิเย่ก้าวเดินออกมาจากบริเวณซากปรักหักพังของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแห่งนี้ เขาดีดที่เสื้อเบาๆ เหมือนเป็นการดีดเอาฝุ่นผงบนเสื้อออกไปอย่างนั้น เขาก้าวเดินมาช้าๆ ท่าทางอิสระเสรีและเรียบเฉย เหมือนว่าหนึ่งนิ้วเมื่อครู่ไม่ได้สัมผัสบนตัวของเขาอย่างนั้น
“อย่างนี้ก็ได้ด้วย…” ทุกคนต่างมองตาค้างพูดอะไรไม่ออก เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ไม่บุบสลายเลยแม้แต่น้อยภายใต้นิ้วมือหนึ่งนิ้วนั่น เหมือนว่านิ้วมือดังกล่าวไม่ได้สัมผัสถูกตัวของหลี่ชิเย่เลยอย่างนั้น
“ฆ่า…” สิบวัชระคำรามเสียงดังเมื่อเห็นหนึ่งนิ้วมือนั้นไม่ได้ผล มือทั้งสิบพลันเปลี่ยนไป กลายเป็นตราประทับพุทธะที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารอันหนึ่ง
เสียงตูมดังสนั่น เสียงดังตูมตามสะเทือนฟ้าดิน ตราประทับพุทธะได้สยบสังหารลงมา ทำให้ทั่วฟ้าดินเสมือนดั่งแตกสลายอย่างนั้น
จังหวะที่พระธรรมสยบสังหารลงมานั้น ใช่เพียงแค่ตราประทับพุทธะแค่นั้น มันเหมือนดั่งเป็นแคว้นพุทธะแคว้นหนึ่ง อรหันต์ และพระพุทธรูปโบราณจำนวนนับไม่ถ้วนได้ลงมือพร้อมกัน ตรงเข้าสังหารหลี่ชิเย่โดยทันทีอย่างนั้น
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ตราประทับพุทธะบุกสังหารมานั้น หลี่ชิเย่เพียงงอนิ้วมือแล้วดีดไปทีหนึ่ง ดีดใส่บนตราประทับพุทธะ การปะทะเช่นนี้เสมือนดั่งดวงดาวนับพันนับหมื่นดวงที่พุ่งชนอย่างนั้น ปรากฏสะเก็ดไฟที่แตกกระจายพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อสะเก็ดไฟที่น่ากลัวกวาดผ่านไปพลันทำลายดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วนจนพินาศย่อยยับ เหมือนดั่งเป็นเตาหลอมฟ้าดินที่น่ากลัวอย่างนั้น
แต่ว่า ด้วยความน่ากลัวเช่นนี้พุ่งชนเข้าด้วยกัน ตราประทับพุทธะกลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นสิ่งใด ของวิเศษใด หรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ใดเมื่อโจมตีใส่ตราประทับพุทธะก็ไม่สามารถทำอันตรายมันได้แม้แต่น้อย
สิ่งนี้เสมือนดั่งตำนานที่เล่าลือกันว่าวัชระไม่มีวันถูกทำลาย นิ้วมือทั้งสิบนิ้วที่แปลงมาจากสิบวัชระดูเหมือนจะแกร่งไม่มีสิ่งใดทำลายได้
“ตำนานเป็นเรื่องจริง ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ แข็งแกร่งไม่อาจทำลาย วัชระไม่สูญสลาย” มีผู้ที่รู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อมองเห็นตราประทับพุทธะภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ยังคงไม่เป็นอะไร
“ฆ่า…” เมื่อเห็นตราประทับพุทธะไม่ได้ผล จึงส่งเสียงคำรามเสียงยาว ตราประทับกลับกลายเป็นมือ นิ้วทั้งสิบหุบเข้า กลายเป็นฝ่ามือพุทธที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ฉับพลันได้บดบังฟ้าดิน ทำลายสิ้นหมื่นอาณาจักร ฉับพลันที่บดขยี้ลงมา ฝ่ามือพุทธะที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารพลันจัดการตบหลี่ชิเย่ลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะฝ่ามือทั้งสองประกบกัน พลังพุทธะที่น่ากลัวพลันบดขยี้ทำลายทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นมิติหรือสัจธรรม และหรือพลังสรรพสิ่ง ล้วนแล้วแต่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียดในพริบตาท่ามกลางฝ่ามือทั้งสองนี้
ปัง…เสียงดังสนั่น ภายใต้ฝ่ามือพุทธะเช่นนี้บดขยี้ ต่อให้พลังจากฝ่ามือแค่กวาดผ่านพื้นดินไปเบาๆ พลันทำให้ภูเขาจำนวนนับไม่ถ้วนพลันแตกละเอียด ภูเขาแม่น้ำนับพันลี้ถูกทำลายย่อยยับ ภาพเช่นนี้สร้างความหวั่นไหวต่อจิตใจผู้คนอย่างยิ่ง
“จบสิ้นแล้วรึ?” มองเห็นฝ่ามือพุทธะสองข้างที่บดขยี้ทุกสิ่ง เกรงว่าหลี่ชิเย่ที่อยู่ท่ามกลางฝ่ามือพุทธะคงกลายเป็นเนื้อบดไปนานแล้ว
ดังนั้น ดวงตาของทุกคนต่างเบิกกว้าง อดที่จะมองดูฝ่ามือพุทธะที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารคู่นี้
“คู่ฝ่ามือบดฟ้าดินจนละเอียด นี่หาใช่เป็นคำโกหก” มีผู้ทอดถอนใจออกมา และรู้สึกสะเทือนหวั่นไหวยิ่งนัก เมื่อมองเห็นทุกสิ่งแตกสลายไปภายใต้ฝ่ามือสองข้างนี้
“สิบวัชระ พุทธหัตถ์น่ากลัวเหลือเกิน เมื่อไหร่ที่พวกเขาร่วมมือกัน และสำแดง ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ขึ้นมา เรียกได้ว่าสามารถเพิ่มพลังของพวกเขาขึ้นมามากกว่าสิบเท่าในทันที” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับประทับใจบนใบหน้า เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
ก่อนหน้านั้น สิบวัชระต่างคนต่างลงมือ แม้ว่าอานุภาพจะแข็งแกร่งยิ่ง แต่ยังคงไปไม่ถึงอานุภาพขั้นทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับ แต่ทว่า เวลานี้พวกเขาร่วมมือกันโจมตี และสำแดง ‘คัมภีร์พุทธหัตถ์’ ขึ้นมา พลันทำให้พลังต่อสู้ของพวกเขาถูกเพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด ไม่รู้ว่าได้เพิ่มระดับขั้นขึ้นมากี่ระดับ
………………………………………………