Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2663 ตามฆ่าล้านล้านลี้
ตอนที่ 2663 ตามฆ่าล้านล้านลี้
หลี่ชิเย่ได้ก้าวออกมาจากช่องว่างที่ถูกหลอมละลาย แม้ว่าบนตัวของเขาจะไม่ได้ระเบิดกลิ่นอายที่ฮึกเหินอย่างยิ่ง และไม่ได้ระเบิดอานุภาพราชัน และหรืออำนาจสูงสุดออกมา
แต่ว่า ในเวลานี้ไม่ว่าใครก็สามารถรับรู้ได้ถึงเพลิงแห่งความโกรธที่น่าสยองขวัญบนตัวของเขา เพลิงแห่งความโกรธของเขาครอบคลุมไปทั่วฟ้าดินในพริบตาเดียว ทั่วทั้งแดนลัทธิราชันล้วนอยู่ภายใต้การครอบคลุมจากเพลิงแห่งความโกรธของเขา เพลิงแห่งความโกรธของเขาสามารถหลอมกลั่นแดนลัทธิราชันได้ทั้งหมด
ภายใต้เพลิงแห่งความโกรธของเขา ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด ไม่ว่าจะนิรันดร์กาลใดๆ ล้วนแล้วแต่มีโอกาสถูกเผาไหม้จนหายวับไปกับตาในพริบตาได้ทุกเวลา ภายใต้เพลิงแห่งความโกรธที่สยองขวัญของเขา กระทั่งแดนลัทธิราชันอาจถูกหลอมกลั่นไปทั้งหมด
ภายใต้เพลิงแห่งความโกรธของหลี่ชิเย่ สิ่งมีชีวิตจำนวนหนึ่งหมื่นล้านล้านล้านล้านชีวิตต้องสั่นเทากับสิ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือสำนักเจ้าลัทธิ หรือจะเป็นบรรพบุรุษของนิกายโบราณ เมื่อรับรู้ถึงเพลิงแห่งความโกรธที่สามารถทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับนั้นได้ ต่างสั่นเทาทีหนึ่ง และตัวสั่นเทิ้มทีหนึ่ง
ยามที่เพลิงแห่งความโกรธของหลี่ชิเย่ปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีความแข็งแกร่งเพียงใด ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในสถานะสูงสุดเช่นใดก็สมควรรู้สึกหวาดกลัวจึงจะถูก มีเพียงรับรู้ถึงความหวาดกลัวแล้ว จึงรู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีความน่ากลัวเช่นใด และทำให้ผู้นั้นตระหนักถึงความโกรธของหลี่ชิเย่ได้อย่างแท้จริง
ภายใต้เพลิงแห่งความโกรธลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ไม่ว่าจะดำรงอยู่ในสถานะเช่นใด ไม่สนใจว่าจะมีฐานะที่สูงสุดอย่างไร ไม่ว่าจะปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด ถ้าหากกล้าขวางทางของเขาล้วนแล้วแต่ถูกสังหารโดยไม่มีละเว้นเช่นกัน มีเพียงความตายสถานเดียว!
ไม่รู้ว่ามีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนเท่าไรที่รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงในใจ หลังจากที่รับรู้ถึงเพลิงแห่งความโกรธของหลี่ชิเย่แล้ว ขาทั้งสองข้างถึงกับสั่นเทา ภายใต้เพลิงแห่งความโกรธที่ดั่งคลื่นยักษ์นั่น แค่แววตาของหลี่ชิเย่ก็สามารถเข่นฆ่าสิ้นเทพมาร เพียงเขาโจมตีลงมาก็สามารถทำลายระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งลงได้
เทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมากไปกว่านี้ก็เข้าใจได้ว่า หลี่ชิเย่ในขณะนี้ไปหาเรื่องด้วยไม่ได้ ใครไปหาเรื่องเขาก็คือการรนหาที่ตายเอง อีกทั้งไม่เพียงแต่ตนเองที่ต้องตายเท่านั้น กระทั่งพ่วงเอาสำนักทั้งสำนัก ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งเข้าไปทั้งหมด ภายใต้ความโกรธของหลี่ชิเย่ เกรงว่าไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว
ดังนั้น ในเวลานี้ไม่ว่าจะเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ขณะที่เพลิงแห่งความโกรธของหลี่ชิเย่ปกคลุมทั่วฟ้าดินนั้น ถึงกับตัวสั่นงันวก ระมัดระวังตัวอย่างที่สุด ขาทั้งสองข้างสั่นเทา ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ในเวลานี้ ยอดฝีมือประเภทปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไรที่แค่ได้ข่าวก็ขวัญผวา แต่ว่าเรื่องแบบนี้หาใช่เป็นเรื่องที่น่าอายแต่อย่างใด ถูกทำให้ตกใจกลัวยังดีว่าหายวับไปกับตาในพริบตาเดียวภายใต้เพลิงแห่งความโกรธ
หลี่ชิเย่ก้าวเท้าเข้ามาก้าวเดียว พวกของซุนหลิ่งหยิ่งทั้งสองที่กำลังจะหลบหนีก็หลบหนีต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ในขณะนี้ ไม่ว่าพวกเขาจะฝืนลิขิตสวรรค์เช่นใด จะมีวิชาอำพรางที่ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ตาม ก็ไร้ประโยชน์อีกต่อไป
เมื่อหลี่ชิเย่ทำการหลอมกลั่นช่องว่าง ทำการดัดอาณาจักรของแดนลัทธิราชันทั้งหมด ต่อให้ฝืนลิขิตสวรรค์มากกว่านี้ มีวิชาหลบหนีที่ยอดเยี่ยมมากกว่านี้แล้วอย่างไร? เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้ว มันก็แค่อวดอ้างวิชาต่อหน้าผู้รู้เท่านั้นเอง
ในเวลานี้ พวกของซุนหลิ่งหยิ่งสองคนได้อาศัยความเร็วที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมหนีไป เรียกได้ว่าพวกเขาได้ทุ่มเทพลังเต็มที่แล้ว แต่ว่า ความเร็วที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมของพวกเขาเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้วมันดูช่างน่าขันเหลือเกิน
แม้ว่าความเร็วของพวกเขาจะรวดเร็วมากไปกว่านี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ก็แค่เร็วกว่าหอยทากนิดหนึ่งเท่านั้นเอง
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม พวกของซุนหลิ่งหยิ่งทั้งสองคนยังคงวิ่งหนีไปข้างหน้าอย่างเต็มที่ เนื่องจากระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก็อยู่ด้านหน้าแล้ว อยู่ใกล้แค่เอื้อมเท่านั้น ขอเพียงหลบหนีเข้าไปในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ได้แล้ว แผนการของพวกเขาก็นับว่าสำเร็จแล้ว
“สองคนนี้เป็นใคร…” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจำนวนมากของแดนลัทธิราชันต่างรู้สึกตกใจอยู่ในใจ เมื่อมองเห็นพวกของซุนหลิ่งหยิ่งที่ปิดบังโฉมหน้าแท้จริงทั้งสองคน
อาศัยความเร็วในการหลบหนีของพวกเขาสามารถมองออกว่า พวกเขาทั้งสองแข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียม ต้องเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดอย่างแน่นอน
แต่ทว่า ณ ขณะนี้ต่อให้เป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้เทียบเทียมก็ไร้ประโยชน์ เมื่อคนโหดอันดับหนึ่งที่มีเพลิงโกรธดั่งคลื่นยักษ์ลงมือ นั่นคือการทำลายฟ้าดินจนพินาศย่อยยับ จะเป็นเทพแท้จริงอะไรก็ตาม เมื่ออยู่ในมือของเขาก็ดูจะอ่อนแออะไรอย่างนั้น ดูจะไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
“สองคนนี้นับว่าบ้าระห่ำเหลือเกิน สามารถทำให้คนโหดอันดับหนึ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นนี้ได้ แสดงว่าต้องไปแตะต่อมโกรธของคนโหดอันดับหนึ่งเข้าให้แล้ว นี่เป็นการรนหาที่ตายเอง พวกเขาไม่เพียงต่อพ่วงเอาชีวิตของตัวเองเข้าไปแล้ว เกรงว่าคนโหดอันดับหนึ่งที่โกรธจัดจะพาลโกรธระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ และสำนักของพวกเขาด้วย เกรงว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของพวกเขาคงต้องลำบากแล้ว ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาภายใต้เงื้อมมือของคนโหดอันดับหนึ่ง” ระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะส่ายหน้าขณะมองดูสองคนที่กำลังวิ่งหนี
ผู้คนใต้หล้าต่างรับรู้การสังหารพวกของลู่เคอะเวิง ใต้หล้านี้นอกเหนือจากนักพรตไป๋ยื่อที่กลายเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลแล้วที่อาจจะต่อกรกับเขาได้ คนอื่นๆ หากกล้าไปหาเรื่องกับคนโหดอันดับหนึ่งล่ะก็ ล้วนแล้วแต่รนหาที่ตายเอง รนหาการล่มสลายเองทั้งสิ้น
เวลานี้ทั้งสองคนถึงกับทำให้คนโหดอันดับหนึ่งโกรธเป็นฟื้นเป็นไฟเช่นนี้ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าเป็นการแตะต้องต่อมโกรธของคนโหดอันดับหนึ่งเข้าให้ นี่คือการไม่รู้จักคำว่าตายชัดๆ
“อยู่ต่อหน้าข้าแล้วยังกล้าทำลับๆ ล่อๆ อีก” หลี่ชิเย่ก้าวเท้าก้าวเดียวก็ก้าวข้ามแดนลัทธิราชันได้ทั้งหมด ก้าวเท้าก้าวเดียวก็ไล่ตามทันพวกของซุนหลิ่งหยิ่งสองคน
เขาส่งเสียงฮึเย็นชาออกมา เสียงตูมดังสนั่นดังขึ้น คลื่นที่รุนแรงปราศจากผู้เทียบเทียมพลันพุ่งโจมตีออกไป
ตูม ตูม ตูมคลื่นที่บ้าคลั่งรุนแรงพลันพุ่งโจมตีต่อเหล่าชั้นฟ้าสิบแดนดิน และแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงดังตูม ตูม ตูมที่ดังตูมตามนั้น คลื่นบ้าคลั่งที่โหมสาดซัดเข้ามาเรียกได้ว่าทำลายฟ้าดินจนพังพินาศย่อยยับ พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงดาวแต่ละดวง ทางช้างเผือกแต่ละสายล้วนถูกทำลายไปชั่วพริบตาท่ามกลางคลื่นบ้าคลั่งที่โหมสาดซัด ดวงดาว และทางช้างเผือกทั้งหมดพลันแหลกละเอียดโดยพลัน
เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว แม้ว่าพวกซุนหลิ่งหยิ่งสองคนจะพวยพุ่งประกายศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั่วตัว และเสกของวิเศษกว่าสิบชิ้นออกมาคุ้มกายในชั่วพริบตาเดียว แต่ว่า ยังคงไม่สามารถต้านคลื่นบ้าคลั่งที่พุ่งโจมตีเข้ามาได้
ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ พวกของซุนหลิ่งหยิ่งสองคนถูกกระแทกจนตัวลอยขึ้นสูงมาก ของวิเศษรอบกายถูกทำลายจนป่นปี้ พวกเขาถูกพลังกระแทกจนกระอักเลือดออกมาอย่างแรง ภายใต้การโจมตีจากคลื่นที่บ้าคลั่งเช่นนี้ วิธีอำพรางซ่อนเร้นทุกอย่างของพวกเขาพลันถูกหลี่ชิเย่ทำลายจนสิ้น
ต่อให้พวกของซุนหลิ่งหยิ่งทั้งสองคนแข็งแกร่งมากกว่านี้ ก็ไม่สามารถต้านการโจมตีด้วยความโกรธของหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว เมื่อใดที่หลี่ชิเย่โกรธขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าภายใต้ฟ้าดินนี้ผู้ที่สามารถต้านการโจมตีด้วยความโกรธของเขาได้คงมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้น
ท่ามกลางเสียงที่ดังปัง พวกของซุนหลิ่งหยิ่งสองคนถูกกระแทกจนตัวลอยขึ้นสูงมาก กระอักเลือดออกมาอย่างแรง ภายใต้การโจมตีที่สยองขวัญเช่นนี้ วิธีการอำพรางตนทั้งหมดของสองคนถูกทำลาย เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาทันที
พวกซุนหลิ่งหยิ่งสองคนที่เผยโฉมหน้าแท้จริงออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยเลือด การโจมตีด้วยความโกรธของหลี่ชิเย่นั้นช่างน่าสยองขวัญเหลือเกิน ภายใต้การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็สามารถทำลายล้างพวกเขาได้ทันที
“ซุนหลิ่งหยิ่ง ไม่ คนนั้นคือฮ่องเต้ไท่ชิง นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน…” หลังจากที่ทั้งสองคนถูกทำลายวิธีอำพรางตนไปแล้วและเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องตกใจอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของคนทั้งสอง
“ฮ่องเต้ไท่ชิงสวรรคตไปแล้วมิใช่รึ?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยอ้าปากตาค้าง งุนงงจนพูดอะไรไม่ออก เมื่อเห็นฮ่องเต้ไท่ชิงที่อยู่ด้วยกันกับซุนหลิ่งหยิ่ง
การสวรรคตของฮ่องเต้ไท่ชิงเป็นเรื่องที่รับรู้กันทั่วในแดนลัทธิราชัน ไม่นึกเลยว่าฮ่องเต้ไท่ชิงที่สวรรคตไปแล้วถึงกับปรากฎตัวต่อหน้าคนทุกคนในเวลานี้ และไม่ได้มีร่องรอยของการอ่อนกำลังลงแม้แต่น้อย
ในเวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองหน้าซึ่งกันและกัน อายุขัยของฮ่องเต้ไท่ชิงสิ้นแล้ว เป็นเรื่องที่เล่าลือกันในแดนลัทธิราชันตั้งแต่ครั้งนานมาแล้ว ในอดีตนานมาแล้ว ทุกคนต่างรับรู้ว่าฮ่องเต้ไท่ชิงอายุขัยเหือดแห้งคงอยู่ได้อีกไม่นาน พร้อมที่จะสวรรคตได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น ขณะที่ฮ่องเต้ไท่ชิงสวรรคตนั้น ทุกคนที่อยู่ในแดนลัทธิราชันจึงไม่รู้สึกเหนือความคาดคิด จะอย่างไรเสียอายุขัยของฮ่องเต้ไท่ชิงแห้งเหือดมานานมากแล้ว ลมปราณสูญสิ้น การที่เขาสามารถยืนหยัดมาได้นานถึงเพียงนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดายนัก นับเป็นปาฏิหาริย์น้อยๆ อย่างหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ผู้คนนึกไม่ถึงก็คือ ฮ่องเต้ไท่ชิงที่อายุขัยเหือดแห้งและเสียชีวิตลงนั้น เวลานี้กลับตัวเป็นๆ กระโดดโลดเต้นอยู่ตรงหน้าทุกๆ คน จะไม่ให้ยอดฝีมือจำนวนมากของแดนลัทธิราชันต้องงงงันได้อย่างไรกันเล่า
“ฮ่องเต้ไท่ชิงมีจิตใจที่ลุ่มลึกยิ่งนัก เขาได้หลอกผู้คนใต้หล้าจนหมด ครั้งนั้น ขณะที่ข้าตรวจรักษาเขานั้น เป็นความจริงที่อายุขัยได้สิ้นแล้ว เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย การแสดงละครของเขาแสดงได้เหมือนจริงมาก” หมอโอสถที่ได้เห็นภาพนี้แล้ว กล่าวทอดถอนใจขึ้นมา
ในครั้งนั้น ขณะที่อายุขัยของฮ่องเต้ไท่ชิงสิ้นสุดลงแล้วนั้น เคยสืบหายาอาวุวัฒนะไปทั่วหล้า เคยเยี่ยมเยียนหมอโอสถที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแดนลัทธิราชันมาจำนวนไม่น้อย เคยขอให้หมอโอสถหลายคนหลอมกลั่นยาอายุวัฒนะให้
เรียกได้ว่า บรรดาหมอโอสถทั้งหลายต่างได้พบกับฮ่องเต้ไท่ชิงและจับชีพจรของเขามาแล้ว ดูจากสภาพการณ์ต่างๆ แล้วต่างสามารถลงความเห็นว่าอายุขัยของฮ่องเต้ไท่ชิงสิ้นแล้วจริงๆ แต่แล้ว ไม่นึกไม่ฝันเลยว่า เวลานี้ฮ่องเต้ไท่ชิงกลับมีชีวิตชีวาปรากฏแก่สายตาของทุกคน
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในอดีตล้วนแล้วแต่เป็นการแสแสร้งแกล้งทำทั้งสิ้น อายุขัยสิ้นแล้ว สวรรคตแล้วอะไรนั่น ล้วนแล้วแต่เป็นการแสดงละครให้ผู้คนได้เห็น และซุนหลิ่งหยิ่งนั้นคือผู้ช่วยของเขา
“นี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ยอดฝีมือที่มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับซุบซิบด้วยความกังขาว่า “ไหนบอกว่าฮ่องเต้ไท่ชิงยกบัลลังก์ให้กับคนโหดอันดับหนึ่งด้วยมือของตนเองมิใช่รึ? กระทั่งมีคำเล่าลือกันว่า คนโหดอันดับหนึ่งนั้นเป็นลูกนอกสมรสของฮ่องเต้ไท่ชิง เวลานี้ เวลานี้ทำไมถึงกลายเป็นว่าคนโหดอันดับหนึ่งไล่ล่าเอาชีวิตฮ่องเต้ไท่ชิงล่ะ?”
ความสัมพันธ์ที่สับสนวุ่นวายเช่นนี้ ไม่ว่าใครก็สางต้นสายปลายเหตุไม่ออก
เวลาล่วงเลยมาถึงวันนี้ คนโหดอันดับหนึ่งคือฮ่องเต้ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ เป็นผู้ทรงอำนาจของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ สิ่งเหล่านี้หาใช่เป็นความลับแต่อย่างใด
แต่ทว่า ผู้คนใต้หล้าต่างรู้มาว่า ก่อนฮ่องเต้ไท่ชิงจะสวรรคตได้เจาะจงยกบัลลังก์ให้กับหลี่ชิเย่ เป็นตัวเขาที่ถ่ายทอดตำแหน่งฮ่องเต้ให้กับหลี่ชิเย่ และมีซุนหลิ่งหยิ่งเป็นผู้สนับสนุนเขาขึ้นสู่บัลลังก์ฮ่องเต้
เวลานี้ฮ่องเต้ไท่ชิงที่สวรรคตไปแล้วไม่เพียงยังคงมีชีวิตอยู่ และคนโหดอันดับหนึ่งยังต้องการตามฆ่าฮ่องเต้ไท่ชิง ความสัมพันธ์ภายในดูจะสับสนวุ่นวายเหลือเกิน ทุกคนต่างไม่เข้าใจถึงต้นสายปลายเหตุ
ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างไม่เข้าใจว่าระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับฮ่องเต้ไท่ชิงมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่
“ไหนคนล่ะ…” ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ก้มมองดูฟ้าดิน เหล่าเวไนยสัตว์เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้นเอง แม้แต่เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้แข็งแกร่งเฉกเช่นฮ่องเต้ไท่ชิง ซุนหลิ่งหยิ่งก็เป็นได้แค่มดปลวกเช่นกัน เมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่แล้ว กับคนอื่นๆ กระทั่งกับประชาชนธรรมดาก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันเลย
“พวกเราพลาดท่า ถูกคนอื่นลอบโจมตีและชิงตัวไปได้” มาถึงวันนี้ทุกอย่างล้วนถูกเปิดเผยแล้ว ฮ่องเต้ไท่ชิงก็เล่าให้ฟังอย่างไม่สะทกสะท้าน