Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2665 ละเอียดด้วยหนึ่งฝ่ามือ
ตอนที่ 2665 ละเอียดด้วยหนึ่งฝ่ามือ
อ๊ากกกเสียงร้องแหลมเศร้ารันทดที่น่าเวทนาดังก้องทั่วฟ้าดิน เลือดสดๆ แตกกระจาย ภายใต้มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่บดขยี้ลงไป ยอดฝีมือของกองทัพหยินมี่ถูกบดขยี้จนแหลกละเอียด มียอดฝีมือจำนวนมากถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดในพริบตา
นี่มันคือกองทัพหยินมี่ที่เคยสยบทั่วหล้านะเนี่ย เคยสร้างความตื่นตระหนกทั่วหล้าในศึกเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งธงศึกของกองทัพหยินมี่ปรากฏขึ้นที่ใด ทำให้ผู้คนขวัญหนีดีฝ่อเพียงได้ข่าว
แต่ว่า ในขณะนี้ กองทัพหยินมี่เมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่เรียกว่าสู้ไม่ได้เลย ภายใต้พลังของหลี่ชิเย่แล้วถูกบดขยี้สังหารโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถต่อต้านพลังที่ไร้เทียมทานของหลี่ชิเย่ได้เลย
ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนที่ไม่ได้เห็นการต่อสู้ระหว่างคนโหดอันดับหนึ่งกับพวกของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทั้งสี่คนมากับตา ถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึงขึ้นมาขณะที่ได้เห็นภาพนี้ อดที่จะร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่งไม่ได้ ความแข็งแกร่งของคนโหดอันดับหนึ่งสมคำเล่าลือจริงๆ
“ฆ่า…” จังหวะที่เสียงร้องน่าเวทนาดังก้องฟ้าดินนั้น เห็นประกายเยือกเย็นแวบหนึ่ง ขณะที่ยังไม่ทันสิ้นเสียง กระบี่นี้ก็ได้มุ่งไปที่บริเวณคอของหลี่ชิเย่แล้ว
กระบี่นี้รวดเร็วจนสุดจะหาผู้เทียบเทียม แม้แต่เทพกระบี่สายฟ้าก่อนหน้านั้นที่ขึ้นชื่อด้านความเร็ว แต่ ความไวกระบี่ของเทพกระบี่สายฟ้าที่ว่ารวดเร็วมากแล้ว ยังห่างไกลเทียบไม่ได้กับหนึ่งกระบี่ตรงหน้า
หนึ่งกระบี่นี้ไม่เพียงแค่รวดเร็ว หนึ่งกระบี่ทะลุคอหอย มีความเหี้ยมโหดอย่างยิ่ง ความแข็งแกร่งของพลังกระบี่นั้น สามารถแทงทะลุสุริยันจันทราทางช้างเผือกในพริบตา ความแหลมคมนั้นไร้ต้าน ต่อให้สิ่งที่แข็งแกร่งมากกว่านี้ก็ต้องถูกแทงจนทะลุโดยพลันภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ เสียชีวิตในทันที
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น แต่แล้ว ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เวลาเหมือนหยุดลง จังหวะที่หนึ่งกระบี่แทงเข้าที่คอหอยของหลี่ชิเย่ในพริบตาเดียวนั้น กาลเวลาเหมือนถูกปิดผนึกเอาไว้โดยพลันอย่างนั้น ไม่สามารถไหลเคลื่อนที่ต่อไปได้ทันที
นาทีนี้ ทุกคนต่างมองเห็นภาพนี้ ภาพที่หลี่ชิเย่อาศัยนิ้วทั้งสองคีบกระบี่ที่ลอบโจมตีเข้ามาอย่างกะทันหัน ปลายกระบี่ได้จ่ออยู่ที่คอหอยของหลี่ชิเย่ อีกเพียงนิดเดียวก็จะทะลุผ่านชั้นผิวหนังเข้าไปแล้ว
ผู้ที่ลงมือคือซุนหลิ่งหยิ่งนั่นเอง จะอย่างไรเสียกองทัพหยินมี่เป็นตัวเขาที่สร้างขึ้นมากับมือ เวลานี้มองเห็นกองทัพหยินมี่ทั้งกองทัพถูกหลี่ชิเย่เข่นฆ่า เขาจะเต็มใจได้อย่างไรเล่า พลันลงมือหวังจะลอบโจมตีได้สำเร็จในกระบี่เดียว
เสียดาย แม้กระบี่ของซุนหลิ่งหยิ่งจะไวมากกว่านี้ แม้ว่าหนึ่งกระบี่ถึงตายจะโหดเหี้ยมมากกว่านี้ แต่ว่า ยังคงเร็วไม่เท่าหลี่ชิเย่ ยังคงเป็นไปไม่ได้ที่จะอาศัยหนึ่งกระบี่แทงทะลุคอหอยของหลี่ชิเย่ไปได้ ถูกหลี่ชิเย่คีบเอาไว้โดยพลัน
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้เอง เหมือนว่าเวลาก็ได้ไหลเคลื่อนขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้น มองเห็นมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ได้ตบลงไปอย่างสิ้นเชิง จัดการสังหารกองทัพหยินมี่จนสิ้นโดยพลัน โดบกองทัพหยินมี่ทั้งหมดถูกบดขยี้จนกลายเป็นหมอกเลือดไปทันที
ขณะที่หมอกเลือดปลิวกระจายออกไปนั้น กองทัพที่ได้ชื่อว่าปราศจากผู้เทียบเทียมได้หายวับไปกับตาในพริบตา กองทัพทั้งกองทัพที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกรกลับไม่สามารถรับมือกับคนโหดอันดับหนึ่งได้แม้เพียงครึ่งกระบวนท่า เพียงมือขนาดใหญ่ข้างหนึ่งของเขาที่คว่ำลงก็เข่นฆ่าหมดทั้งกองทัพ กำลังของทั้งสองฝ่ายนับว่าห่างชั้นกันมากเหลือเกิน
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวกับจังหวะที่หลี่ชิเย่บดขยี้ทำลายกองทัพหยินมี่จนสิ้นทั้งกองทัพนั้น นิ้วของเขาบิดทีหนึ่ง พลันบิดกระบี่ยาวของซุนหลิ่งหยิ่งจนหัก และในเสี้ยววินาทีนี้เอง ซุนหลิ่งหยิ่งถอยหลังอย่างรวดเร็ว เขาได้อาศัยความเร็วที่ยอดเยี่ยมยากจะมีผู้เทียบเทียมดีดตัวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว หวังจะถอยห่างออกไปเป็นหมื่นลี้
แต่ว่า ทุกอย่างล้วนแล้วแต่สายเกินไปเสียแล้ว ภายใต้ควาเร็วที่เด็ดขาดของหลี่ชิเย่ การล่าถอยอย่างรวดเร็วใดๆ การหลบหนีใดๆ ก็เสียงแรงเปล่า ล้วนแล้วแต่เชื่องช้าอะไรอย่างนั้น ล้วนแล้วแต่ไร้ค่าไม่คู่ควรจะกล่าวถึง
ได้ยินเสียงฉึกดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นเลือดที่สาดกระเซ็น หลี่ชิเย่แค่พลิกมือกลับไปตามอารมณ์เท่านั้น กระบี่หักที่คีบอยู่กับนิ้วมือพลันปักเข้าไปยังอกของซุนหลิ่งหยิ่งทันที แม้ว่าซุนหลิ่งหยิ่งจะได้อาศัยความเร็วสูงสุดในการถอยห่างและหลบเลี่ยงแล้ว แต่ยังคงไม่สามารถหลบกระบี่หักไปได้พ้น ท่ามกลางเสียงฉึกที่ดังขึ้น หนึ่งกระบี่ได้ปักทะลุเข้าไปในอกของเขา
ท่ามกลางเสียงตึงเสียงหนึ่งที่ดังขึ้น กระบี่หักไม่เพียงแค่ทะลุอกของเขาเท่านั้น ทั้งยังจัดการตรึงสังหารเขาอยู่บนพื้น เลือดสดๆ ไหลหยดเป็นทาง
“หลิ่งหยิ่ง…” สีหน้าของฮ่องเต้ไท่ชิงเปลี่ยนไปมากทีเดียว ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อเห็นซุนหลิ่งหยิ่งถูกตรึงสังหารอยู่บนพื้น
“หนีไป…” ซุนหลิ่งหยิ่งที่มีเหลือดไหลหยดเป็นทาง เมื่อกระบี่หักได้ตรึงสังหารเขาอยู่กับพื้น แม้ว่ายังไม่ถึงกับคร่าเอาชีวิตของเขาไป แต่ว่า เขารู้ตัวดีว่ายากจะพ้นจากเคราะห์กรรมไปได้
ซุนหลิ่งหยิ่งที่มองเห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม จึงร้องเสียงดังขึ้นมาให้ฮ่องเต้ไท่ชิงหนีไป
ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ผู้ที่ซุนหลิ่งหยิ่งนึกถึงเป็นคนแรกก็คือฮ่องเต้ไท่ชิง การคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงคือหน้าที่ของเขา และก็เป็นภารกิจของเขา ชั่วชีวิตของเขาก็เพื่อคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิง ขอเพียงเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็จะต้องคุ้มครองฮ่องเต้ไท่ชิงจนถึงที่สุด แม้จะเหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย เขาก็จะปฏิบัติตามภารกิจของตน
มาคราวนี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงไม่ได้หนีไป ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาด้วยเสียงอันดังว่า “เจ้าหนีไปก่อน…” สิ้นเสียง มืออยู่ในท่ามุทรา
“แม้ว่าเจ้าจะคิดไปเองว่าวางแผนให้ร้ายทั่วหล้า มองผู้คนทั่วหล้าเป็นดั่งเบี้ยบนกระดาน แต่ว่า ในสายตาของข้าแล้ว เจ้าก็แค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น” หลี่ชิเย่จ้องมองฮ่องเต้ไท่ชิงแวบหนึ่ง และกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ไม่ควรมาหาเรื่องกับข้า สุดแต่เจ้าจะก่อคลื่นยักษ์ที่โหดสาดซัดสะเทือนเลื่อนลั่นเช่นใด ข้าขี้คร้านจะไปสนใจเจ้า เสียดาย เจ้าไม่รู้จักสถานการณ์ รนหาที่ตายเอง”
“ถ้าเช่นนั้นก็สู้กันสักครั้ง!” ฮ่องเต้ไท่ชิงคำรามเสียงดัง รู้ว่าพูดมากความไปก็ไร้ประโยชน์ แม้ว่าเขารู้ตัวดีว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ เขายังคงยืนขวางอยู่ข้างหน้า เพื่อยื้อเวลาเล็กน้อยให้กับซุนหลิ่งหยิ่ง
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ฮ่องเต้ไท่ชิงได้พวยพุ่งกลิ่นอายกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุดออกมาทั่วร่าง
นาทีนี้ฮ่องเต้ไท่ชิงได้พวยพุ่งกลิ่นอายกษัตริย์ออกมาทั้งตัว กลิ่นอายกษัตริย์ดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัด พลันท่วมฟ้าดินจนจมมิด ท่ามกลางเสียงแว้งค์เสียงหนึ่ง มองเห็นกลิ่นอายกษัตริย์กลายเป็นเปลวไฟร้อนแรงที่ดั่งคลื่นยักษ์ เหมือนดั่งเป็นเปลวไฟที่หลอมกลั่นโลก เผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลก
ฮ่องเต้ไท่ชิงในขณะนี้คือกษัตริย์ที่ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่ที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง หมางเมินหมื่นยุค มองดูแล้วมีท่าทีที่มีเพียงข้าเท่านั้นเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว มีท่วงท่าที่ตำหนิติเตียนทั่วหล้า
จะอย่างไรเสียฮ่องเต้ไท่ชิงคือผู้ที่ดำรงอยู่ในสถานะเป็นฮ่องเต้มาสามยุค เขาเคยเกรียงไกรทั่วหล้าปราศจากผู้ต่อกร เคยทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนในแดนลัทธิราชันต้องขวัญหนีดีฝ่อเพียงได้ข่าวเท่านั้น ทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนต้องหวั่นเกรง
นาทีนี้ฮ่องเต้ไท่ชิงมีกลิ่นอายกษัตริย์ที่ดั่งคลื่นยักษ์ เปลวเพลิงร้อนแรงพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า มีท่าทีของการปกครองใต้หล้า
ในเวลานี้ผู้คนจำนวนมากจึงได้ตระหนักอีกครั้งว่า ฮ่องเต้ไท่ชิงที่ถูกหลี่ชิเย่ไล่ฆ่าจนต้องวิ่งหนีเหมือนสุนัขไม่มีเจ้าของนั้น จะอย่างไรเสียก็คือเทพแท้จริงขั้นอมตะที่ปราศจากผู้ต่อกรผู้หนึ่ง ไม่ว่าเวลานี้เขาจะมีสภาพที่กระเซอะกระเซิงเท่าไรก็ตาม จะอย่างไรก็ก็เคยเป็นผู้ที่ทำให้ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิ และสำนักเจ้าลัทธิจำนวนนับไม่ถ้วนในแดนลัทธิราชันต้องอกสั่นขวัญหายมาก่อน
มาวันนี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงเหมือนคนไร้ญาติขาดมิตรใช่ว่าเขาอ่อนแอเกินไป แต่เป็นเพราะหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเกินไป หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเป็นศัตรูกับเขา ก็ต้องเหมือนดั่งฮ่องเต้ไท่ชิงถูกตามฆ่าจนต้องหนีเหมือนสุนัขไร้เจ้าของเช่นเดียวกัน
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง ฮ่องเต้ไท่ชิงพลันยกมือ มองเห็นเปลวไฟร้อนแรงที่เย็นสบายพลันเทราดลงมา เหมือนดั่งน้ำหลากที่ไหลท่วมเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดินจนจมมิด
ในขณะที่เปลวไฟร้อนแรงที่เย็นสบายเทราดลงมานั้น ได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดแต่ละเสียงที่ดังขึ้นมา เมื่อเปลวไฟร้อนแรงเผาไหม้ผ่านไป กฎเกณฑ์สัจธรรมล้วนแล้วแต่ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าธุลี
“เพลิงไท่ชิง…” มีผู้ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นเปลวไฟร้อนแรงที่น่ากลัวเช่นนี้
เพลิงไท่ชิงมันมีความรุนแรงอย่างยิ่ง แต่กลับไม่ลวกมือเลยแม้แต่นิดเดียว กระทั่งให้ความรู้สึกที่เย็นสบาย แต่ว่าเพลิงไท่ชิงลักษณะเช่นนี้เรียกได้ว่ามีความรุนแรงยิ่งนัก มันสามารถเผาผลาญเทพแท้จริงขั้นอมตะได้
เสียงตูม…ดังสนั่นหวั่นไหว ในพริบตาเดียวนั่นเอง เพลิงไท่ชิงที่ดั่งคลื่นยักษ์พลันแปลงเป็นเตากลั่นในทันที โดยอาศัยช่องว่างที่หลี่ชิเย่อยู่มาเป็นเตากลั่น จัดการขังหลี่ชิเย่เอาไว้ข้างใน
“เตากลั่นไท่ชิงล้างโลก…” นาทีนี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงคำรามเสียงดังขึ้นมา เมื่อขาดคำได้ยินเสียงตูม ตูม ตูมดังขึ้น เห็นเตากลั่นยักษ์นี้พลันระเบิดเป็นเปลวไฟที่รุนแรงยิ่งขึ้นมา
เสียงตูม ตูม ตูมดังขึ้นภายในเตากลั่น เสมือนดั่งโลกจำนวนล้านล้านโลกระเบิดขึ้นมา และมีภูเขาไฟที่ไม่สิ้นสุดระเบิดขึ้นพร้อมๆ กันอย่างนั้น เพลิงไท่ชิงที่สามารถเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างพลันเข้มข้นขึ้นด้วยความดันสูง และพุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่ทันที ต้องการหลอมกลั่นหลี่ชิเย่เสีย
“เตากลั่นไท่ชิงล้างโลก…” ทุกคนล้วนแล้วแต่หวาดผวาจนหน้าถอดสี เมื่อมองเห็นเตาขนาดยักษ์พลันระเบิดเป็นเพลิงไท่ชิงที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมา เสมือนดั่งโลกจำนวนล้านล้านโลกที่ระเบิดขึ้นทันที ทำให้โลกต้องสั่นไหวโคลงแคลงไปมากับสิ่งนี้
“กระบวนท่าสังหารเด็ดขาด…” ระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อเห็นฮ่องเต้ไท่ชิงพลันลงมือด้วยกระบวนท่าที่รุนแรงปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ และกล่าวว่า “เตากลั่นไท่ชิงล้างโลกคือกระบวนท่าสังหารที่แข็งแกร่งและรุนแรงที่สุดใน ‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’”
“เป็นความจริงที่ฮ่องเต้ไท่ชิงคือผู้ที่มีความชำนาญมากที่สุด” เทพแท้จริงขั้นอมตะชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เมื่อได้มองเห็นกระบวนท่าสังหารนี้แล้ว
‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’ เป็นผลงานสร้างสรรค์โดยราชันเจิ้งตี้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ่วมี่ ตลอดชีวิตของเจิ้งตี้ปราดเปรื่องน่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง ‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’ ที่เขาเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นได้รับการยกย่องว่าสามารถเทียบเคียงได้กับ ‘จิ่วมี่’
ฮ่องเต้ไท่ชิงคือผู้ที่สามารถฝึกปรือ ‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’ จนแข็งแกร่งมากที่สุดต่อจากเจิ้งตี้ ดังนั้น เขาจึงได้รับสมญาว่า ‘ฮ่องเต้ไท่ชิง’
เขาเคยอาศัยกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมใน ‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’ เอาชนะ ‘จิ่วมี่’ ของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ่วมี่ ดังนั้น ทุกคนในระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ่วมี่จึงมีความหวั่นเกรงต่อฮ่องเต้ไท่ชิง
มาวันนี้ พลันที่ฮ่องเต้ไท่ชิงลงมือก็คือ ‘เตากลั่นไท่ชิงล้างโลก’ ที่มีความรุนแรงและแข็งแกร่งที่สุดใน ‘คัมภีร์ไท่ชิงตัน’ กระบวนท่านี้เป็นกระบวนท่าหลอมกลั่นโลก เผาผลาญโลกทั้งโลก นับว่ามีความรุนแรงยากจะหาใดเทียม ทำให้ผู้คนมองดูด้วยความอกสั่นขวัญแขวน ทำให้ผู้คนมองดูด้วยความหวาดหวั่นพรั่นพรึง
เมื่อฮ่องเต้ไท่ชิงสำแดงกระบวนท่าสังหารยอดเยี่ยมลักษณะเช่นนี้ขึ้นมา กระทั่งสามารถหลอมกลั่นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่งได้ ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่า กระบวนท่านี้มีอานุภาพที่น่าสยองขวัญเช่นใด มีความแข็งแกร่งเพียงใดแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลี่ชิเย่ที่ถูกกักขังเอาไว้ภายในเตากลั่นกลับปล่อยให้เพลิงไท่ชิงระเบิดใส่ได้ตามอำเภอใจ ปล่อยให้เพลิงไท่ชิงอาละวาดตามต้องการ โดยไม่ถือเป็นอะไรทั้งสิ้น
“ทำลาย…” หลี่ชิเย่เพียงพูดออกมาตามอารมณ์ ถือโอกาสฟาดไปหนึ่งฝ่ามือ
เสียงปัง…ดังสนั่นหวั่นไหว ต่อให้เป็นเตากลั่นโอสถที่สามารถหลอมกลั่นโลก สามารถเผาผลาญสวรรค์ก็ตาม แต่ว่า เมื่อถูกหนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ที่ฟาดเข้าไปนั้น เตากลั่นโอสถหลอมกลั่นโลกก็แตกละเอียดไปทั้งใบ ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว
เพลิงไท่ชิงที่เดิมดั่งคลื่นยักษ์และระเบิดได้พลันดับมอดลงภายใต้หนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่ แม้แต่เพลิงไท่ชิงที่สามารถหลอมกลั่นโลก สามารถเผาผลาญสวรรค์เมื่ออยู่ภายใต้หนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่นี้ ก็เสมือนดั่งเป็นเทียนที่เหลืออยู่น้อยนิดท่ามกลางพายุอย่างนั้น
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งฝ่ามือของหลี่ชิเย่เพียงฟาดจนเตากลั่นโอสถหลอมกลั่นโลกจนแตกละเอียด ดับเพลิงไท่ชิงเท่านั้น หนึ่งฝ่ามือที่ฟาดจากระยะห่างไกลพลันฟาดถูกตัวของฮ่องเต้ไท่ชิง
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น เลือดสดๆ แตกกระจาย สุดท้ายได้ยินเสียงดังปังเสียงหนึ่ง ฮ่องเต้ไท่ชิงถูกฟาดจนกระแทกเข้ากับพื้นดิน โดยร่างของฮ่องเต้ไท่ชิงเสมือนดั่งเป็นเนื้อบดที่พุ่งไปกระแทกเข้ากับพื้นดิน ทำให้พื้นดินถึงกับแตกละเอียด
ในเวลานี้ ฮ่องเต้ไท่ชิงถูกหนึ่งฝ่ามือนี้ฟาดจนร่างแหลกเหลวกลายเป็นเนื้อบดยับเยินมาก ไม่สามารถมองออกถึงรูปร่างหน้าตาได้อีกแล้ว