Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2670 ต้นกำเนิดสัจธรรมตระกูลมู่
ตอนที่ 2670 ต้นกำเนิดสัจธรรมตระกูลมู่
คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต้องนิ่งเงียบ แม้ว่าการที่จะยอมรับว่าตนเองฝีมือสู้คนอื่นไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย แต่ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ไม่อาจไม่ยอมรับว่า ตนเองนั้นห่างชั้นกับคนโหดอันดับหนึ่งจริงๆ
แม้ว่าปรกติแล้วราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะเป็นคนที่มองตัวเองว่าสูงเด่นเหนือใคร แต่เขายังคงเป็นคนที่รู้ตัวเองดี มิฉะนั้นล่ะก็เขาก็คงไม่สามารถกลายเป็นราชันแท้จริงแห่งยุคได้
ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็มีความชัดเจนยิ่งนักว่า ต่อให้ตนเองสู้อย่างเต็มที่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง แต่ว่า ในขณะนี้เขาไม่มีทางเลือก แม้ว่ารู้ทั้งรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่ง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเป็นการรนหาที่ตายของตนเอง เขาจำเป็นต้องสู้ให้ถึงที่สุด
กล่าวสำหรับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้ว เขาไม่ทางที่จะถอยได้อีกแล้ว เนื่องจากด้านหลังของเขาก็คือตระกูลมู่ เป็นบ้านของเขาเอง แม้เขาก้าวถอยหลังไปเพียงครึ่งก้าวมันก็คือบ้านของตนเอง เขายังจะถอยไปไหนได้อีก?
ถ้าหากเขาไม่มาขวางอยู่ด้านหน้าของคนโหดอันดับหนึ่ง คนโหดอันดับหนึ่งก็จะต้องทำให้ตระกูลมูของเขาแตกสลายไป
แม้จะกล่าวว่า ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเองก็รู้สึกเสียใจภายหลังที่เป็นศัตรูกับคนโหดอันดับหนึ่ง แต่ว่า โลกนี้ไม่มียาเสียใจภายหลังให้ซื้อ เดินผิดเพียงก้าวเดียวก็คือแพ้ทั้งกระดาน ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นใด
“เป็นความจริงที่ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า” ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “แต่ วันนี้หากเจ้าก้าวไปข้างหน้าก้าวเดียว ข้าก็จะสู้ถวายชีวิต ขอเพียงข้ายังอยู่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ตระกูลมู่ต้องแตกสลายไป! ข้าจะอาศัยชีวิตของข้าปกป้องมัน!”
คำพูดคำนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพูดได้หนักแน่นมาก พูดได้จริงใจมาก ไม่มีภาษาดอกไม้ และไม่ได้อวดดี นี่คือคำพูดที่มาจากก้นบึ้งหัวใจของเขาแล้ว
ทุกคนที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้ของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้วต่างนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ผู้คนจำนวนไม่น้อยเกิดความนับถือขึ้นมา กล่าวสำหรับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนทั่วหล้าแล้ว ทุกคนต่างมีหน้าที่ปกป้องตระกูลของตน ปกป้องสำนักของตน
กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว เพื่อปกป้องตระกูลของตนเอง ปกป้องสำนักของตน แม้ว่าจะต้องร่างแหลกเละเป็นผุยผงก็ไม่หวั่น ดังนั้น ในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความเป็นความตายของตระกูลของตน หรือสำนักของตนแล้ว จะผิดหรือถูกก็ไม่มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว
แม้ว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่ง แต่ว่า ในการปกป้องตระกูล ปกป้องสำนักของตนนั้น เขาก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนธรรมดาๆ คนหนึ่ง
“อาศัยความตายไปปกป้องตระกูล นับว่าคู่ควรให้ผู้คนนับถือ” หลี่ชิเย่พยักหน้า และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ข้าจะสงเคราะห์เจ้าก็แล้วกัน ฆ่าเจ้าเสีย ทำลายล้างตระกูลมู่”
ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง สุดท้าย เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ลิขิตเอาไว้แล้ว บางทีนับตั้งแต่วินาทีที่น้องชายมู่เส้าเฉิงเป็นศัตรูกับคนโหดอันดับหนึ่ง ทุกอย่างก็ได้ลิขิตเอาไว้แล้ว
คนโหดอันดับหนึ่งยกตนข่มท่าน จะไม่ยอมถอยให้กับผู้ใดอย่างเด็ดขาด ขณะที่ตระกูลมู่ของพวกเขาก็จะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับผู้หนึ่งผู้ใด หรือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหนึ่งลัทธิใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะไม่สยบต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหนึ่งลัทธิใด
ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายมาปะทะกัน ไม่ใช่เจ้าตายก็คือข้าม้วย หนึ่งในสองจะต้องตาย
มาวันนี้กล่าวสำหรับตระกูลมู่ของพวกเขาแล้ว ถ้าหากทนและก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ล่ะก็คือท้องทะเลกว้าง ท้องนภาไพศาล แต่หากผ่านไปไม่ได้ ย่อมต้องหายวับไปกับตาในพริบตา
“ดี เช่นนั้นแล้วก็ไม่ตายไม่เลิก!” คำพูดของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนหนักแน่นเปี่ยมด้วยพลัง เขาไม่มีทางเลือกอื่นใดอีกแล้ว มีเพียงสู้กระทั่งตัวตายเท่านั้น
ความจริงแล้ว วินาทีก่อนการระเบิดศึกขึ้น ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่มีความมั่นใจเสียเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทุ่มเทกำลังสูงสุดของตระกูลมู่ หรือการลงมือช่วยเหลือของนักพรตไป๋ยื่อ ส่งผลให้ภายในใจของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนไม่มีความมั่นใจเลย เขาเองไม่คิดว่าตระกูลมู่สามารถหัวเราะเป็นคนสุดท้าย จะอย่างไรเสียคนโหดอันดับหนึ่งน่าสยองขวัญมากเหลือเกิน และลึกล้ำยากจะหยั่งถึง
“สหาย เชิญ” ในเวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงมีบุคลิกลักษณะความเป็นราชันแท้จริงแห่งยุค ยังคงมีบุคลิกลักษณะที่ไม่ธรรมดาของความเป็นราชันแท้จริง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ทำให้ชื่อเสียงของราชันแท้จริงต้องเสื่อมเสีย และไม่ได้ทำให้ฐานะความเป็นราชันแท้จริงของเขาต้องเสื่อมเสีย
“เจ้าลงมือก่อน” หลี่ชิเย่ยืนมือไพล่หลัง ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ตระกูลมู่ของพวกเจ้ายังคงทุ่มเทสรรพกำลังจะดีกว่า วันนี้จะเป็นโอกาสสุดท้ายของพวกเจ้า หากขวางข้าไม่ได้ ตระกูลมู่ของพวกเจ้าหายวับไปกับตาในพริบตา”
“ตกลง…” สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง และไม่เกรงใจกันอีกต่อไป
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในเวลานี้ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้พวยพุ่งประกายสัจธรรมออกมาทั่วตัว จากการที่เขาได้พวยพุ่งประกายสัจธรรมออกมาทั่วตัว ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก็ได้พวยพุ่งเป็นประกายราชันที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาชั่วพริบตา และทันใดนั้นเอง อานุภาพปฐมบรรพบุรุษพลันตลบอบอวลทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่
นาทีนี้ เสมือนดั่งปฐมบรรพบุรุษคนหนึ่งได้ฟื้นและตื่นขึ้นมา อานุภาพปฐมบรรพบุรุษมีอยู่ทุกที่ อีกทั้งจากการที่ประกายบนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมีการเปลี่ยนแปลง แสงราชันกลับกลายเป็นแสงปฐมบรรพบุรุษ ทั่งทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ก็ได้พวยพุ่งเป็นประกายของปฐมบรรพบุรุษขึ้นมา
ในเวลานี้ ประกายปฐมบรรพบุรุษได้สาดส่องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ บนท้องฟ้าได้ปรากฏเป็นเหตุการณ์ประหลาดต่างๆ นานา ทอดสายตามองออกไป มองเห็นบนท้องฟ้าปรากฏหมื่นราชันเข้าเฝ้า มังกรแท้จริงหงส์เซียนร่ายรำ การหมุนเวียนสับเปลี่ยนของนภาและสุริยัน…ที่เป็นภาพแหตุการณ์ประหลาดเป็นต้น
ในเวลานี้ เหมือนว่ามีปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเองอย่างนั้น ทั่วทุกมุมของตระกูลมู่พลันเต็มไปด้วยกลิ่นอายปฐมบรรพบุรุษ
ย่อมไม่ต้องสงสัยว่านาทีนี้จากการที่ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ได้ปรับตามการโยกย้ายสัจธรรมของราชันแท้จริงมู่เจี้ยน ทำให้พลังของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิก็ได้ฟื้นขึ้นมา เมื่อพลังลักษณะเช่นนี้ฟื้นตื่นขึ้นมา จะมีอานุภาพมากกว่าครั้งก่อนที่ใช้วิธีฟื้นตื่นขึ้นมาโดยอาศัยผ่านช่องว่างที่ขวางกั้นซึ่งอยู่ไกลถึงระบบถ่ายทอดทางด้านลัทธิสือยวิ่น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น นาทีนี้ ลึกเข้าไปในตระกูลมู่พลันมีแสงที่บริสุทธิ์อย่างยิ่งพวยพุ่งขึ้นมา นี่คือแสงของปฐมบรรพบุรุษ ทุกๆ ลำแสงช่างมีความบริสุทธิ์ และพราวพร่างอะไรอย่างนั้น เมื่อทุกๆ ลำแสงที่แผ่กระจายออกมาแล้วคล้ายเป็นความจริงอย่างนั้น
ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง สัจธรรมกระเพื่อมไปมา พลังสัจธรรมทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่เหมือนถูกโยกย้ายขึ้นมา คล้ายดั่งคลื่นน้ำที่โหมสาดซัดขึ้นมาอย่างรุนแรง
นาทีนี้ มองเห็นบริเวณลึกเข้าไปภายในตระกูลมู่ดุจดั่งเป็นน้ำใสแจ๋วที่กระเพื่อมเป็นวงและเปล่งประกายออกมายามต้องแสงอาทิตย์ เมื่อทุกคนทอดสายตามองออกไป เห็นเพียงลึกเข้าไปด้านในของตระกูลมู่ปรากฎทะเลสาบแสงที่ขนาดใหญ่โตมหึมา โดยทะเลสาบแสงปรากฏสรรพสิ่งฟ้าดินที่หมุนวน สลักสัจธรรมของปฐมบรรพบุรุษ หล่อเลี้ยงพลังหมื่นยุค…
เมื่อทะเลสาบแสงลักษณะเช่นนี้ปรากฏขึ้นมา เหมือนว่าโลกในยุคแรกเริ่มทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ถือกำเนิดขึ้นมาจากที่ตรงนี้อย่างนั้น ทะเลสาบแสงนี้เหมือนว่าสามารถให้กำเนิดโลกๆ หนึ่งขึ้นมาได้ สามารถให้กำเนิดเทพแท้จริงราชันเซียน สามารถให้กำเนิดแดนสุขาวดีสูงสุดได้…
“ต้นกำเนิดสัจธรรม…” ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อมองเห็นทะเลสาบแสงที่น้ำใสแจ๋วกระเพื่อมเป็นวงเปล่งประกายออกมายามต้องแสงอาทิตย์ และร้องเสียงหลงขึ้นว่า “ต้นกำเนิดสัจธรรมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ สัจธรรมของปฐมบรรพบุรุษมู่หวิน!”
ไม่รู้ว่ามีระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจำนวนเท่าไรที่รู้สึกอิจฉา เมื่อมองเห็นต้นกำเนิดสัจธรรมที่ใสแจ๋วกระเพื่อมเป็นวงและเปล่งประกายออกมายามต้องแสงอาทิตย์ เนื่องจากทุกๆ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิล้วนแล้วแต่มีต้นกำเนิดสัจธรรมที่เป็นของตนเอง แต่ว่า ต้นกำเนิดสัจธรรมของแต่ละระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ ล้วนแล้วแต่ยากต่อการที่จะโยกย้าย
กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดลัทธิหนึ่งแล้ว หากสามารถควบคุมพลังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนเองได้ล่ะก็เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เป็นเรื่องที่สะเทือนเลื่อนลั่นเรื่องหนึ่ง
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ กล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิใดลัทธิหนึ่งแล้ว คิดจะควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมต่อเนื่องยาวนาน โดยพื้นฐานแล้วเป็นเรื่องที่ยากเย็นมาก กระทั่งเรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เนื่องจากต้นกำเนิดสัจธรรมจะมีการวิวัฒนาการไปตามการเปลี่ยนแปลงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิ กล่าวในระดับหนึ่ง ตำแหน่งฮ่องเต้นั้นเวียนกันเป็น ยุคนี้สำนักนี้ได้บรรลุความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของปฐมบรรพบุรุษ สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรม เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว สำนักนี้ก็จะได้สืบทอดเป็นผู้ได้ปกครองระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ นี้
เมื่อเวลาผ่านไปหลายยุคสมัย สำนักอีกแห่งได้บรรลุความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของสัจธรรม สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรม เช่นนั้นแล้ว มันก็จะได้ขึ้นปกครองแทน
แต่ว่า ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่กลับเป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิที่มหัศจรรย์ยิ่ง นับตั้งแต่ปฐมบรรพบุรุษมู่หวินก่อตั้งขึ้นมา ต้นกำเนิดสัจธรรมระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่แทบจะอยู่ในความควบคุมของตระกูลมู่ตลอดมา เป็นดั่งนี้มาพันล้านยุคสมัย
แม้จะกล่าวว่าลูกหลานของปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิบางแห่งสามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมมาหลายยุคหลายสมัย และหรือหลายสิบยุคสมัย แต่ภายหลังมักจะถูกสำนักอื่นๆ ภายในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิได้ครอบครองแทนอยู่เสมอๆ
เฉกเช่นตระกูลมู่ที่สามารถควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมปฐมบรรพบุรุษของตนเองได้ตลอดมา สามารถเรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์ ลองนึกภาพดู มีสำนักใดที่ไม่ต้องการเป็นผู้ควบคุมต้นกำเนิดสัจธรรมของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตลอดไปเล่า?
กี่ปีผ่านไป ต้นกำเนิดสัจธรรมยังคงอยู่ในมือของตระกูลมู่ ผู้คนใต้หล้าต่างรู้สึกน่าทึ่งกับสิ่งนี้เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว มิน่าเล่า หลังจากที่ตระกูลมู่ถูกราชันแท้จริงฉงหัวทำลายจนล่มสลายแล้ว สุดท้ายยังคงผงาดขึ้นมาได้ กลายเป็นหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่แดนลัทธิราชัน เรื่องนี้ใช่จะไม่มีเหตุผล
ตูม…เสียงดั่งสนั่นหวั่นไหว นาทีนี้ต้นกำเนิดสัจธรรมได้พวยพุ่งพลังของปฐมบรรพบุรุษขึ้นมา ขณะที่พลังต้นกำเนิดสัจธรรมปฐมบรรพบุรุษพวยพุ่งขึ้นมานั้น เสมือนดั่งเป็นกระแสน้ำที่รวดเร็วและรุนแรงท่วมฟ้าดินจนจมมิดในทันที
“ปฐมบรรพบุรุษ…” ในเวลานี้ ประชาชนทั้งหมดล้วนแล้วแต่อาบเอิบอยู่ท่ามกลางพลังปฐมบรรพบุรุษที่บริสุทธิ์ ทุกคนล้วนแล้วแต่รับรู้ถึงพลังปฐมบรรพบุรุษที่มากมายมหาศาลและไร้เทียมทาน
ในเวลานี้ บรรดาศิษย์ตระกูลมู่ต่างตื่นเต้นยิ่งนัก กระทั่งมีศิษย์ที่น้ำตานองหน้า นาทีนี้ศิษย์ตระกูลมู่มองเห็นความหวัง จะอย่างไรเสียพวกเขายังคงมีพลังปฐมบรรพบุรุษอยู่ในความครอบครอง บางทีอาจสามารถต่อสู้ชี้ขาดกับคนโหดอันดับหนึ่งจนถึงที่สุด
ปฐมบรรพบุรุษสำแดงปาฎิหาริย์…ในเวลานี้ ศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ได้คุกเข่าหมอบกับพื้น กราบคารวะด้วยท่ากราบไหว้สูงสุด แสดงความเคารพสูงสุดต่อปฐมบรรพบุรุษ
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย นาทีนี้ มองเห็นทางตระกูลมู่ได้ปรากฏแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์แต่ละตัวลอยขึ้นมา บนแท่นบูชาศักดิ์สิทธ์แต่ละตัวเต็มไปด้วยอักขระยันต์ และแท่นศักดิ์สิทธิ์ทุกๆ ตัวล้วนแล้วแต่มีบรรพบุรุษยืนอยู่คนหนึ่ง
‘สามสิบหกบรรพบุรุษ’ มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะจดจำฐานะของพวกเขาได้
ผู้คนจำนวนไม่น้อยร้องเสียงหลงขึ้นมา มองดูการจัดตั้งสถานการณ์ของสามสิบหกบรรพบุรุษ และยืนอยู่ท่ามกลางอักขระยันต์ที่กว้างใหญ่ไพศาลดั่งทะเล
“ตระกูลมู่ได้ยกออกมาทั้งหมดแล้ว โดยไม่เหลือเอาไว้” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกทอดถอนใจขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพนี้
สามสิบหกบรรพบุรุษนับเป็นบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว และเป็นไพ่ตายที่ทางตระกูลมู่สามารถควักขึ้นมาได้
ผู้ที่สามารถบรรลุสัจธรรมปฐมบรรพบุรุษได้ลึกซึ้งที่สุดในตระกูลมู่แล้ว แต่ จะอย่างไรเสียราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังอ่อนเยาว์ ทักษะยุทธ พลังวัตรล้วนไม่หนักแน่นเพียงพอ
ดังนั้น มาวันนี้ตระกูลมู่คิดจะอาศัยราชันแท้จริงมู่เจี้ยนเป็นกองหน้า โดยมีสามสิบหกบรรพบุรุษเป็นกระดูกสันหลัง หลอมรวมกับต้นกำเนิดสัจธรรมตระกูลมู่ เตรียมสู้ตายกับคนโหดอันดับหนึ่ง
ตระกูลมู่ได้ยกทัพมากันทั้งหมดแล้ว ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้เมื่อเห็นภาพนี้ บางทีคงมีเพียงคนโหดอันดับหนึ่งที่สามารถบีบบังคับให้ตระกูลมู่ก้าวไปถึงทางตันได้
“จะเป็นหรือตายล้วนขึ้นอยู่กับศึกครั้งนี้” มีระดับบรรพบุรุษที่ท่าทีอยู่หนักแน่นยิ่งนัก เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว และกล่าวว่า “ศึกครั้งนี้หากตระกูลมู่พ่ายแพ้ ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว ถูกลบชื่อออกจากโลกนี้”
……………………………………………….