Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2680 อ่อนเหลือเกิน
ตอนที่ 2680 อ่อนเหลือเกิน
เสียงตูม…ดังสนั่นเสียงหนึ่ง พริบตาเดียวที่เครื่องพันธนาการปฐมบรรพบุรุษได้พันธนาการหลี่ชิเย่เอาไว้นั้น ดาวเคราะห์ทั้งหนึ่งร้อยดวงพลันยิงสังหารเข้ามาถึง ดาวเคราะห์ทุกดวงล้วนแล้วแต่พุ่งชนผ่านเข้ามาทางเส้นสายผลึกกาลเวลา ก้าวข้ามช่องว่าง ก้าวข้ามอาณาจักร ยิงเขาใส่บริเวณทรวงอกของหลี่ชิเย่ ต้องการยิงหลี่ชิเย่จนแหลกละเอียด
“แผนการเยี่ยม” มีผู้ออกปากชื่นชมด้วยเสียงอันดัง เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว
ย่อมไม่ต้องสงสัย การโจมตีร่วมกันของนักพรตไป๋ยื่อและราชันแท้จริงมู่เจี้ยนสองคนเรียกได้ว่าเข้าขากันดีมาก และเป็นแผนการที่ดีมาก ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ นั้นไม่ต้องเอ่ยให้มากความ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัญหาด้านของความเร็วและระยะห่างอีกแล้ว
ขณะที่ในพริบตาเดียวนั่นเอง ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนพลันพันธนาการช่องว่าง กาลเวลา สัจธรรมของหลี่ชิเย่เอาไว้ ซึ่งเปิดโอกาสให้ ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ แม้ว่าหลี่ชิเย่สามารถดิ้นหลุดจากพันธนาการของเครื่องพันธนาการปฐมบรรพบุรุษไปได้ แต่ ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ ก็ได้ยิงใส่บนตัวของเขาแล้ว
ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ภาพที่อยู่ตรงหน้าคล้ายดั่งเชื่องช้าลง กาลเวลาเสมือนดั่งถูกดึงให้ยืดยาวขึ้น ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ มองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนกยิ่ง
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ภายในใจของผู้คนใต้หล้าจะมากหรือน้อยต่างคาดหวังว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกับนักพรตไป๋ยื่อสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมา หากสามารถเอาชนะหลี่ชิเย่ได้ ก็จะทำให้ผู้คนทั่วหล้าสามารถหายใจลึกๆ ได้
ปัง ปัง ปังเสียงแตกละเอียดดังขึ้นมาเป็นระลอก ในเสี้ยววินาทีนี้เอง หลี่ชิเย่ยังคงกระโดดขึ้นและเสมือนดั่งสว่านหัวเพชรที่หมุนขึ้นมา จะเป็นเครื่องพันธนาการปฐมบรรพบุรุษ หรือ ‘ไป๋ยื่อตัดวัฏสงสาร’ อะไรก็ไร้ประโยชน์
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น ทุกคนยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง ขณะที่ปฏิกิริยาตอบสนองของนักพรตไป๋ยื่อได้กลับมาแล้ว เขาอาศัยความเร็วที่รวดเร็วมากถอยหลังออกไป และสวมใส่เกราะศักดิ์สิทธิ์ทันที แต่ว่า ยังคงไร้ประโยชน์ ถูกหลี่ชิเย่โจมตีเข้าให้อย่างแรง
ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะพริบตาเดียวกับที่นักพรตไป๋ยื่อถูกซัดเข้าให้ ทำให้ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเขาแหลกละเอียดไปทันที และร่างกายของเขาถูกโจมตีเข้าให้อย่างแรง ขณะที่พุ่งชนกับพื้นดินนั้นร่างของเขาชนกระแทกจนกลายเป็นเนื้อบด ร่างของเขาได้แหลกละเอียดไป
จังหวะที่นักพรตไป๋ยื่อถูกโจมตีจนแหลกละเอียดไปแล้วนั้น ตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ได้ยินเสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว ภายใต้การโจมตีของหลี่ชิเย่นั้น ทำให้กระบองกู่ท้าวในมือของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกระเด็นหลุดจากมือไป ท่ามกลางเสียงปังที่ดังสนั่นนั้น ร่างของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนถูกขาของหลี่ชิเย่ที่ฟาดหางเข้ามา ได้ยินเสียงดังฉึกเสียงหนึ่ง ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนถูกเตะเข้าให้จนกลายเป็นหมอกเลือดไป
นี่แหละคือความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของผลสัจธรรมลูกยาง มันจะโจมตีใส่ช่องโหว่ และทำลายได้ทันทีที่มีการโจมตี ดังนั้น ภายใต้การโจมตีลักษณะเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อผูกมัดใด หรือข้อยกเว้นใดๆ กล่าวสำหรับมันแล้วไม่มีผลใดๆ ทั้งสิ้น
ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะก้าวข้ามกาลเวลา หรือว่าพันธนาการฟ้าดิน ก็ไม่ส่งผลใดๆ ต่อผลสัจธรรมลูกยางทั้งสิ้น เพราะพลันที่มันโจมตีก็จะมุ่งโจมตีที่ช่องโหว่ ทุกๆ ช่องโหว่ล้วนแล้วแต่ถูกทำลายไปในพริบตาเดียว
ฟ้าดินได้ตกอยู่ในความเงียบสงัดที่น่ากลัวอีกครั้ง ขณะที่นักพรตไป๋ยื่อร่วมมือกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนนั้น จะมากหรือน้อยทุกคนต่างเข้าใจว่ามีความหวังอยู่บ้าง ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าผลที่ออกมายังคงเหมือนเดิม พลันที่หลี่ชิเย่ลงมือโจมตี นักพรตไป๋ยื่อก็ดี ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ช่าง ยังคงพ่ายอย่างยับเยิน ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนโหดอันดับหนึ่งอยู่แล้ว
ทั้งราชันแท้จริงมู่เจี้ยนและนักพรตไป๋ยื่อสองคนล้วนแล้วแต่ไม่ได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้น คนโหดอันดับหนึ่งไม่ได้พ่ายแพ้อย่างที่ทุกคนคาดคิด เขายังคงไม่ได้พ่ายแพ้ เหมือนเป็นเทพนิยายที่ไม่มีวันพ่ายแพ้ตลอดกาลอย่างนั้น
“จบสิ้นกันแล้ว” ในขณะนี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หมดแรงนั่งลงอยู่กับพื้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ ต่อให้แข็งแกร่งมากกว่านี้ ระดับบรรพบุรุษที่เก่ากะลากว่านี้ นาทีนี้ล้วนแล้วแต่มีสีหน้าที่ซีดเผือด
“ต่อไปนี้ เมื่อคนโหดอันดับหนึ่งปรากฏตัว ทุกคนให้คุกเข่าอยู่ตรงนั้นเลยก็แล้วกัน” เทพแท้จริงขั้นอมตะถึงกับพึมพำขึ้นมาว่า “แค่แววตาของเขาก็เพียงพอที่จะทำลายฟ้าดินได้แล้วล่ะ”
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่หัวเราะด้วยความขมขื่น ในขณะนี้ทุกคนต่างเข้าใจแล้วว่า คนโหดอันดับหนึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงามแล้ว เขาไม่เพียงเป็นคนโหดอันดับหนึ่งเท่านั้น เขาคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแดนลัทธิราชันแล้ว ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้อีก
อย่างไรก็ตาม ทั่วทั้งแดนลัทธิราชันไม่มีใครที่สามารถรับมือเขาได้แม้เพียงกระบวนท่าอีกแล้ว
“เหมือนดั่งที่เขาได้พูดเอาไว้อย่างนั้น ขอเพียงเขาจริงจังสักนิด ฟ้าดินล้วนแล้วแต่สมควรสั่นเทา เหล่าราชันและเหล่าเทพควรหมอบกราบ” มีระดับบรรพบุรุษระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิถึงกับหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นทีหนึ่ง
ที่ผ่านมา พวกเขาก็เคยเห็นการลงมือของคนโหดอันดับหนึ่ง แต่ว่า ยังห่างไกลไม่ได้สะเทือนหวั่นไหวเหมือนเช่นวันนี้ มาวันนี้พวกเขาจึงได้เข้าใจอย่างแท้จริงว่า ที่ผ่านมา คนโหดอันดับหนึ่งไม่เคยลงมือจริงๆ จังๆ เลย แค่ตามอารมณ์เท่านั้นเอง
คำพูดลักษณะเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นคนโหดอันดับหนึ่งก็เคยพูดเอาไว้ เพียงแต่ไม่มีใครไปถือเอาเป็นเรื่องจริงจัง เวลานี้ทุกคนจึงได้เข้าใจ คำพูดที่คนโหดอันดับหนึ่งเคยพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นความจริง เพียงแต่ตอนนั้น ผู้คนมีความรู้ตื้นเขิน ความรู้น้อยและโง่เขลา จึงเอาคำพูดที่เป็นความจริงของคนโหดอันดับหนึ่งมาคิดเอาเองว่าเป็นคำพุดที่อวดดี
สำหรับศิษย์ทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ยิ่งรู้สึกสิ้นหวังแล้ว แม้ว่าพลังสัจธรรมทั้งหมดของพวกเขา และธาตุแท้ภายในของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกปลุกเสกให้ไปอยู่บนตัวของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้วก็ตาม ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนยังคงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่ทุกคนต่างสิ้นหวังอยู่นั้น เห็นเพียงท่ามกลางหมอกเลือดมีลัคนาเคลื่อนไหวอยู่ สุดท้ายหมอกเลือดได้จับตัวเข้าด้วยกัน ได้ยินเสียงปุดังขึ้น ร่างเงาของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนปรากฎขึ้นมา ในเวลานี้เอง เสมือนดั่งกาลเวลาไหลย้อนกลับอย่างนั้น ร่างกายของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนได้สร้างขึ้นมาใหม่ ลมปราณรวมและจับตัวเข้าด้วยกัน ภายในระยะเวลาอันสั้น ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนก็ได้ปรากฎตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้ง
หลี่ชิเย่ไม่ได้ทำการขัดขวางสำหรับขั้นตอนหลอมสร้างขึ้นมาใหม่นี้ เพียงยืนอยู่ข้างๆ ท่าทางผ่อนคลายและตามอารมณ์ ไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อยนิด
“ราชันแท้จริงย่อมเป็นราชันแท้จริง แบบนี้ก็ยังไม่ตาย” ผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกโล่งอกที่ได้เห็นราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทำการสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ ถึงกับทอดถอนใจขึ้นมา
เปรียบกับเทพแท้จริงขั้นอมตะแล้ว สิ่งนี้ก็จะเป็นข้อได้เปรียบของราชันแท้จริง กล่าวได้ว่า หากประสบกับการบาดเจ็บสาหัสที่เหมือนๆ กัน แม้ว่ากำลังความสามารถจะพอๆ กัน เทพแท้จริงขั้นอมตะอาจจะหายวับไปกับตาในพริบตา ขณะที่ราชันแท้จริงกลับสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างทรหด
ปุเสียงหนึ่งดังขึ้น ในเวลานี้เอง เนื้อบดที่อยู่บนพื้นดินคล้ายดั่งถูกแยกออกมา มองเห็นประกายที่แยกตัวออกมาจากเนื้อบดกองนั้น ตามติดด้วยการรวมตัวกันของประกายนั่น เสมือนดั่งได้รวบรวมเอา พลังฟ้าดิน พลังสัจธรรมที่ไม่มีสิ้นสุดเข้าด้วยกัน ได้ยินเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา นาทีนี้ มองเห็นกายเนื้อของนักพรตไป๋ยื่อก็เริ่มมีการสร้างขึ้นมาใหม่เช่นกัน
เมื่อเปรียบเทียบกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนแล้ว ขั้นตอนการสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ของนักพรตไป๋ยื่อช้ากว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยนอยู่มากทีเดียว สามารถมองออกได้ว่า แม้กำลังความสามารถของนักพรตไป๋ยื่อจะแข็งแกร่งกว่าราชันแท้จริงมู่เจี้ยน แต่ว่าหากจะพูดถึงระดับการมีชีวิตรอดแล้ว ดูเหมือนราชันแท้จริงมู่เจี้ยนจะมีความทรหดยิ่งกว่านักพรตไป๋ยื่อ
สุดท้าย ภายในระยะเวลาอันสั้น คนหนึ่งที่ถูกโจมตีจนกลายเป็นหมอกเลือดอย่างราชันแท้จริงมู่เจี้ยน อีกคนหนึ่งที่กลายเป็นเนื้อบดอย่างนักพรตไป๋ยื่อ พวกเขาทั้งสองคนก็ได้กลายเป็นตัวเป็นๆ ที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าของผู้คนบนโลกอีกแล้ว
ทุกคนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อมองเห็นนักพรตไป๋ยื่อกับราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทั้งสองคนได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ยอดฝีมือถึงกับพูดขึ้นมาว่า “นี่ถือเป็นความโชคดีที่พวกเขาแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นๆ คงตายไปนานแล้ว ไหนเลยจะมีโอกาสได้สร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่”
ในขณะนี้ แม้ว่านักพรตไป๋ยื่อและราชันแท้จริงมู่เจี้ยนทั้งสองคนจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าพวกเขาจะได้สร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่ แต่ว่า ในเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนมีใบหน้าที่ขาวซีด
สิ่งนี้นอกเหนือจากที่พวกเขาได้สูญเสียลมปรานไปมาหาศาลในขั้นตอนของการสร้างกายเนื้อขึ้นใหม่แล้ว ยังมีอีกหนึ่งสาเหตุ พวกเขารู้สึกกลัวสุดขีดแล้วอย่างแท้จริง พูดคำพูดที่ไม่น่าฟังก็คือ พวกเขาต่างก็ถูกคนโหดอันดับหนึ่งทำให้ขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว
พวกเขาที่แข็งแกร่งถึงขั้นนี้แล้ว ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ กระทั่งไม่สามารถรับมือกับการโจมตีเพียงครั้งเดียวของหลี่ชิเย่เอาไว้ได้ หลี่ชิเย่ได้คงเงาทมิฬที่น่ากลัวไว้ในใจของพวกเขา ทำให้ในใจของพวกเขาบังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา
“เอาล่ะ เรื่องๆ หนึ่งไม่ควรทำซ้ำเกินกว่าสามครั้ง” หลี่ชิเย่ทำท่าหาวทีหนึ่งและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “สู้กันไปสู้กันมา ข้ารู้สึกว่าสิ่งที่พวกเจ้าบอกว่าเป็นธาตุแท้ภายใน เป็นท่าไม้ตายอะไร มันก็เท่านี้เอง พวกเจ้าเองก็ไม่มีกำลังหนุน ข้าว่านะ ไม่มีความจำเป็นต้องรอต่อไปอีก ควรได้เวลาที่จะสังหารพวกเจ้าได้แล้ว และได้เวลาที่ตระกูลมู่ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาแล้ว”
สีหน้าของราชันแท้จริงมู่เจี้ยนและนักพรตไป๋ยื่อต่างซีดเผือด ความจริงแล้วในเวลานี้ใช่เพียงพวกเขาสองคนที่มีสีหน้าซีดเผือด ศิษย์ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิตระกูลมู่ทั้งหมดก็มีสีหน้าที่ขาวซีด ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนนอนอยู่กับพื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง
นาทีนี้ ศิษย์ทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจระกูลมู่ก็ตระหนักได้ว่า วันตายของพวกเขาได้มาถึงแล้ว มาวันนี้ตระกูลมู่ของพวกเขาถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าต้องหายวับไปกับตาในพริบตาแล้ว
เวลานี้ ฟ้าดินกลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก ทุกคนสามารถเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความสิ้นหวังแบบนั้นของตระกูลมู่ รู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนเองกำลังจะหายวับไปกับตาในพริบตาแล้ว แต่ว่า ตนเองกลับไม่สามารถทำอะไรได้ ต่อให้คิดอยากจะทำก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ได้แต่มองตาปริบๆ กับภัยพิบัติที่มาถึง ได้แต่มองตาปริบๆ เห็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของตนหายวับไปกับตาในพริบตาเดียว นี่แหละคือเรื่องที่สิ้นหวังมากที่สุด
“หลอมรวม” เวลานี้ นักพรตไป๋ยื่อจ้องมองไปที่ราชันแท้จริงมู่เจี้ยน และเอ่ยขึ้นช้าๆ
“ตกลง หลอมรวม” ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกัดฟัน พยักหน้าอย่างหนักแน่น ถึงต้องแลกด้วยค่าตอบแทนเท่าไรเขาก็ยอมแล้ว ไหนๆ ก็ต้องตายอยู่แล้ว ในเวลานี้กล่าวสำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิธีอะไร ขอเพียงสามารถช่วยตระกูลมู่ของพวกเขาได้ เขาก็ยินดีเข้าแลก ไม่เสียดายจะต้องแลกด้วยค่าตอบแทนเท่าไร
“ดูไปแล้ว พวกเจ้ายังมีวิธีการที่ยังไม่ได้นำออกมาใช้แล้วสิ?” หลี่ชิเย่จ้องมองพวกเขาทีหนึ่ง หัวเราะและกล่าวว่า “คนอย่างข้าในกว้างตลอดมา ไปเถอะ ยังมีวิธีการอะไรไปเอาออกมาให้หมด ข้ารออยู่ คนอย่างข้าชอบทำลายท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของคนอื่นอย่างนี้แหละ จากนั้นมองดูท่าทางที่สิ้นหวังของพวกเขา”
ในเวลานี้ ทั้งนักพรตไป๋ยื่อและราชันแท้จริงมู่เจี้ยนมองตากันและกันทีหนึ่ง ราชันแท้จริงมู่เจี้ยนกัดฟัน ล่าถอยกลับเข้าไปยังตระกูลมู่อย่างรวดเร็ว โดยมีนักพรตไป๋ยื่อคอยระวังหลัง และติดตามล่าถอยเข้าไปในตระกูลมู่เช่นกัน
สำหรับการล่าถอยกลับเข้าไปยังตระกูลมู่ในพริบตาเดียวของทั้งสองคนนั้น หลี่ชิเย่เองไม่ได้ตามฆ่า ยังคงยืนอยู่ที่ตรงนั้นด้วยท่าทางสบายอกสบายใจและสงบนิ่ง
“ยังจะมีท่าไม้ตายอะไรไม่ได้นำออกมาเล่า?” ผู้คนทั่วหล้าต่างมองตากันและกันทีหนึ่ง เมื่อเห็นนักพรตไป๋ยื่อและราชันแท้จริงมู่เจี้ยนต่างล่าถอยเข้าไปในตระกูลมู่ซึ่งกันและกัน
ภายใต้พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ภายใต้ปราศจากผู้ต่อกรเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ทุกคนยังนึกไม่ออกว่าตระกูลมู่ยังจะมีวิธีการอะไรจะมาต่อต้านคนโหดอันดับหนึ่งได้อีก
……………………………………………