Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ
ตอนที่ 2710 น่ากลัวสุดๆ
ในขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ระเบิดแตกออกนั้น ตัวของหลี่ชิเย่ก็ได้ร่วงหล่นลงไปในแดนลัทธิเซียน ได้ยินเสียงปังที่ดั่งสนั่น ร่างของหลี่ชิเย่กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรง
จังหวะที่หลี่ชิเย่กระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรงนั้น ได้พุ่งชนจนหินแตกละเอียด เลือดสดๆ แตกกระจาย
“ตาเฒ่า ทำไมเจ้ากับข้าจึงยังคงมีวาสนาต่อกันอีกเล่า” หลังจากพุ่งชนกับพื้นดินแล้วหลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะเจื่อนๆ จากนั้นเหมือนสลบเหมือดไป
ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่หาได้สลบไปอย่างแท้จริง แต่เขาได้นำเอาจิตเทพที่มีอยู่ทั้งหมดทำการแยกออกจากร่างกาย จิตเทพทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกนำไปไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร กล่าวได้ว่าเป็นการทุ่มสุดกำลังความสามารถแล้ว
ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ ปรากฏประกายศักดิ์สิทธิ์สาดส่องสว่างไสว นี่คืออาณาจักรที่มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ณ ที่ตรงนี้ไม่มีที่ใดที่ไม่มีประกายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นภูเขาแม่น้ำฟ้าดิน ทุกตารางนิ้วล้วนแล้วแต่กลับกลายมาจากประกายศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น
ที่ตรงนี้คืออาณาจักรที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ที่ตรงนี้ ความมืดดำใดๆ ก็ไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ล้วนแล้วแต่ถูกพลังที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดทำลาย
แต่ทว่า ท่ามกลางอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์นี้กลับมีเปลวเพลิงมารที่ดั่งคลื่นยักษ์ ความมืดดำดั่งน้ำขึ้นน้ำลงที่บ้าคลั่งโหมสาดซัดใส่อาณาจักรแห่งนี้ ความมืดดำได้ทะลักออกมาอย่างแรงครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องการซัดอาณาจักรนี้ให้แตกอย่างนั้น
เสียงตูม ตูม ตูมดังตูมตามขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ในเวลานี้เอง เห็นเพียงความมืดดำเสมือนดั่งเป็นคลื่นที่น่ากลัวโหมสาดซัดที่ซัดเข้าใส่อาณาจักรแห่งนี้ ความมืดดำที่บ้าคลั่งพุ่งปะทะเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ต้องการโจมตีอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์ให้แตกละเอียดทั้งอาณาจักร
แต่ว่า จากการที่ความมืดดำบ้าคลั่งนี้พุ่งปะทะขึ้นไปบนท้องฟ้าครั้งแล้วครั้งเล่า และยิงถล่มขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่านั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ยิ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม มองเห็นประกายศักดิ์สิทธิ์บนท้องฟ้านับไม่ถ้วนเสมือนดั่งมหาสมุทรที่เทราดลงมา และบนผืนแผ่นดินยังมีประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ทะลักขึ้นมา ปรากฎแสงศักดิ์สิทธิ์พวยพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินทุกๆ ตารางนิ้ว พวยพุ่งขึ้นมาประดุจดั่งน้ำพุ มีความเข้มข้นยิ่งนัก
อีกทั้งช่องว่างทุกๆ ตารางนิ้วล้วนแล้วแต่มีกฎเกณฑ์และอักขระยันต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ลอยล่อง ล้วนแล้วแต่ กำลังหลอมกลั่นความมืดดำที่บ้าคลั่งอยู่
แน่นอน ความมืดดำบ้าคลั่งนั่นก็หาใช่เป็นผู้อ่อนแอ กระทั่วกล่าวได้ว่าตัวเขาคือผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล ภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวและพาลของประกายศักดิ์สิทธิ์ ความมืดดำที่บ้าคลั่งยังคงส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ยิงถล่มครั้งแล้วครั้งเล่าใส่ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาปราบปรามทำลาย พลังของมันนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าประกายศักดิ์สิทธิ์เลยแม้แต่น้อย
ความมืดดำมีความเข้มข้นอย่างยิ่ง เข้มดั่งหมึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณศูนย์กลางยิ่งมีความเข้มข้นจนไม่สามารถทำให้เจือจางได้ ดูเหมือนไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างใดๆ ก็ตาม เมื่อใดที่ถูกมันจับได้ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถหนีรอดไปได้ และจะถูกทำลายในพริบตาเดียว
ท่ามกลางอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ ณ บริเวณใจกลางความมืดที่มืดดำมากที่สุด ประกายศักดิ์สิทธ์ยังคงไม่สามารถบุกโจมตีเข้าไป ยังคงทำได้แค่บดขยี้ทำลายทีละนิดๆ มีเพียงบดขยี้ทำลายความมืดดำที่อยู่รอบนอกให้หมด จึงสามารถบุกโจมตีเข้าไปยังใจกลางความมืดดำได้อย่างแท้จริง
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ถ้าหากสามารถเปิดเนตรสว่างขึ้นมาได้ล่ะก็ ท่ามกลางความมืดดำนั้นยังคงสามารถมองเห็นบริเวณใจกลางความมืดดำที่ดำจนมองอะไรไม่เห็นนั้น มีสิ่งที่ใหญ่โตมโหฬารอยู่ตัวหนึ่งลางๆ มันคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาล ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรตลอดกาลตัวนี้ได้ถูกพันธนาการไว้อย่างแน่นหนาอยู่ตรงนั้นด้วยกฎเกณฑ์สิบสองข้อ และมีสามวังวนที่ทำการสยบมันเอาไว้ ทำให้มันไม่สามารถหนีรอดไปได้
แม้ว่าผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่น่ากลัวมากที่สุดจะถูกพันธนาการอยู่ที่ตรงนั้น แต่ว่า พลังความมืดดำของมันยังคงยิงถล่มเข้าใส่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ต้องการ โจมตีอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์นี้ให้แตก ต้องการตีแตกจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่
ดังนั้น ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวปราศจากผู้ต่อกรสูงสุดจึงได้ทำการยิงถล่มใส่อาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างบ้าคลั่ง สั่นคลอนอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มันต้องการสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ มันต้องการตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ให้แตกพ่าย
บางครั้งก็จะได้ยินเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดที่ดังขึ้นมา ความมืดดำได้วิวัฒนาการคำสาปที่ชั่วร้ายยิ่ง หวังรุกและกัดกร่อนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ แต่ว่า มันไม่มีประโยชน์ ขอเพียงความมืดดำเข้ารุกรานและกัดกร่อนก็จะถูกประกายศักดิ์สิทธิ์ของหลี่ชิเย่หลอมกลั่นไปสิ้น
ปัง ปัง ปังเสียงโจมตีดังขึ้นมาไม่ขาดสาย แต่ว่า ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่
ในโลกนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถแข็งแกร่งยิ่งกว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้อีกแล้ว ดังนั้น ด้วยเหตุนี้เอง หลี่ชิเย่จึงได้ล่อให้ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวถึงเพียงนี้ให้เข้าไปติดกับ ด้วยการนำเอากฎเกณฑ์ชั่วร้ายที่ความดำมืดที่น่ากลัวทิ้งเอาไว้เป็นเหยื่อล่อเก็บเอาไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร เมื่อความมืดดำที่น่ากลัวต้องการรุกรานเข้าร่างกาของหลี่ชิเย่ ต้องการยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่มาเป็นของตนนั้น
พลันหลงกลของหลี่ชิเย่เข้าให้ และจัดการพันธนาการผู้ยิ่งใหญ่ชั่วร้ายเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนั่นในทันที
บางที ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดก็รู้ว่าหลี่ชิเย่ได้วางหลุมพรางเอาไว้ รู้ว่าหลี่ชิเย่ต้องการล่อให้ติดกับดัก แต่ว่า เขายังคงลุยเข้าไปภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่
ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้นับว่าแข็งแกร่งมากเหลือเกิน เขาคือผู้ที่สามารถกวาดผู้ที่เป็นปฐมบรรพบุรุษในหล้าจนราบคาบได้ โดยที่ปฐมบรรพบุรุษหาใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่แล้ว เขาคือผู้ที่ปราศจากผู้ต่อกรอย่างแท้จริง ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในหล้านั้น ในสายตาของเขาเป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น
ด้วยเหตุที่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน และเขาก็ถือดีมากเกินไป มีความมั่นใจเพียงพอในกำลังความสามารถของตน และเขาคิดยึดครองจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ เขาจำเป็นต้องทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ มีเพียงวิธีนี้จึงสามารถหลอมกลั่นหลี่ชิเย่ให้กลายเป็นของตนเองได้อย่างแท้จริง
เสียดาย มาคราวนี้ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้ไม่เพียงแต่ไม่สามารถยึดครองร่างกายของหลี่ชิเย่ได้ โจมตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่จนแตกพ่าย ตรงกันข้ามกลับถูกหลี่ชิเย่กักขังเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ยิ่งกว่านั้นยังถูกพันธนาการเอาไว้ด้วยชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์
การที่ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดผู้นี้มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน หลี่ชิเย่จึงได้จัดการให้มันไปคุมขังเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร เนื่องจากในโลกนี้ หากจะมีวิธีการที่สามารถสยบและพันธนาการเขา บดขยี้ทำลายเขาได้อย่างแท้จริงล่ะก็ คงมีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งไม่หวั่นไหวของหลี่ชิเย่เท่านั้น
“ข้านี่แหละจะทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้า ยึดครองร่างกายของเจ้า” ในเวลานี้ภายในความมืดปรากฎเสียงคำรามด้วยความโกรธดังขึ้น ท่ามกลางความมืด แม้ว่าไม่สามารถมองเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุด แต่สามารถมองเห็นลางๆ ว่ามันมีเขาขนาดยักษ์ผู่คู่หนึ่ง
“เกรงว่า เจ้าไม่มีโอกาสเช่นนี้ตลอดไปแล้วล่ะ” ร่างเงาของหลี่ชิเย่ลอยล่องอยู่ในอาณาจักรที่สว่างไสว นี่คือจิตเทพของหลี่ชิเย่ จิตเทพทั้งหมดของเขาล้วนแล้วแต่อยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา เนื่องจากผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดนี้มีความแข็งแกร่งมากเหลือเกินเมื่อเปรียบเทียบกับศัตรูที่เขาเคยพบเจอมาทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงต้องทุ่มเทเต็มความสามารถ มิฉะนั้นล่ะก็ จะไม่สามารถทำลายมันได้อยู่แล้ว
“เจ้าหาใช่อริยะบุคคล ความสว่างไม่สามารถเป็นนิรันดร์” ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวท่ามกลางความมืดพูดเป็นภาษาโบราณขึ้นมา ภาษาโบราณลักษณะเช่นนี้มีความโบราณมากจนไม่สามารถไล่ย้อนกลับไปได้อีก กระทั่งมีความโบราณมากกว่าอาณาจักรใดๆ
แต่ว่า พวกเขาที่ก้าวมาจนถึงระดับนี้แล้ว ไม่ว่าจะสื่อสารด้วยภาษาใดๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา จิตเทพสามารถเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างได้
“เจ้าสมควรเข้าใจ จะเป็นสว่างไสวก็ดี ความมืดก็ช่าง นั่นมันก็เป็นรูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง มีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แปรผันจึงสามารถคงอยู่เป็นนิรันดร์” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยและกล่าวว่า “ข้านึกถึงความศักดิ์สิทธิ์แวบหนึ่ง บนโลกก็จะมีความสว่างไสว ข้านึกถึงความชั่วร้ายแวบหนึ่ง บนโลกก็จะมีความมืดดำ ผู้ช่วยเหลือโลกกับจอมมารมันก็เป็นเพียงความคิดแวบเดียวเท่านั้น”
เมื่อคำๆ นี้ถูกพูดออกมา ทำให้ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำต้องนิ่งเงียบ ระดับอย่างพวกเขาย่อมเข้าใจในสิ่งนี้
“หากข้าอยู่ในช่วงรุ่งเรืองเต็มที่ ต้องทำลายจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้า ยึดครองร่างกายของเจ้า กลืนกินอาณาจักรทั้งอาณาจักรได้แน่” สุดท้าย ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดมิดเปล่งถ้อยวาจาเป็นภาษาโบราณขึ้นมา เย็นชาไร้ซึ่งความปราณี
ผู้ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดไม่ได้คุยโตโอ้อวดแต่อย่างใด คำพูดที่พูดออกมาอย่างน่ากรงขาม เพียงพอทำให้ราชันแท้จริงใดๆ กระทั่งปฐมบรรพบุรุษต้องขวัญหนีดีฝ่อ
“ไม่ปฏิเสธว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งจนเรียกว่ายอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียม ไม่ว่าจะเป็นความมืดดำอะไร เป็นปฐมบรรพบุรุษอะไรก็ตาม ล้วนแล้วแต่เทียบไม่ได้กับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “แต่ว่า คนอื่นจำไม่ได้ แต่ เจ้าสมควรจำได้ สิ่งที่พันธนาการอยู่บนตัวเจ้าคือชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์”
“ถ้าหากเจ้าสามารถดิ้นจนชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ขาดได้ ข้าคงต้องยอมแล้ว” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถดิ้นหลุดไปได้ เกรงว่าพวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยสรรค์ที่อยู่สูงเด่นนั้นคอยแอบดูหรอกนะ และพวกเจ้าก็คงไม่ลักลอบเข้ามาถึงนี่”
“สวรรค์โจรที่น่าเกลียดนัก!” ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะน่ากลัวสูงสุดด่าทอขึ้นมา
“เป็นความจริงที่สวรรค์โจรเป็นพวกชั้นต่ำ” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะและกล่าวว่า “บางครั้งคิดๆ ดูแล้วก็อยากจะยกเท้ากระทืบลงบนใบหน้าของสวรรค์โจรที่เป็นพวกชั้นต่ำอย่างแรง แต่ว่า สำหรับเรื่องนี้ข้ารู้สึกว่าสวรรค์โจรทำได้ดีมาก ถ้าหากกล่าวว่าสวรรค์โจรเป็นคนชั้นต่ำ เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าก็คือพวกสารเลว!”
ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา ความมืดดำนับไม่ถ้วนได้โจมตีเข้ามา ท่ามกลางเสียงตูม ตูม ตูมที่ดังขึ้น อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์สั่นไหวโคลงเคลงทีหนึ่ง แต่ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนต่ออาณาจักรแห่งนี้ และไม่สามารถตีอาณาจักรนี้ให้แตก
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่สยบและบดขยี้พลังความมืดดำของเขาเท่านั้น ชะตาดั้งเดิมโลกดึกดำบรรพ์ก็พันธนาการบนตัวเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา ทำให้เขาไม่สามารถทำลายได้อยู่แล้ว
“ข้ารู้สึกว่า พวกเรายังคงนั่งลงมาพูดคุยกันดีๆ จะดีกว่า” หลี่ชิเย่ควบคุมจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนเอาไว้ เขาคือผู้บงการสูงสุดในอาณาจักรที่ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การสยบและควบคุมของเขา แม้แต่ผู้อยูในฐานะน่ากลัวที่สุดก็ถูกสยบด้วยเช่นกัน
“ถ้าหากเจ้าสามารถพูดคุยกับข้าแต่โดยดี ไม่แน่นักในอนาคตผู้คนใต้หล้าอาจสร้างเป็นอนุสาวรีย์คุณธรรมอะไรเทือกนั้นกับเจ้า” หลี่ชิเย่กล่าวและยิ้มเรียบเฉยขึ้นมา
“แหะ แหะเจ้ายังคงนึกถึงตัวเองจะดีกว่า อนาคตเจ้าจะต้องตายอย่างน่าเวทนามากๆ อยู่แล้ว” ผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางความมืดดำหัวเราะเสียงดังขึ้นมา และกล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าคิดว่าสามารถสยบและพันธนาการเอาไว้ก็คือผู้ไร้ซึ่งผู้ต่อกร ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ผิดแล้ว บนนั้นยังคงมีสิ่งที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าข้าอยู่”
“เรื่องนี้ข้ารู้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเรียบเฉยว่า “ขณะอยู่ที่เงินทองตกพื้น ข้าได้แลกเปลี่ยนกับดวงตาข้างนั้นเกี่ยวกับสภาพของพวกเจ้า ข้ารู้มาไม่น้อยทีเดียว”
“ฮึ พวกเขาก็แค่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ เท่านั้นเอง” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำพูดออกมาเป็นภาษาโบราณว่า “ยิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งบำรุง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรยิ่งแกร่งก็ยิ่งโอชะ เจ้าต้องกลายเป็นชิ้นเนื้อหวานมันอย่างแน่นอน!”
“รอให้พวกเขาสามารถกินข้าให้ได้ก่อนค่อยมาว่ากัน” หลี่ชิเย่ไม่ใส่ใจ และหลี่ชิเย่ “แต่ทว่า พวกเราสามารถนั่งลงแล้วคุยกันถึงสถานการณ์ของเจ้า คนอย่างข้าความต้องการไม่สูง ขอเพียงเจ้าเปิดอกพูดออกมา ข้ายินดีรับฟังอย่างยิ่ง ข้าเป็นผู้ฟังที่ดีมากคนหนึ่ง”
“เจ้าเลิกล้มความตั้งใจนี้เสีย” ผู้ดำรงอยู่ในฐานะความน่ากลัวสูงสุดท่ามกลางความมืดดำพูดออกมาเป็นคำพูดโบราณ และกล่าวว่า “ข้านี่แหละผ่านประสบการณ์มากกว่าเจ้า ผ่านกาลเวลาทุกข์ทรมานดึกดำบรรพ์มากกว่าเจ้า”
“เรื่องนี้ข้ารู้ และข้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าเหนือความคาดคิด เป็นความจริงที่เจ้าจะไม่ประนีประนอม ยอมจำนนอยู่แล้ว แต่ว่า ไม่มีปัญหา ข้าจะค่อยๆ บดขยี้เจ้าอย่างช้าๆ บดทำลายไปจนถึงจิตเทพของเจ้าเหลือเพียงจิตเทพเส้นสุดท้าย ถึงเวลานั้น ข้าจะจัดการรีดทุกกสิ่งทุกอย่างของเจ้าจนแห้ง!”
………………………………………………….