Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2755 บดขยี้สังหาร
ตอนที่ 2755 บดขยี้สังหาร
บรรดาระดับบรรพบุรุษบางส่วนที่อยู่ด้านนอกลานประลองถึงกับส่ายหน้า รู้สึกเสียดาย “เจ้าเด็กน้อยคนนี้นับว่าเป็นต้นกล้าที่ดี เสียดาย”
ในสายตาของผู้คนจำนวนมากมองว่า มาคราวนี้พวกของกัวเจียหุ้ยจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าหลี่ชิเย่จะเป็นปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจง แต่ว่าเวลานี้เขาตกอยู่ภายใต้การสยบและปราบจากหัวหน้าสาขาธงเพลิง เป็นไปไม่สได้ที่จะลงมือช่วยเหลือพวกของกัวเจียหุ้ยได้อยู่แล้ว กระทั่งแม้แต่ตัวเองก็เอาตัวไม่รอด
“อาศัยกำลังของคนเพียงคนเดียวไม่สามารถสั่นคลอนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางได้อยู่แล้ว การเป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางเป็นการกระทำที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย เป็นการรนหาที่ตายเอง ลากเอาสำนักของตนตกสู่เหวลึกที่ไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาได้อีกเลย” มียอดฝีมือจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าการกระทำของหลี่ชิเย่นั้นไม่ฉลาดเลย
ในสายตาของพวกเขามองว่า หลี่ชิเย่คนนี้ที่เป็นถึงปรมาจารย์ของนิกายหู้ซานจงจะแข็งแก่งไปได้สักแค่ไหนเชียว ต่อให้แข็งแกร่งเช่นใดก็มีขีดจำกัด กระทั่งมีความเป็นไปได้ว่าแม้แต่หัวหน้าสาขาธงเพลิงก็ยังไม่เท่าด้วยซ้ำ
จังหวะที่ทุกคนต่างเข้าใจว่าพวกของกัวเจียหุ้ยจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยนั้น เห็นเพียงหลี่ชิเย่ที่ชี้นิ้วไปตามอารมณ์เท่านั้น ได้ยินเสียงปุดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ยอดฝีมือทั้งหมดของสาขาธงเพลิงถูกสังหารจนสิ้น
ท่ามกลางเสียงปุที่ดังขึ้นนี้ มองเห็นชายฉกรรจ์ท่าท่าทะมัดทะแมงเหล่านี้พลันถูกพลังสะเทือนจนกลายเป็นหมอกเลือดไป ดาบยาวและกระบี่คมกริบของพวกเขาถูกยิงจนแหลกละเอียดกลายเป็นผง
ยอดฝีมือของสาขาธงเพลิงหลายสิบคนยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตา พวกเขาไม่มีโอกาสรับรู้ถึงความรู้สึกก่อนตายก็ถูกสยบและสังหารจนกลายเป็นหมอกเลือดไป เรียกได้ว่าความตายมาเยือนได้รวดเร็วเหลือเกินไม่ทันได้ตั้งตัว พวกเขาไม่ได้มีการเตรียมตัวเตรียมใจใดๆ มาก่อน
ได้ยินเสียงปังดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ในขณะที่หลี่ชิเย่ชี้นิ้วออกไปตามอารมณ์นั้น การโจมตีของหัวหน้าสาขาธงเพลิงก็ได้ฟาดฟันเข้าใส่ตัวของหลี่ชิเย่อย่างแรง ภายใต้เสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหวนี้ ไม่ได้มีภาพของหลี่ชิเย่ที่ถูกฟันจนขาดสองท่อน และหรือกลายเป็นฝนเลือดอะไรดั่งที่จินตนาการเอาไว้
หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ล้อเลื่อนยังคงตั้งโดดเด่นไม่มีการเคลื่อนไหว ตรงกันข้าม หัวหน้าสาขาธงเพลิงกลับถูกพลังจาการฟาดฟันครั้งนี้กระแทกจนต้องก้าวถอยหลังตึง ตึง ตึงติดต่อหลายก้าว
“นี่มัน…” บรรดาผู้ที่อยู่ด้านนอกลานประลองต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้เห็นภาพนี้ เวลานี้พวกเขาอ้าปากกว้างจนไม่สามารถเรียกสติกลับมา
หัวหน้าสาขาธงเพลิงหาใช่ผู้อ่อนแออะไร ในฐานะที่เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ชั้นที่ห้า ทุกคนย่อมรู้ดีแก่ใจว่าเขามีกำลังความสามารถที่แข็งแกร่งเช่นใด จะอย่างไรเสีย ลำดับชั้นพลังของเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์นั้นเป็นเรื่องที่มีความชัดเจนยิ่งอยู่แล้ว
แต่ว่า ธงของหัวหน้าสาขาธงเพลิงที่ฟาดฟันลงบนตัวของหลี่ชิเย่อย่างแรงนั้น กลับไม่ได้มีภาพของเศษเนื้อที่ปลิวว่อน เมื่อหลี่ชิเย่ถูกธงที่ประดับประดาด้วยพู่ฟาดเข้าให้อย่างเต็มที่ ที่น่ากลัวก็คือเขากลับไม่ได้บาดเจ็บเสียหายแม้แต่น้อย นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นเมื่อรูปแกะสลัก อย่าว่าแต่ได้รับบาดเจ็บเลย แม้แต่เส้นขนสักเส้นก็ยังไม่ได้รับความเสียหาย
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร…” มองเห็นหลี่ชิเย่ที่ถูกธงที่ประดับประดาด้วยพู่ฟาดเข้าให้กลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย เหมือนว่าร่างกายของเขาคือสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกอย่างนั้น ทำให้ผู้คนทั้งหมดล้วนแล้วแต่ไม่อยากจะเชื่อ และมองดูจนตาค้างพูดอะไรไม่ออก
“เป็นไปไม่ได้…” หัวหน้าสาขาธงเพลิงที่ถูกพลังกระแทกจนก้าวถอยหลังตึง ตึง ตึงติดต่อกันหลายก้าวร้องเสียงดังขึ้นมา มองดูธงที่ประดับประดาด้วยพู่ในมือด้วยสัญชาตญาณทีหนึ่ง เขายังเข้าใจว่าเป็นเพราะธงวิเศษของตนมีปัญหา
แต่ว่า เมื่อธงวิเศษของเขายังคงมีประกายวิเศษวูบวาบ ธงนี้ของเขาได้ฟาดถูกร่างกายของหลี่ชิเย่อย่างแน่นอนไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ เด็ดขาด
ทว่า หลี่ชิเย่กลับยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่มีการเคลื่อนไหว เมื่อถูกธงวิเศษของเขาฟาดเข้าให้อย่างแรงถึงเพียงนี้ ทำให้เข้าสะดุ้งในใจขึ้นมาอย่างแรง และรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
มีรึที่หัวหน้าสาขาธงเพลิงจะไม่รู้ว่า การโจมตีในครั้งนี้ของเขาสามารถตัดภูเขาและแม่น้ำจนขาดสองท่อนได้ ต่อให้เป็นระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ก็คงมีไม่กี่คนที่กล้าอาศัยกายเนื้อมารับเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย สมควรทราบว่า ธงวิเศษที่อยู่ในมือของเขานับเป็นของวิเศษที่ยอดเยี่ยมมาก มีอานุภาพที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด
แต่ว่า เมื่อฟาดลงบนตัวของหลี่ชิเย่อย่างแรง กลับไม่สามารถทำอะไรหลี่ชิเย่ได้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหลือเกิน
“เจ้า เจ้าเป็นใคร…” ในเวลานี้หัวหน้าสาขาธงเพลิงรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง ถึงกับก้าวถอยหลังไปหลายก้าว สีหน้าของเขาในเวลานี้เปลี่ยนไปมากทีเดียว ในพริบตาเดียวนี้เอง เขาตระหนักได้ว่าตนเองได้เจอะเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าตนแล้ว
“คนโหดอันดับหนึ่ง” หลี่ชิเย่พูดเรียบเฉยโดยไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตา ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่ได้มองดูเขาสักครั้งด้วยซ้ำ
“หนี…” ในเวลานี้เอง หัวหน้าสาขาธงเพลิงรู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว ตระหนักได้ทันทีว่าอาศัยกำลังของตนเพียงคนเดียวไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่ จึงรีบร้องบอกโจวจือฉิงเสียงดัง
ขณะเดียวกัน ตัวของหัวหน้าสาขาธงเพลิงหันหลังหนีไปทันที เนื่องจากเขารู้ว่าเวลานี้หากเขายังไม่หนีล่ะก็ เกรงว่าชีวิตจะตกอยู่ในอันตราย
“ในเมื่อมาแล้วก็อยู่ที่นี่ต่อไป” หลี่ชิเย่ยิ้มจางๆ ยืนมือขนาดใหญ่ออกไปคว้าตัวหัวหน้าสาขาธงเพลิง
สำหรับโจวจือฉิงนั้น พลังวัตรของนางยิ่งต่ำกว่ามาก พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ไม่จำเป็นต้องให้หลี่ชิเย่ลงมือ นางก็ถูกสยบอยู่ตรงนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
“เปิด…” หัวหน้าสาขาธงเพลิงรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงร้องเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับธงวิเศษในมือที่โบกอย่างบ้าคลั่ง ทันใดนั้นปรากฏเป็นธงที่ประดับด้วยพู่จำนวนมากมาย เสมือนดั่งกองทัพเป็นหมื่นเป็นพัน และเหมือนจักรวานที่โบกสะบัด หมื่นอาณาจักรที่บดขยี้มาถึง
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น แม้ว่าหัวหน้าสาขาธงเพลิงจะทุ่มเต็มที่ จนร่างของเขาเสมือนหนึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีประกายเพลิงพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง แต่ว่า ภายใต้มือขนาดยักษ์ของหลี่ชิเย่ล้วนแล้วแต่ไร้ประโยชน์ ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น ธงที่ประดับด้วยพู่จำนวนมากพลันแตกละเอียด ถูกบดขยี้จนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนนับไม่ถ้วน
ได้ยินเสียงกระดูกแตกละเอียดดังคร๊ากกกขึ้นมา หัวหน้าสาขาธงเพลิงที่เดิมทีคิดจะทิ้งโจวจือฉิงแล้วหลบหนีไปนั้น ถูกมือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ที่ยื่นเข้ามาคว้าจับตัวเอาไวได้ทันที
อ๊ากกก…เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น หัวหน้าสาขาธงเพลิงที่พยายามดิ้นรนอย่างไม่คิดชีวิตก็ไร้ประโยชน์ เมื่อถูกมือขนาดใหญ่จับตัวเอาไว้ในทันที มองเห็นมือขนาดใหญ่ที่หุบลง และเสียงกระดูกแตกละเอียดที่ดังคร๊ากกก หัวหน้าสาขาธงเพลิงถึงกับร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมา
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น หัวหน้าสาขาธงเพลิงที่เดิมทีต้องการหลบหนีไปนั้นถูกหลี่ชิเย่จับตัวมาอยูตรงหน้า ตัวเขาที่เคยได้รับการเชื่อมั่นจากทุกคนว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมาก เวลานี้เมื่ออยู่ในมือของหลี่ชิเย่แล้วเสมือนหนึ่งเป็นเพียงลูกไก่น้อยตัวหนึ่ง เพียงแค่มือขนาดใหญ่ของหลี่ชิเย่ออกแรงนิดเดียว ก็สามารถบีบเขาจนตายได้
“ปรมาจารย์คน คนนี้ออกจะแข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง ไม่แน่นักอาจเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ!” ยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ด้านนอกสนามประลองต่างรู้สึกหวั่นไหวในใจ แม้แต่บรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิก็อดที่จะรู้สึกสะท้านในใจไม่ได้ เมื่อพวกเขามองเห็นหลี่ชิเย่จับตัวหัวหน้าสาขาธงเพลิงตามอารมณ์ เหมือนจับตัวลูกไก่อย่างนั้น
หัวหน้าสาขาธงเพลิงคือระดับเทพแท้จริง ขั้นขึ้นสู่สวรรค์ชั้นที่ห้า การที่หลี่ชิเย่สามารถจับตัวเขาเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย กำลังความสามารถเช่นนี้ออกจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้เกรงว่าเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะ
“กี่ปีมาแล้วเนี่ย ในที่สุดนิกายหู้ซานจงนับว่าได้ปรากฎบุคคลที่นับว่าเป็นยอดฝีมือโผล่ขึ้นมาแล้ว กี่ปีมาแล้วที่นิกายหู้ซานจงใม่เคยปรากฎระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะมาแล้ว”
กล่าวสำหรับ ผู้บำเพ็ญตนทั่วไปแล้ว ระดับเทพแท้จริงก็คือยอดฝีมือ ขณะที่กล่าวสำหรับผู้บำเพ็ญตนที่เป็นยอดฝีมือนั้น ระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์จึงเป็นยอดฝีมือ และในสายตาของเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์ เกรงว่าต้องเป็นเทพแท้จริงขั้นอมตะจึงนับเป็นยอดฝีมือได้
ส่วนสายตาของเทพแท้จริงขั้นอมตะนั้น ผู้ที่ไม่สามารถก้าวถึงขั้นอมตะล้วนแล้วแต่เป็นมดปลวกทั้งสิ้น แน่นอน ในสายตาของพวกเขาแล้ว ชั้นคงความอมตะตลอดกาลก็เป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่พวกเขาเฝ้าปรารถนา
“เป็นคนต้องกล้าๆ หน่อย กล้าพนันก็ต้องกล้ายอมรับความพ่ายแพ้” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เป็นถึงสำนักเจ้าลัทธิ แม้แต่การต่อสู้ชี้ขาดก็ไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้ น่าอายเหลือเกิน และเสื่อมเสียชื่อเสียงของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมาร”
“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?” เมื่อหัวหน้าสาขาธงเพลิงถูกหลี่ชิเย่จับเอาไว้อยู่ในมือได้ตามอารมณ์จนกระดิกตัวไม่ได้ พลันทำให้เขารู้สึกได้ว่าชีวิตของตนอยู่ในกำมือหลี่ชิเย่เสียแล้ว โดยที่ตนเองนั้นคล้ายดั่งเจ้าลูกไก่น้อยที่อ่อนแอตัวหนึ่ง มือของหลี่ชิเย่เพียงออกแรงเพิ่มอีกนิด ก็สามารถบีบเขาจนตายได้
เรียกได้ว่าขณะที่ชีวิตของตนตกไปอยู่ในกำมือของผู้อื่นนั้น ความรู้สึกถึงความหวาดกลัวช่างเป็นจริงอะไรขนาดนั้น หัวหน้าสาขาธงเพลิงในเวลานี้ได้ถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อเสียแล้ว
สิ่งนี้จะไปหัวเราะเยาะว่าหัวหน้าสาขาธงเพลิงนั้นใจเสาะก็ไม่ถูก เกรงว่าไม่ว่าใครก็ตาม หากชีวิตของตนต้องตกอยู่ในกำมือของผู้อื่นนั้น ย่อมต้องถูกทำให้ขวัญหนีดีฝ่อได้เช่นกัน
“คิดทำอะไรรึ?” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “แน่นอน ย่อมจะเอาชีวิตของเจ้า”
“เจ้า เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามนะ” หัวหน้าสาขาธงเพลิงถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา และกล่าวว่า “แม้ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งมากกว่าข้า แต่ว่า ผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่าข้าในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางของพวกเรามีมากดั่งดอกเห็ด ถ้าหากเจ้าสังหารข้า ใต้หล้าจะไม่มีที่ให้เจ้าได้ยืน จะต้องถูกบรรพบุรุษทั้งหมดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลางไล่ล่า ถึงตอนนั้น แม้แต่นิกายหู้ซานจงของพวกเจ้าก็ต้องหายวับไปกับตาในพริบตาแน่นอน…”
เสียงปุ… เสียงหนึ่งดังขึ้น ขณะที่หัวหน้าสาขาธงเพลิงพูดยังไม่ทันจบ นิ้วมือทั้งห้าของหลี่ชิเย่หุบเข้าหา พลันบีบหัวหน้าสาขาธงเพลิงจนกลายเป็นหมอกเลือด มองเห็นหมอกเลือดที่ลอยวนเวียนอยู่ระหว่างนิ้วมือ สุดท้ายปลิวกระจายหายไปตามลม
“ข้ารออยู่” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง และกล่าวว่า “คนยิ่งมาก เวลาฆ่าจึงรับรู้ได้ ขณะที่บนท้องฟ้าปรากฏฝนเลือดที่โปรยปรายลงมา จึงจะแลดูงดงาม”
คำพูดนี้พูดออกมาได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งเรียกได้ว่า พูดได้งดงามดั่งบทกวี และภาพจิตรกรรมอะไรอย่างนั้น แต่ว่า เมื่อผู้คนจำนวนมากที่ได้ฟังคำเช่นนี้แล้ว ต่างอดที่จะสั่นเทาไม่ได้ ในพริบตาเดียวนั้นเอง พวกเขารู้สึกเหมือนได้กลิ่นคาวเลือดแล้วอย่างนั้น
“ฆ่านางเสีย” หลี่ชิเย่ดีดนิ้วมือเบาๆ ทีหนึ่ง ได้ยินเสียงดังปัง ร่างกายของโจวจือฉิงกระเด้งขึ้นมาและไปตกอยู่ท่ามกลางพวกของกัวเจียหุ้ย
ในเวลานี้โจวจือฉิงยังไม่ทันได้ลุกขึ้นก็ถูกอาวุธของพวกหลี่เจี้ยนคุนพาดอยู่บนคอเสียแล้ว
“พวก พวกเจ้าฆ่าข้าไม่ได้นะ” โจวจือฉิงถึงกับสั่นเทาทีหนึ่ง เมื่อรู้สึกถึงไอเย็นจากดาบยาวที่คุกคามตนบนคอ รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “ข้าเป็นพระชายารองของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศในอนาคต พวก พวกเจ้าฆ่าข้า เท่ากับเป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ภาคกลาง และแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ…”
“แม่นางโจว ล่วงเกินแล้ว กล้าพนันต้องยอมรับความพ่ายแพ้ได้” หลี่เจี้ยนคุนร้องเสียงทุ้มต่ำ กระบี่ในมือที่ฟาดลงไป พลันปรากฏเลือดสาดกระเด็น
ขณะที่ศีรษะของโจวจือฉิงกลิ้งอยู่กับพื้นนั้น ดวงตาคู่นั้นของนางยังเบิกโพลง นางยังไม่ทันได้เสพสุขความมั่งคั่งร่ำรวยและยศศักดิ์ นางยังไม่ทันได้แต่งไปเป็นพระชายาของแคว้นโบราณยันต์แปดทิศ แต่ว่า ต้องมาเสียชีวิตลงเช่นนี้
ในเวลานี้ ทั่วทั้งสถานที่กลับกลายเป็นเงียบสงัดอย่างยิ่ง เหตุการณ์ในวันนี้ช่างกลับตาลปัตรเหลือเกิน
แรกทีเดียวทุกคนต่างเข้าใจว่าโจวจือฉิงกำไพ่เหนือกว่า ไม่นึกเลยว่านางกลับต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของศิษย์จากนิกายหู้ซานจง สุดท้าย หัวหน้าสาขาธงเพลิงลงมือ ไม่เพียงแต่ไม่สามารถช่วยชีวิตนางไว้ได้ กลับพ่วงเอาชีวิตของตนเข้าไปด้วย
……………………………………………….