Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2795 กลายเป็นมาร
ตอนที่ 2795 กลายเป็นมาร
พื้นปฐพีกลายเป็นแดนสัตว์ประหลาด มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวอะไรอย่างนั้น และสามารถจินตนาการได้ว่าความมืดเช่นนี้ช่างแข็งแกร่งอะไรอย่างนั้น นี่เป็นเพียงความมืดสายหนึ่งที่พุ่งชนเข้าที่นี่เท่านั้นเอง ถ้าหากตอนที่ความมืดแท้จริงบังเกิดขึ้นมันช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น เกรงว่าคงกลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดไปทั้งโลกแล้ว
แน่นอนที่สุด เรื่องเช่นนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งก็คือช่วงที่หลี่ชิเย่มาถึงแดนลัทธิเซียนในเวลานั้น สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดพลันรุกรานเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่คิดจะเข้าแทนที่ในตอนนั้น ทั่วแดนลัทธิเซียนก็เคยบังเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา แดนลัทธิเซียนทั้งหมดได้กลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดในพริบตา
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อหลี่ชิเย่เหยียบเข้าแผ่นดินที่ได้กลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดนี้แล้ว หลี่ชิเย่จึงรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความชั่วร้ายที่คุ้นเคย พลังความชั่วร้ายที่เข้มข้นจนไม่สามารถทำให้เจือจางได้
ย่อมไม่ต้องสงสัย พลังความชั่วร้ายลักษณะเช่นนี้กับสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกหลี่ชิเย่สยบเอาไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนั้นกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน
“ความรู้สึกที่คุ้นเคยมาก ดูท่าจะเป็นปีที่มีเรื่องมากเสียแล้ว” หลี่ชิเย่ก้าวเดินเข้าไปช้าๆ ไม่ได้รับผลกระทบจากความมืดใดๆ เสมือนดั่งเป็นการเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านอย่างนั้น
“วันสิ้นโลกกำลังมาเยือน อาณาประชาราษฎร์เพียงแค่ดิ้นรนด้วยความลำบาก คิดจะมีชีวิตอยู่ไปวันๆ ก็ยังยาก” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกหลี่ชิเย่สยบเอาไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรกล่าวเอ้อระเหยว่า “เจ้าตัดสินใจในเวลานี้ยังทัน ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ ให้ตัวเองมีชีวิตเป็นนิรันดร์เสียก่อน จึงสามารถทำให้เจ้ายืนอยู่บนจุดสูงสุดได้อย่างแท้จริง จึงมีโอกาสตีเสมอได้ มิฉะนั้นล่ะก็ เจ้าจะต้องถูกลิขิตไว้ว่าต้องมีชะตากรรมที่น่าสงสารยิ่งนัก”
“อย่างนั้นรึ? ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหยว่า “ข้าไม่ต้องการตีเสมอ ข้าต้องการเข่นฆ่าให้สิ้น ให้ทุกสิ่งทุกอย่างเหนือเหล่าชั้นฟ้าขึ้นไปหายวับไปกับตาในพริบตา”
“น่าชื่นชมในความกล้าหาญมาก เสียดายเป็นความเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อน” สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกสยบเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรหัวเราะทีหนึ่ง แต่ เสียงหัวเราะอย่างไม่ทันสุดก็มีเสียงฮึอึดอัดดังขึ้น พลังสยบภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรพลันเพิ่มสูงขึ้น เหมือนต้องการบดขยี้มันให้แหลกละเอียดอย่างนั้น ส่งผลให้มันไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับหลี่ชิเย่อีกต่อไป
หลี่ชิเย่ไม่สนใจต่อสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกสยบเอาไว้ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียร ก้าวเดินเข้าไปในผืนแผ่นดินที่ถูกทำให้กลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดไปแล้วนั่น แม้ว่าดูไปแล้วเขาเดินช้ามาก แต่ความเป็นจริงแล้วหนึ่งก้าวหนึ่งฟ้าดิน ความเร็วนั้นน่าตกใจยิ่ง
ยิ่งเดินเข้าไปด้านในมากเท่าไร ผืนแผ่นดินที่ถูกทำให้กลับกลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดนั้นยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้ว พลังความมืดของที่นี่เรียกได้ว่าเข้มข้นจนไม่สามารถทำให้เจือจางได้ เหมือนว่าถูกสาดด้วยน้ำหมึกอย่างนั้น
การก้าวเดินอยู่ที่ตรงนี้เหมือนว่าไม่ใช่เดินอยู่บนพื้นดินอีกแล้ว เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางบึงน้ำที่เสมือนดั่งน้ำหมึกไปแล้ว
แต่ว่า การเดินอยู่ที่ตรงนี้มีความน่ากลัวยิ่งกว่าเดินอยู่ในน้ำบึงที่เหมือนดั่งน้ำหมึกมากกว่าพันเท่าหมื่นเท่า ขณะที่ก้าวเดินอยู่ตรงนี้นั้น ความมืดที่ไม่สามารถทำให้จางลงได้จะเริ่มรุกรานเข้าสู่ร่างกาย และสั่นคลอนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของผู้นั้น
ในเวลานี้ความมืดที่ดั่งน้ำหมึกได้พยายามมุดเข้าไปในร่างกายอย่างบ้าคลั่ง ไม่ว่าจะอาศัยเคล็ดวิชาอะไร หรือ อาศัยการป้องการใดๆ ก็ยากที่จะต้านทานการแทรกเข้าร่างของความมืดลักษณะเช่นนี้ได้ ความมืดเสมือนดั่งน้ำขึ้นน้ำลงที่บ้าคลั่งเข้ากัดเซาะการป้องกันดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมา จนกว่ามันจะยึดครองร่างกายเอาไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การรุกรานของความมืดเช่นนี้ สามารถสร้างความกระทบอย่างหนักต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้า ในขณะนี้อารมณ์ฉุนเฉียว การฆ่าฟัน ไร้ความปราณี ความโลภ…ต่างๆ ที่เป็นอารมณ์ด้านลบที่ถูกฝังเอาไว้หรือสยบเอาไว้ภายใต้จิตใจ ก็จะถือโอกาสนี้ระเบิดขึ้นมาโดยพลัน
ในเวลานี้ ถ้าหากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่มั่นคงเพียงพอ อารมณ์ความรู้สึกด้านลบก็จะระเบิดขึ้นมาเสมือนดั่งภูเขาไฟ ในเวลานี้ บุคคลผู้นั้นมักจะตกอยู่ในสภาพที่คลั่งสับสนควบคุมตัวเองไม่ได้ ในเวลานี้ความมืดก็จะสบโอกาสเข้ายึดครองจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแทน
แม้ว่าพลังของความมืดที่ตรงนี้แข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังเป็นพลังความมืดที่บริสุทธิ์อย่างยิ่ง แต่ว่า หลี่ชิเย่ไม่ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว
แต่ว่า ความมืดที่ปลิวกระจายอยู่ท่ามกลางช่องว่างที่นี่เมื่อเปรียบเทียบกับสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกหลี่ชิเย่สยบอยู่ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนั้น เรียกได้ว่าเทียบกันไม่ได้เลย
สุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่ถูกหลี่ชิเย่สยบอยู่ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรนั้น เป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสูงสุดผู้สามารถเปลี่ยนแปลงระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิเซียนมารทั้งหมดให้กลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดได้ในพริบตา ขนาดระดับสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดเช่นนี้หลี่ชิเย่ยังสามารถจับมาขังเอาไว้ในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรได้ แค่พลังความมืดที่ปลิวกระจายอยู่ในอากาศเช่นนี้ ไหนเลยสามารถสั่นคลอนต่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้เล่า
อย่าว่าแต่พลังวความมืดลักษณะเช่นนี้เลย ต่อให้เป็นสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่สูงที่สุดก็ไม่สามารถสั่นคลอนจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้
ณ ที่ตรงนี้ นอกเหนือจากความมืดที่คล้ายดั่งน้ำหมึกแล้ว ลึกลงไปใต้พื้นดินยังมีประกายศักดิ์สิทธิ์แต่ละสายที่ออกมา บรรดาประกายศักดิ์สิทธิ์ที่บริสุทธิ์ยิ่งได้ดำเนินการทำให้ความมืดที่เสมือนดั่งหมึกนี้อย่างบ้าคลั่ง
จะอย่างไรเสีย ที่ตรงนี้คือหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ทุกๆ ที่ล้วนแล้วแต่เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ทุกที่ ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิทั้งหมดมีพลังแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่ไพศาลไม่มีสิ้นสุด ดังนั้น แม้ว่าในระยะสั้นมองว่าประกายศักดิ์สิทธิ์นี้เสมือนดั่งเป็นแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ ไม่สามารถทำให้พลังความมืดทั้งหมดที่นี่ให้บริสุทธิ์อยู่แล้ว แต่ว่า ถ้าหากมีเวลาที่ยาวนานอย่างเพียงพอล่ะก็ อาศัยประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ขาดสายของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์แล้ว ช้าหรือเร็วสักวันก็ต้องทำให้ความมืดที่อยู่ตรงนี้ให้บริสุทธิ์จนหมดสิ้นได้
ท่ามกลางพลังความมืดที่ดั่งน้ำหมึกนี้ นอกเหนือจากประกายศักดิ์สิทธิ์ที่มุดออกมาแล้ว ท่ามกลางความมืดยังปรากฎประกายสีทองแต่ละสายที่แวบวับ แม้ว่าประกายสีทองนี้จะมีอยู่ไม่มาก แต่ว่า ประกายสีทองแต่ละสายเช่นนี้เมื่ออยู่ท่ามกลางความมืดแล้วดูสว่างไสวมากเป็นพิเศษ เหมือนเป็นตะเกียงที่สุกใสดวงหนึ่งท่ามกลางความมืดอย่างนั้น
ประกายสีทองแต่ละสายกำลังเฉือนความมืดออก เหมือนชี้นำทางที่สว่างให้ผู้คนอย่างนั้น
สุดท้ายหลี่ชิเย่ได้ก้าวเดินไปจนถึงตำแหน่งกึ่งกลางของพื้นที่ป่าที่รกร้างว่างเปล่า ณ ที่ตรงนี้กล่าวได้ว่าเสมือนดั่งได้กลายเป็นนรกอเวจีไปแล้ว เนื่องจากที่ตรงนี้นอกเหนือจากพื้นดินทั้งผืนได้กลายเป็นแดนสัตว์ประหลาดไปแล้ว ทั่วพื้นที่ล้วนแล้วแต่กลายเป็นลาวาความมืด นอกเหนือจากใต้พื้นดินยังคงมีลาวาที่ทะลักออกมาไม่ขาดสายแล้ว ยังมีสัตว์ประหลาดแต่ละตัวที่โผล่ขึ้นมาจากลาวาความมืดนี้
สัตว์ประหลาดแต่ละตัวเหล่านี้ใช่ว่าเกิดขึ้นมาเอง แต่เป็นสิ่งมีชีวิตก่อนหน้านี้บางส่วนถูกทำให้กลายเป็นมาร เป็นต้นว่า ก่อนหน้านั้นที่ตรงนี้มีต้นไม้ดึกดำบรรพ์ที่บรรลุมรรคและมีจิตวิญญาณแล้ว แต่ว่า เวลานี้กลับกลายเป็นต้นไม้ประหลาดที่มีแขนขาร้อยพัน
หรือเป็นต้นว่าที่ตรงนี้เคยมีราชาพยัคฆ์อยู่ตัวหนึ่ง แต่ว่า เวลานี้ได้กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดแล้วโดยสิ้นเชิง ลำตัวของราชาพยัคฆ์ได้ใหญ่โตขึ้นมากกว่าสิบเท่า ส่วนที่เป็นหลังของมันได้มีหนามกระดูกแต่ละอันที่งอกขึ้นมา ใต้เท้าของมันปรากฏไฟมารที่พวยพุ่งขึ้นมา มีท่าทีของการกลืนกินฟ้าดินได้
และเป็นต้นว่า ณ ที่ตรงนี้มีปีศาจมดตัวน้อยๆ ตัวหนึ่ง แต่ว่า หลังจากได้รับพลังความมืดในเวลานี้แล้ว ตัวของมันพลันตัวใหญ่ขึ้นมากกว่าพันเท่าหมื่นเท่า ฟันคีมคู่นั้นคล้ายดั่งเป็นดาบมารที่สามารถกรีดตัดฟ้าดินได้…
ฮือ ฮือ ฮือ…เสียงคำรามของปีศาจดังขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ปีศาจแต่ละตนที่มีขนาดใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมคำรามอย่างบ้าคลั่ง เหมือนว่าปีศาจเหล่านี้ต้องการออกจากบริเวณพื้นที่ป่าที่รกร้าง และบุกสังหารเข้าไปในโลกมนุษย์อย่างนั้น
บริเวณที่เคยเป็นป่ารกร้างน้อยคนนักที่จะมาถึง นาทีนี้เวลานี้ได้กลับกลายเป็นแดนมารไปแล้วอย่างนั้น ไม่ว่าใครก็ตามหากได้มาเห็นกับตาก็ต้องรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
โฮ่ววว…ในเวลานี้เอง สัตว์ประหลาดที่เป็นกลุ่มก้อนพลันพบแขกผู้ไม่ได้รับเชิญอย่างหลี่ชิเย่เข้าแล้ว มันจึงมองไปที่หลี่ชิเย่และส่งเสียงคำรามเสียงดังขึ้นมา ดวงตาทั้งสองพวยพุ่งเป็นประกายสีเลือดชั่วร้ายออกมา ทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง
โฮ่ววว…ในเวลานี้ งูขนาดยักษ์ตัวหนึ่งส่งเสียงร้องขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง และบุกเข้าโจมตีนำไปก่อนต่อแขกผู้ไม่รับเชิญอย่างหลี่ชิเย่ หางที่ยาวเสมือนดั่งเทือกเขาเทือกหนึ่งที่ฟาดใส่หลี่ชิเย่อย่างแรง
สัตว์ประหลาดตัวอื่นๆ เมื่อมองเห็นภาพนี้แล้วต่างไม่ยอมตกขบวน ส่งเสียงคำรามและบุกเข้าสังหารหลี่ชิเย่ มีสัตว์ประหลาดที่อ้าปากพ่นเป็นไอสัตว์ประหลาด และมีสัตว์ประหลาดทำท่าสั่นเทาทีหนึ่ง แล้วยิงเป็นหนามกระดูกออกมาทางหลังดั่งห่าฝน และมีสัตว์ประหลาดที่คำรามเสียงยาว ลาวาเสมือนดั่งคลื่นที่โหมสาดซัดพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ทันที…
ภายในระยะเวลาอันสั้น สัตว์ประหลาดจำนวนนับไม่ถ้วนได้บุกโจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่อย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นคลื่นสัตว์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง เหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริง หรือปฐมบรรพบุรุษเช่นใดมาถึง ก็ต้องถูกฉีกร่างจนแหลกละเอียดไป
“พวกไม่รู้จักคำว่าตาย” เมื่อหลี่ชิเย่มองเห็นสัตว์ประหลาดจำนวนมากที่บุกสังหารเข้ามาโดยพลัน ไม่ได้เลิกกระทั่งหนังตาเสียด้วยซ้ำ เพียงยื่นนิ้วมือออกไป เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น กลิ่นอายแห่งความตายล้อมรอบ
เสียงแห่งความตายดังจี๊ด จี๊ด จี๊ดขึ้นมาเป็นระลอก ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง เมื่อสัตว์ประหลาดสัมผัสกับกลิ่นอายแห่งความตายบนตัวของหลี่ชิเย่เข้าให้ พลันเสียชีวิตในทันที แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่ถือกำเนิดมาจากสิ่งชั่วร้าย แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าความตายมันยังคงเหมือนกัน โดยไม่สามารถต้านกับความตายได้อยู่แล้ว
นอกเหนือจากมีชีวิตเป็นนิรันดร์แล้ว โลกนี้ไม่มีสิ่งใดสามารถต่อต้านกับความตายที่น่ากลัวนี้ได้อีกแล้ว
ท่ามกลางเสียงจี๊ด จี๊ด จี๊ดนั้น มองเห็นร่างกายสัตว์ประหลาดที่ดำมืดดั่งคลื่นสัตว์ถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าภายในระยะเวลาอันสั้น มันถูกเผาไหม้ไปทีละนิดๆ จนตาย และความตายลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถฝืนได้ ไม่ว่าผู้นั้นจะมีความแข็งแกร่งเช่นใดก็ตาม ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถฝืนความน่ากลัวเช่นนี้ได้ และไม่สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยการสร้างกายเนื้อขึ้นมาใหม่
ในเวลานี้ สัตว์ประหลาดที่เสมือนดดั่งคลื่นสัตว์ภายใต้ความตายนั้น พวกมันต่างเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา แม้ว่าพวกมันคือสิ่งมีชีวิตท่ามกลางความมืดดำก็เกรงกลัวต่อความตายเช่นกัน พวกมันคิดจะหันหลังหนีไป แต่ว่า นาทีนี้ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว ความตายที่น่ากลัวได้กัดกร่อนชีวิตของพวกเขาไปทีละนิดๆ
สุดท้าย ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นสัตว์ประหลาดทั้งหมดภายใต้การกัดกร่อนของความตาย ได้กลับกลายเป็นเถ้าธุลีไป ร่างของพวกมันพลันระเบิดขึ้น เถ้าปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า
“ล้วนแล้วแต่มดปลวกเท่านั้นเอง” หลี่ชิเย่มองดูเถ้าที่ปลิวกระจายออกไปด้วยท่าทีเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สุดท้าย หลี่ชิเย่ได้ไปยืนอยู่ ณ จุดที่ความมืดสายนั้นพุ่งชนพื้นดินนั่น ที่ตรงนี้มองไม่ออกถึงลักษณะเดิมอีกต่อไปแล้ว มันได้กลายเป็นเสมือนหนึ่งเป็นภูเขาไฟความมืดโดยสิ้นเชิงไปแล้ว พวยพุ่งลาวาที่ดุดันมากที่สุดขึ้นมา เหมือนว่าสามารถยิงทะลุท้องฟ้าอย่างนั้น
เมื่อยืนอยู่ตรงจุดนี้แล้ว ให้ความรู้สึกผู้คนถึงวันสิ้นโลกอย่างหนึ่ง
ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือ ความมืดตรงนี้มีความเข้มข้นมากกว่าสถานที่อื่นๆ กว่าร้อยเท่า พลังความมืดที่ดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งก็พวยพุ่งขึ้นมาจากที่ตรงนี้ เมื่อความมืดพวยพุ่งออกมาจากที่นี่ จากนั้นค่อยกระจายไปยังรอบๆ ทำการเปลี่ยนป่าที่รกร้างว่างเปล่าให้กลายเป็นแดนมาร
เกรงว่าแม้แต่ราชันแท้จริงสิบสองลัคนาก็ยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานเมื่อต้องมายืนอยู่บริเวณคลื่นมืดดำตรงนี้ ล้วนแล้วแต่ถูกทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรต้องหวั่นไหวโดยความมืดที่น่ากลัวนั่น
ขณะที่หลี่ชิเย่ยืนอยู่ที่ตรงนี้นั้น รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายความมืดที่พลุ่งพล่านไม่หยุดนิ่ง ในเวลานี้ ความมืดที่เสมือนดั่งคลื่นที่บ้าคลั่งได้ขับขานประสานเสียงกับสุดยอดความน่ากลัวสูงสุดที่อยู่ภายในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่
…………………………………………………………………………………………………….