Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2810 ก่อกรรมเองไม่อาจรอดไปได้
ตอนที่ 2810 ก่อกรรมเองไม่อาจรอดไปได้
“อ๊ากกก…” เสียงร้องแหลมน่าเวทนาของลู่ซื่อเม่าดังก้องไปทั่วทั้งสถาบันศึกษา ร่างของเขาสั่นเทาไปทั้งร่าง ตาลอย ทำให้ผู้พบเห็นถึงกับหวาดหวั่นพรั่นพรึง ขณะที่เติ้งเหรินเซินกลับไม่รู้สึกหวั่นไหวกับสิ่งนี้ สุดท้าย ลู่ซื่อเม่าไม่สั่นเทาอีกต่อไปแล้ว ดวงตาว่างเปล่ามองไม่เห็นตาดำ
“ไป จับมันโยนลงไปในสระล้างบาปด้วย จะได้ชำระล้างพลังความมืดบนตัวให้สะอาด” ในเวลานี้ เติ้งเหรินเซินมองดูหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง กล่าวสั่งการกับนักศึกษาที่อยู่ด้านหลัง
พลันที่เติ้งเหรินเซินกล่าวขาดคำ นักศึกษาที่อยู่ด้านหลังต่างกรูกันเข้าหาหลี่ชิเย่ ท่าทางเหมือนสุนัขจิ้งจอกดุร้ายพยัคฆ์หิวโซอย่างนั้น
เนื่องจากพวกเขาต่างถือเอาการบาดเจ็บของลู่ซื่อเม่าโทษหลี่ชิเย่ หากไม่เป็นเพราะพลังความมืดบนตัวหลี่ชิเย่ที่รุกรานเข้าร่างลู่ซื่อเม่า ลู่ซื่อเม่าก็คงไม่มีจุดจบเช่นนี้
“เพื่อนนักศึกษาทุกท่าน อย่าทำบุ่มบ่ามนะ” จ้าวชิวสือรู้สึกตระหนกยิ่งนัก เมื่อมองเห็นบรรดานักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นวิ่งเข้าใส่หลี่ชิเย่เสมือนดั่งสุนัขจิ้งจอกดุร้ายพยัคฆ์หิวโซอย่างนั้น รีบเข้าไปขวางพวกเขาเอาไว้
“หลบไปอยู่ข้างๆ เสีย อย่าเกะกะมิฉะนั้นล่ะก็จะจับเจ้าโยนลงไปด้วย” เติ้งเหรินเซินส่งเสียงฮึเย็นชาคำหนึ่ง สะบัดแขนเสื้อทีหนึ่งพลันส่งตัวจ้าวชิวสือ กระเด็นตกลงพื้นด้านข้างอย่างแรง
กำลังความสามารถทั้งสองฝ่ายต่างกันมาก จ้าวชิวสือไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเติ้งเหรินเซินอยู่แล้ว
นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อเห็นภาพนี้ แต่ว่าพวกเขาก็จนด้วยเกล้า แม้แต่จ้าวชิวสือยังเปราะบางขนาดนี้ พวกเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ได้อย่างใดเล่า?
“ผู้อาวุโสเติ้ง ศิษย์น้องของพวกเราไม่มีเจตนาร้าย…” จ้าวชิวสือตกใจเมื่อเห็นบรรดานักศึกษาเหล่านั้นเสมือนดั่งสุนัขจิ้งจอกดุร้ายพยัคฆ์หิวโซที่กระโจนใส่หลี่ชิเย่อย่างนั้น ร้องเสียงดังขึ้นมา
แต่ว่า เติ้งเหรินเซินทำหูทวนลม ขณะที่นักศึกษาเหล่านั้นพุ่งเข้าใส่หลี่ชิเย่เสมือนดั่งสุนัขจิ้งจอกดุร้ายพยัคฆ์หิวโซ
“พวก พวก พวกเจ้าจะทำอะไร?” หน้าตาหลี่ชิเย่ทำเหมือนตื่นตระหนกอย่างนั้น ก้าวถอยหลังไปพลางวิ่งหนีไปด้านข้าง
“ทำอะไร?“ มีนักศึกษาหัวเราะน่าเกลียดและกล่าวว่า “บนตัวเจ้าพกความชั่วร้ายมา ลงไล้างให้สะอาดเสียดีดี” กล่าวพลางพวกเขาได้ล้อมวงเข้าไป ตัดขาดทางหนีของหลีชิเย่ทั้งหมด
บรรดานักศึกษาเหล่านี้ได้ปิดตายไปสามด้าน เวลานี้หลี่ชิเย่ไม่มีทางที่จะถอยอีกแล้ว ขณะที่ด้านหลังของเขาก็คือสระล้างบาป เขายืนอยู่ข้างสระพร้อมที่จะตกลงไปได้ตลอดเวลา
“พวก พวก พวกเจ้าอย่าทำบุ่มบ่าม ข้า ข้าเป็นคนดีนะ บนตัวของคนดีไม่มีความชั่วร้ายอะไร ไม่จำเป็นต้องชำระล้าง” ท่าทางของหลี่ชิเย่ดูลนลาน คิดจะหนีแต่ไม่มีทางที่จะหนี
“แหะปกติคนที่บอกว่าตัวเองเป็นคนดีล้วนแล้วแต่เป็นคนไม่ดี” มีนักศึกษาคนหนึ่งหัวเราะและกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “เจ้าจะกระโดดลงไปเอง หรือให้พวกเราส่งเจ้าลงไป”
“ข้า ข้า ข้าไม่เข้าไปหรอก พวก พวกเจ้าอย่าทำบุ่มบ่ามนะ ข้าต้องการพบอธิการบดี” หลี่ชิเย่ร้องเสียงดัง
“พูดมากความกับเขาทำไม พวกเราพลักเขาเข้าไป ดูชิว่าเขาจะหนีไปไหน” นักศึกษาอีกคนไม่พอใจร้องกล่าวเสียงดัง ยื่นมาเข้าไปพลักหลี่ชิเย่
“ลงไป” นักศึกษาเหล่านี้ต่างดีใจที่เห็นคนอื่นได้รับความเดือดร้อน ต่างยื่นมือออกไปผลักหลี่ชิเย่ พวกเขาต้องการผลักหลี่ชิเย่ลงไปในสระล้างบาปด้วยมือของตนเอง มองดูท่าทางของหลี่ชิเย่ขณะได้รับทุกข์ทรมาน ในใจของพวกเขาก็จะมีความรู้สึกสะใจอย่างหนึ่ง
แต่ทว่า จังหวะที่พวกเขายื่นมาไปผลักหลี่ชิเย่นั้น หลี่ชิเย่ได้หงายหลังล้มตัวลงไปในสระล้างบาป แต่ในเวลานี้เองพวกเขาพลันรับรู้ถึงแรงดึงดูดสายหนึ่ง ยั้งมือไม่ทันและหยุดร่างกายไม่อยู่ ทั้งหมดตกลงไปในสระล้างบาปพร้อมกับหลี่ชิเย่
ช่าาา…เสียงน้ำดังขึ้น ฟองคลื่นแตกกระเซ็นขึ้นไปสูงมาก มองเห็นหลี่ชิเย่กับบรรดานักศึกษาเหล่านี้กว่าสิบคนได้ตกลงไปในสระล้างบาป
มาคราวนี้ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่ตลึงลาน เมื่อมองเห็นนักศึกษาสิบกว่าคนติดตามหลี่ชิเย่ตกลงไปในสระล้างบาปพร้อมๆ กัน ไม่ง่ายนักกว่าจะได้สติกลับมา นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปจำนวนไม่น้อยต่างมองตาซึ่งกันและกัน ในใจมีความรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก พวกเขารังแกคนมากเกินไปสมควรได้รับกรรม
บรรดานักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นหลังจากมาถึงสถาบันศึกษาล้างบาปแล้ว ก็มีท่าทีที่อวดดีอย่างยิ่งมาโดยตลอดมองว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่น มีความขัดแย้งกับนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปประจำ เวลานี้เห็นพวกเขาตกลงไปในสระล้างบาป ในใจของนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปย่อมรู้สึกสะใจ
“อ๊ากกก…อ๊ากกก…อ๊ากกก…” ในเวลานี้ เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้นลงสลับไม่หยุด บรรดานักศึกษาที่ตกลงไปในสระล้างบาปต่างมีร่างที่สั่นเทา เมื่อร่างของพวกเขาแช่อยู่ในน้ำศักดิ์สิทธิ์ น้ำศักดิ์สิทธิ์พลันทะลักเข้าไปในร่างกายของพวกเขา พลังศักดิ์สิทธิ์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมได้ทำการชำระล้างความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจของพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง
ลองคิดดู เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นปราชญ์ที่แท้จริง ใครบ้างที่ในใจไม่มีความคิดชั่วร้ายเล่า? แต่ว่า อาศัยพลังของพวกเขาไม่สามารถรองรับกับการชำระล้างอย่างรุนแรงของน้ำศักดิ์สิทธิ์ พลันทำให้พวกเขาสั่นเทาไปทั่วร่าง ได้รับความเจ็บปวดอย่างยิ่ง
มีนักศึกษาในจำนวนนั้นคิดจะหนีออกจากสระล้างบาป แต่หนีอยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งมากได้สยบพวกเขาเอาไว้
ดีใจจนหลงระเริง…เติ้งเหรินเซินส่งเสียงฮึเย็นชาด้วยความไม่พอใจ เมื่อมองเห็นนักศึกษาเหล่านั้นถึงกับตกลงไปในสระล้างบาปเหนือความคาดคิดขนาดนี้ มือขนาดใหญ่ยื่นออกไปหวังจะช่วยเหลือพวกเขาขึ้นมาจากสระล้างบาป
แต่ว่า จังหวะที่มือขนาดใหญ่ของเติ้งเหรินเซินคว้าไปที่นักศึกษาเหล่านั้น หวังจะช่วยพวกเขานั้น ขณะที่มือของเขาเพิ่งจะยื่นลงไปในสระล้างบาป ทันใดนั้นมีพลังสายหนึ่งได้พันธนาการข้อมือของเขาเอาไว้ เขารู้สึกตกใจและร้องว่าแย่แล้วในใจ
แต่ว่า มันสายไปเสียแล้ว เติ้งเหรินเซินยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้ ร่างกายของเขาโน้มไปข้างหน้า ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้น ร่างของเขาได้ตกลงไปในสระล้างบาปทันที
ได้ยินเสียงน้ำช่าาาดังขึ้น เติ้งเหรินเซินได้ตกลงไปในสระล้างบาปอย่างแรง น้ำศักดิ์สิทธิ์กระเด็นขึ้นไปสูงมาก
มาคราวนี้ บรรดาพวกจ้าวชิวสือที่เป็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปต่างมองดูด้วยความงงงัน เมื่อมองเห็นเติ้งเหรินเซินพลันตกลงไปในสระล้างบาป ในเวลานี้พวกเขาต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ทุกคนยังไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรเติ้งเหรินเซินจึงตกลงไปในสระล้างบาปได้
“ขึ้น…” ในขณะนี้ เติ้งเหรินเซินร้องเสียงดังหวังจะพุ่งตัวขึ้นมาจากสระล้างบาป ขณะที่เขาพุ่งตัวขึ้นไปนั้น พลันบังเกิดน้ำสระที่ดั่งคลื่นยักษ์ยกตัวขึ้นมา แต่ว่า จังหวะทีเติ้งเหรินเซินกำลังจะพุ่งตัวขึ้น ได้ยินเสียงช่าาาดังขึ้นมาอีกครั้ง น้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ดึงตัวเขาอย่างแน่นหนาและลากตัวกลับไป ในพริบตาเดียวนั่นเอง น้ำศักดิ์สิทธิ์พลันทำการห่อหุ้มตัวของเขาเอาไว้ทั้งตัว และพลังศักดิ์สิทธิ์ได้แทรกซึมรุกเข้าไปภายในร่างกายของเขาทันที หวังชำระล้างมารร้ายในใจของเขาให้หมดสิ้น
เติ้งเหรินเซินร้องอุบในใจ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าเขาได้รับแรงกระแทกเข้าให้อย่างแรง พลังศักดิ์สิทธิ์ต้องการรุกเข้าไปในจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขา เพื่อทำการชำระล้างความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจของเขา เขารีบสำแดงพลังวัตร ให้ลมปราณล้อมรอบ หวังต้านพลังศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งที่พุ่งเข้ามาหา
“ข้าไม่เป็นอะไร ข้าไม่เป็นอะไร ข้าไม่เป็นอะไรเลยสักนิด” ในเวลานี้เอง เสียงที่ตกใจระคนความดีใจเสียงหนึ่งดังขึ้นในสระ
ทุกคนมองไป เห็นเพียงหลี่ชิเย่ที่กระโดดโลดเต้น ตื่นตระหนกระคนกับความดีใจยิ่งนัก และเหนือความคาดคิดอย่างยิ่ง
“ดูนั่น ศิษย์น้องหลี่ไม่เป็นอะไร” ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ เมื่อนักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปได้สติกลับมา ต่างทยอยกันร้องเสียงดังขึ้นมา พวกเขาล้วนแล้วแต่มีตาสองข้างที่เบิกกว้างมาก มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความมึนงง
ทุกคนล้วนแล้วแต่มองดูด้วยความเหม่อลอย เมื่อเห็นหลี่ชิเย่ที่อยู่ในสระน้ำไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แม้แต่น้อย สามารถไปมาอย่างอิสระเสรีท่ามกลางสระล้างบาป
“นี่ นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?” ทุกคนต่างมองดูด้วยความมึนงง เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่ถึงกับไม่ได้รับผลกระทบจากสระล้างบาป เหมือนว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์ไม่ส่งผลใดๆ บนตัวของเขาแม้แต่นิดเดียว
“มีสองกรณี ไม่ก็เขาคือปราชญ์ ไม่เขาก็คือคนปัญญาอ่อน” มีนักศึกษาที่อายุค่อนข้างมากนิดหนึ่ง ได้กล่าวไม่ค่อยมั่นใจว่า “ได้ยินมาว่า เคยมีคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งตกลงไปในสระล้างบาป และไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่นิดเดียว”
ทุกคนต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ แน่นอนหลี่ชิเย่ไม่น่าจะเป็นปราชญ์ ถ้าเช่นนั้นมีเพียงความน่าจะเป็นเพียงหนึ่งเดียว เขาคือคนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง
ความจริงแล้วไม่ใช่ทั้งหมด พลังจรัสของสระล้างบาปนั้นมีจำกัด ด้วยพลังจรัสเพียงเท่านี้ไหนเลยจะไปสั่นคลอนต่อหลี่ชิเย่ได้ และไม่สามารถโจมตีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้ อยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจะไปชำระล้างความคิดชั่วร้ายของหลี่ชิเย่แล้ว
ส่วนพวกของเติ้งเหรินเซิน พวกเขาถูกขังไว้ในสระล้างบาปเป็นเพราะทักษะของพวกเขายังไม่แข็งแกร่งขั้นสามารถสลัดให้หลุดจากพลังจรัสได้
“ผู้อาวุโส รุ่นพี่ทุกท่าน ข้ามาช่วยท่าน ข้าจะช่วยท่าน” ท่าทีของหลี่ชิเย่เหมือนร้อนรนยิ่ง เมื่อเห็นพวกของเติ้งเหรินเซินถูกกักขังอยู่ท่ามกลางสระล้างบาป ร้องเสียงดังขึ้นมา ยื่นมือเข้าไปพลักเติ้งเหรินเซิน ต้องการช่วยเติ้งเหรินเซินออกมา
แต่ว่า ทักษะยุทธของหลี่ชิเย่ดูแล้วเหมือนอ่อนมาก แล้วจะเป็นผลักให้เติ้งเหรินเซินที่ถูกกักขังโดยพลังจรัสออกจากสระล้างบาปได้อย่างไรกัน ตัวเขาที่ถูกกักขังอยู่ตรงนั้น สุดแต่หลี่ชิเย่ผลักอยางไรก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“อ๊ากกก…” เติ้งเหรินเซินในเวลานี้ไม่สามารถป้องกันรักษาเอาไว้ได้อีกแล้ว ถูกพลังจรัสโจมตีเปิดจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรออกมาได้ ทำให้พลังจรัสบังคับชะล้างความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจของเขา นี่คือต้องการลบเลือนความทรงจำและสติปัญญาของเขา ทำให้เติ้งเหรินเซินถึงกับมีร่างที่สั่นเทขึ้นมา และร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
“ผู้อาวุโส อย่างตระหนก ข้ามาช่วยท่าน” ท่ามกลางเหตุการณ์ชุลมุน หลี่ชิเย่ได้คว้ากระบี่ล้างบาปที่วางอยู่บนตักของรูปแกะสลัก ร้องเสียงดังขึ้นมาว่า “รีบปล่อยตัวพวกของผู้อาวุโสทั้งหลาย!”
“กระบี่ล้างบาป เขา เขา เขายกกระบี่ล้างบาปขึ้นมา” บรรดานักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปที่อยู่ด้านนอกสระน้ำ มองเห็นหลี่ชิเย่คว้าเอากระบี่ล้างบาปขึ้นมาท่ามกลางเหตุการณ์ยุ่งเหยิง พวกเขาต่างร้องเสียงดังขึ้นมา
“กระบี่ล้างบาป…” แม้แต่สระล้างบาปก็งงงันอยู่ตรงนั้น และร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
ในเวลานี้เอง มองเห็นหลี่ชิเย่ได้เงื้อกระบี่ล้างบาปขึ้นและฟาดฟันลงมาแล้ว โดยเป็นการฟันลงมาแบบสุ่มๆ เหมือนต้องการฟันน้ำในสระให้ขาดจากกัน
“เจ้า เจ้าคิดจะทำอะไร?” เติ้งเหรินเซินร้องเสียงดังขึ้นมา
“ผู้อาวุโส ข้าช่วยท่านฟันน้ำในสระนี้ให้แยกออก ช่วยท่านออกไป” ท่าทางของหลี่ชิเย่ลนลานอย่างยิ่ง ร้องกล่าวเสียงดัง “คอยดูข้า” กระบี่ล้างบาปในมือฟันลงไปสุ่มสี่สุ่มห้า
“ระวัง…” หลี่ชิเย่ไม่ทันระวัง กระบี่ล้างบาปในมือได้ฟันเข้าใส่เติ้งเหรินเซิน ทำเอาเติ้งเหรินเซินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ
ทว่าเวลานี้สายเกินไปเสียแล้ว ได้ยินเสียงฉึกเสียงหนึ่งดังขึ้น มองเห็นกระบี่ล้างบาปได้ฟันเข้าบนตัวของเติ้งเหรินเซินแล้ว
“อ๊ากกก…” เติ้งเหรินเซินร้องเสียงน่าเวทนาขึ้นมา แต่ว่า ไม่ได้มีโลหิตที่แตกกระจายในจิตนาการ เมื่อกระบี่ล้างบาปฟันใส่ร่างของเติ้งเหรินเซิน ตามติดด้วยเสียงแว้งค์ดังขึ้น กระบี่ล้างบาปได้เปล่งประกายที่ศักดิ์สิทธิ์ออกมาทั่วร่าง
แสงสว่างที่ศักดิ์สิทธ์พลันมุดเข้าไปภายในร่างกายของเติ้งเหรินเซิน ตามติดด้วยเสียงดังจี๊ด จี๊ด จี๊ด แสงสว่างได้ถูกปล่อยออกมาจากร่างกายของเติ้งเหรินเซินทีละสายๆ นี่หาใช้ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งออกมาจากเติ้งเหรินเซินด้วยตนเอง แต่เป็นประกายศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ได้มุดออกมาจากร่างกายของเติ้งเหรินเซิน ต้องการแยกชิ้นส่วนร่างกายของเติ้งเหรินเซิน ทำให้บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง และทำให้ร่างของเขาถูกทำให้บริสุทธิ์จนกลายเป็นประกาย
“อย่า…” เติ้งเหรินเซินร้องเสียงแหลมขึ้นมา เมื่อรับรู้ได้ว่าตนเองกำลังถูกแยกส่วน
…………………………………………….