Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2831 การรวมตัวของผู้กล้า
ตอนที่ 2831 การรวมตัวของผู้กล้า
พวกของหลี่ชิเย่ออกเดินทางไปยังสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป หลังจากที่ข้ามภูเขาขนาดใหญ่หลายลูกแล้ว ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พบเห็นล้วนแล้วแต่เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดขึ้นไปแล้วทั้งสิ้น กล่าวสำหรับพวกของจ้าวชิวสือผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้พวกเขาไม่สามารถเก็บมาได้อีกแล้ว
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม พวกจ้าวชิวสือยังคงทดสอบดูสักครั้ง เกิดโชคดีขึ้นมาและเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดกระทั่งขั้นเก้าสักลูกได้จริงๆ ล่ะ?
ถ้าหากสามารถเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลงมาได้สักลูกจริงล่ะก็ เช่นนั้นแล้วเพียงแค่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ลูกเดียวก็เพียงพอแซงล้ำหน้าผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่พวกเขาเก็บมาได้ก่อนหน้านี้ และไม่ใช่แค่คนๆ เดียว แต่เป็นผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาทุกคนเก็บมาได้ทั้งหมด ก็เทียบกับผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลูกหนึ่งไม่ได้
ดังนั้น ต่อให้รู้อยู่แล้วว่าไม่มีโอกาส พวกของจ้าวชิวสือยังคงไม่ยอมละทิ้ง เมื่อพบผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เมื่อใดก็จะไปทดลองสักครั้ง ไปเคาะดูสักที
ไม่เพียงแต่พวกจ้าวชิวสือเท่านั้นที่มีความคิดเช่นนี้ แม้แต่นักศึกษาอื่นๆ ที่เข้ามายังสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ก็กอดโอกาสเช่นนี้เอาไว้ กล่าวสำหรับนักศึกษาทั้งหมดแล้ว ไม่ง่ายนักกว่าจะได้เข้ามายังสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สักครั้ง หากไม่ทะนุถนอมโอกาสนี้เอาไว้ ไม่แน่นักต่อไปจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว
ดังนั้น นักศึกษาส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลงมาได้ แต่ว่า พวกเขายังคงไม่ยอมละทิ้งที่จะทดลองสักครั้ง ขอเพียงค้นพบผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็จะไปเคาะสักครั้ง ดูว่าจะโชคดีหรือไม่
ความจริงแล้ว อัตราส่วนที่จะโชคดีนั้นต่ำมากจนสามารถละเลยไม่นำมาคิด จะอย่างไรเสียผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งมีขั้นสูงมากเท่าไร พลังจรัสที่บ่มฟักและซ่อนอยู่ภายในของมันก็จะแกร่งยิ่งขึ้น คิดจะเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ลงมาได้ เว้นเสียแต่ผู้นั้นต้องมีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง หรือไม่ก็ต้องมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แกร่งและมั่นคงมาก มิฉะนั้นล่ะก็ คิดจะเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลงมาสักลูกใช่เป็นเรื่องง่ายดาย
ความจริงแล้ว เคยมีผู้คาดเดาไว้ว่า คิดจะเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลงมาสักลูก เกรงว่าต้องเริ่มต้นที่ระดับราชันแท้จริงและหรือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ แน่นอน ยอดฝีมือที่มีระดับต่ำกว่านี้เล็กน้อยก็มีโอกาส แต่ว่า โอกาสดังกล่าวดูจะต่ำมาก ขณะที่ระดับราชันแท้จริงและหรือระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะลงมือล่ะก็ การเคาะเอาผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าเกือบจะเรียกว่าเป็นเรื่องที่มีโอกาสสำเร็จถึงเก้าในสิบ
ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพวกของหลี่ชิเย่ได้ข้ามเขาขนาดยักษ์หลายลูกที่สูงทะลุเมฆาแล้ว ก็ได้ยินนักศึกษาบางส่วนกำลังพูดคุยกันถึงเรื่องใครที่เคาะผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าลงมาได้
“เมื่อครู่นี้ข้าเห็นราชันแท้จริงงูหลามทองได้เคาะผลโกมลศักดิ์สิทธิ์แปดกลีบลงมาได้ลูกหนึ่ง ผลโกมลศักดิ์สิทธิ์นั้นเยี่ยมจริงๆ กัดเข้าไปคำหนึ่ง ความสว่างได้กลับกลายเป็นน้ำผลไม้เสียแล้ว เย้ายวนอย่างยิ่ง” ขณะที่ผู้ที่นั่งถกกันอยู่อดที่จะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้
“ราชันแท้จริงงูหลามทองก็มาแล้ว ดูท่าคราวนี้สถาบันศึกษาหลีหมิงทักษิณมีบุคคลที่ยอดเยี่ยมมาไม่น้อยเลยทีเดียว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับสั่นเทาในใจ เมื่อได้ยินชื่อของราชันแท้จริงงูหลามทอง
ราชันแท้จริงอายุน้อย ทั้งยังเป็นราชันแท้จริงสามลัคนา จะไม่ให้ผู้คนเกิดความรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาขึ้นมาได้อย่างไรเล่า
“ไม่เพียงแต่ราชันแท้จริงงูหลามทองที่มา ราชันแท้จริงเคอะสือก็มาแล้ว เขาเคาะเอาผลฝูเหยาจูกั่วขั้นเก้าลงมาได้ลูกหนึ่งแล้วก็เดินเข้าไปแล้ว ดูเหมือนจะขึ้นไปบนสุดนั่นแล้ว” ผู้ที่มาจากสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิมก็กล่าวด้วยท่าทีไม่ยอมแพ้
สี่สถาบันศึกษาใหญ่ล้วนแล้วแต่เป็นสถาบันศึกษาสังกัดหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ แต่ว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งสี่สถาบันศึกษาต่างเปรียบเทียบทดสอบซึ่งกันและกัน นักศึกษาแต่ละรุ่นไม่มีใครยอมใคร นักศึกษาของทุกๆ สถาบันศึกษาใหญ่ต่างคิดว่าสถาบันศึกษาของตนนั่นแหละคืออันดับหนึ่งของสี่สถาบันศึกษาใหญ่
“ราชันแท้จริงงูหลามทอง ราชันแท้จริงเคอะสือแล้วไง สถาบันศึกษาสู่กวงพายัพได้มีสุดยอดบุคคลผู้หนึ่งที่มา นั่นคือราชันแท้จริงจินผู่” นักศึกษาของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้หนึ่งเห็นนักศึกษาของสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิมและสถาบันศึกษาหลีหมิงทักษิณต่างมีความเย่อหยิ่งอยู่บ้าง จึงเยาะเย้ยออกไป
“ราชันแท้จริงจินผู่ก็มาแล้ว!” คนอื่นๆ พลันหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินชื่อของ ‘ราชันแท้จริงจินผู่’ ต่างจ้องมองไปที่นักศึกษาจากสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพผู้นี้
“เหอะ ได้ยินว่า ได้ยินมาว่ามาแล้ว” ภายใต้สายตาจำนวนมากที่มองเข้ามา นักศึกษาผู้นี้ดูจะขวยเขินนิดหนึ่ง และไม่สู้จะมั่นใจนัก และกล่าวว่า “ข้าฟังจากพวกรุ่นพี่บอกว่า ขณะที่ออกเดินทาง พวกเขาเห็นราชันแท้จริงจินผู่ แต่ว่า เวลานี้เกรงว่าคงเข้าไปในสวนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แล้วกระมัง ไม่ได้อยู่ในสวนผลไม้ศักดิ์สิทธิ์”
“ราชันแท้จริงจินผู่มาแล้ว ยังจะมีคนอื่นๆ อีกหรือไม่นะ?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีท่าทีหนักแน่นจริงจัง เมื่อได้ยินชื่อของราชันแท้จริงจินผู่
ราชันแท้จริงจินผู่คือราชันแท้จริงของสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ และเป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา เทียบกับราชันแท้จริงงูหลามทอง ราชันแท้จริงเคอะสือแล้ว ไม่รู้ว่ามีกำลังความสามารถแข็งแกร่งกว่ากันเท่าไร
ที่สำคัญมากไปกว่านั้นก็คือ ราชันแท้จริงจินผู่คือศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู นี่แหละคือสิ่งที่มีอำนาจสยบจิตใจผู้คนได้มากที่สุด ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่ต้องเงยหน้ามองในใจ เมื่อเอ่ยถึงปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
กลุ่มคนรุ่นใหม่ในแดนลัทธิเซียนยุคปัจจุบัน ผู้ที่สามารถนำมาพูดเปรียบเทียบกันได้ เกรงว่าคงมีแต่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูเท่านั้น
“ฮึราชันแท้จริงจินผู่มาแล้วอย่างไร บุตรีสวรรค์ของพวกเราก็มิใช่มาด้วยแล้วรึ” นักศึกษาของสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิมไม่สู้จะพอใจนัก
“บุตรีสวรรค์ บุตรีสวรรค์หมายถึงกระบี่เหินเทียนเจียวใช่หรือไม่?” นักศึกษาของสถาบันศึกษาอื่นๆ เอ่ยถามขึ้นมา
“นอกเหนือจากกระบี่เหินเทียนเจียวแล้ว ยังจะมีใครที่สามารถได้รับการยกย่องว่าเป็นบุตรีสวรรค์ได้อีก?” นักศึกษาของสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิมหัวเราะอย่างทระนง และกล่าวว่า “นางคือชั้นคงคงเป็นอมตะตลอดกาลขั้นต้นเลยนะ!”
“กระบี่เหินเทียนเจียว น้องสาวร่วมบรรพบุรุษของจักรพรรดิซีนะเนี่ย เป็นศิษย์ของสำนักสี่ซี” ผู้คนจำนวนไม่น้อยมีท่าทีหนักแน่นจริงจังเมื่อได้ยินชื่อของกระบี่เหินเทียนเจียว เนื่องจากกระบี่เหินเทียนเจียวไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในชั้นคงคงเป็นอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุดเท่านั้น ที่ทำให้ผู้คนต้องหวั่นเกรงก็คือชาติกำเนิดของนาง นางมีชาติกำเนิดมาจากสวี่ซี เป็นน้องสาวของจักรพรรดิซี
“กระบี่เหินเทียนเจียวยอดเยี่ยมก็จริง เทียบกับราชันแท้จริงหลิงซินแล้วเป็นอย่างไรเล่า?” นักศึกษาจากสถาบันศึกษาหลีหมิงทักษิณเอ่ยขึ้น
……
ในเวลานี้นักศึกษาของสถาบันศึกษาเซิ่นถัวประจิม สถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ และสถาบันศึกษาหลีหมิงทักษิณต่างก็ไม่มีใครยอมให้ใคร แต่ว่า นักศึกษาจากสถาบันศึกษาเป่ยเยี่ยนดูจะเงียบสงบไม่น้อย
“เป่ยเยี่ยนมีใครมาเล่า?” ครั้นนักศึกษาจากสถาบันศึกษาอื่นได้สติกลับมา จึงได้กล่าวว่า “ราชันแท้จริงเซิ่นซวงมาแล้วใช่หรือไม่?”
“พวกเรามีเพียงเด็กมหัศจรรย์สามตาเท่านั้นที่มา” นักศึกษาของสถาบันศึกษาเป่ยเยี่ยนผู้หนึ่งกล่าวขึ้น “งานเล็กๆ แบบนี้ไม่จำเป็นต้องให้ฝ่าบาทเซิ่นซวงเสด็จมา”
“เด็กมหัศจรรย์สามตามาแล้ว ระดับเทพแท้จริงชั้นอมตะ ชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุด” แม้ว่าคำพูดของนักศึกษาจากสถาบันศึกษาเป่ยเยี่ยนฟังแล้วดูจะเสแสร้างเป็นพิเศษ แต่ว่า เมื่อได้ยินชื่อ ‘เด็กมหัศจรรย์สามตา’ แล้ว พวกเขายังคงรู้สึกหวั่นไหวในใจ
เด็กมหัศจรรย์สามตา ระดับชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นที่มีอายุน้อยที่สุด อายุน้อยกว่ากระบี่เหินเทียนเจียวเสียอีก เรียกได้ว่าพรสวรรค์ยากจะหาผู้ใดเทียม แม้แต่ราชันแท้จริงที่มีอายุมากกว่าเขาต่างก็ชื่นชมว่าพรสวรรค์ของเขายากจะหาผู้ใดเทียม อนาคตไร้ขีดจำกัด กระทั่งมีความเป็นไปได้สามารถกลายเป็นคงความเป็นอมตะตลอดกาลหย่วนเต้า
“เยี่ยมมาก แต่ว่า ไม่รู้ว่าพวกเขาจะไปเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดหรือไม่” มีผู้ที่พึมพำขึ้นมาเบาๆ
นักศึกษาจากสถาบันศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างมองตากันและกันเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เป็นที่ใฝ่ฝันถึงของผู้คนจำนวนเท่าไร แม้ว่ามีผู้กล่าวเอาไว้ว่า คิดจะเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ต้องเริ่มต้นที่ระดับราชันแท้จริง หรือคงความเป็นอมตะตลอดกาล แต่ว่า ใช่ว่าระดับราชันแท้จริง หรือคงความเป็นอมตะตลอดกาลทั้งหมดจะสามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้เสมอไป
“ผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดนะเนี่ย ไม่ทราบว่ามาคราวนี้ใครบ้างทีสามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้ ในอดีตได้ยินมาว่าทั้งราชันแท้จริงเซิ่นซวง หมิงหวังฝอ เทพสงครามจินเปี้ยนต่างก็เคยเก็บมาก่อน ไม่ทราบว่าจริงหรือเท็จ รุ่นนี้หวังว่าคงไม่แย่ขนาดนั้นกระมัง จะอย่างไรเสียจะต้องมีคนอย่างน้อยสามคนขึ้นไปที่สามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุด” ผู้คนจำนวนมากต่างซุบซิบกันเบาๆ
“ข้ารู้สึกว่า ไม่แน่นักมีผู้หนึ่งจะเป็นที่เหนือความคาดคิด” ในเวลานี้ มีนักศึกษาผู้หนึ่งพูดเสียงแผ่วเบา
“ใครกันนะ? เป็นคลื่นลูกใหม่รึ?” ทุกคนต่างทยอยรู้สึกสนใจ
“หลี่ชิเย่ ข้ารู้สึกว่า ไม่แน่นักเขาสามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้” นักศึกษาผู้นี้กล่าวหนักแน่นจริงจัง
“หลี่ชิเย่ ใครกัน?” ทุกคนต่างงงงวยเมื่อได้ยินชื่อนี้ ชื่อนี้กล่าวสำหรับพวกเขาทุกคนแล้ว นับว่าไม่คุ้นเอาเสียเลย กระทั่งไม่เคยได้ยินมาก่อน
“นักศึกษาผู้หนึ่งของสถาบันศึกษาล้างบาป” นักศึกษาผู้นี้เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ตามความเห็นของข้า คราวนี้เขามีสิทธิ์เก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้ หาไม่แล้วเขาก็คงจะไม่มา”
“เจ้าล้อเล่นอะไร แค่นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปคนหนึ่งสามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้ นี่ฝันไปหรือเปล่า?” ในเวลานี้ นักศึกษาทั้งหมดต่างระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมา ส่ายหน้า และกล่าวว่า “เกรงว่านับแต่สถาบันศึกษาล้างบาปก่อตั้งขึ้นมาจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีนักศึกษาสามารถเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้เลยสักคนกระมัง เจ้าหลี่ชิเย่คนนี้มีอะไรโดดเด่นกว่าผู้อื่น?”
“เนื่องจากเขาได้รับการยอมรับจากกระบี่ล้างบาป สมควรทราบว่า นี่คือกระบี่ประจำกายของปฐมบรรพบุรุษเลยนะ ครั้งนั้น มีผู้คนจำนวนเท่าไรคิดจะหยิบยกกระบี่นี้แต่ก็ไม่สำเร็จ มีเพียงราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่สามารถหยิบยกกระบี่ประจำกายเล่มนี้ขึ้นมาได้เท่านั้น สมควรทราบว่า เวลานั้น ราชันแท้จริงเซิ่นซวงคือราชันแท้จริงสิบเอ็ดลัคนาคนหนึ่งแล้ว ห่างจากการเป็นราชันแท้จริงสิบสองลัคนาแค่ก้าวเดียวเท่านั้น” นักศึกษาผู้นี้กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง ไม่ได้มีท่าทีของการล้อเล่นแม้แต่นิดเดียว
นักศึกษาคนอื่นๆ ต่างมองหน้าซึ่งกันและกันเมื่อได้ยินคำพูดของนักศึกษาผู้นี้ มีผู้ซุบซิบขึ้นว่า “ได้รับการยอมรับจากกระบี่ล้างบาป สิ่งนี้นับว่ามีความชั่วร้ายอยู่บ้าง”
“สิ่งนี้เกรงว่าจะเป็นความบังเอิญอย่างหนึ่ง เป็นวาสนาอย่างหนึ่ง” มีนักศึกษาโต้แย้งทันทีว่า “ของวิเศษยอมรับนาย เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็กำหนดไม่ได้ ไม่แน่นักเขาอาจได้รับโชคใหญ่พอดี จึงได้รับการยอมรับเป็นนายจากกระบี่ล้างบาป”
“ต่อให้เขาโชคดีมาก ได้รับการยอมรับจากกระบี่ล้างบาป” นักศึกษาผู้นี้กล่าวว่า “แต่ว่า เขาเคยดีดนิ้วทีหนึ่งก็เคาะเอาผลศักดิ์สิทธิ์โอมขนขาวหลายสิบลูก นี่มันผลศักดิ์สิทธิ์ ขั้นที่ห้าเลยนะ ลองถามดู ภายในระยะเวลาอันสั้นก็สามารถเคาะเอาผลโอมขนขาวลงมาได้มากมายถึงเพียงนั้น เกรงว่าต่อให้เป็นราชันแท้จริง ก็ทำได้อย่างเต็มกลืนกระมัง”
บรรดานักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างมีท่าทีไม่ค่อยอยากจะเชื่อเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ จะอย่างไรเสีย เรื่องเช่นนี้พวกเขาก็ทำไม่ได้ สมควรทราบว่า พวกเขาต่างก็เป็นนักศึกษาที่มีชาติกำเนิดมาจากสี่สถาบันศึกษาใหญ่ ล้วนแล้วแต่เป็นนักศึกษาที่โดดเด่นมาก ในบรรดาพวกเขากระทั่งมีผู้ที่มีกำลังความสามารถระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ
“เรื่องนี้ข้าเห็นมากับตา เป็นความจริงที่เขาได้เคาะผลโอมขนขาวลงมาหลายสิบลูก เรื่องนี้มีความชั่วร้ายอยู่บ้าง รายละเอียดว่าชั่วร้ายตรงไหนไม่สามารถบ่งบอกชัดเจน” รุ่นพี่คนหนึ่งที่เคยอยู่ในเหตุการณ์เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ตอนนั้น จางติงยวี่ก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ คิดว่าหลี่ชิเย่อาศัยวิชามาร แต่ว่า เวลานี้มานึกดูให้ละเอียดแล้ว นี่หาใช่เป็นวิชามารอะไร มีความเป็นไปได้ก็คือสาเหตุมาจากกระบี่ล้างบาป…”
ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้เขาได้หยุดนิดหนึ่ง มองดูทุกคนและกล่าวว่า “…ลองนึกดู กระบี่ล้างบาปคืออาวุธประจำตัว่ของปฐมบรรพบุรุษ มันได้แฝงพลังจรัสที่ไม่มีสิ้นสุดเอาไว้ ขณะที่ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นตามธรรมชาติมาจากความจรัสและฟ้าดิน หลี่ชิเย่อาจจะอาศัยพลังจรัสของกระบี่ล้างบาปเคาะและเก็บผลโอมศักดิ์สิทธิ์ขนขาวลงมา และไม่ได้อาศัยกำลังความสามารถของตนเอง”
…………………………………….