Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2841 ราชันแท้จริงจินผู่
ตอนที่ 2841 ราชันแท้จริงจินผู่
ภายใต้สายตาจำนวนมาก ราชาพยัคฆ์จำเป็นต้องหยิบเอาผลบัวปฐพีขึ้นมา
“ฮึกินอีกสักลูกจะเป็นไรไป” ราชาพยัคฆ์ส่งเสียงฮึเย็นชาหลังจากหยิบเอาผลบัวปฐพีขึ้นมาแล้ว เขาประเมินตัวเขาเองว่า ต่อให้กินผลไป๋ลู่ตันกั่วอีกสักลูกเขายังคงรองรับได้อยู่แล้ว เวลานี้ผลบัวปฐพีลูกนี้มีฤทธิ์ยาไม่รู้ว่าอ่อนกว่ากันเท่าไรเมื่อเทียบกับผลไป๋ลู่ตันกั่ว คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหากเขาจะกินผลบัวปฐพีลูกนี้ลงไป
ในเวลานี้เอง ราชาพยัคฆ์ได้กัดกินผลบัวปฐพีไปคำหนึ่ง และกลืนลงคอไป
ผลบัวปฐพีหนึ่งคำที่ถูกกลืนลงไปนั้น ไม่เพียงแต่ราชาพยัคฆ์เท่านั้น บรรดานักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่เข้าใจว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะกัดกินอีกสักคำแล้วมันจะเป็นเช่นใดเล่า?
จังหวะที่ผลบัวปฐพีถูกกลืนลงไปคำหนึ่งนั้น ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ในพริบตาเดียวนั่นเอง พลังจรัสที่อยู่ภายในร่างกายของราชาพยัคฆ์พลันเหมือนถูกจุดติดอย่างนั้น
ก่อนหน้านี้ พลังจรัสที่เสมือนดั่งมังกรยักษ์นับพันนับหมื่นตัวที่คำรามอยู่ภายในร่างกายของราชาพยัคฆ์ตลอดมา แต่ว่ายังคงถูกราชาพยัคฆ์สยบเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ผลบัวปฐพีหนึ่งคำที่กลืนลงไปพลันทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปโดยพลัน
สิ่งนี้คล้ายน้ำมันถังหนึ่งพลันถูกจุดติดโดยสะเก็ดไฟเพียงเม็ดเดียว เหมือนมังกรยักษ์นับพันนับหมื่นตัวได้ดิ้นจนหลุดจากเครื่องพันธนาการบนตัวในพริบตาเดียวอย่างนั้น
ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว มองเห็นพลังจรัสทั้งหมดที่อยู่ภายในกายของราชาพยัคฆ์ได้เกิดระเบิดขึ้นในทันที เสมือนดั่งเป็นภูเขาไฟระเบิดอย่างนั้น
“ลดลง…” ราชาพยัคฆ์ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความหวาดผวา สำแดงยันต์สัตว์และคำรามอย่างบ้าคลั่ง ยันต์สัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนพลันปกป้องบนตัวของตนในพริบตาเดียว หวังอาศัยสิ่งนี้ไปสยบการระเบิดขึ้นฉับพลันของพลังจรัส
แต่ว่า ในขณะนี้พลังจรัสในกายของราชาพยัคฆ์คล้ายดั่งถังน้ำมันที่ถูกจุดติด เหมือนมังกรยักษ์ที่หลุดจากเครื่องพันธนาการ ไม่สามารถสยบเอาไว้ได้อยู่แล้ว
คร๊าก คร๊าก คร๊าก…เสียงแตกละเอียดดังขึ้น ในพริบตาเดียวนี้เอง ยันต์สัตว์ที่ใช้ปกป้องบนตัวของราชาพยัคฆ์ถึงกับแตกร้าวทีละนิดๆ แสงสว่างพลันสาดส่องออกมาจากภายในร่างกายของเขา ประกายแสงที่เจิดจ้ายิ่งแต่ละสายดุจดั่งแทงทะลุร่างกายของเขาอย่างนั้น
สุดท้าย ได้ยินเสียงปังดังขึ้น ยันต์สัตว์ทั้งหมดที่ถูกนำมาปกป้องร่างกายของราชาพยัคฆ์พลันแตกละเอียดไปทั้งหมด ราชาพยัคฆ์ไม่สามารถสยบพลังจรัสที่บ้าคลั่งและรุนแรงนี้ได้อีกแล้ว ได้ยินเสียงปุดังขึ้น พร้อมกับเลือดสดๆ ที่พุ่งกระฉูดออกมา
พริบตาเดียวนั้นเอง ร่างกายของราชาพยัคฆ์ปรากฏรอยร้าวขึ้นมานับไม่ถ้วน เลือดสดๆ ได้ฉีดพ่นออกจากรอยร้าวโดยตรง ได้ยินเสียงคร๊ากกก คร๊ากกกที่เป็นเสียงแตกร้าวดังขึ้น
ในพริบตาเดียวนั่นเอง มองเห็นร่างกายของราชาพยัคฆ์เหมือนถูกดันให้แยกออก รอยร้าวแต่ละสายถูกดันจนกลายเป็นรอยแผลแต่ละแผล เมื่อพลังจรัสที่ยิ่งใหญ่มหาศาลวิ่งพล่านออกมา เหมือนต้องการดันร่างกายของราชาพยัคฆ์จนแตกละเอียด
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้…” นักศึกษาทั้งหมดล้วนแล้วแต่ถูกทำให้ตื่นตกใจมากทีเดียวเมื่อได้มองเห็นภาพเช่นนี้ ถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมาด้วยความหวาดผวา
“อาจารย์ ช่วยข้าด้วย…” จังหวะที่ร่างกายของราชาพยัคฆ์ถูกดันจนจะแตกละเอียดในพริบตาเดียวนั้น เขาถึงกับหวาดผวายิ่งนัก ขณะที่ร่างกายของตนกำลังจะระเบิดขึ้นในฉับพลัน เขาได้ร้องเสียงแหลมขึ้นมา
เนื่องจากในพริบตาเดียวนั่นเอง เขารู้สึกได้ถึงพลังจรัสที่พลุ่งพล่านและโหมสาดซัด ไม่เพียงต้องการระเบิดร่างของเขาเท่านั้น ยังจะระเบิดจนชะตาแท้และวิญญาณจนหายวับไปกับตาในพริบตาอีกด้วย
พริบตาเดียวห้วงระหว่างความเป็นความตาย เขาได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปยังอาจารย์ของตน
พริบตาเดียวนั้นเอง เสียงฮึทุ้มต่ำดังขึ้น โดยที่เสียงฮึทุ้มต่ำนี้ดังก้องไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เสมือนดั่งฟ้าร้องที่ระเบิดขึ้นข้างหูของทุกคน
“โง่เขลา!” เสียงที่หนักแน่นมีพลังเสียงหนึ่งดังขึ้นในฉับพลัน มือขนาดใหญ่ที่มีประกายสีทองวูบวาบลงมาจากท้องฟ้า มองเห็นกฎเกณฑ์สีทองแต่ละสายคล้ายดั่งน้ำตกสวรรค์ที่เทราดลงมา และเข้าครอบตัวราชาพยัคฆ์เอาไว้
จังหวะที่มือขนาดใหญ่ลงมาจากท้องฟ้าโดยพลันนั้น ปรากฏเสียงตูมที่ดังตูมตามไม่ขาดสาย อานุภาพราชันแท้จริงพลันโหมสาดซัด เสมือนดั่งคลื่นยักษ์ที่โหมสาดซัดเข้ามาอย่างนั้น
ในขณะเดียวกัน ได้ยินเสียงปุดังขึ้นเสียงหนึ่ง บนพื้นดินปรากฏเถาวัลย์สีทองแต่ละเส้นผุดขึ้นมา โดยที่เถาวัลย์สีทองแต่ละเส้นคล้ายดั่งหลอมสร้างขึ้นมาจากทองคำ เถาวัลย์แต่ละเส้นเคลื่อนที่ดั่งงูที่รวดเร็วมาก อาศัยความเร็วที่สูงมากเข้าไปพันรอบราชาพยัคฆ์ หวังจะห่อหุ้มร่างกายของราชาพยัคฆ์และทำการสยบพลังจรัสที่อยู่ภายในร่างกายของเขาเอาไว้
“สายไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยทีหนึ่ง ขณะมองดูเถาวัลย์สีทองเข้าไปพันกาย
เสียงตูม…ดังสนั่น จังหวะที่เถาวัลย์สีทองยังไม่ทันได้ห่อหุ้มร่างของราชาพยัคฆ์ พลังจรัสภายในกายของราชาพยัคฆ์พลันรวมตัวกันจนถึงจุดวิกฤต และเกิดการระเบิดขึ้นทันที ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังขึ้น มองเห็นประกายแสงที่เสมือนดั่งทะเลแห่งดวงดาวที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุดระเบิดขึ้นทันทีอย่างนั้น อนุภาคของแสงนับไม่ถ้วนได้พวยพุ่งไปทั่วฟ้าดิน กลายเป็นคลื่นแสงที่พุ่งโจมตีออกไป
“ไม่…” จังหวะที่ร่างกายของตนเองถูกระเบิดอย่างสิ้นเชิงนั้น ราชาพยัคฆ์ได้ร้องเสียงแหลมขึ้นมา เสียงแหลมของเขาดังก้องไปทั่วฟ้าดิน วินาทีก่อนที่จะตายเขาเปี่ยมไปด้วยความไม่ยินยอม เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
ฉับพลันระหว่างความเป็นความตาย แม้ว่าอาจารย์ของเขาลงมือเข้าช่วยก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ได้ นาทีนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ยินยอมอะไรอย่างนั้น ทำให้เขาผิดหวังมากมายอะไรอย่างนั้น
หลังจากที่เสียงตูมเสียงนี้ดังขึ้นมาแล้ว ฟ้าดินตกอยู่ในความเงียบสงัด ความสว่างทั้งหมดเสมือนดั่งคลื่นจรัสที่พุ่งโจมตีออกมา และโจมตีไปทุกทิศทุกทางในฉับพลันทันที ภาพเช่นนี้สร้างความหวั่นไหวมากเหลือเกิน ทำให้ทุกๆ คนที่อยุ่ในเหตุการณ์ต่างตาค้างพูดอะไรไม่ออก ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เหม่อลอยกับเหตุการณ์เช่นนี้ และไม่สามารถเรียกสติคืนได้เป็นเวลานาน
นาทีนี้ เสียงฮึเย็นชาดังขึ้นเสียงหนึ่ง แม้ว่าเสียงฮึเย็นชานี้ไม่เหมือนเสียงฮึก่อนหน้าที่เสมือนดั่งฟ้าร้องที่ระเบิดขึ้นอย่างนั้น แต่ว่าเสียงฮึเย็นชาเสียงนี้กลับเสมือนหนึ่งเป็นค้อนยักษ์ที่ทุบลงบนทรวงอกของทุกคนอย่างแรง ทำให้ทุกคนล้วนแล้วแต่รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก เกือบจะต้องหมอบอยู่กับพื้น
นาทีนี้ มีคนผู้หนึ่งเหินฟ้าลงมา ขณะที่เขาร่อนลงพื้นดินนั้น ประกายสีทองแผ่กระจาย ประกายสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนได้มุดออกมาจากพื้นดินและแผ่กระจายอยู่บนอากาศ และขณะเดียวกัน บนพื้นดินพลันมีเถาวัลย์สีทองแต่ละสายที่งอกออกมา เถาวัลย์สีทองแต่ละสายเสมือนดั่งงูที่ว่องไวพันตูเข้าด้วยกัน และยกตัวผู้ที่เหินฟ้าลงมาจากฟ้าเบาๆ
ดูเหมือนว่า ไม่ว่าคนผู้นี้ก้าวย่างไปถึงที่ใดก็ตาม เขาก็จะทำให้เถาวัลย์ถือกำเนิดขึ้นม ทุกๆ ย่างก้าวของเขาก็จะมีเถาวัลย์ที่ยกตัวของเขาขึ้นมา สิ่งนี้คล้ายกับมีดอกบัวโผล่ขึ้นมาทุกย่างก้าว แม้ว้าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจะไม่ใช่ดอกบัว แต่เป็นเถาวัลย์สีทอง
ทุกคนมองออกไปในเวลานี้ เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งเหินฟ้าลงมา เขาสวมชุดสีทองทั้งชุด บนชุดสีทองมีอักขระยันต์ที่เคลื่อนไหวไปมา เหมือนว่าที่สวมอยู่บนตัวของเขานั้นไม่ใช่เสื้อสีทอง แต่เป็นสัจธรรมสีทองที่คลุมไว้บนตัว
ชายหนุ่มผู้นี้มีแววตาดั่งกระบี่ ขณะที่แววตาเคลื่อนไปนั้นสามารถเบิกแม่น้ำฟันทะเล ท่ามกลางอากัปกิริยาของเขา มีทีท่าของการตำหนิติเตียนฟ้าดิน
เมื่อชายหนุ่มผู้นี้ลงมาอยู่ที่ตรงนี้ ได้ยินเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา กลิ่นอายราชันแท้จริงเสมือนหนึ่งคลื่นยักษ์ที่สะเทือนเลื่อนลั่นโหมสาดซัดต่อฟ้าดินแห่งนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องหายใจไม่ออกกับสิ่งนี้ คล้ายเป็นหนึ่งฝ่ามือที่ซัดลงบนร่างกายของทุกๆ คน ทำให้ผู้คนถึงกับต้องคุกเข่าลงกับพื้นทันที
อีกทั้งเมื่อชายหนุ่มผู้นี้ลงมานั้น อานุภาพราชันแท้จริงได้สยบฟ้าดินแห่งนี้เอาไว้ ทำให้นักศึกษาจำนวนมากต่างสั่นเทาทีหนึ่ง ในเวลานี้ถึงกับหายใจไม่ออก และหอบหายใจไม่ทัน
“ราชันแท้จริงจินผู่…” มีผู้ที่รู้สึกใจหายใจคว่ำ และถึงกับหวาดผวาเมื่อเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้ว
พวกจ้าวชิวสือต่างร่างสั่นเทิ้มทีหนึ่งเมื่อได้ยินฉายาราชันผู้นี้ พวกเขาต่างยืนได้ไม่มั่นคงภายใต้อานุภาพราชัน พวกเขาล้วนก้มโค้งลง
ราชันแท้จริงจินผู่ นักศึกษาสถาบันศึกษาสู่กวงพายัพ ผู้สืบทอดของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิจิ้งเฉ่า ศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ราชันแท้จริงแปดลัคนา!
ไม่ว่าจะเป็นฉายาใดก็เพียงพอที่จะให้เขาหมางเมินทั่วหล้า เกรียงไกรไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน!
“ฝ่าบาท…” นักศึกษาจำนวนไม่น้อยทยอยกันหมอบกราบเมื่อเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้ว นักศึกษาที่ทักษะอ่อนไม่สามารถรับกับอานุภาพราชันแท้จริงที่ยิ่งใหญ่ไพศาลได้อยู่แล้ว
มีเพียงนักศึกษาที่มีกำลังความสามารถในระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะเท่านั้น จึงสามารถรองรับอานุภาพราชันแท้จริงของราชันแท้จริงจินผู่ได้ จะอย่างไรเสียด้วยกำลังความสามารถในฐานะที่เป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา หาใช่บรรดาเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์เหล่านั้นสามารถต่อกรได้อยู่แล้ว
แววตาของราชันแท้จริงจินผู่เสมือนดั่งอัสนีเย็นยะเยือกที่กวาดผ่านไป ยามที่แววตาราชันแท้จริงจินผู่กวาดผ่านไปนั้น เสมือนดั่งกระบี่คมกริบที่ขูดบนตัวอย่างนั้น ยากที่จะทนต่อความเจ็บปวดนั้นได้
ในเวลานี้ ราชันแท้จริงจินผู่ได้สูดลมหายใจเข้าติดๆ กันครั้งแล้วครั้งเล่า สายตาดูน่าเกรงขาม และกล่าวว่า “ผลไป๋ลู่ตันกั่ว ผลบัวปฐพี” พลันที่กล่าวขาดคำ สายตาของเขาตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่
“เป็นเจ้าที่ใช้อุบายหลอกสังหารศิษย์ของข้า!” ในเวลานี้แววตาของราชันแท้จริงจินผู่เย็นยะเยือก เป็นที่หวั่นเกรงของผู้คน
ราชันแท้จริงจินผู่คือปีศาจพฤกษชาติที่บรรลุมรรคผล ถือเป็นสายของเผ่าปีศาจ ภายหลังถูกปราชญ์อัจฉริยะหลันซูรับเป็นศิษย์ กลายเป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา โชคชะตาชั่วชีวิตนับว่าปราดเปรื่องน่าทึ่งยิ่ง
สำหรับศิษย์อย่างราชาพยัคฆ์ที่เป็นเผ่าปีศาจเช่นกันนั้น นับเป็นที่โปรดปรานยิ่งของราชันแท้จริงจินผู่ และตัวของราชาพยัคฆ์ก็มีความกตัญญูต่ออาจารย์ของตนอย่างยิ่ง
เวลานี้เมื่อราชันแท้จริงจินผู่พบว่าศิษย์ของตนตายอนาถภายใต้การวางแผนให้ร้ายของหลี่ชิเย่แล้ว ย่อมไม่สามารถอยู่ในความสงบได้
แม้ว่าราชันแท้จริงจินผู่ในขณะนี้ไม่ได้มีอาการโกรธอย่างรุนแรง แต่ว่า การคำรามของกลิ่นอายราชันแท้จริงทำให้ฟ้าดินสั่นเทา ทำให้ทุกคนถึงกับหวาดกลัวยิ่งนัก ยิ่งพวกของจ้าวชิวสือด้วยแล้ว ยิ่งถูกทำให้ตกใจจนร่างสั่นเทา นี่คือระดับราชันแท้จริงนะเนี่ย ขอเพียงเขาโกรธขึ้นมา แค่นิ้วมือนิ้วเดียวก็สามารถสังหารพวกเขาได้ทุกคน
ในเวลานี้ พวกของจ้าวชิวสือต่างเป็นกังวลในตัวหลี่ชิเย่ เกรงว่าจะต้องถูกสังหารโดยราชันแท้จริงจินผู่
“ไม่ถึงขั้นหลอกสังหาร” หลี่ชิเย่ยักไหล่ทีหนึ่ง และยิ้มกล่าวว่า “นี่เป็นเพียงเกมเดิมพันที่ธรรมดาที่สุดเกมหนึ่งเท่านั้นเอง เขากินผลไป๋ลู่ตันกั่ว ส่วนข้ากินผลบัวปฐพี”
“ผลไป๋ลู่ตันกั่วมีความเข้มข้นยิ่ง ผลบัวปฐพีมีความเป็นมิตร แต่ หากผลไป๋ลู่ตันกั่วกินร่วมกับผลบัวปฐพี มันคือน้ำมันราดลงกองไฟ!” ดวงตาทั้งสองของราชันแท้จริงจินผู่เพ่งตรงไปข้างหน้า ดูแคลนในตัวหลี่ชิเย่
เขาคือพฤษชาติบรรลุมรรคผล เรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์ด้านของโอสถ พลันเข้าใจทันทีว่าศิษย์ของตนนั้นเสียชีวิตเพราะเหตุใด และมองดูหลี่ชิเย่ที่กำของล้ำค่ากระบือในมือแล้ว ยิ่งทำให้ในจของเขารู้สึกเห็นอกเห็นใจ
ครั้งนั้น เนื่องจากตัวเขาอยากได้ของล้ำค่ากระบือชิ้นนี้ จึงได้พูดขึ้นมาตามอารมณ์ ไม่นึกเลยว่าศิษย์ของตนจะมีความกตัญญูต่อเขามากถึงเพียงนี้ สุดท้าย จึงได้พ่วงเอาชีวิตเข้าไปด้วย
“เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้นะ” หลี่ชิเย่ยักไหล และกล่าวว่า “ข้าแค่ต้องการกินผลบัวปฐพีนิดหนึ่งเท่านั้น ขณะที่ศิษย์ของเจ้าต้องการแย่งชิงผลบัวปฐพีลูกสุดท้ายของข้าไป พูดได้แต่เพียง มันคือชะตา”
นัยน์ตาของราชันแท้จริงจินผู่พลันดูน่าเกรงขาม ในเวลานี้ราชันแท้จริงจินผู่ไม่ได้แสดงอาการโกรธ แต่ว่า ในฐานะที่เป็นถึงราชันเซียน แม้ไม่โกรธแต่เปี่ยมด้วยอำนาจ กลิ่นอายน่ากลัวของราชันแท้จริงกำลังคำราม ทำให้นักศึกษาจำนวนมากตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน มีผู้ที่เงยหน้าขึ้นมองทีหนึ่งถึงกับสั่นเทิ้มทีหนึ่ง ไม่กล้าไปจ้องมองราชันแท้จริงจินผู่
นาทีนี้ ทุกคนต่างเข้าใจว่า มาคราวนี้หลี่ชิเย่ต้องตายแน่นอน
…………………………………………………………