Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2849 จะตัดต้นไม้
ตอนที่ 2849 จะตัดต้นไม้
ในเวลานี้ มีบางคนจ้องมองดูกระบี่ล้างบาปของหลี่ชิเย่อย่างงุนงง ฟังดูเหมือนไม่ผิดอย่างนั้น
ตั้งแต่ต้นจนจบเขาก็ไม่ได้ฆ่าคน ที่ฆ่าคนนั้นเป็นกระบี่ล้างบาปจริงๆ เรื่องนี้ฟังดูแล้วเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับหลี่ชิเย่อย่างนั้น
แต่ว่า ถ้าหากจะเอาโทษกระบี่ล้างบาปล่ะก็ มีผู้คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดเสียวในใจ ลองคิดดู ด้วยลักษณะท่าทางของกระบี่ล้างบาปที่คำพูดไม่เข้าหูก็ฆ่าคนเช่นนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องระวังตัวสักหน่อย ใครกล้าไปแตะต้องกระบี่ล้างบาปก็ต้องประเมินตนเองให้ดี
กระบี่ล้างบาปคือกระบี่ประจำกายของปฐมบรรพบุรุษ ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือกระบี่เล่มนี้มีจิตวิญญาณแล้ว เกรงว่ายากที่จะจินตนาการได้ถึงอานุภาพที่ยิ่งใหญ่ของมันได้ ใช่ว่าใครก็มีกำลังความสามารถที่จะต่อต้านกับกระบี่ปฐมบรรพบุรุษเช่นนี้ได้
เวลานี้ แววตาของราชันแท้จริงเคอะสือ และราชันแท้จริงงูหลามทองที่จ้องมองหลี่ชิเย่นั้นเย็นยะเยือก มองเห็นปณิธานการฆ่าที่แววบวับในสายตาของพวกเขา ย่อมไม่ต้องสงสัย กล่าวสำหรับราชันแท้จริงเคอะสือ และราชันแท้จริงงูหลามทองแล้ว พวกเขาได้บังเกิดความคิดที่สะสังหารขึ้นมาแล้ว จะอย่างไรเสีย ต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า แค่คำพูดไม่เข้าหูคำเดียวก็สังหารศิษย์ของพวกเขา ยากที่พวกเขาจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้ และหากไม่มีคำอธิบายล่ะก็ ความน่าเกรงขามในฐานะราชันแท้จริงยังจะคงอยู่อีกรึ?
“เจ้าหนูคนนี้ช้าหรือเร็วคง่ยากจะหนีความตายได้พ้น” นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างเมื่อมองเห็นภาพนี้แล้ว ถึงกับหัวเราะเยาะขึ้นมา ใครๆ ก็มองออกว่า ในเวลานี้ทั้งราชันแท้จริงเคอะสือ และราชันแท้จริงงูหลามทองต่างบังเกิดปณิธานการฆ่าขึ้นโดยแท้จริง หากราชันแท้จริงทั้งสองลงมือจริงๆ ล่ะก็ เกรงว่าหลี่ชิเย่ต้องตายอย่างไม่น่าสงสัย
ดังนั้น นักศึกษาจำนวนมากที่อยู่ใต้ต้นไม้เรียกว่ารู้สึกดีใจที่เห็นผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน เมื่อมองเห็นราชันแท้จริงเคอะสือกับราชันแท้จริงงูหลามทองได้เผยปณิธานการฆ่าขึ้นมา แน่นอน บางคนแอบคิดในใจว่าหากถือโอกาสวุ่นวายยึดเอากระบี่ล้างบาปมาเป็นของตนก็จะเป็นการดีที่สุด
บรรดาพวกจ้าวชิวสือที่เป็นนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปที่อยู่ใต้ต้นไม้ต่างรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นกังวลแทนหลี่ชิเย่จนเหงื่อเย็นไหลออกมา หัวใจของพวกเขาหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้วเวลานี้
นี่คือราชันแท้จริงถึงสองคนเลยนะ ในสายตาของพวกเขามองว่า ราชันแท้จริงอยู่ในฐานะที่สูงส่ง แค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถทำลายสถาบันศึกษาล้างบาปของพวกเขาได้ เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับหาเรื่องราชันแท้จริงรวดเดียวถึงสองคน มันช่างเป็นความอันตรายเช่นใด เกรงว่าใครก็ช่วยเหลือเขาไม่ได้
ภายใต้อานุภาพราชันแท้จริงทั้งสองที่ดั่งคลื่นยักษ์ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถูกทำให้ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน ต่างเหงื่อเต็มมือด้วยความตื่นเต้น
“ช่างเถอะ ไม่ขึ้นไปแล้ว สูงและไกลขนาดนี้ปีนขึ้นไปก็เหนื่อย เปลี่ยนวิธีใหม่ดีกว่า” หลี่ชิเย่ทำเหมือนมองไม่เห็นกับปณิธานการฆ่าของราชันแท้จริงเคอะสือ และราชันแท้จริงงูหลามทอง ทำท่ายักไหล่แล้วหันหลังลงจากต้นไม้ไป
การที่หลี่ชิเย่พลันเปลี่ยนใจกะทันหัน ทำให้นักศึกษาที่อยู่ใต้ต้นไม้ต่างมองตากันและกัน มีนักศึกษากล่าวหัวเราะเยาะว่า “พูดไม่ผิดใช่มั้ย พูดถูกแล้วจริงๆ เขาแค่ต้องการหาข้ออ้างลงก็เท่านั้นเอง”
“ฮึก็แค่ฉลาดเกมโกงเท่านั้น ต่ำทรามไร้ยางอาย” มีนักศึกษาที่เมินใส่ต่อหลี่ชิเย่
มีนักศึกษาอีกผู้หนึ่งกล่าวเย้ยหยันว่า “ต่ำทรามไร้ยางอาย? เจ้าไม่ดูเสียก่อนว่าเขามีชาติกำเนิดเช่นใด? นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาป คนที่มีชาติกำเนิดมาจากเมืองล้างบาปจะดีไปได้ถึงไหนกัน? แหะทายาทรุ่นหลังของคนโหดที่ก่อคดี แม้แต่ความสว่างก็ยังทอดทิ้ง ความต่ำทรามเป็นเรื่องปรกติของพวกเขา พวกเขาไม่มีเกียรติอะไรที่จะกล่าวถึงอยู่แล้ว”
สำหรับคำพูดที่เย้ยหยันเช่นนี้ สร้างความโกรธแค้นในใจให้กับพวกจ้าวชิวสือที่เป็นนักศึกษาสถาบันศึกษาล้างบาปเหล่านี้ แต่ว่าก็จนด้วยเกล้า เนื่องจากทุกคนล้วนแล้วแต่มีอคติเช่นนี้ต่อเมืองล้างบาปอยู่แล้ว
“ฮ่าฮ่าไหนเจ้าบอกว่าจะเก็บผลสูงศักดิ์สักหลายลูกมาลิ้มลองมิใช่รึ?” มีนักศึกษาหัวเราะเยาะเสียงดังและกล่าวว่า “ทำไม เวลานี้คิดหาข้ออ้างเผ่นลงมาแล้วล่ะ”
“ไม่เห็นรึว่าขึ้นไปไม่ได้รึ?” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย
“ว้าวข้ออ้างนี้ไม่เลวเลยจริงๆ นะ ดูท่าเจ้าคิดหาข้ออ้างแบบนี้ได้ตั้งแต่ต้นแล้วใช่มั้ย?” นักศึกษาผู้นี้กล่าวเหยียดหยามว่า “ไร้ฝีมือก็อย่าคุยโตโอ้อวด คิดว่าตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ยอดเยี่ยมจริงๆ รึ? ก็แค่ได้อาวุธปฐมบรรพบุรุษมาเล่มหนึ่งมิใช่รึ? ฮึเจ้าคิดว่าตัวเองคือราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรจริงๆ คิดว่าตัวเองมีพรสวรรค์สูงที่สุดรึ? ก็แค่โชคดีสุดๆ วาสนาดีได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์มาเล่มหนึ่งฮึ”
แม้ว่าท่าทางนักศึกษาผู้นี้ดูเหมือนเหยียดหยาม แต่ว่า ฟังจากคำพูดแล้วยังคงฟังรู้ว่าเปี่ยมด้วยความริษยา
“อ้อ ก็ข้าได้โชคก้อนใหญ่ เก็บอาวุธปฐมบรรพบุรุษได้มาเล่มหนึ่ง” หลี่ชิเย่กล่าวเอ้อระเหยว่า “ถ้าเช่นนั้นเจ้าไปเก็บอาวุธปฐมบรรพบุรุษสักเล่มให้ข้าดูสิ เจ้าแม้แต่โชคที่จะเก็บอาวุธปฐมบรรพบุรุษสักเล่มก็ไม่มี มองดูตัวเองสิ ช่างเหมือนนักเลงหัวไม้อะไรอย่างนั้น!”
“เจ้า…” นักศึกษาผู้นี้พลันถูกหลี่ชิเย่ยั่วโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ ในเวลานี้ถึงกับไปต่อไม่ถูก นับว่าถูกหลี่ชิเย่ยั่วจนน่าโมโหจริงๆ ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้ในมือหลี่ชิเย่กลับจะมีกระบี่ล้างบาปเล่มหนึ่งเล่า
“ฮึอย่าพูดมากเลย มันไร้ประโยชน์ หากแน่จริงก็ไปเก็บผลสูงศักดิ์มาให้ได้สักหลายลูก!” นักศึกษาอีกคนหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “อย่านึกว่ามีกระบี่ล้างบาปเล่มหนึ่งก็ทำได้ทุกอย่าง มีปัญญาก็ไปเก็บผลสูงศักดิ์มาสักหลายลูกให้ทุกคนได้เห็น”
“นั่นสิ อย่าเอาแต่คุยโตโอ้อวด ไม่มีฝีมือแม้แต่นิดเดียว ถ้าหากไม่มีฝีมือก็รีบๆ ใสหัวไปเสีย อย่ารั้งอยู่ที่นี่ให้เป็นที่อับอายต่อผู้คน” นักศึกษาอื่นๆ ทยอยกันพูดขึ้นมา และมีผู้ที่หัวเราะเยาะไม่หยุด
“ไม่เห็นรึว่าข้ากำลังเปลี่ยนวิธีการอยู่หรือ?” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งโดยไม่ได้เร่งรีบอะไร เวลานี้เขาได้เดินมาถึงใต้ต้นสูงศักดิ์แล้ว
“เปลี่ยนวิธีการ?” มีนักศึกษาที่จ้องมองดูหลี่ชิเย่ทีหนึ่ง และกล่าวเหยียดหยามว่า “เจ้าคงไม่บอกว่าอีกสักหลายวันหรืออีกหลายปีค่อยมาเก็บอย่างนั้นรึ?”
“ไม่ ข้ารู้สึกว่าการปีนขึ้นไปบนยอดไม้มันยุ่งยากเกินไป และเสียเวลามากเกินไป” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “ข้ารู้สึกว่ามิสู้ตัดเอาต้นสูงศักดิ์ลงมาแล้วแบกกลับบ้านไป”
ทุกคนต่างตะลึงงันเมื่อได้ฟังคำของหลี่ชิเย่แล้ว พลันสมองของผู้คนจำนวนมากเหมือนเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมาอย่างนั้น
ฮ่า ฮ่า ฮ่า…ตามติดด้วยเสียงหัวเราะฮ่า ฮ่า ฮ่าเสียงดังขึ้นมา เสียงหัวเราะที่ไม่เกรงใจเสมือนดั่งน้ำหลากที่พุ่งเข้ามา ไม่ว่าใครก็สามารถรับรู้ได้ว่านี่คือการเชิดใส่ต่อหลี่ชิเย่
“ฮ่า ฮ่า ฮ่าเจ้าเสียสติไปแล้วรึ?” นักศึกษาผู้หนึ่งมองดูหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเหยียดหยาม เหมือนมองดูคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งอย่างนั้น และกล่าวว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครรึ? เจ้าคิดว่าเจ้าคือสุดยอดราชันแท้จริงสูงสุด หรือปฐมบรรพบุรุษ? ถึงกับกล่าววาจาไร้ยางอายว่าจะตัดโค่นต้นสูงศักดิ์? เจ้าฝันไปรึ? เจ้ายังคงเลิกล้มความตั้งใจเสียดีกว่า ไม่มีใครสามารถตัดโค่นต้นสูงศักดิ์ได้อยู่แล้ว!”
“เจ้าเด็กน้อยที่โง่เขลา เจ้ารู้หรือไม่ว่าต้นสูงศักดิ์ดำรงอยู่ในสถานะเช่นใดหรือไม่?” นักศึกษาอื่นๆ ต่างหัวเราะเสียงดังไม่หยุด และกล่าวว่า “ต่อให้เจ้าตัดโค่นไปชั่วชีวิตก็เป็นไปไม่ได้ที่จะโค่นต้นสูงศักดิ์ได้”
“อ้อ อย่างนั้นรึ?” ท่าทางหลี่ชิเย่เหมือนงงงัน และกล่าวว่า “ในโลกนี้ยังมีต้นไม้ที่ข้าหลี่ชิเย่โค่นไม่ได้อย่างนั้นรึ? ไม่น่าเป็นไปได้มั้ง? ในมือของข้าคือกระบี่ล้างบาปนะ”
“ศิษย์น้อง ต้นสูงศักดิ์ก็ปลูกโดยปฐมบรรพบุรุษเช่นกัน มันไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่ล้างบาป” จ้าวชิวสือที่อยู่ข้างๆ รีบกล่าวเตือนสติหลี่ชิเย่เบาๆ และแอบกระตุกแขนเสื้อทีหนึ่ง กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ”
“อ๋อ ที่แท้ปฐมบรรพบุรุษเป็นคนปลูกนะเนี่ย” ท่าทางหลี่ชิเย่เหมือนรับรู้โดยพลัน แต่ยังคงไม่ใส่ใจ และกล่าวว่า “ไม่เป็นไร กระบี่ล้างบาปในมือข้าคมอยู่นะเนี่ย ข้าเชื่อว่าไม่กี่ทีก็สามารถฟันต้นสูงศักดิ์ให้โค่นลงมาได้”
“ฮึเจ้าเด็กน้อยโง่เขลา อย่าคิดว่าตัวเองมีกระบี่ปฐมบรรพบุรุษเล่มหนึ่งก็สามารถทำได้ทุกอย่าง ต้นสูงศักดิ์คือสุดยอดต้นศักดิ์สิทธิ์สูงสุด แบกรับความสว่างอดีตถึงปัจจุบัน ไหนเลยที่เจ้าสามารถตัดโค่นได้” มีนักศึกษาผู้หนึ่งเปี่ยมด้วยความหยามเหยียด หัวเราะเยาะว่า “ถ้าหากเจ้าสามารถตัดโค่นต้นสูงศักดิ์ได้ ดวงตะวันขึ้นทางทิศตะวันตก ข้าจะเรียกเจ้าว่าบรรพบุรุษ”
“แค่กบในกะลาเท่านั้นเอง คิดว่ามีกระบี่ล้างบาปเล่มหนึ่งก็สามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ” นักศึกษาคนอื่นๆ ทยอยกันหัวเราะเยาะ
“ดูท่าทุกกคนล้วนแล้วแต่ไม่เชื่อ” ท่าทีหลี่ชิเย่เหมือนจนด้วยเกล้า ตบกระบี่ล้างบาปและกล่าวว่า “เจ้าว่าพวกเราควรทำอย่างไรดีเล่า? ถ้าหากแม้แต่ต้นไม้ต้นหนึ่งยังตัดโค่นลงมาไม่ได้เจ้ายังจะเป็นกระบี่อีกรึ? กระบี่สมควรโค่นต้นไม้ได้ แค่ต้นสูงศักดิ์ต้นหนึ่งนับเป็นอะไรได้ ชั่วดีอย่างไรก็คือกระบี่ประจำตัวของปราชญ์ไกลกันดารที่เคยเกรียงไกรทั่วหล้า เลือดล้างหมื่นแดน แม้แต่ต้นไม้ต้นหนึ่งยังตัดโค่นไม่ได้ ยังเป็นกระบี่อะไรได้”
ตึง…ดังขึ้นเสียงหนึ่ง เหมือนว่ากระบี่ล้างบาปกำลังคัดค้านคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ส่งเสียงคำรามขึ้นมา เหมือนแสดงให้เห็นว่าตนเองสมารถโค่นต้นสูงศักดิ์ต้นนี้ได้
“ดูสิ กระบี่ล้างบาปก็แสดงออกมาแล้วว่า สามารถโค่นต้นสูงศักดิ์ต้นนี้ลงได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและตบกระบี่ล้างบาป ท่าทางดูยิ้มหน้าบาน
ภายในใจของนักศึกษาจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดเสียวเมื่อได้ยินกระบี่ล้างบาปส่งเสียงคำรามขึ้นมา ในเวลานี้ มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน
แม้ว่าทุกคนไม่มองหลี่ชิเย่ที่เป็นสวะอยู่ในสายตา แต่ว่า กระบี่ล้างบาปนั้นแตกต่าง มันคือกระบี่ประจำตัวของปฐมบรรพบุรุษ อานุภาพไร้เทียมทาน ต่อให้มันไม่สามารถตัดโค่นต้นสูงศักดิ์ได้ แต่ว่า พลันที่กระบี่สำแดงขึ้นมาก็สร้างความหวาดหวั่นให้กับผู้คนได้
“ฮึไม่เจียมตัว” มีนักศึกษาที่ไม่ยอมรับ กล่าวเยาะเย้ยว่า “หากเจ้าสามารถโค่นต้นสูงศักดิ์ได้ พวกเราทุกคนจะเรียกเจ้าว่าบรรพบุรุษ!”
“โอ๊ย ข้ามีหลานเพิ่มขึ้นรวดเดียวมากมายเช่นนี้ ไม่ดีกระมัง อายุสั้น อายุสั้น” หลี่ชิเย่ส่ายหน้า
นักศึกษาผู้นี้พลันถูกยั่วโมโหจนใบหน้าแดงก่ำ กล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เก่งจริงก็โค่นสิ อย่ามัวแต่คุยโตโอ้อวดอย่างเดียว เมื่อครู่บอกว่าจะเก็บผลศักดิ์สิทธิ์สักหลายลูก เวลานี้ก็คุยโม้ว่าจะตัดโค่นต้นสูงศักดิ์ เจ้านอกเหนือจากคุยโม้แล้วยังจะทำอะไรได้อีก?”
“เอาเถอะ ในเมื่อทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เชื่อ ข้าควรจะทดลองดูสักครั้งหรือไม่เล่า?” หลี่ชิเย่จนด้วยเกล้า เดินไปอยู่ข้างต้นสูงศักดิ์ ชักกระบี่ล้างบาปออกมาดังตึง
ขณะที่หลี่ชิเย่ชักกระบี่ล้างบาปออกมานั้น เวลานี้นาทีนี้ไม่เพียงนักศึกษาอื่นๆ รวมทั้งราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองล้วนแล้วแต่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเย็นชา พูดให้ถูกต้องก็คือ พวกเขาจ้องมองกระบี่ล้างบาปในมือของหลี่ชิเย่
โดยเฉพาะราชันแท้จริงเคอะสือมีสายตาที่ลึกล้ำ เนื่องจากเขาเคยทดลองไปหยิบยกกระบี่ล้างบาปมาก่อน รู้ว่ากระบี่เล่มนี้ทรงพลังเช่นใด
ความจริงแล้ว หลี่ชิเย่สังหารศิษย์ของพวกเขาไป พวกเขายังไม่ได้ลงมือ ภายในใจของพวกเขายังคงครุ่นคิดไม่ตกว่ากระบี่ล้างบาปเล่มนี้ที่มีจิตวิญญาณแล้วทรงพลังเช่นใดกันแน่
ในเวลานี้ราชันแท้จริงเคอะสือและราชันแท้จริงงูหลามทองต่างมองตากันและกัน กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว เหมือนว่าศิษย์ในสำนักที่ถูกสังหารนั้นไม่ได้มีความสำคัญอะไรอย่างนั้น ที่สำคัญคือกระบี่ล้างบาปเล่มนั้นที่อยู่ในมือของหลี่ชิเย่
เป็นความจริงที่กระบี่ประจำตัวปฐมบรรพบุรุษย่อมทำให้จิตใจผู้คนหวั่นไหว เกรงว่าแม้แต่ราชันแท้จริงก็ไม่มียกเว้น
……………………………………………..