Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2887 ดวลเดี่ยว
ตอนที่ 2887 ดวลเดี่ยว
ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจมองดูหลี่ชิเย่ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่จะมีท่าทีเช่นใด
จะอย่างไรเสีย ในเวลานี้พวกของราชันแท้จริงเคอะสือล้วนแล้วแต่อยุ่ในเหตุการณ์ มองออกได้ว่าพวกเขาตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะต้องได้ไข่นกสาริกาสันติภาพให้จงได้
ทุกคนไม่อาจไม่หวั่นเกรงกับการร่วมมือกันของราชันแท้จริงสามคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับราชันแท้จริงจินผู่แล้วยิ่งเป็นที่หวั่นเกรงของผู้คนมากนัก เขาไม่เพียงเป็นถึงราชันแท้จริงแปดลัคนาเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่น ในสายตาของใครก็ตามมองว่า ไม่มีความจำเป็นอย่างสิ้นเชิงต้องให้ตายไปข้างหนึ่งเพียงเพื่อไข่นกสาริกาไม่กี่ใบเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่จะไปล่วงเกินต่อระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ไม่ว่าใครก็ย่อมเข้าใจได้ว่าการเป็นศัตรูกับระดับปฐมบรรพบุรุษนั้นมันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงแค่ไหน ขอเพียงเป็นคนที่มีสติอยู่บ้างก็จะไม่ทำเช่นนี้
“อยากได้ไข่นกสาลิกา?” หลี่ชิเย่หัวเราะ และมองดูพวกราชันแท้จริงเคอะสือทีหนึ่ง กล่าวว่า “ไสหัวไป! ขณะที่ข้ายังไม่ได้ทำการเข่นฆ่าเป็นการใหญ่ ไสหัวไปได้ไกลแค่ไหนก็ไสหัวไปให้ไกลเท่านั้น มิฉะนั้นล่ะก็ วันนี้ สถานที่ตรงนี้ก็คือที่ฝังร่างของพวกเจ้า”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ทุกคนต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว รวมทั้งราชันแท้จริงจินผู่
ยิ่งราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองด้วยแล้ว สีหน้าของพวกเขายิ่งดูไม่จืด จะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือราชันแท้จริง ต่อให้พวกเขามีจิตใจที่กว้างขวางมากกว่านี้ แต่ว่า ในฐานะที่เป็นถึงราชันแท้จริงถูกหลี่ชิเย่ตะคอกใส่ต่อหน้าผู้คนใต้หล้าเช่นนี้ กระทั่งถูกเปรียบจนไม่เหลือราคาอีกเลย ย่อมทำให้พวกเขายากจะทนได้
ต่อให้พวกเขาที่อยู่ในฐานะราชันแท้จริงคนหนึ่ง ก็ไม่สามรรถทำได้ถึงขั้นอดกลั้นปล่อยให้ผู้อื่นลบหลู่ได้ขนาดนี้
ดังนั้น ในเวลานี้ พวกราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองต่างมีสีหน้าที่บึ้งตึง นัยน์ตาของพวกเขาปรากฎปณิธานการฆ่าที่เต้นวุบวาบ แม้ว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งมากปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า พวกเขาก็ยินดีเสี่ยงเต็มที่ จะอย่างไรเสีย การที่พวกเขาสามารถกลายเป็นราชันแท้จริงได้ล้วนแล้วแต่ผ่านศึกมาอย่างโชกโชน เคยหลั่งเลือดสมรภูมิรบมาก่อน ต่อให้ต้องเจอะเจอกับศัตรูที่กล้าแข็งกว่านี้พวกเขาก็จะไม่หวาดกลัวที่จะสู้
“ใยสหายจะต้องยกตนข่มท่าน” ในเวลานี้ ราชันแท้จริงจินผู่เปิดปากแล้ว โดยกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “หนทางข้างหน้ายังยาวไกลและเต็มไปด้วยความอันตราย จะอย่างไรเสียก็เป็นพวกเดียวกัน ใยสหายไม่ถอยก้าวหนึ่งจะเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น พวกเราแค่ต้องการไข่นกสาลิกาเท่านั้นเอง ถ้าหากสหายจะใจกว้างและยอมให้อภัย วันหน้าจะต้องตอบแทนอย่างงาม”
ราชันแท้จริงจินผู่พูดขึ้นช้าๆ กล่าวได้ว่ามีเหตุมีผลอย่างยิ่ง ทำให้นักศึกษาจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ที่ได้ยินแล้วต่างแอบพยักหน้า ต่างรู้สึกว่าคำพูดของราชันแท้จริงจินผู่มีเหตุผล
ที่ทุกคนมายังสวนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เพื่ออะไร? มิใช่มาเพื่อต้องการสัตว์ศักดิ์สิทธิ์รึ? ไม่ได้มาเพื่อต้องการตัวอ่อนของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ หรือไข่ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์รึ เวลานี้พวกของราชันแท้จริงจินผู่แค่ต้องการไข่นักกระทาใบหนึ่งเท่านั้น ในทัศนะของทุกคนมองว่ามันเป็นเรื่องที่ปรกติมาก
ยิ่งไปกว่านั้น พวกของราชันแท้จริงจินผู่ก็ไม่ได้บอกว่าจะต้องการไข่นกสาลิกาแต่เพียงฝ่ายเดียว ยินดีแบ่งปันกับหลี่ชิเย่ กระทั่งยินดีตอบแทนหลี่ชิเย่อย่างงาม
เรียกได้ว่า คำร้องขอของราชันแท้จริงจินผู่นั้น โดยเหตุผลแล้วยากที่จะปฏิเสธได้
“ถูกต้อง ข้าเป็นคนยกตนข่มท่านนี่แหละ” หลี่ชิเย่ยิ้มเอ้อระเหย และกล่าวว่า “เวลานี้ ไม่พวกเจ้าก็ไสหัวไปให้พ้น ไม่ก็สังหารพวกเจ้าทั้งหมด”
พวกของราชันแท้จริงเคอะสือถึงกับหายใจไม่ออกพลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา พวกเขาต่างรู้สึกว่าคำพูดของหลี่ชิเย่นั้นรังแกกันมากเกินไปแล้ว
“อวดดีเหลือเกิน ถืออำนาจบาตรใหญ่เหลือเกิน” มีนักศึกษาบางส่วนถึงกับซุบซิบด้วยความกังขาเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ และกล่าวว่า “หรือว่าเขาสามารถสู้กับราชันแท้จริงสามคนโดยลำพังคนเดียวอย่างนั้นรึ?”
“ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ฮึคิดจะครอบครองไข่สาริการทั้งหมดเพียงคนเดียว ออกจะโลภมากไปหน่อยแล้วกระมัง” มีผู้ที่รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมให้กับพวกราชันแท้จริงจินผู่ แอบซุบซิบขึ้นมา
ในเวลานี้ พวกของราชันแท้จริงเคอะสือมองหน้าซึ่งกันและกัน พวกเขารู้ว่าวันนี้จะต้องมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดแน่นอน
“ดูท่าสหายจะไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้แต่น้อยล่ะสิ” สีหน้าของราชันแท้จริงจินผู่ดูจริงจังและกล่าวขึ้นช้าๆ
“ถูกต้อง” หลี่ชิเย่หัวเราะ และกล่าวว่า “วันนี้ สังหารสามราชันแท้จริงอย่างพวกเจ้ามันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก จริงสิ ยังมีข้าแพงมากคนนั้นก็สังหารพร้อมกันไปด้วย”
“ข้า หวังเหว่ยหยวน!” เทพแท้จริงเป่าหยวนไม่พอใจอย่างยิ่งกับการที่หลี่ชิเย่เรียกชื่อของตนเช่นนี้ ถึงกับเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเย็นชา
“อย่างไรก็ได้” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ได้ให้โอกาสพวกเจ้าแล้ว ในเมื่อไม่ไป ก็สังหารพวกเจ้าก็แล้วกัน!”
คำพูดของหลี่ชิเย่นั้นพูดได้เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนเป็นการทำเรื่องๆ หนึ่งที่เล็กน้อยไม่คู่ควรจะกล่าวถึงอย่างนั้น เหมือนว่ากล่าวสำหรับเขาแล้ว การสังหารราชันแท้จริงสามคน เทพแท้จริงขั้นอมตะคนหนึ่ง เสมือนหนึ่งเหยียบมดตัวหนึ่งอย่างนั้น
“โอหังเหลือเกิน เขาคิดว่าตัวเองเป็นปฐมบรรพบุรุษอย่างนั้นรึ?” มีนักศึกษาที่ซุบซิบด้วยความกังขา
“เขาไม่น่าเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างแน่นอน” นักศึกษาที่มีทักษะสูงกล่าวว่า “อย่างดีที่สุดเกรงว่าจะเป็นขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้น จึงทำให้เขาอวดดีกำเริบเสิบสานถึงเพียงนี้”
ทุกคนต่างก็รู้ว่าแดนลัทธิเซียนในยุคปัจจุบันมีระดับปฐมบรรพบุรุษเพียงแค่สองคนเท่านั้น พวกเขาก็คือพระอาจารย์จินกวง กับปราชญ์อัจฉริยะหลันซู
เป็นไปไม่ได้ที่หลี่ชิเย่จะเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษอย่างเด็ดขาด ถ้าหากว่าเขาเป็นระดับปฐมบรรพบุรุษล่ะก็ ผู้คนทั่วหล้าคงรู้กันนานแล้ว
“ขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้นนะเนี่ย มีกำลังความสามารถเท่ากับเด็กอัจฉริยะสามตา กระบี่เหินเทียนเจียว” นักศึกษาผู้หนึ่งถึงกับกล่าวว่า “หากเป็นขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้นจริงล่ะก็ นับว่าอวดดีได้มากพอตัวทีเดียว ลำพังอาศัยกำลังความสามารถล่ะก็ เกรงว่าราชันแท้จริงจินผู่จะมีโอกาสชนะไม่มาก จะอย่างไรเสียโดยพื้นฐานแล้ว ราชันแท้จริงแปดลัคนาจะเอาชนะขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
“มันก็ไม่แน่” นักศึกษาที่มีประสบการณ์กว้างขวางมากกว่าส่ายหน้า และกล่าวว่า “ขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้นก็ต้องขึ้นกับหตุการณ์ ราชันแท้จริงก็ต้องขึ้นกับเหตุการณ์เหมือนกัน แม้ว่าราชันแท้จริงจินผู่จะเป็นราชันแท้จริงแปดลัคนา แต่ว่า อย่าลืมสิ เขาคือศิษย์ของปราชญ์อัจฉริยะหลันซู ศิษย์ของระดับปฐมบรรพบุรุษราชันแท้จริงแปดลัคนาทั่วไปสามารถเทียบเคียงได้รึ? ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามีราชันแท้จริงอยุ่ด้วยกันที่นี่ถึงสามคน บวกกับเทพแท้จริงขั้นอมตะอีกหนึ่งคน การร่วมมือของพวกเขามีความแข็งแกร่งเพียงใด”
“อย่าลืมไปสิ ราชันแท้จริงจินผู่ยังมีมังกรจรัสทองคำที่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความแข็งแกร่งมากตัวหนึ่ง มัน สามารถสั่งการให้สัตว์ดึกดำบรรพ์ขนาดยักษ์นับพันนับหมื่นเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ได้ มันช่างเป็นกำลังการสู้รบที่น่ากลัวเพียงใด ดีไม่ดีสามารถเหยียบหลี่ชิเย่กลายเป็นเนื้อบดได้ในพริบตาเดียว” นักศึกษาที่อยู่ด้านข้างอีกคนเอ่ยเสริมขึ้น
นักศึกษาคนอื่นๆ จำนวนมากต่างทยอยกันพยักหน้า และรู้สึกว่ามีเหตุผล มีนักศึกษาที่วิเคราะห์ว่า “แม้ว่าต่อให้หลี่ชิเย่คือขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้น แต่ว่า เขามีชาติกำเนิดมาจากสถาบันศึกษาล้างบาป ด้านธาตุแท้ภายในแล้ว เกรงว่าไม่สามารถเทียบได้กับพวกราชันแท้จริงจินผู่”
ทุกคนต่างเห็นเป็นเช่นนั้น จะอย่างไรเสีย พวกของราชันแท้จริงจินผู่ล้วนแล้วแต่มีชาติกำเนิดมาจากสำนักเจ้าลัทธิ มาจากอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง ความลึกซึ้งด้านธาตุแท้ภายในหาใช่นักศึกษาของสถาบันศึกษาล้างบาปสักคนสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว
ต่อให้หลี่ชิเย่คือขั้นอมตะตลอดกาลชั้นต้นแล้วก็ตามที แต่ว่า ไม่ว่าจะเป็นด้านของวิเศษ ประสบการณ์การต่อสู้ก็ไม่สามารถเทียบได้กับพวกราชันแท้จริงจินผู่ได้อยู่แล้ว
“ดี ข้าไม่เจียมตน ขอทดสอบสหายสักหน่อย ขอสหายได้ชี้แนะด้วย” สุดท้าย พวกของราชันแท้จริงเคอะสือมองหน้ากันและกัน และราชันแท้จริงงูหลามทองได้ก้าวเดินออกมา
ในบรรดาพวกเขานั้น ราชันแท้จริงงูหลามทองมีกำลังความสามารถระดับกลางๆ ถ้าหากให้เขาเป็นผู้ทดสอบหลี่ชิเย่ย่อมเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
กล่าวได้ว่า คำพูดของราชันแท้จริงงูหลามทองก็พูดได้เหมาะสมยิ่งนัก และดูจะสุภาพแสดงให้เห็นถึงท่วงท่าของผู้เป็นราชันแท้จริง
“เจ้าคนเดียว?” หลี่ชิเย่หัวเราะและส่ายหน้า กล่าวว่า “พวกเจ้าเข้ามาพร้อมกันยังพอว่า อาศัยการลงมือของเจ้าเพียงคนเดียว ไม่พอให้ข้าอุดขี้ฟัน”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้สีหน้าของราชันแท้จริงงูหลามทองดูไม่จืดถึงที่สุด ตั้งแต่เขาเข้าสู่ยุทธภพจนถึงปัจจุบัน เป็นครั้งแรกที่เขาถูกผู้อื่นดูแคลนขนาดนี้
ชั่วดีอย่างไรก็เป็นระดับราชันแท้จริงคนหนึ่ง เวลานี้ถูกหลี่ชิเย่พูดหาว่าเป็นคนเปราะบางขนาดนี้ จะให้เขากล้ำกลือนความอัปยศนี้ได้อย่างไรกันเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น ศัตรูที่แข็งแกร่งมากกว่านี้เขาก็พบเจอมาแล้ว ไม่มีใครที่มองเขาเหมือนไม่มีตัวตน
“ดี ดี ดี นับว่าสหายยอดเยี่ยมโดยแท้” ราชันแท้จริงงูหลามทองโกรธจัดจนต้องหัวเราะออกมา ในฐานะที่เป็นราชันแท้จริง การที่เขาไม่ได้ลุกขึ้นมาด่ากราดก็นับว่ามีความเยือกเย็นสุขุมมากแล้ว เขากล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เห็นทีสหายจะมีความเชื่อมั่นในตนเองเกี่ยวกับทักษะของตนเต็มเปี่ยมน่ะสิ”
“พอจะสังหารพวกเจ้าได้เหลือเฟือ” หลี่ชิเย่ยิ้มตามอารมณ์
เมื่อพวกของราชันแท้จริงงูหลามทองถูกหลี่ชิเย่กล่าวด้อยค่าครั้งแล้วครั้งเล่า และถูกว่ากล่าวจนไม่เหลือราคาอีก ทำให้พวกเขามีสีหน้าที่ดูไม่จืดถึงขีดสุด
“ดี ดี ดี พวกเราไม่เจียมตัว ข้าจะร่วมมือกับพี่งูหลามทองขอคำชี้แนะจากสหายสักหนึ่งหรือสองกระบวนท่า สหายเห็นเป็นประการใด?” ราชันแท้จริงเคอะสือก็อยู่เฉยไม่ได้แล้ว กล่าวเสียงทุ้มต่ำขึ้นมา
“ข้าจะคอยระวังให้กับพี่ท่านทั้งสอง” เทพแท้จริงเป่าหยวนยืนอยู่ด้านหลัง กล่าวกับราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือ
ขณะที่ราชันแท้จริงจินผู่ไม่ได้พูดอะไร ยืนอยู่บนหลังของมังกรจรัสทองคำด้วยท่าทีเย็นชา ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าท่าทางของเขาเป็นการยอมรับต่อการกระทำของพวกราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองโดยปริยาย
หลี่ชิเย่มองดูพวกเขาตามอารมณ์แวบหนึ่งและกล่าวว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็จะทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ อาศัยหนึ่งหรือสองกระบวนท่าซัดพวกเจ้าให้หมอบก็แล้วกัน”
คำพูดที่พูดออกมานี้น่าเกลียดมาก ทำให้ราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองมีสีหน้าที่เย็นดั่งหิมะ ที่พวกเขาบอกว่าขอคำชี้แนะจากหลี่ชิเย่หนึ่งถึงสองกระบวนท่า นั่นเป็นคำพูดที่สุภาพ
เวลานี้ หลี่ชิเย่ถึงกับพูดออกมาตรงๆ ว่าอาศัยหนึ่งหรือสองกระบวนท่าซัดพวกเขาให้หมอบ นี่เป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรง ไม่ให้เกียรติพวกเขาเลย
“กำเริบเสิบสานเหลือเกิน ต่อให้มีความแค้นต่อกัน ก็ไม่ถึงกับต้องยกตนข่มท่านเช่นนี้กระมัง” มีนักศึกษาถึงกับซุบซิบด้วยความกังขา และขอความเป็นธรรมให้กับพวกราชันแท้จริงเคอะสือ
“ไม่มองดูเสียบ้างเลยว่าคนอื่นเขามีชาติกำเนิดเช่นใด” มีนักศึกษาที่พูดเหยียดหยามว่า “ชาติกำเนิดมาจากเมืองล้างบาปที่เป็นสถานที่ชั่วร้าย ไหนเลยจะมีได้รับการอบรมบ่มเพาะให้มีกิริยาท่าทางที่งดงามได้ ต่อให้เขามีกำลังกล้าแข็งมากกว่านี้ ก็เป็นผู้มีชื่อเสียงไม่ได้ สุดท้าย ก็ได้แต่เป็นคนมุทะลุคนหนึ่งเท่านั้น กระทั่งเหมือนดั่งบรรพบุรุษของพวกเขาที่เป็นเพียงคนโฉดเท่านั้นเอง”
ภายในใจของราชันแท้จริงเคอะสือ ราชันแท้จริงงูหลามทองมีอารมณ์โกรธยิ่งนัก เมื่อถูกหลี่ชิเย่มองเหมือนไม่มีตัวตน แต่ว่า พวกเขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่งเพื่อปรับอารมณ์โกรธให้สงบ ทำให้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรให้หนักแน่น และให้ตัวของพวกเขามีความหนักแน่นขึ้นมาทันที
ไม่ว่าจะเป็นราชันแท้จริงเคอะสือ หรือว่าราชันแท้จริงงูหลามทอง พวกเขาต่างก็เป็นผู้ที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างโชกโชน แม้ว่าพวกเขาจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟในใจ แต่ว่า เมื่อก้าวสู่สมรภูมิรบพวกเขาก็จะขจัดความคิดฟุ้งซ่านในใจทิ้งไป ทุ่มเทอย่างเต็มที่
“พวกเราสองคนไม่เจียมตัว ขอคำชี้แนะจากสหาย” เวลานี้ราชันแท้จริงงูหลามทองและราชันแท้จริงเคอะสือแสดงคารวะแบบจีน
แม้ว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายแล้ว แต่ ยังคงมีจิตใจที่เปิดเผยบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นท่วงทำนองที่ผู้คนให้ความชื่นชม
……………………………………………………………..