Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2899 อะไรคือคุณธรรม
ตอนที่ 2899 อะไรคือคุณธรรม
เสียงปังดังขึ้นเสียงหนึ่ง มองเห็นร่างกายของปราชญ์อัจฉริยะหลันซูที่แตกละเอียด
ตามติดด้วยเสียงคร๊ากกก คร๊ากกก คร๊ากกกดังขึ้น มองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวปรากฎรอยร้าวนับไม่ถ้วน ภายในระยะเวลาอันสั้น ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวทั้งผืนก็คลายเป็นเครื่องเคลือบที่แตกละเอียดอย่างนั้น
สุดท้าย ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้นมาเสียงหนึ่ง ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้แตกละเอียดไปทั้งหมด ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่หายไปในเวลานี้ ไม่มีท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวที่กว้างสุดลูกหูลูกตา และไม่มีปราชญ์อัจฉริยะหลันซู สวนดึกดำบรรพ์ยังคงเป็นสวนดึกดำบรรพ์ หุบเขาของปูคริสตัลยังคงปรากฏขึ้นต่อหน้าชาวโลกตรงหน้า
ในเวลานี้ ทุกอย่างได้อันตรธานหายไป บนศีรษะของทุกคนได้ปรากฏท้องฟ้าที่แจ่มใสกลับมาดังเดิม
ทุกคนต่างงุนงงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่สามารถเรียกสติกลับมาภายในระยะเวลาอันสั้น
นักศึกษาทุกคนหลังจากได้สติกลับมาแล้ว ได้คลำใบหน้าของตน คลำดูร่างกายของตนทันที แล้วมองไปรอบๆ ตัว พวกเขายังคงปลอดภัยไม่เป็นอะไร ร่างกายแขนขาทั้งสี่ยังอยู่ครบ ไม่เหมือนเช่นเมื่อครู่ที่หลอมละลายไป
“ฮ่า ฮ่า ฮ่าพวกเรายังคงมีชีวิตอยู่ พวกเรายังคงปลอดภัยไม่ได้บุบสลายแม้แต่น้อย” ในเวลานี้ นักศึกษาที่ได้สติกลับมาก่อนถึงกับร้องเสียงแหลมขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ
นักศึกษาคนอื่นๆ ทยอยกันได้สติกลับมา มองดูร่างกายของตน พบว่าแขนขาทั้งสี่ยังอยู่ครบไม่ได้หลอมละลายไป และเมื่อมองไปรอบๆ ทั่วทั้งสวนดึกดำบรรพ์ยังคงอยู่ ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดีไม่มีเสียหาย
“จริงสิ พวกเรายังมีชีวิตอยู่” นักศึกษาทั้งหมดอดที่จะร้องเสียงดังขึ้นมาไม่ได้ เมื่อพบว่าทุกอย่างปรกติหลังจากได้สติกลับมาแล้ว
ในเวลานี้ นักศึกษาจำนวนไม่น้อยโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นยิ่งนัก เมื่อครู่นี้พวกเขาเกือบจะเหมือนรูปภาพที่ถูกลบออกไป
ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่หลังเคราะห์กรรมผ่านไป ในเวลานี้นักศึกษาทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง ตื่นเต้นดีใจสุดเปรียบเปรย แทบจะกระโดดตัวลอยให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
เพียงแต่ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น สวนดึกดำบรรพ์แม้จะคืนสภาพเดิมแล้ว แต่ ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่นอนอยู่กับพื้น
ท่ามกลางเสียงปังที่ดังขึ้น จากการที่ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูหายไป ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแตกละเอียดไปทั้งหมด พวกของราชันแท้จริงจินผู่ ราชันแท้จริงเคอะสือพวกเขาและมังกรจรัสทองคำกับเหล่าสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์จำนวนมากล้วนแล้วแต่ปรากฎตัวขึ้นแก่สายตาของผู้คนในหล้าอีกครั้งหนึ่ง
มองออกไปในเวลานี้ เห็นพวกของราชันแท้จริงจินผู่ที่มีใบหน้าขาวซีด สิ่งนี้หาใช่เป็นเพราะพวกเขาถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ แต่เป็นเพราะการลงมือเมื่อครู่ทำให้พวกเขาสูญเสียลมปราณไปเป็นปริมาณมหาศาลเกินไป เวลานี้ลมปราณของพวกเขายากที่จะต่อเนื่อง แม้แต่ยืนก็ยังไม่มั่นคง โดยเฉพาะการโจมตีครั้งสุดท้าย ไม่เพียงทำให้ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูแตกละเอียดและหายไป พวกของราชันแท้จริงจินผู่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส
บรรดานักศึกษาที่มองเห็นพวกของราชันแท้จริงจินผู่กระอักเลือดออกมาอย่างแรงแล้วต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำอยู่ในใจ พวกของราชันแท้จริงจินผู่ได้งัดกลอุบายออกมาทุกอย่าง เสมือนหนึ่งปราชญ์อัจฉริยะหลันซูมาด้วยตนเอง เรียกได้ว่าไร้ผู้เทียมทาน แต่ว่า ในที่สุดยังคงพ่ายแพ้ให้กับคนโหดอันดับหนึ่งหลี่ชิเย่ ช่างเป็นกำลังความสามารถที่น่ากลัวเพียงใด
“เกรงว่าคงมีเพียงปฐมบรรพบุรุษมาด้วยตนเอง จึงมีสิทธิ์ที่จะต่อสู้กับเขาแล้ว” มีนักศึกษาถึงกับซุบซิบด้วยความกังขา
กรรร…ในเวลานี้ มังกรจรัสทองคำได้ส่งเสียงคำรามเสียงดังขึ้นมา นักศึกษาทั้งหมดยังเข้าใจว่ามังกรจรัสทองคำจะบุกเข้ามาเพื่อต่อสู้ชี้ขาดกับหลี่ชิเย่
ตูม ตูม ตูมเสียงฝีเท้าวิ่งดังขึ้นเป็นระลอก จังหวะที่นักศึกษาทั้งหมดยังไม่ได้มีปฏิกิริยา ปรากฎว่ามังกรจรัสทองคำหันหลังออกวิ่งหนีไปทันที โดยอาศัยความเร็วสูงสุดวิ่งไปยังที่ที่ไกลออกไป เพียงชั่วพริบตาเดียวก็วิ่งหนีหายไป
ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอกไม่ขาดสาย ในเวลานี้ฟ้าดินสั่นคลอน จังหวะที่ทุกคนยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร บรรดาสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีหายตามมังกรจรัสทองคำไป
ในเวลานี้ มองเห็นฝุ่นที่คลุ้งขึ้นมา สัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ต่างวิ่งล้มลุกคลุกคลานวิ่งหนีไปในพริบตาเดียว และหายไปบนเส้นขอบฟ้าในทันที
สมควรทราบว่า ปรกติแล้วบรรดาสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทรงกำลังอำนาจปราศจากผู้เทียบเทียม อานุภาพสัตว์ที่สยบผู้คน แต่ว่า ในขณะนี้ บรรดาสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์เหล่านี้ไม่สนใจกับอานุภาพสัตว์ที่สยบผู้คนอะไรนั่นอีกแล้ว พวกเขาวิ่งหนีแบบล้มลุกคลุกคลาน แทบอยากจะมีขางอกเพิ่มขึ้นสักหลายๆ ขาให้รู้แล้วรู้รอดไป จะได้หนีไปจากที่ตรงนี้ให้เร็วที่สุด
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น สัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ทั้งหมดล้วนแล้วแต่วิ่งหนีไปดั่งสุนัขไม่มีเจ้าของจนไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว สุดท้าย สมรภูมิสู้รบที่มีขนาดใหญ่เหลือไว้เพียงพวกของราชันแท้จริงจินผู่สี่คนที่ยืนโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่ตรงนั้น
ในเวลานี้ ความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ได้ทำให้ทุกคนมองดูตาค้างพูดอะไรไม่ออก ก่อนหน้านี้ สัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์แต่ละตัวที่ยึดครองที่ตรงนี้เอาไว้ดูน่าเกรงขามเช่นใด และคึกคักเพียงใด ช่างสยบจิตวิญญาณผู้คนได้ดีเหลือเกิน ทำให้ผู้คนที่เห็นขบวนเช่นนี้แล้วต้องขาสั่นเทาสองข้างตลอดเวลา และเข่าอ่อนทั้งสองข้าง
เวลานี้พวกสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ทั้งหมดต่างวิ่งหนีดั่งสุนัขไม่มีเจ้าของ หนีเตลิดไป ภาพเช่นนี้ทำให้ทุกคนมองดูด้วยความงุนงง ในเวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะหาคำเช่นใดมาเปรียบเปรยจึงจะถูก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทำให้คผู้คนต้องอึ้งก็คือ มังกรจรัสทองคำนำหน้าหนีไปก่อนเลย มังกรจรัสทองคำนี่คือราชาแห่งสัตว์ยักษ์ทั้งหลาย เป็นราชันของสตว์ป่า นับเป็นผู้ที่อยู่ในฐานะสูงเด่น แม้แต่ราชันแท้จริงแปดลัคนาก็แข็งแกร่งไม่เท่ากับมัน
ทว่า ในฐานะที่เป็นราชาแห่งสัตว์ยักษ์ เมื่อครู่นี้มังกรจรัสทองคำไม่ได้มีท่าทีของความเป็นราชา ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของตน ถึงกับเป็นตัวนำหนีไปก่อนใครเป็นตัวแรก ด้วยความที่มังกรจรัสทองคำนำหน้าหนีไปก่อน จึงทำให้สัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ตัวอื่นๆ หนีตามๆ กันไป
พวกของราชันแท้จริงจินผู่ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น หัวเราะเจื่อนๆ ทีหนึ่ง มังกรจรัสทองคำพวกมันสามารถหันหลังวิ่งหนีไป จะอย่างไรเสียพวกมันคือสัตว์ป่า การมีชีวิตรอดเป็นสัญชาตญาณของพวกมัน สู้ไม่ได้แล้ววิ่งหนีถือเป็นเรื่องปรกติ
แต่ว่า พวกราชันแท้จริงจินผู่กลับไม่สามารถทำเหมือนพวกมังกรจรัสทองคำเหล่าสัตว์ยักษ์ดึกดำบรรพ์แล้วหนีไป
พวกเขาคือราชันแท้จริง พวกเขาคือผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะสยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ทุกๆ การเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถสยบเหล่าชั้นฟ้า หากพวกเขาหนี้ไปดั่งสะสยบเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน ทุกๆ การเคลื่อนไหวของพวกเขาสามารถสยบเหล่าชั้นฟ้า หากพวกเขาหนีไปดั่งสนัขไม่มีเจ้าของ สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วเรียกได้ว่าเสื่อมเสียต่ออสนุภาพราชันเซียนของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังเสียหายถึงเกียรติยศชื่อเสียงของสำนัก
สิ่งที่พวกเขาแบกรับไม่เพียงแต่ชื่อความเป็นราชันของตน ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังแบกรับเกียรติยศของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิทั้งหมดและสำนักของตน
ดังนั้น นาทีนี้แม้พวกเขาต้องสู้จนถึงคนสุดท้าย ก็ไม่สามารถหนีไปอย่างสุนัขไม่มีเจ้าของ แม้พวกเขาต้องสู้จนตัวตายก็จะหนีเตลิดไปไม่ได้
“ถึงเวลาสิ้นสุดแล้ว” หลี่ชิเย่ยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มนิดหนึ่ง เอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่ตายไม่เลิก!” ผู้ที่ก้าวเดินออกมาก่อนใครก็คือเทพแท้จริงเป่าหยวน เขาคำรามเสียงดังทีหนึ่ง และกระโดดเหินฟ้าขึ้นไป เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ต้นกำเนิดของวิเศษบนหน้าอกของเขาได้ระเบิดพลังที่มีอยู่ทั้งหมดออกมา เหมือนว่าในพริบตาเดียวนั่นเอง เทพแท้จริงเป่าหยวนได้รีดพลังทั้งหมดทีมีอยู่ของต้นกำเนิดของวิเศษจนแห้ง
เสียงตูมดังสนั่นสะเทือนฟ้าดิน พลังทั้งหมดที่มีอยู่ในต้นกำเนิดของวิเศษพลันกลายเป็นลำแสงในพริบตาเดียว และพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิเย่
ขณะที่พลังต้นกำเนิดของวิเศษทั้งหมดของเทพแท้จริงเป่าหยวนถูกยิงออกไปนั้น อานุภาพยากจะหาใดเทียม ได้กลับกลายเป็นลำแสงมหาประลับที่แข็งแกร่งที่สุดยิงใส่หลี่ชิเย่ ท่ามกลางเสียงตูมที่ดังสนั่นหวั่นไหว ช่องว่างพลันถูกยิงทะลุเป็นรู และลำแสงมหาประลัยได้ลอดผ่านรูนี้เองแหละ พุ่งโจมตีเข้าหาบริเวณอกของหลี่ชิเย่
หลี่ชิเย่ไม่ได้มองดูสักแวบด้วยซ้ำ ขณะเผชิญกับลำแสงมหาประลัยของเทพแท้จริงเป่าหยวนที่ยิงถล่มเข้ามา หัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า “สงเคราะห์เจ้า!”
เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว จังหวะที่ลำแสงมหาประลัยพุ่งโจมตีใส่หน้าอกของหลี่ชิเย่นั้น ไม่ได้ปรากฎสิ่งที่ทุกคนได้จินตนาการอย่างนั้น หน้าอกของหลี่ชิเย่ไม่ได้ถูกยิงจนทะลุ
ขณะที่ลำแสงมหาประลัยพุ่งโจมตีใส่บริเวณหน้าอกของหลี่ชิเย่นั้น ภายใต้เสียงปังที่ดังสนั่น บริเวณหน้าอกของหลี่ชิเย่กลับไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ลำแสงมหาประลัยที่แข็งแกร่งปราศจากผู้เทียบเทียมพลันถูกพลังโจมตีที่สั่นสะเทือนสะท้อนกลับไป
พริบตาเดียวนั่นเอง ลำแสงมหาประลัยของเทพแท้จริงเป่าหยวนเหมือนไหลย้อนกลับ หันกลับไปพุ่งโจมตีเทพแท้จริงเป่าหยวน
เสียงปังดังสนั่นหวั่นไหว ลำแสงมหาประลัยที่ย้อนกลับได้ยิงใส่บริเวณอกของเทพแท้จริงเป่าหยวนอย่างแรง ภายใต้เสียงปังที่ดังสนั่นหวั่นไหว ต้นกำเนิดของวิเศษที่อยู่บนอกของเทพแท้จริงเป่าหยวนพลันแตกละเอียด
อ๊ากกกเสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น จังหวะที่ต้นกำเนิดของวิเศษถูกยิงจนแตกละเอียดนั้น ในขณะเดียวกันลำแสงมหาประลัยก็ได้ยิงทะลุหน้าอกของเทพแท้จริงเป่าหยวนทันที
ท่ามกลางเสียงร้องน่าเวทนา ร่างกายของเทพแท้จริงเป่าหยวนได้ร่วงหล่นจากท้องฟ้าสูง สุดท้าย ได้ยินเสียงปัง ร่างกายของเทพแท้จริงเป่าหยวนได้พุ่งตกลงบนพื้นอย่างแรง ทำให้พื้นดินเกิดเป็นหลุมลึกขึ้นมาหลุมหนึ่ง เลือดสดๆ ได้ไหลย้อมพื้นดินกลายเป็นสีแดง
ในช่วงนาทีสุดท้ายของเทพแท้จริงเป่าหยวน เขาได้หลับตาลงช้าๆ ไม่มีการเสียใจและพล่ามบ่น เสียชีวิตทันที
ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ ภายในใจบังเกิดความเคารพขึ้นมา เมื่อเห็นเทพแท้จริงเป่าหยวนที่ตายไป
เทพแท้จริงเป่าหยวนทำเพื่อแก้แค้นให้กับเติ้งเหรินเซิน เนื่องจากเติ้งเหรินเซินมีบุญคุณกับเขา ดังนั้น เขาจึงอาศัยชีวิตของตนมาทดแทนบุญคุณ นับเป็นการกระทำที่ยอดเยี่ยมโดยแท้
นักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ถามตัวเองหากเปลี่ยนเป็นตัวเองคงทำอย่างเทพแท้จริงเป่าหยวน ด้วยการนำชีวิตของตนมาทดแทนบุญคุณไม่ได้
“น่าชมเชยในความกล้าหาญ” หลี่ชิเย่พยักหน้าสำหรับเทพแท้จริงเป่าหยวนที่ตายไป และกล่าวว่า “นับเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง”
การตายของเทพแท้จริงเป่าหยวนได้ทำให้ในใจของผู้คนรู้สึกเศร้าเสียใจอยู่บ้าง แม้ว่าเทพแท้จริงเป่าหยวน จะไม่ใช่ผู้ที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาอัจฉริยะบุคคลทั้งหลาย และไม่ใช่ผู้ที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งที่สุด แต่ว่า การตายของเขาในวันนี้เขาสมเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่งอย่างแท้จริง และเป็นผู้ที่กล้าทำโดยไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด มีบุญคุณต้องทดแทน
“พี่เป่าหยวนมีคุณธรรม พวกเราละอายยิ่งนัก” นาทีนี้พวกของราชันแท้จริงเคอะสือก็มีสีหน้าที่แสดงออกถึงความประทับใจ ราชันแท้จริงทั้งสามมองตากันและกัน รู้สึกเคารพเลื่อมใสขึ้นมาทันที
“มาวันนี้ถือเป็นวาสนาของพวกเรา ยิ่งถือเป็นโชคของข้าที่ได้ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ข้าขอติดตามพี่เป่าหยวนล่วงหน้าก้าวหนึ่งก่อน” เวลานี้ราชันแท้จริงเคอะสือหัวเราะเสียงดังและเหินฟ้าขึ้นไป เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว พลันลงมือด้วยทวนราชันที่ผงาดฟ้า พุ่งตรงไปที่หลี่ชิเย่
“พี่เคอะสือ ข้ามาแล้ว” ราชันแท้จริงงูหลามทองก็คำรามเสียงดัง ตัวของเขาได้กลายเป็นน้ำหลากเหล็กกล้าสีทองที่พุ่งเข้าหาหลี่ชิเย่ ท่ามกลางเสียงดังตูม ตูม ตูม
“ได้สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสหายทั้งสาม นับเป็นเกียรติของข้า วันนี้พวกเราจะขอเป็นตายร่วมกัน” ราชันแท้จริงจินผู่ก็มีบุคลิกลักษณะอันอาจหาญและหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
ราชันแท้จริงจินผู่เหินฟ้าขึ้นไป เสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว ในมือถือกงล้อวิเศษ พลันควงเข้าไปสังหารหลี่ชิเย่
แม้ว่าพวกของราชันแท้จริงเคอะสือที่เป็นราชันแท้จริงทั้งสามลงมือก่อนและหลังต่างกัน แต่ว่า พวกเขาล้วนแล้วแต่บุกสังหารถึงตัวหลี่ชิเย่ในเวลาที่ต่างกันพริบตาเดียวเท่านั้น