Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2914 อยากทำอะไรก็ทำไป
ตอนที่ 2914 อยากทำอะไรก็ทำไป
หลี่ชิเย่ยิ้มๆ ขณะมองดูเด็กมหัศจรรย์สามตา และกล่าวว่า “ในเมื่อมั่นใจในตนเอง ก็ทำไปเต็มที่ก็แล้วกัน”
“ถ้าหาก ถ้าหาก” เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับลังเลนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “ถ้าหาก ถ้าหากราชันแท้จริงหลิงซินไม่ชอบข้า ข้าควรทำอย่างไร? ”
หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “แม้แต่จีบยังไม่ทันได้จีบ เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านางไม่ชอบเจ้า? ”
“จะอย่างไรเสีย จะอย่างไรเสียเทพสงครามจินเปี้ยนก็มีความยอดเยี่ยมมากเช่นกัน และพวกเขาได้หมั้นหมายกันมาโดยอัตโนมัติตั้งแต่เยาว์วัยแล้ว” พลันที่พูดถึงราชันแท้จริงหลิงซิน เด็กมหัศจรรย์สามตาก็ขาดความมั่นใจตนเองขึ้นทันที
“แล้วจะอย่างไร? ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อการก้าวเท้าก้าวนี้ออกไปรึ? เจ้าตามจีบก็สิ้นเรื่อง อีกอย่าง ราชันแท้จริงหลิงซินก็ไม่ได้รังเกียจเจ้า ถ้าหากนางรังเกียจเจ้ายังจะนั่งจับเข่าคุยยาวกับเจ้ารึ? ยังจะมาสนทนาธรรมศึกษายุทธกับเจ้าอย่างนั้นรึ? ” ชัดเจนมากว่านางมีความรู้สึกที่ดีกับเจ้า อย่างน้อยที่สุดต่อให้ไม่ได้ชอบเจ้าก็จะไม่รังเกียจเจ้า และยินดีที่จะคบเป็นสหายกับเจ้า”
“ที่พูดมาก็ถูก” เมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ ก็ได้ทำให้ความเชื่อมั่นของเด็กมหัศจรรย์สามตาเพิ่มขึ้นไม่น้อยทีเดียว
“ต่อให้นางไม่ชอบเจ้าแล้วจะอย่างไร” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ไปชิงเอาสิ ชิงเอามาตรงๆ เลย”
“แบบ แบบ แบบนี้ไม่ดีกระมัง” เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับกล่าวด้วยความตะลึงลาน
“โลกนี้ไม่มีอะไรไม่ดี” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่ง และกล่าวว่า “ชอบสิ่งไหนก็ไปทำ! ต่อให้ไม่ชอบเจ้าก็ต้องทำจนกว่าจะชอบเจ้า! คำพูดเดียว ก็ข้านี่แหละชอบเจ้า แม้จะต้องควบคุมฟ้า ควบคุมดิน ควบคุมอากาศก็ไม่สนอย่างไรก็ได้ สำหรับเรื่องอื่นๆ แล้วอย่างไรก็ได้! ”
คำพูดที่หยาบคายใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นนี้ ทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาได้ยินแล้วถึงกับตาค้างพูดอะไรไม่ออก ในทัศนะของเขามองว่าหลี่ชิเย่คือผู้เยี่ยมยุทธที่แข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ว่า เมื่อหลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา พลันทำลายจินตนาการของเด็กมหัศจรรย์สามตาไปสิ้น
“สรุปคำๆ เดียว ทำอะไรก็ทำไปเลยกับผู้หญิงที่ชอบ! ” หลี่ชิเย่กล่าวท่าทีเอ้อระเหยว่า “แม้แต่ความกล้าที่จะทำยังไม่มี เจ้าลองนึกภาพดู เจ้ายังจะทำการอะไรได้? สักวันหนึ่งเจ้าอาจจะต้องเป็นศัตรูกับผู้คนใต้หล้า เป็นศัตรูกับทั่วหล้า กระทั่งเจ้าอาจเป็นไปได้เข่นฆ่าไปทั่ว เป็นไปได้อาจต่อสู้อย่างดุเดือดกับผู้ที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก เป็นไปได้ที่จะสู้เพียงครั้งแล้วไม่กลับมาอีกเลย เรื่องที่อาจจะต้องทำในอนาคตมีเรื่องไหนบ้างที่ไม่ใช่เลือดไหลหยดเป็นทาง เรื่องไหนบ้างที่ไม่ต้องอาศัยความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่! ถ้าหากเจ้าไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะทำ เจ้าว่ามาเองว่า เจ้ามีความกล้าที่จะเป็นศัตรูกับใต้หล้า ต่อสู้อย่างดุเดือดกับความชั่วร้ายหรือไม่? ไม่มี! ”
“นี่ นี่ นี่ นี่มันแรงเกินไปแล้วกระมัง” เด็กมหัศจรรย์สามตาเกือบจะตอบสนองไม่ได้ และรับไม่ได้แล้ว เนื่องจากการกระทำเช่นนี้ดุดันมากเกินไป แม้แต่คนที่อวดดีชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่เช่นเขาก็ทำเช่นนี้ไม่ได้
“ดูนั่น มองดูทะเลปุ๊ตู้ไห่” หลี่ชิเย่ชี้ไปที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่อยู่ห่างไกลออกไป กล่าวเรียบเฉยว่า “เจ้าลองคิดดู ถ้าหากมีสักวันเจ้าไปที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่แล้ว หันหลังกลับมามองดูโลกนี้อีกครั้ง เจ้าจะรู้สึกว่าสิ่งต่างๆ ที่เจ้าได้ประสบพบเจอมานั้นนับเป็นอะไรได้ ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึงเท่านั้นเอง การคิดทำอะไรก็ทำไปเลยนับเป็นอะไรได้ เรื่องอย่างนี้เทียบกับที่เจ้าก้าวข้ามทะเลปุ๊ตู้ไห่อย่างแข็งกร้าวแล้ว มันเหมือนกับการดื่มน้ำเปล่าที่ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึงอย่างนั้น”
เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะมองไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ที่อยู่ห่างไกลออกไป มองจนเหม่อในเวลานี้ ระดับปฐมบรรพบุรุษกี่คนแล้วที่เคยเข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ เทพแท้จริงที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งปราศจากผู้ต่อกรจำนวนเท่าไรที่เคยเข้าไป
กล่าวสำหรับผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรแล้ว มีจำนวนเท่าไรที่ถือว่าทะเลปุ๊ตู้ไห่คือที่พักพิงสุดท้ายของตน คนเหล่านี้เคยปราศจากผู้ต่อกรเพียงใด เคยมีความแข็งแกร่งเช่นใด ชั่วชีวิตของพวกเขามีใครบ้างที่ไม่เคยกระทำเรื่องราวที่สะเทือนเลื่อนลั่นตื่นตะลึงไปทั่ว?
เหมือนเช่นท่าหลี่ชิเย่พูดเอาไว้อย่างนั้น ถ้าหากวันใดตัดสินใจเข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่ ขณะยืนอยู่ด้านหน้าทะเลปุ๊ตู้ไห่ หันหลังกลับมามองดูแดนสามเซียนอีกครั้ง นึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ตนได้กระทำไปชั่วชีวิต มันนับเป็นอะไรได้เมื่ออยู่ตรงหน้าทะเลปุ๊ตู้ไห่นี้? ไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
เด็กมหัศจรรย์สามตาพลันเหม่อลอยขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงตรงนี้
แม้ว่าในขณะนี้เด็กมหัศจรรย์สามตายังไม่คิดที่จะไปทะเลปุ๊ตู้ไห่ชั่วคราว จะอย่างไรเสียเขายังมีอายุน้อยมาก แต่ว่าในอนาคตก็ไม่แน่ เขาต้องการบรรลุเป็นเทพแท้จริงเหมือนเช่นหย่วนเต้า และอนาคตเขาต้องสามารถบรรลุถึงระดับเช่นนี้แน่นอน เช่นนั้นแล้วหากเขาก้าวถึงจุดสูงสุดเช่นนี้แล้ว บางทีเมื่อหันหลังมองกลับไปดู ตลอดชีวิตของตนที่ผ่านมาดูว่าเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่สำคัญยิ่ง ในเวลานั้นเกรงว่าจะไร้ค่าคู่ควรจะกล่าวถึง
“ยังคงแรงเกินไป” สุดท้ายเด็กมหัศจรรย์สามตาหัวเราะเจื่อนๆ ยังคงรู้สึกรับไม่ได้กับมุมมองเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียเรื่องแบบนี้ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ มันดุดันเกินไป หรือบางทีคงมีเพียงหลี่ชิเย่ที่เป็นคนโหดอันดับหนึ่งทำแล้วดูเอ้อระเหยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ต่อให้ไม่ทำเรื่องนอกกรอบเช่นนี้ แต่ว่า การไปตามจีบผู้หญิงคนหนึ่งคงทำได้สินะ งัดเอาความกล้าหาญของตนออกมา ไปทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า “ไม่ว่าจะไปตามจีบผู้หญิงคนหนึ่งที่ตนเองชอบ หรือไปทำเรื่องๆ หนึ่งที่ปรกติตนเองไม่กล้าทำ”
เด็กมหัศจรรย์สามตาตรึกตรองดูแล้วรู้สึกว่ามันก็มีเหตุผล เขาเอียงคอคิดนิดหนึ่ง และกล่าวว่า “บางที ข้าสมควรให้ตนเองแข็งแกร่งมากกว่านี้สักนิดหนึ่งแล้วค่อยไปตามจีบนาง ถ้าหากว่าข้าได้บรรลุเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะอยู่บนจุดสูงสุด เอาชนะเทพสงครามจินเปี้ยนแล้วค่อยไปตามจีบราชันแท้จริงหลิงซิน ไม่แน่นักโอกาสสำเร็จจะสูงกว่า”
“ไร้สมอง! ” หลี่ชิเย่มองดูเขาด้วยท่าทีเย็นชา และกล่าวว่า “โง่เขลาเบาปัญญาสุดเปรียบเปรย เจ้าปัญญาอ่อนรึ? สมองที่ฉลาดยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้าของเจ้าหายไปไหนแล้ว? เจ้ามันซื่อบื้อปัญญาอ่อนรึ? ”
“ข้า ข้าแค่รู้สึกว่าแบบนี้น่าจะมีโอกาสมากกว่าเท่านั้นเอง” เมื่อเด็กมหัศจรรย์สามตาถูกหลี่ชิเย่ด่าจึงยิ้มแห้งๆ
“รอให้เจ้ากลายเป็นผู้ที่อยู่ในจุดสูงสุด เจ้าต้องใช้เวลานานเท่าไร? ร้อยปีรึ? ” หลี่ชิเย่เหลือบมองเขาด้วยท่าทีดูแคลน
“สิบปี สิบปี เพื่อนางแล้ว ข้าจะต้องบรรลุจุดสูงสุดในสิบปีได้อย่างแน่นอน! ” ไม่รู้ว่าเด็กมหัศจรรย์สามตาไปงัดเอาบุคลิกลักษณะอันอาจหาญขึ้นมาจากไหน กำหมัด เปี่ยมด้วยลักษณะที่องอาจมีพลัง
“เลิก เจ้าเลิกไปเลย” หลี่ชิเย่เหลือบมองเด็กมหัศจรรย์สามตาด้วยท่าทีดูแคลน
“ทำไมทำไม่ได้? ” ท่าทางของหลี่ชิเย่เสมือนเป็นน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวของเด็กมหัศจรรย์สามตา ทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตารู้สึกกระเซอะกระเซิงยิ่ง และกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เด็กมหัศจรรย์สามตาอดที่จะกล่าวว่า “ข้าเชื่อว่า หากข้าพยายามอย่างเต็มที่ ต้องสามารถก้าวขึ้นจุดสูงสุดได้ภายในสิบปีอย่างแน่นอน”
คำพูดของเด็กมหัศจรรย์สามตาไม่ถือเป็นการโอ้อวด เดิมทีเขาก็มีพรสวรรค์ที่ยากจะหาผู้ใดเทียมอยู่แล้ว ถ้าหากเขาพยายามฝึกปรืออย่างเต็มที่ เป็นความจริงที่มีความเป็นไปได้ให้เขาสร้างปาฏิหาริย์ขึ้น กลายเป็นผู้ที่ยืนอยู่จุดสูงสุดได้ภายในสิบปี
แน่นอน การก้าวจากคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นจนถึงจุดสูงสุดของคงความอมตะตลอดกาล โดยใช้เวลาเพียงสิบปีล่ะก็ เด็กมหัศจรรย์สามตาก็จะสร้างสถิติการฝึกของแดนสามเซียนขึ้นมา เกรงว่าจะเป็นปาฏิหาริย์ทั่วทั้งแดนสามเซียน
แต่ว่า กล่าวสำหรับเด็กมหัศจรรย์สามตาแล้ว เขายินดีที่จะลองดูสักครั้ง ต่อสู้ให้ถึงที่สุด หากทำเพื่อราชันแท้จริงหลิงซิน
“สิบปีให้หลัง เจ้าคิดว่าจะเป็นอย่างไร? ” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “หลังจากสิบปีแล้ว ไม่แน่นักลูกของนางกับเทพสงครามจินเปี้ยนก็โตไปถึงไหนๆ แล้ว ไม่แน่นักอาจมีลูกเป็นฝูงไปนานแล้ว! ”
พลันคำพูดที่เย็นชาเรียบเฉยของหลี่ชิเย่พูดออกมา ทำให้เด็กมหัศจรรย์สามตาถึงกับหายใจไม่ออก ในพริบตาเดียวนั่นเอง เขารู้สึกเหมือนมีมือขนาดยักษ์ที่ไร้รูปข้างหนึ่งกำหัวใจของเขาเอาไว้แน่น ทำให้เขาหอบหายใจไม่ทัน ทำให้หัวใจของเขาไม่สามารถเต้นได้
ความจริงเช่นนี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากรอสิบปีให้หลัง ไม่แน่นักราชันแท้จริงหลิงซินอาจมีลูกด้วยกันกับเทพสงครามจินเปี้ยนไปแล้ว
เรื่องบางเรื่องสามารถรอได้ รอให้โอกาสสุกงอมแล้วค่อยไปทำอย่างเต็มที่” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “แต่เรื่องบางเรื่องไม่สามารถรอได้ โอกาสมีเพียงครั้งเดียว และยังแวบเดียวผ่านไป ถ้าหากเจ้าไม่สามารถคว้าโอกาสที่แวบผ่านมาเอาไว้ก็จะไม่มีอีกตลอดกาล! ดังนั้น เจ้าจะต้องคว้าโอกาสที่แวบผ่านนี้เอาไว้มั่น
เมื่อหลี่ชิเย่กล่าวมาถึงตรงนี้ ได้มองดูเด็กมหัศจรรย์สามตาทีหนึ่ง และกล่าวว่า “เจ้าสามารถมองเห็นได้ว่า การสัมผัสกับราชันแท้จริงหลิงซินในครั้งนี้ เจ้าได้ให้ความประทับใจที่ดีมากแก่นาง กล่าวได้ว่านางมีความรู้สึกที่ดีกับเจ้า หากเจ้าไม่ถือโอกาสตีเหล็กขณะร้อนแล้วจะรอไปถึงเมื่อไหร่ รอเจ้าสิบปีกับข้าวก็คงเย็นชืดไปหมดแล้ว ไม่สิ ถูกคนอื่นเขากินจนหมดไปนานแล้ว”
“ก็ถูก” เด็กมหัศจรรย์สามตาไม่อาจไม่ยอมรับ หลังจากได้คิดดูแล้ว
“ดังนั้น ไปเถอะอย่าได้ลังเลอีกต่อไป อย่าได้มีความกังวลใดๆ ” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “เชื่อว่าอัจฉริยะบุคคลอย่างเจ้า ผู้หญิงในโลกนี้คงมีไม่มากที่เข้าตาเจ้าได้ ผู้หญิงที่สามารถทำให้เจ้าชอบได้ขนาดนี้ยิ่งเรียกว่าน้อยถึงน้อยที่สุด เจ้าลองดูว่ามีผู้หญิงคนไหนที่สามารถมาทดแทนฐานะของราชันแท้จริงหลิงซินในใจของเจ้าได้”
“ไม่มี” เด็กมหัศจรรย์สามตาตอบโดยไม่ต้องคิด
“นั่นน่ะสิ” หลี่ชิเย่กล่าวว่า “ในเมื่อนางคือผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวที่เจ้าชอบในเวลานี้ เจ้าก็ลงมือไปทำเลยอย่าได้คิดมาก ไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องของผล ผลดีก็ดี ผลเสียก็ช่าง อย่างน้อยที่สุดเจ้าได้พยายามแล้ว เจ้าได้ประสบกับมันมาแล้ว ต่อให้ต้องเสียใจก็เป็นการหวนคะนึงอย่างหนึ่ง”
“เจ้าลองคิดดู สักวันหนึ่ง เจ้าได้ยืนอยู่ด้านหน้าทะเลปุ๊ตู้ไห่ เวลาที่เจ้าคิดจะไปจากโลกใบนี้ เจ้าจะนึกถึงว่า ในครั้งนั้นเจ้าชอบราชันแท้จริงหลิงซินแล้วเจ้าไม่กล้าไปจีบนาง ในใจของเจ้าก็จะมีช่องว่าง” หลี่ชิเย่กล่าวว่า “ถ้าหากเจ้าได้ไปตามจีบ หากสำเร็จล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว เจ้าได้สาวงามกลับมาด้วย ยังจะมีอะไรต้องเสียใจอีก…”
“…หากพวกเจ้าไม่สามารถเคียงคู่กัน เจ้าก็ได้พยายามมาแล้ว อย่างน้อยเจ้าเคยพยายามมา ต่อให้เป็นความเสียใจก็เป็นความเสียใจที่มีสีสัน เป็นความเสียใจที่มีรสชาติ ขณะที่ความเสียใจที่เจ้าไม่ได้ไปทำ ก็จะจืดชืดไร้รสชาติ”
ภายในใจของเด็กมหัศจรรย์สามตาหวั่นไหวอย่างหนัก เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของหลี่ชิเย่แล้ว
“ข้าเข้าใจแล้ว” หลังจากที่เด็กมหัศจรรย์สามตาได้สติกลับมา สองตาดูสุกใส พลันดวงตาทั้งสองดูดุเดือดรุนแรงขึ้นมา
อย่างไรเสียเขาก็คือเด็กมหัศจรรย์สามตา เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค ไม่ใช่คนไร้สมอง เมื่อหลี่ชิเย่ชี้แนะเขาก็คิดได้ทะลุปรุโปร่งทันที
ในเวลานี้ ภายในใจของเขาเปี่ยมด้วยบุคลิกที่อาจหาญ เทพสงครามจินเปี้ยนก็ดี ตำหนักเทพจินเปี้ยนก็ช่าง สัญญาหมั้นหมายอะไร คู่หมั้นอะไรก็ขัดขวางฝีเท้าของเขาในการตามจีบราชันแท้จริงหลิงซินไม่ได้!
“ไปเถอะ” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า “เจ้าใช่จะเป็นคนไร้สมอง การจีบสาวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการฝึกปรือ ขอเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรเจ้ามั่นคงเพียงพอ เจ้าต้องทำได้อยู่แล้ว”
“ขอบคุณใต้เท้า” เด็กมหัศจรรย์สามตาก้มกราบกับพื้น และกล่าวว่า “คำสั่งสอนของใต้เท้าที่มีต่อข้า ข้าจะจดจำชั่วชีวิต และทำให้ข้าได้ประโยชน์ชั่วชีวิต”
หลี่ชิเย่รับการคารวะเต็มรูปแบบจากเด็กมหัศจรรย์สามตา หลังจากที่เด็กมหัศจรรย์สามตาได้คารวะเต็มรูปแบบเสร็จแล้วจึงเหินฟ้าขึ้นไป
……………………………………………………….