Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2963 ข้าเอาไว้แล้ว
ตอนที่ 2963 ข้าเอาไว้แล้ว
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทุกคนต่างจ้องมองไปที่เขา ทุกคนรู้สึกว่าคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่สามหาวเหลือเกิน
“เจ้าเอาแน่นอนแล้ว? อาศัยอะไรเอาแน่นอน?” คนแรกที่ไม่พอใจก็คือกระบี่เหินเทียนเจียว นางกล่าวเยาะเย้ยว่า “เจ้ามีอะไรที่สามารถเทียบได้กับหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษได้ ต่อให้เจ้ามีเงินมากกว่านี้ ต่อให้เจ้าจ่ายเงินหมื่นล้านก็เทียบไม่ได้กับหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษ!”
กระบี่เหินเทียนเจียวย่อมไม่พอใจในตัวหลี่ชิเย่อยู่แล้ว กระทั่งเรียกได้ว่าพกเอาความแค้นอยู่ในใจ กระบี่ปฐมบรรพบุรุษที่นางต้องการมากที่สุดถูกหลี่ชิเย่แย่งเอาไป และถูกหลี่ชิเย่อาศัยเงินที่เหม็นสาบตบหน้าอย่างแรงต่อหน้าผู้คนทั่วหล้า นางคือลูกรักของสวรรค์ที่มีชาติกำเนิดสูงส่งยิ่ง ถึงกับถูกคนธรรมดาที่รสนิยมต่ำอาศัยวิธีการที่ต่ำที่สุดตบหน้า นางจะกล้ำกลืนความอัปยศนี้ได้อย่างไรกันเล่า
ยิ่งไปกว่านั้น นางภูมิใจในพระอาจารย์จินกวง ผู้เป็นพี่เขยของตนตลอดมา พี่เขยของนางคือปฐมบรรพบุรุษที่ปราศจากผู้ต่อกร ยากจะหาผู้ใดเทียมในหล้า เป็นหนึ่งในอดีตถึงปัจจุบัน หนึ่งคำมั่นสัญญาของเขายังจะมีสิ่งใดในโลกสามารถเทียบเคียงได้อีก ต่อให้มีเงินมากกว่านี้ก็ไม่สามารถซื้อหนึ่งคำมั่นของพี่เขยนางได้
ดังนั้น เวลานี้หลี่ชิเย่พลันอ้าปากก็บอกว่าโลงศพเซียนลูกนี้เขาเอาไว้แน่ ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับกระบี่เหินเทียนเจียว อาศัยหลี่ชิเย่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นสาบเงินไม่มีสิทธิ์เทียบเคียงกับพี่เขยของนางได้
ขณะที่ผู้คนจำนวนมากมองไปที่หลี่ชิเย่นั้น ก็รู้สึกว่าออกจะวาจาสามหาวไปนิดหนึ่ง แม้ว่าทุกคนล้วนแล้วแต่รู้ว่าหลี่ชิเย่นั้นมีเงินมากมาย เอะอะก็คือหนึ่งพันล้าน แต่ว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษแล้ว ต่อให้เงินมากกว่านี้ก็ไม่นับเป็นอะไรได้ กล่าวสำหรับผู้คนจำนวนมากแล้ว เงินมากกว่านี้ก็เทียบไม่ได้กับหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษ
“เจ้าคนบ้าคนนี้จะเสนอราคาประมูลเช่นใดออกมาได้นะ?” ยอดฝีมือที่มองเห็นท่าทางหลี่ชิเย่ที่ดูเอ้อระเหยสบายๆ อย่างนั้น ถึงกับพูดว่า “หรือว่าเขาจะเสนอหนึ่งหมื่นล้านอย่างนั้นรึ?”
“หนึ่งหมื่นล้าน นับเป็นยอดเงินที่น่าตกใจยิ่ง ระดับปฐมบรรพบุรุษก็ไม่แน่เสมอไปว่าสามารถควักออกมาได้รวดเดียว แต่ว่า เรื่องบางเรื่องเงินไม่แน่ว่าจะใช้ได้เสมอไป หากเปลี่ยนเป็นข้า ข้ายอมเอาหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษดีกว่า” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
“เป็นความจริง เงินหนึ่งหมื่นล้านเป็นตัวเลขที่น่าตกใจยิ่ง กล่าวสำหรับมนุษย์ปุถุชนพื้นๆ แล้ว เป็นความจริงที่เงินจำนวนนี้เต็มไปด้วยความเย้ายวนโดยแท้จริง แต่ว่า กล่าวสำหรับผู้ที่มีความมุ่งมาดปรารถนาแล้ว เกรงว่าจะเลือกหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษมากกว่า ตามความเห็นส่วนตัวของข้า ระหว่างเงินหนึ่งหมื่นล้านกับหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษ ห้างเจียวเหิงต้องเลือกหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษ” เทพแท้จริงขั้นอมตะผู้หนึ่งก็รู้สึกเป็นเช่นนี้
โดยเฉพะอย่างยิ่ง ผู้บำเพ็ญตนคนหนึ่งที่แข็งแกร่งจนถึงระดับหนึ่งแล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการยิ่งกว่าไม่ใช่เงินทอง แต่เป็นการเพิ่มพูนช่องว่างให้มากขึ้น ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าหนึ่งคำมั่นปฐมบรรพบุรุษจะต้องนำมาซึ่งความน่าจะเป็นที่ไร้ขีดจำกัดให้กับพวกเขาได้แน่นอน
“ไม่ทราบว่าคุณชายหลี่ต้องการเสนอราคาเช่นใด” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลมองหน้าหลี่ชิเย่ด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า
ในเวลานี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้มองดูหลี่ชิเย่เงียบๆ ทุกคนล้วนแล้วแต่รอคอยการเสนอราคาที่สะเทือนเลื่อนลั่นจากหลี่ชิเย่
ไม่มีใครสงสัยในตัวของหลี่ชิเย่ จะอย่างไรเสียพลันที่เจ้าคนบ้าคนนี้ลงมือก็ต้องสะเทือนสถานการณ์ที่เลื่อนลั่น กับคนบ้าที่เอะอะก็คือพันล้านตามอารมณ์ เมื่อเผชิญกับของวิเศษชิ้นสุดท้ายเช่นนี้ เขาจะต้องเสนอราคาที่สะเทือนเลื่อนลั่นยิ่งแน่นอน
ที่ทุกคนต้องการรู้ก็คือ เวลานี้เจ้าคนบ้าคนนี้จะเสนอราคาที่สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างไรขึ้นมาเล่า
“นำพู่กันและหมึกมา” หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ราคาที่ข้าเสนอนี้ ผู้คนบนโลกไม่สมควรรับรู้”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวนไม่น้อยต่างมองหน้าซึ่งกันและกัน ราคาแบบไหนกันนะที่ไม่ควรให้ผู้อื่นรู้ ฟังดูแล้วออกจะเกินไปบ้าง
หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลก็ตะลึงนิดหนึ่ง จากนั้นก็ให้คนส่งกระดาษและพู่กันให้หลี่ชิเย่
“ฮึแสร้งทำเป็นลึกลับซับซ้อน แม้เป็นเช่นนี้แล้วจะอย่างไร ราคาที่สะเทือนเลื่อนลั่นอะไร ราคาที่ไม่ให้ผู้คนบนโลกรับรู้อะไรนั่น ล้วนแล้วแต่เทียบไม่ได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษ” เมื่อกระบี่เหินเทียนเจียวมองเห็นเช่นนี้แล้ว จึงส่งเสียงฮึเย็นชาขึ้นมา
“ข้าก็ไม่เชื่อว่ายังจะมีราคาอะไรสามารถเทียบได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษได้” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนบางส่วนก็ไม่มั่นใจในหลี่ชิเย่ รู้สึกว่าไม่ว่าหลี่ชิเย่จะเสนอราคาอะไรขึ้นมาล้วนแล้วแต่เทียบไม่ได้กับหนึ่งคำมั่นของพระอาจารย์จินกวงได้
ในเวลานี้เอง หลี่ชิเย่ได้เขียนราคาเสร็จ พับเรียบร้อยและยื่นให้ไป
หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลเปิดออกดู ท่าทางสะดุ้งทีหนึ่ง จากนั้นกระดาษแผ่นนี้ของหลี่ชิเย่ถูกส่งเข้าไปด้านหลังเวที
แม้ว่าไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจนว่าบนกระดาษนั้นได้เขียนอะไรเอาไว้
แต่ว่า ผู้คนที่อยู่ในงานต่างมองเห็นท่าทางเช่นนี้ของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลได้อย่างชัดเจน
ในเวลานี้ยิ่งทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจว่า หลี่พันล้านได้เขียนราคาเช่นใดเอาไว้บนกระดาษกันแน่ ถึงกับสามารถทำให้หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ได้มีผู้ไปกระซิบข้างหูของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูล และมอบม้วนไม้ไผ่ให้กับนาง
“ทุกท่าน ในที่สุดของวิเศษชิ้นสุดท้ายก็มีผลออกมาแล้ว” ในเวลานี้หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลได้เผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าขึ้นมา ยังคงหยาดเยิ้มอะไรเช่นนั้น ยังคงดึงเร้าวิญญาณอะไรอย่างนั้น
“เป็นใคร เป็นใครเล่า” ทั่วทั้งงานดูจะเดือดพล่านอยู่บ้างเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยได้ส่งเสียงร้องขึ้นมา นาทีนี้พวกเขาต่างต้องการรู้คำตอบ
“ยังจะต้องพูดให้มากความรึ? ย่อมต้องเป็นจักรพรรดิซีหวงแน่นอน ยังจะมีอะไรเทียบได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษเล่า” มีผู้ยิ่งใหญ่ที่กล่าวทอดถอนใจขึ้นมาทันที
“มันก็ใช่ ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษอยู่แล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยพยักหน้า
“เป็นจักรพรรดิซีหวงใช่หรือไม่?” มีผู้ที่ส่งเสียงดังถามหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลที่อยู่บนเวที
“ทุกท่าน โปรดเงียบ” หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลรีบกล่าวกับผู้คนทั้งหลายว่า “งานประมูลครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณผู้มีเกียรติทุกๆ ท่านที่ให้เกียรติ ขอบคุณราชันแท้จริง เทพแท้จริงคงความอมตะตลอดกาลทุกท่านที่มาด้วยตนเอง ยิ่งกว่านั้นต้องขอบคุณฝ่าบาทซีหวงที่สละเวลาอันมีค่าให้ความสำคัญต่องานประมูลของห้างเจียวเหิง ห้างเจียวเหิงพวกเราขอส่งมอบความคิดถึงที่จริงใจที่สุดต่อพระอาจารย์จินกวง…”
“นั่นก็คือจักรพรรดิซีหวงแล้วล่ะ” ทุกคนพลันเข้าใจว่า ท้ายที่สุดแล้วห้างเจียวเหิงยังคงเลือกราคาที่จักรพรรดิซีหวงเสนอไป เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลแล้ว
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรต้องเหนือความคาดคิดอยู่แล้ว ยังจะมีสิ่งใดสามารถเทียบได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษเล่า สิ่งนี้หาใช่สามารถประเมินด้วยเงินทองได้อยู่แล้ว ยิ่งหาใช่สิ่งของอื่นๆ สามารถเทียบเคียงได้” ทุกคนต่างไม่รู้สึกเหนือความคาดคิดเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ จะอย่างไรเสียหากเปลี่ยนเป็นพวกเขาก็ต้องเลือกหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษเช่นกัน
กล่าวสำหรับผู้คนใต้หล้าแล้ว เงินมากมายกว่านั้นก็ซื้อไม่ได้กับหนึ่งคำมั่นของปฐมบรรพบุรุษ
“ฮึเงินมากกว่านั้น มันก็แค่เศษเหล็กเท่านั้นเอง ราคาที่สูงกว่านั้นมันก็แค่ตัวเลขเท่านั้น” ในเวลานี้กระบี่เหินเทียนเจียวก็คิดว่าห้างเจียวเหิงได้เลือกราคาที่เสนอโดยจักรพรรดิซีหวง ดังนั้น นางอดที่จะหายใจออกมายาวๆ ท่าทางเหมือนรู้สึกได้เงยหน้าอ้าปากอย่างหนึ่ง
เมื่อครู่นางถูกหลี่ชิเย่อาศัยเงินที่เหม็นกลิ่นสาบตบหน้า ทำให้นางถือเป็นความอัปยศยิ่งใหญ่ เวลานี้พี่สาวของนางเอาชนะหลี่ชิเย่ได้ เท่ากับเป็นการตบหน้าหลี่ชิเย่อย่างแรงเช่นกัน ทำให้นางรู้สึกสบายอกสบายใจยิ่งนัก
“ต่อให้มีเงินมากกว่านั้น มันก็แค่พวกที่ร่ำรวยชั่วข้ามคืนเท่านั้น ไหนเลยมีสิทธิ์เทียบเคียงกับปฐมบรรพบุรุษได้” กระบี่เหินเทียนเจียวหัวเราะเยาะทีหนึ่ง มองหน้าหลี่ชิเย่ด้วยท่าทีเหยียดหยาม ในสายตาของนางมองว่า หลี่ชิเย่ในเวลานี้ไม่ได้ต่างอะไรกับมดปลวก นางกล่าวท่าทีเย็นชาว่า “ความแข็งแกร่งด้านกำลังความสามารถจึงเป็นธรรมที่ใช้ในการปกครองแคว้น เงินทองก็แค่ของนอกกายเท่านั้นเอง ช่วยได้เพียงชั่วคราว ที่เหลือล้วนไม่คู่ควรจะกล่าวถึง”
“การที่ห้างเจียวเหิงเลือกเช่นนี้ก็นับเป็นเรื่องปรกติ ไม่ว่าใครต่างมองออกว่าพระอาจารย์จินกวงจะต้องเป็นผู้ปราศจากผู้ต่อกรในยุคปัจจุบัน ห้างเจียวเหิงสามารถได้หนึ่งคำมั่นของเขาล่ะก็ ชาตินี้จะต้องมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่านี้” ทุกคนต่างรู้สึกว่า การที่ห้างเจียวเหิงเลือกเช่นนี้ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล ไม่มีสิ่งใดสามารถตำหนิได้
“สุดท้ายแล้วเงินก็ใช้การไม่ได้ เงินมากว่านี้ก็เทียบไม่ได้กับปฐมบรรพบุรุษนะเนี่ย” มีผู้บำเพ็ญตนบางคนถึงกับทอดถอนใจขึ้นมา
“คำพูดนี้ของเจ้ามิใช่ไร้สาระรึ?” พรรคพวกที่อยู่ข้างๆ จึงหัวเราะและกล่าวขึ้นทันทีว่า “ให้เงินเจ้ามากกว่านี้ เจ้าสามารถหาปฐมบรรพบุรุษแบบเดียวกันให้ข้าได้รึ? มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว”
“มันก็ใช่” ทุกคนต่างเห็นด้วยเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยพยักหน้ากับสิ่งนี้
“ทุกท่าน เงียบๆ หน่อย เวลานี้จะประกาศผลคนสุดท้ายที่ได้เป็นเจ้าของ” หลังจากที่หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลได้กล่าวคำขอบคุณจบแล้ว ได้ลากเสียงสูงขึ้น และสยบเสียงทั้งหมดที่อยู่ในงานลง
“เมื่อครู่ประกาศไปแล้วมิใช่รึ?” ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับตะลึงนิดหนึ่งเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้
“เวลานี้ ข้าจะประกาศอย่างเป็นทางการ ของวิเศษชิ้นสุดท้ายในครั้งนี้ ตกเป็นของคุณชายหลี่!” ทุกคนถึงกับตะลึง เสียงประกาศเป็นทางการของหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลดังก้องไปทั่วลานประมูล
“ว่าไงนะ…” ทุกคนต่างตะลึงเมื่อได้ยินคำประกาศเช่นนี้ ในพริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งงามเสมือนดั่งหยุดลงอย่างนั้น ทุกคนล้วนแล้วแต่ ตะลึงลานอยู่ตรงนั้น
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่าผู้คนจำนวนเท่าไรอ้าปากกว้างค้างหุบไม่ลงเป็นเวลานาน คำตอบที่มาอย่างกะทันหันเหมือนเป็นค้อนยักษ์ที่ทุบจนทุกคนสลบเหมือบอยู่ตรงนั้น ทำให้ทุกคนต่างตะลึงลานจนไม่ได้สติกลับมาเป็นเวลานาน
เมื่อครู่ขณะหญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลกล่าวขอบคุณนั้น ได้กล่าวขอบคุณอย่างหนักแน่นจริงจังต่อพระอาจารย์จินกวง ทุกคนย่อมเข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้วห้างเจียวเหิงเลือกพระอาจารย์จินกวง ดังนั้น ทุกคนต่างมองเป็นเอกฉันท์ว่า การประมูลขายของวิเศษชิ้นสุดท้ายนี้จะต้องตกไปเป็นของพระอาจารย์จินกวงอย่างแน่นอน
แต่ว่า ในขณะที่ทุกคนคิดว่าจะต้องตกเป็นของพระอาจารย์จินกวงนั้น หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลพลันหักมุมอย่างกะทันหัน ถึงกับให้ของวิเศษตกเป็นของหลี่ชิเย่ แล้วจะไม่ให้ผู้ที่อยู่ในงานทั้งหมดต้องหวั่นไหวได้อย่างไร
โดยเฉพาะกระบี่เหินเทียนเจียว นางที่อยู่ในฐานะคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นก็พลันตะลึงงันอยู่ตรงนั้น อ้าปากกว้างและหุบไม่ลงในขณะนี้
เมื่อครู่นางมั่นใจแล้วว่าพี่สาวของนางจะต้องได้ของวิเศษชิ้นสุดท้ายนี้แน่นอนแล้ว ดังนั้น นางจึงได้ออกปากเยาะเย้ยหลี่ชิเย่ เวลานี้นึกไม่ถึงว่าจะหักมุมขนาดนี้ หลี่ชิเย่คือผู้ที่ได้เป็นเจ้าของอย่างแท้จริง พลันทำให้กลายเป็นเรื่องตลกขึ้นมา
อีกทั้งผลที่ออกมาเช่นนี้ ก็เป็นการตบหน้าของกระบี่เหินเทียนเจียวอย่างแรง การตบหน้าไร้รูปที่ฟาดใส่หน้าของนางอย่างแรงเช่นนี้ พลันส่งผลให้นางเสียหน้าไปจนสิ้น
ในเวลานี้ทุกคนเหมือนหนึ่งถูกสะกดเอาไว้อย่างนั้น ไม่สามารถเรียกสติกลับมาเป็นเวลานาน
หญิงสาวผู้ดำเนินการประมูลถึงกับยิ้มเจื่อนๆ เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว เมื่อครู่นางแค่กล่าวขอบคุณแขกทุกคนก่อนเท่านั้นเอง ไม่นึกเลยว่ามีผู้คนจำนวนมากถึงกับเข้าใจกันไปเอง
………………………………………………