Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2977 ไท่อิ๋นสี่
ตอนที่ 2977 ไท่อิ๋นสี่
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นไม่ว่าใครก็ตาม สามารถได้รับความโปรดปรานจากนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน ก็ต้องบังเกิดความหวั่นไหวขึ้นภายในจิตใจ แม้แต่ผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะราชันแท้จริงก็ต้องมีความหวังว่าจะต้องได้มา
เป็นความจริงผู้หญิงที่สุดยอดยากจะหาผู้ใดเทียมเฉกเช่นนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน สามารถทำให้ราชันแท้จริงต้องหวั่นไหวโดยแท้จริง ต่อให้ราชันแท้จริงจะมีความปราดเปรื่องน่าทึ่งเช่นใด กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว นับเป็นเรื่องที่โชคดีมากๆ กับการได้คู่ครองอย่างนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานเช่นนี้
ผู้หญิงในหล้าแม้มีมากมาย ที่สุดยอดก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ว่า เมื่อเทียบกับนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานแล้วก็จะสลดและอับแสงแล้ว
ในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองไปที่หลี่ชิเย่ ท่ามกลางแววตาจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้แยกไม่ออกว่าอิจฉาหรือริษยาแล้ว กล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมาได้รวดเร็วเหลือเกิน ทำให้ผู้คนตั้งตัวไม่ทัน
“ตกลง…” หลี่ชิเย่ได้ตอบตกลงอย่างตรงไปตรงมาสำหรับการเชื้อเชิญของนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน ยิ้มพลางและกล่าวว่า “วันหน้าทีเวลาว่าง ต้องไปที่เขาหวู่สิงซานสักครั้ง”
ชิงเสียนเฝ้ารอคอยการมาของพี่ท่าน” ฮุ่ยชิงเสียนก็ดูสุภาพเรียบร้อย ไม่มีการปกปิดแม้แต่น้อย และไม่มีความดัดจริตแม้แต่น้อย ท่าทางนั้นสบายๆ และเป็นธรรมชาติ ท่วงท่าที่ยอดเยี่ยมยากจะหาใดเทียมในหล้า ทำให้ผู้คนอดที่จะเลื่อมใสไม่ได้
“ยิ่งเร็วยิ่งดี” กระบือดำขนาดใหญ่หัวเราะแหะแหะและกล่าวว่า “เรื่องดีต้องเร็ว ใช้ชีวิตร่วมกัน ให้กำเนิดลูกชายที่ดีไวๆ…” กระบือดำขนาดใหญ่แทบอยากจะให้หลี่ชิเย่และนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานเข้าพิธีแต่งงานเสียเดี๋ยวนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป เนื่องจากเขารู้ดีว่าหลี่ชิเย่จะต้องไปจากในไม่ช้า ถ้าหากงานแต่งระหว่างหลี่ชิเย่กับนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานไม่รีบลงเอยโดยเร็ว ต่อไปยากจะมีโอกาสอีกแล้ว
“ไสหัวไป…” หลี่ชิเย่ยกเท้าถีบกระบือดำขนาดใหญ่ออกไปข้างนอก แต่ว่า กระบือดำขนาดใหญ่ยังคงหน้าด้านกลับเข้ามาอีก
ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ต่างมีท่าทีที่ดูแปลกๆ เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่
ดั่งเช่นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเช่นราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็รู้สึกหวั่นไหวในใจไม่น้อย เนื่องจากนางมีชาติกำเนิดมาจากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์นี้เอง แม้ว่าจะไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับกระบือดำขนาดใหญ่เป็นพิเศษ แต่ กลับรู้มาว่าภายในหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ ไม่รู้ว่ามีปฐมบรรพบุรุษจำนวนเท่าไรที่มีท่าทีที่เคารพยำเกรงต่อกระบือดำขนาดใหญ่ และเคยมีอัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่ง และหรือราชันแท้จริงจำนวนเท่าไรล้วนแล้วแต่ต้องเสียเปรียบไม่น้อยด้วยฝีมือของกระบือดำขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความสัมพันธ์ของกระบือดำขนาดใหญ่กับหลี่ชิเย่นั้นดูไม่ธรรมดา แล้วจะไม่ให้ราชันแท้จริงเซิ่นซวงต้องรู้สึกตระหนกยิ่งในใจได้อย่างไรเล่า ในเวลานี้นางเองก็เข้าใจแล้วว่า ตนเองนั้นยังคงประเมินกระบือดำขนาดใหญ่ต่ำเกินไปอยู่มากทีเดียว
“ใต้เท้านายด่านมาถึงแล้ว…” ในเวลานี้เอง เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น
ตามติดด้วยกองกำลังทหารเดินเข้ามาเป็นระเบียบสองขบวน ผู้เฒ่าผู้หนึ่งภายใต้การติดตามของกองกำลังทหารได้เดินเข้ามายังหอลอยฟ้า
ผู้เฒ่าผู้นี้ดั่งพยัคฆ์เยื้องกราย มังกรเคลื่อนไหว แม้ว่าเขาจะมีผมเผ้าที่ขาวโพลนแล้วก็ตาม แต่ว่า ยังคงมีท่าทีที่กระฉับกระเฉง นัยน์ตาคู่นั้นดั่งสุริยันจันทราที่อยู่บนท้องฟ้า สุกสกาวอย่างยิ่ง ยามที่แววตาของเขาคุโชนขึ้นมานั้น ดุจดั่งดวงดาวนับล้านล้านดวงมารวมตัวกันอย่างนั้น
แม้ว่าผู้เฒ่าผู้นี้จะเก็บงำกลิ่นอายที่ปราศจากผู้ต่อกรของตนไว้แล้ว แต่ ขณะที่เคลื่อนไหวยังคงมีพลังของพายุที่โหมกระหน่ำและสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงๆ เหมือนว่าทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนสามารถนำพาพายุและสายฟ้าทั่วหล้ามาด้วยอย่างนั้น
ผู้เฒ่าผู้นี้ก็คือผู้เฝ้ารักษาด่านเทียนสงกวานไท่อิ๋นสี่ เป็นระดับเทพแท้จริงชั้นคงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งปราศจากผู้ต่อกร ซึ่งก็คือชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุด
ผู้ที่ติดตามอยู่ด้านหลังไท่อิ๋นสี่ก็คือบุตรชายของเขา ไท่เสวียนฟงนั่นเอง!
“การมาของแขกผู้มีเกียรติทุกๆ ท่าน นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ขออภัยที่อิ๋นสี่ไม่ได้ออกมาให้การต้อนรับ” หลังจากที่ไท่อิ๋นสี่ได้เดินเข้ามาแล้ว ได้แสดงคารวะแบบจีนต่อแขกผู้มีเกียรติทุกคนที่อยู่ในงาน เพื่อเป็นการทักทาย
แขกผู้มีเกียรติที่อยู่ในงานต่างทยอยกันลุกขึ้น และคารวะตอบต่อไท่อิ๋นสี่
แม้ว่าในบรรดาแขกผู้มีเกียรติที่อยู่ในงานมีจำนวนเท่าไรที่เป็นถึงระดับปฐมบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ หนึ่ง ในจำนวนนั้นยังมีราชันแท้จริงที่ยากจะหาผู้ใดเทียม ระดับคงความอมตะตลอดกาลที่ปราศจากผู้ต่อกร แต่ว่า กับไท่อิ๋นสี่แล้วพวกเขายังคงไม่กล้าหยิ่งผยองและอวดดี ต่างทยอยกันแสดงคารวะตอบ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าชาติกำเนิดของไท่อิ๋นสี่เป็นเช่นใด ลำพังกำลังความสามารถระดับชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดของเขาก็เพียงพอที่จะสยบเหล่าผู้กล้าได้
แม้จะมีราชันแท้จริง คงความอมตะตลอดกาลที่แข็งแกร่งอยู่ในงานด้วย แต่ว่า เมื่อเทียบกับชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดอย่างไท่อิ๋นสี่แล้ว ยังม่ช่วงห่างอยู่ไม่น้อย จะอย่างไรเสียชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดเช่นไท่อิ๋นสี่คือผู้ที่สามารถเทียบเคียงกับระดับปฐมบรรพบุรุษได้อย่างแท้จริง
ซึ่งไม่เหมือนเช่นคงความอมตะตลอดกาลขั้นต้นอย่างกระบี่เหินเทียนเจียว และไม่เหมือนเช่นบรรดาคงความอมตะตลอดกาลขั้นสมบูรณ์ กระทั่งพวกคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูง อย่างนั้น เป็นเพียงได้ชื่อว่าเทียบเคียงกับระดับปฐมบรรพบุรุษเท่านั้นเอง ไม่ได้เทียบเคียงกับระดับปฐมบรรพบุรุษได้จริงๆ
แต่ทว่า เฉกเช่นชั้นคงความอมตะตลอดกาลขั้นสูงสุดอย่างไท่อิ๋นสี่ ทั้งยังอยู่ในระดับนี้มาเป็นเวลานับไม่ถ้วน กำลังความสามารถของเขานับว่าสามารถเทียบเคียงกับระดับปฐมบรรพบุรุษได้จริงๆ
กล่าวได้ว่าด้วยตำแหน่งฐานะของไท่อิ๋นสี่ในวันนี้ การที่เขาจะทำตัวเสมอภาคกับปราชญ์อัจฉริยะหลันซู พระอาจารย์จินกวงก็ไม่ถือเป็นการเกินเลย แน่นอนที่สุดใครจะแกร่งหรือด้อยกว่ากันนั้นคงพูดยาก
“ว้าวเจ้าหนูอิ๋น ดูท่าเจ้าจะทำได้ไม่เลวนัก” ขณะไท่อิ๋นสี่ทักทายต่อแขกผู้มีเกียรติทุกคนนั้น ดวงตาคู่นั้นที่มีขนาดเท่ากระดิ่งทองแดงของกระบือดำขนาดใหญ่เหลือบมองดูไท่อิ๋นสี่ทีหนึ่ง ไม่ได้ใส่ใจ
คำพูดนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ฟังดูอวดดีเป็นพิเศษ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองไปที่กระบือดำขนาดใหญ่ ผู้ที่อยู่ในงานจำนวนมากต่างรู้สึกว่าคำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ไม่ให้ความเคารพเหลือเกิน
สมควรทราบว่า ไม่ว่าระดับปฐมบรรพบุรุษที่มีฐานะเช่นใด ไม่ว่าจะเป็นเทพแท้จริงที่แข็งแกร่งเท่าใด หรือชั้นคงความอมตะตลอดกาลก็ไม่กล้าพูดเช่นนี้กับไท่อิ๋นสี่
ไท่อิ๋นสี่หันมามอง เขารีบวิ่งเข้ามาและแสดงคารวะต่อกระบือดำขนาดใหญ่อย่างลึกซึ้ง ท่าทางเคารพนอบน้อม และกล่าวว่า “ท่านผู้อาวุโสมาเยือน อิ๋นสี่ไม่ทันให้การต้อนรับ เป็นความผิดของอิ๋นสี่…”
“พอแล้ว พอแล้ว ไม่ต้องมาทำประจบสอพรอข้า” กระบือดำขนาดใหญ่โบกมือเบาๆ แน่นอน คำพูดของไท่อิ๋นสี่ก็ถูกใจเขายิ่งนัก
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ตาม ไท่อิ๋นสี่ยังคงคำนับต่อกระบือดำขนาดใหญ่ และกล่าวว่า “บุญคุณท่านผู้อาวุโสที่ให้การชี้แนะในครั้งนั้น อิ๋นสี่ไม่กล้าลืม อิ๋นสี่ไม่ทราบว่าท่านผู้อาวุโสออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มิเช่นนั้นล่ะก็จะไปให้การต้อนรับล้านลี้ข้างหน้า”
“แหะเดิมทีตั้งใจจะรื้อบ้านซอมซ่อหลังนี้ของเจ้าเสีย เห็นแก่ความเคารพนอบน้อมเช่นนี้ของเจ้า ช่างเถอะ ละเว้นให้เจ้าสักครั้ง” เจ้ากระบือดำขนาดใหญ่กล่าวพร้อมกับหัวเราะแหะแหะ
เดิมทีภายในใจของกระบือดำขนาดใหญ่ดูจะไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง แต่ว่า ด้วยท่าทางเช่นนี้ของไท่อิ๋นสี่ก็ได้ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมากทีเดียว
คำพูดเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ทำให้ไท่อิ๋นสี่ถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ว่า เขาอดที่จะทอดถอนใจยาวๆ ออกมาไม่ได้ เนื่องจากภายในใจของเขาชัดเจนยิ่งนัก เป็นความจริงที่กระบือดำขนาดใหญ่พูดได้ทำได้จริง ถ้าหากเขาจะรื้อจวนของเขาทิ้งไป เขาก็คงได้แต่ยืนมองตาปริบๆ
สิ่งนี้ได้ทำให้ผู้คนที่อยู่ในงานต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ เมื่อเห็นไท่อิ๋นสี่ให้ความเคารพต่อกระบือดำขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกันในขณะนี้
ผู้คนจำนวนเท่าไรที่แสดงคารวะในฐานะที่เป็นผู้เยาว์ขณะอยู่ต่อหน้าของไท่อิ๋นสี่ และหรือแสดงคารวะต่อไท่อิ๋นสี่ แต่ว่า ไท่อิ๋นสี่กลับให้ความเคารพต่อกระบือดำขนาดใหญ่ถึงเพียงนี้ ดูท่ากระบือดำขนาดใหญ่ตัวนี้คงมีประวัติความเป็นมาที่สะเทือนเลื่อนลั่นแล้ว
แน่นอน สิ่งนี้ได้ทำให้องครักษ์ที่อยู่ข้างๆ ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลโทรมกาย ก่อนหน้านั้น ในบรรดาองครักษ์พวกเขามีผู้ที่ไม่ให้ความเคารพต่อกระบือดำขนาดใหญ่ยิ่งนัก เวลานี้ แม้แต่ผู้เฝ้ารักษาด่านของพวกเขายังต้องแสดงคารวะต่อกระบือดำขนาดใหญ่ในฐานะผู้เยาว์เลย
แน่นอนที่สุด การที่ไท่อิ๋นสี่แสดงคารวะต่อกระบือดำขนาดใหญ่ในฐานะผู้เยาว์ เป็นการสำนึกในบุญคุณต่อกระบือดำขนาดใหญ่เช่นนี้ใช่จะไม่มีเหตุผล
ไท่อิ๋นสี่เคยสมัครเข้าเป็นศิษย์ของหอจรัสศักดิ์สิทธิ์ เขาเป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่ง และเป็นผู้ที่มีไหวพริบมากคนหนึ่ง ขณะที่เขายังอยู่ในวัยเยาว์เคยได้รับการชี้แนะจากกระบือดำขนาดใหญ่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งทำให้ไท่อิ๋นสี่ซาบซึ้งใจจึงให้ความนับถือในฐานะเป็นผู้อาวุโส
“นางฟ้า…” เวลานี้ ไท่อิ๋นสี่ก็ได้แสดงคารวะสูงสุดต่อนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน
แน่นอนที่สุดทุกคนไม่รู้สึกแปลกใจที่ไท่อิ๋นสี่แสดงคารวะสูงสุด เนื่องจากตัวไท่อิ๋นสี่มีชาติกำเนิดมาจากเขาหวู่สิงซานอยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์นอกสำนักก็ตาม แต่ฐานะความเป็นเขาหวู่สิงซานนั้นเป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน
มาวันนี้ นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานปกครองเขาหวู่สิงซาน ไท่อิ๋นสี่แสดงคารวะสูงสุดต่อนางในฐานะของศิษย์นอกสำนักก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลอยู่แล้ว
นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานลุกขึ้นยืน พยักหน้าและกล่าวต่อไท่อิ๋นสี่ว่า “ผู้เฒ่าอิ๋น คนผู้นี้คือคุณชายหลี่ อนาคตผู้เฒ่าอิ๋นยังต้องพึ่งพาอาศัยคุณชายหลี่”
ภายในใจของไท่อิ๋นสี่รู้สึกหวั่นไหวยิ่ง เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน เขารู้ซึ้งถึงกำลังความสามารถ ฐานะของนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน และด้วยกำลังความสามารถ และฐานะเช่นนี้ของนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน ในโลกนี้มีไม่กี่คนที่สามารถได้รับการให้ความสำคัญเช่นนี้จากนาง และมีไม่กี่คนที่สามารถได้รับการแนะนำตัวอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้จากนางได้
เวลานี้ การที่นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานแนะนำตัวอย่างยิ่งใหญ่เช่นนี้ ย่อมบ่งบอกว่าหลี่ชิเย่นั้นยอดเยี่ยมมาก
“อิ๋นสี่คารวะคุณชายหลี่” ไท่อิ๋นสี่ก็ได้แสดงคารวะสูงสุดต่อหลี่ชิเย่จริงๆ และกล่าวว่า “ได้ยินว่าคุณชายมาจากสถาบันศึกษาล้างบาป ขณะเยาว์วัยอิ๋นสี่ก็ร่ำเรียนอยู่ที่หอจรัสศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ได้รับประโยชน์จากหอจรัสศักดิ์สิทธิ์มาไม่น้อย เมื่อเป็นเช่นนี้ อิ๋นสี่และคุณชายก็คือสหายร่วมสถานศึกษาเดียวกัน
ไท่อิ๋นสี่นั้นนับว่ามีไหวพริบดีมาก พลันก็สามารถเชื่อมสัมพันธ์กับหลี่ชิเย่ได้แล้ว มีฐานะเป็นสหายร่วมสถาบัน แลดูมีความสนิทขึ้นในทันที
หลังจากรับทราบว่ามีบุคคลอย่างหลี่ชิเย่มาถึง เขาก็ได้รับรู้ถึงเรื่องราวบางเรื่องเกี่ยวกับหลี่ชิเย่ เป็นต้นว่ามาจากสถาบันศึกษาล้างบาป เคยสังหารสามราชันแท้จริงเป็นต้น
แม้ว่ากำลังความสามารถลักษณะเช่นนี้นับว่าแข็งแกร่งยิ่งโดยแท้ เพียงแต่หากจะว่ากันถึงเรื่องกำลังความสามารถ ด้วยฐานะแล้ว ยังไม่ถึงขั้นที่ไท่อิ๋นสี่จะให้ความสำคัญเช่นนี้
จะอย่างไรเสียระดับราชันแท้จริงในยุคปัจจุบัน ผู้ที่มีกำลังความสามารถสังหารพวกราชันแท้จริงจินผู่ได้นั้นมีมากมาย เป็นต้นว่าราชันแท้จริงเซิ่นซวง ราชันแท้จริงจุนหวง เทพสงครามจินเปี้ยน ราชันหญิงจื่อหลง ล้วนแล้วแต่มีกำลังความสามารถเช่นนี้
แต่ว่า ด้วยกำลังความสามารถเช่นนี้กล่าวสำหรับไท่อิ๋นสี่แล้ว ยังมีช่วงห่างอยู่มากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม เมื่อนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานให้ความสำคัญเช่นนี้กับหลี่ชิเย่ ทุกอย่างล้วนกลับกลายเป็นไม่ธรรมดาแล้ว
ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในงานเมื่อเห็นหลี่ชิเย่ได้รับความโปรดปรานจากนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานเช่นนี้ พลันทำให้รู้สึกอิจฉาริษยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัจฉริยะบุคคลเยาวชนผู้ที่มีใจรักใคร่ในตัวของนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซาน ย่อมมีความริษยาในใจอยู่หลายส่วนทีเดียว
“ให้ความคารวะให้ดีเถอะ” กระบือดำขนาดใหญ่ก็หัวเราะแหะแหะ และกล่าวว่า “สามารถพบกับท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ก็นับเป็นเกียรติของเจ้าแล้ว ไม่แน่นัก ภายภาคหน้าเจ้ายังต้องอาศัยท่านปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่คุ้มครองเจ้า”
คำพูดนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่ยิ่งทำให้ภายในใจของไท่อิ๋นสี่ต้องสะเทือนหวั่นไหวมากขึ้น เขาเคยได้รับการชี้แนะจากกระบือดำขนาดใหญ่ ซึ่งกระบือดำขนาดใหญ่นั้นหาใช่ผู้ดำรงอยู่ในสถานะทั่วไป แม้แต่กระบือดำขนาดใหญ่ยังพูดเช่นนี้ ย่อมจินตนาการได้ว่าหลี่ชิเย่นั้นลึกล้ำยากจะหยั่งถึงเพียงใดแล้ว
ไท่อิ๋นสี่ได้แสดงคารวะอีกครั้งจริงๆ เขาเองก็เป็นคนที่ซื่อๆ จริงใจ
“ลุกขึ้นเถอะ” หลี่ชิเย่โบกมือบางๆ และกล่าวว่า “พิธีการทางโลกละเว้นไปเถอะ”
แม้ว่าไท่อิ๋นสี่จะแสดงคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง หลี่ชิเย่ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นรับการคารวะอย่างสูงจากเขาอย่างไม่สะทกสะท้านและเป็นธรรมชาติ
ภาพที่เห็นทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกแปลกๆ อยู่ในใจ ผู้คนจำนวนมากต่างครุ่นคิดพิจารณาอยู่ในใจ หลี่ชิเย่คนนี้มีประวัติความเป็นมาเช่นใดกันแน่นะ มีฝีมือที่สะเทือนเลื่อนลั่นเช่นใดกันแน่เล่า
แน่นอน มีผู้ดำรงอยู่ในฐานะที่แข็งแกร่งสังเกตดูหลี่ชิเย่มานานมากแล้ว แต่ว่า พวกเขาดูไม่ออกถึงความนัยอะไร ภายในใจของพวกเขาไม่ค่อยจะเชื่อนัก คิดว่าหากหลี่ชิเย่จะเทียบเคียงพระอาจารย์จินกวง ปราชญ์อัจฉริยะหลันซูนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
……………………………………………………………………………………………..