Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2988 อะไรอยู่ในหีบ
ตอนที่ 2988 อะไรอยู่ในหีบ
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้หยิบเอาหีบไม้ใบนั้นออกจากก้อนหินก้อนนั้น ขณะที่หยิบเอามานั้นทุกคนต่างมองออกว่าหีบไม้ใบนี้ดูหนักอึ้ง
เวลานี้ทุกคนที่อยู่ในงานต่างยื่นคอยาวมากออกไป ต่างยื่นหน้าไปต้องการดูว่าสิ่งที่บรรจุในหีบไม้คืออะไร
ในที่สุดหลี่ชิเย่ก็สามารถเปิดหินก้อนนี้ออกมาได้ ไท่อิ๋นสี่ก็ดีใจเป็นล้นพ้นเมื่อได้มองเห็นหีบไม้ใบนี้ เรื่องที่พวกเขาอาศัยพลังไปมากมายก็ทำไม่สำเร็จ มาวันนี้กูกหลี่ชิเย่ทำสำเร็จแล้ว จะไม่ให้ภายในใจของเขารู้สึกดีใจได้อย่างใดกันเล่า?
“สิ่งที่บรรจุอยู่ข้างในคืออะไรกันนะ? ” ในเวลานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างทยอยกันคาดเดา ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่า ภายในหีบไม้ได้บรรจุอะไรเอาไว้กันแน่
“บางทีอาจเป็นสุดยอดของวิเศษที่ปฐมบรรพบุรุษปราศจากผู้ต่อกรคนใดคนหนึ่งที่ทิ้งกับแดนลัทธิเซียน” มียอดฝีมือที่คาดเดา
ขณะเดียวกันก็มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะคิดว่า “เกรงว่าคงไม่ง่ายปานนั้น ในเมื่อหีบวิเศษนี้ติดตามลูกอุกาบาดบินมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ย่อมต้องกระทำด้วยความตั้งใจ บางทีสิ่งนี้ไม่เพียงแค่ปฐมบรรพบุรุษคนเดียวเท่านั้น ไม่แน่นักอาจเป็นการร่วมมือของปฐมบรรพบุรุษหลายคนกระทั่งมากกว่านั้น พวกเขาทิ้งสิ่งของบางสิ่งเอาไว้ เพื่อต่อต้านภัยพิบัติ และหรือปกป้องชนรุ่นหลัง”
ลักษณะการพูดเช่นนี้ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกว่ามีเหตุผลและทยอยกันพยักหน้า และกล่าวว่า “บางทีเหล่าปฐมบรรพบุรุษก็คงคาดการณ์ถึงการมาถึงของวันนี้ จึงได้ทิ้งหีบวิเศษใบลักษณะเช่นนี้เอาไว้”
ทุกคนต่างรู้ว่า ในรอบพันล้านปีที่ผ่านมา ปฐมบรรพบุรุษแต่ละยุคสมัยล้วนแล้วแต่เข้าไปในทะเลปุ๊ตู้ไห่ ปฐมบรรพบุรุษที่ไม่ได้เข้าไปยังทะเลปุ๊ตู้ไห่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไม่แน่นัก ระดับปฐมบรรพบุรุษที่ต่างยุคสมัยกันได้มีการพบปะกันแล้วที่ทะเลปุ๊ตู้ไห่
บางที บรรดาปฐมบรรพบุรุษก็คาดการณ์ได้ว่า จะมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น พวกเขาจึงได้ทิ้งหีบวิเศษลักษณะเช่นนี้เอาไว้ ให้มันติดตามลูกอุกาบาดบินออกจากทะเลปุ๊ตู้ไห่
ที่เหล่าปฐมบรรพบุรุษทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ทายาทรุ่นหลังของแดนลัทธิเซียนมีกำลังที่จะไปรับมือ ขณะภัยพิบัติใหญ่มาถึง
เพียงแต่ หลี่ชิเย่ไม่ได้เปิดหีบไม้ใบนี้ออกมา เขาเพียงตบหีบไม้ใบนี้เบาๆ และกล่าวเรียบเฉยว่า “หากจะกล่าวว่าผู้ใด ระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดที่อยู่ในงานนี้สามารถรับเอาหีบไม้ใบนี้เอาไว้ล่ะก็ คงมีเพียงเขาหวู่สิงซานเท่านั้น”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดขาดคำ ผู้ที่อยู่ในงานต่างมีปฏิกิริยาตอบสนอง ทุกคนทยอยกันมองไปที่ฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซาน
ทุกคนต่างมองว่า ไม่ว่าคำพูดนี้ของหลี่ชิเย่จะทำไปด้วยอารมณ์เช่นใดก็ตาม จะเอาใจฮุ้ยชิงเสียนก็ดี ต้องการเกาะเขาหวู่สิงซานก็ช่าง แต่ว่า ทุกคนสามารถมั่นใจได้ก็คือ คำพูดนี้ของหลี่ชิเย่เป็นความจริงโดยแท้
หากว่าสิ่งที่อยู่ภายในหีบวิเศษใบนี้เกี่ยวพันถึงความเป็นความตายของแดนลัทธิเซียนจริงๆ สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงขณะเกิดภัยวิบัติครั้งใหญ่ล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว เขาหวู่สิงซานนับว่ามีความเหมาะสมโดยแท้จริง และเป็นระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิที่มีสิทธิ์ครอบครองหีบวิเศษใบนี้มากที่สุด และเป็นความจริงที่นางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสียนก็เป็นผู้มีสิทธิ์มากที่สุดที่จะได้เป็นผู้ควบคุมหีบไม้ใบนี้
เวลานี้ แม้แต่ไท่อิ๋นสี่ก็โค้งคำนับ และกล่าวว่า “คุณชายหลี่กล่าวได้ถูกต้อง หีบไม้ใบนี้ให้เขาหวู่สิงซานเก็บรักษาไว้เหมาะสมที่สุด”
หลี่ชิเย่ไม่ได้เปิดหีบวิเศษออกมา ไท่อิ๋นสี่ก็ไม่ได้ไปดูว่าภายในหีบวิเศษบรรจุสิ่งใดกันแน่ แต่ว่า ในขณะนี้ไท่อิ๋นสี่ยินดียกหีบวิเศษใบนี้ให้กับเขาหวู่สิงซาน
สิ่งนี้นอกจากตัวไท่อิ๋นสี่เองก็คือศิษย์นอกสำนักของเขาหวู่สิงซานแล้ว เป็นความจริงที่ตัวเขาไม่ได้มีความเห็นแก่ตัวในเรื่องนี้สักเท่าไร เขาต้องการทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดจริงๆ
จะอย่างไรเสียเขาเป็นผู้เฝ้ารักษาอยู่ที่ชายแดนของแดนลัทธิเซียน เมื่อใดที่มีภัยพิบัติใหญ่มาถึง ด่านเทียนสงกวาน กองทัพเทียนเชี่ยนก็คือผู้ที่จะประสบภัยพิบัติเป็นคนแรก ดังนั้น เป็นความจริงที่เขาคาดหวังให้แดนลัทธิเซียนสามารถแบกรับกับภัยพิบัติเช่นนี้เอาไว้
ถ้าหากมีภัยพิบัติใหญ่มาถึงจริงๆ ในวันหนึ่งข้างหน้า ในทัศนะของไท่อิ๋นสี่มองว่า ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเขาหวู่สิงซานในการเป็นผู้นำใต้หล้า ดังนั้น ไท่อิ๋นสี่ก็ยินดีมอบหีบวิเศษใบนี้ให้กับนางฟ้าแห่งเขาหวู่สิงซานฮุ่ยชิงเสียน
แน่นอน ทุกคนล้วนไม่มีความเห็นที่ไท่อิ๋นสี่พูดเช่นนี้ และทุกคนก็รู้สึกว่าฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซานมีสิทธิ์มากที่สุดจริงๆ และเป็นผู้ที่เหมาะสมในการครอบครองหีบวิเศษใบนี้ที่สุด
อีกอย่าง หีบวิเศษใบนี้ไท่อิ๋นสี่เป็นผู้ได้มา ในระดับหนึ่งแล้ว หีบวิเศษใบนี้ก็คือของๆ ไท่อิ๋นสี่เอง เขาจะครอบครองเอาไว้แต่ผู้เดียวก็ได้ หรือจะนำออกมาแบ่งปันให้กับผู้คนใต้หล้าก็ได้ เวลานี้เขายกหีบวิเศษใบนี้ให้กับฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซาน ผู้ที่อยู่ในงานไม่มีผุ้หนึ่งผู้ใดมีความเห็น และไม่มีใครกล้าก้าวออกมากล่าวตำหนิไท่อิ๋นสี่
ฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซานยังคงมีท่าทีไม่สะทกสะท้าน และงดงามภายใต้สายตาของผู้คนทั่วหล้าที่ให้ความสนใจ นางกล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “ขอบคุณใต้เท้าที่ให้เกียรติและรักใคร่ ขอบคุณผู้คนใต้หล้าที่ให้ความสำคัญในเขาหวู่สิงซาน ชิงเสียนคิดว่าหีบวิเศษใบนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง บางทีอาจได้ใช้มันในอนาคต ใต้เท้าอิ๋นเฝ้ารักษาด่านเทียนสงกวาน เกี่ยวพันถึงความปลอดภัยของแดนลัทธิเซียน อยู่ในจุดที่เป็นแนวหน้าของสมรภูมิสู้รบ…”
“…ถ้าหากจะมีของวิเศษใดสามารถปกป้องคุ้มครองแดนลัทธิเซียน ต่อต้านภัยพิบัติล่ะก็ เช่นนั้นแล้ว ของลักษณะเช่นนี้เหมาะที่จะอยู่ที่ด่านเทียนสงกวานมากกว่า และยิ่งสมควรอยู่ในความคาอบครองของกองทัพเทียนเชี่ยน มีเพียงต้องการอาศัยมัน จึงจะเป็นการนำมันไปใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างแท้จริง”
คำพูดของฮุ่ยชิงเสียนพูดได้เหมาะสมยิ่งนัก และรอบคอบยิ่ง นางช่างงดงามอะไรอย่างนั้น ช่างสงบนิ่งอะไรอย่างนั้น ทำให้ผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
สมควรทราบว่า ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ในหีบวิเศษจะเป็นของวิเศษเช่นใดก็ตาม ในเมื่อมันสามารถบินมาจากทะเลปุ๊ตู้ไห่ได้ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่ามันมีคุณค่าที่สะเทือนเลื่อนลั่นอย่างยิ่ง
เปลี่ยนเป็นคนอื่น หากตนเองมีโอกาสที่จะได้ครอบครองของวิเศษเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างใดเล่า แน่นอนย่อมคว้าเอามาครองในทันที สำหรับโอกาสดีๆ เช่นนี้ เกรงว่าไม่รู้ผู้คนจำนวนเท่าไรที่แย่งกันเพื่อครอบครอง แต่ ฮุ่ยชิงเสียนกลับปฏิเสธแล้ว
แต่ก็ส่งผลให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในงานชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง ถึงความใจกว้างของฮุ่ยชิงเสียน ไม่หวั่นไหวต่อของวิเศษ นับว่ายอดเยี่ยมโดยแท้จริง
แน่นอน หลี่ชิเย่เพียงยิ้มๆ เท่านั้นเอง การปฏิเสธของฮุ่ยชิงเสียนมีเหตุผลอยู่แล้ว ของวิเศษอยู่ในมือย่อมต้องแบกรับภาระหนักอึ้งของใต้หล้า ซึ่งกล่าวสำหรับระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิใดๆ ก็ตาม ล้วนไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายดาย
“ในเมื่อนางฟ้าพูดเช่นนี้ เช่นนั้นแล้วกองทัพเทียนเชี่ยนได้แต่เก็บรักษาเอาไว้แทน” ไท่อิ๋นสี่ทำท่าไตร่ตรองนิดหนึ่ง สุดท้ายพยักหน้าโดยไม่ได้แสดงดัดจริต รับมอบหีบวิเศษใบนี้จากมือของหลี่ชิเย่
สิ่งนี้หาใช่ว่าไท่อิ๋นสี่จะต้องได้ครอบครองหีบวิเศษใบนี้ให้ได้ เนื่องจากที่ฮุ่ยชิงเสียนพูดมาก็มีเหตุผล หากของที่อยู่ภายในหีบวิเศษใบนี้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงขณะเกิดภัยพิบัติขึ้น เช่นนั้นแล้ว เป็นความจริงที่มันเหมาะสมที่จะอยู่ที่ด่านเทียนสงกวานมากที่สุด อยู่กับกองทัพเทียนเชี่ยน จะอย่างไรเสีย กล่าวสำหรับแดนลัทธิเซียนแล้ว หากเทียนเชี่ยนถูกตีแตก ย่อมบ่งบอกว่าทั่วทั้งแดนลัทธิเซียนก็จะต้องถูกภัยพิบัติกลืนไปสิ้น
สุดท้าย กองทัพเทียนเชี่ยนเป็นผู้ควบคุมดูแลหีบวิเศษใบนี้ โดยที่บรรดาแขกผู้มีเกียรติในงานทั้งหมดต่างไม่มีความเห็น ต่อให้มีก็ไม่สะดวกที่จะพูดออกมา
จะอย่างไรเสียหินก้อนนี้ไท่อิ๋นสี่เป็นผู้ที่ได้มันมาแต่เดิมอยู่แล้ว เวลานี้ให้เขาเป็นผู้ควบคุมดูแลจึงไม่มีปัญหาโดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดเวลาที่ผ่านมา เทียนเชี่ยนคือด่านชัยภูมิสำคัญของแดนลัทธิเซียน ตลอดมา มันจึงต้องการหีบวิเศษใบนี้มากกว่าคนใดคนหนึ่ง มากกว่าระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิๆ ใดลัทธิหนึ่ง
“ขอบคุณทุกๆ ท่านที่เดินทางไกลนับล้านล้านลี้ ความสุขของแดนลัทธิเซียนทุกคนล้วนเป็นผู้ร่วมมือกันสร้างมัน…” ไท่อิ๋นสี่ได้กล่าวขอบคุณแขกผู้มีเกียรติแต่ละคนที่อยู่ในงาน และบรรดาแขกผู้มีเกียรติต่างแสดงคารวะตอบ!
เวลานี้หินก้อนนี้ได้ถูกเปิดออกแล้ว งานเลี้ยนผู้กล้าที่ยิ่งใหญ่ก็สิ้นสุดลงแล้ว เมื่องานเลี้ยงยิ่งใหญ่ปิดฉากลง แขกผู้มีเกียรติที่อยู่ในงานต่างทยอยกันกล่าวคำอำลาและจากไป มีผู้ที่ยังคงรั้งอยู่ในด่านเทียนสงกวาน และมีผู้ที่เดินทางกลับไปยังระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิของตน…
ครั้นเหล่าแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากต่างทยอยกันไปจากแล้ว สุดท้ายเหลือเพียงพวกของหลี่ชิเย่ และยังมีฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซานก็ยังไม่ได้จากไป
“ขอบคุณคุณชายที่ให้ความช่วยเหลือด้วยคุณธรรม เปิดหินก้อนนี้ออกมา” หลังจากที่บรรดาแขกผู้มีเกียรติได้จากกันไปหมดแล้ว ไท่อิ๋นสี่ได้แสดงคารวะเต็มที่ต่อหลี่ชิเย่อีกครั้ง ด้วยท่าทางที่เคารพนอบน้อม
“ไม่ต้องขอบคุณข้า ข้าเองก็ไม่ใช่คนที่มีคุณธรรมอะไร” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย และกล่าวว่า “ไม่มีของฟรีในโลก” ข้าได้เปิดมันออกมาแล้ว สมควรแก่เวลาที่เจ้าจะรักษาสัญญาได้แล้ว”
คำพูดที่ซื่อๆ ทำให้ไท่อิ๋นสี่หัวเราะแห้งๆ แต่ว่า เขายังคงแสดงคารวะด้วยท่าทางที่เคารพนอบน้อม และกล่าวว่า “คุณชายต้องการสิ่งใด พูดมาได้เลย”
กล่าวสำหรับฐานะเช่นไท่อิ๋นสี่แล้ว การที่เขาแสดงความเคารพนอบน้อม ด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตนเช่นนี้นับว่าไม่ง่ายเลย และมองออกได้ว่าเขามีความจริงใจอย่างยิ่ง
“ของที่ข้าต้องการนั้นง่ายมาก คือตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์ที่อยู่ในมือเจ้าอันนั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉย
“คุณชายต้องการตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์ของกองทัพเทียนเชี่ยน” สีหน้าของไท่อิ๋นสี่เปลี่ยนไปมากในทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของหลี่ชิเย่ ก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยจิตใต้สำนึก
“ถูกต้อง คือตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนั้น” หลี่ชิเย่ยิ้มเรียบเฉยและเอ่ยขึ้น
เรื่องนี้…มาคราวนี้พลันทำให้ไท่อิ๋นสี่รู้สึกลำบากใจ เขาถึงกับถูมือไปมา เวลานี้ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
“ทำไม ไม่ยินยอมรึ? ” หลี่ชิเย่ยิ้มบางๆ
ไท่อิ๋นสี่หัวเราะแห้งๆ และกล่าวว่า “ไม่ขอปิดบังคุณชาย เรื่องนี้หาใช่เป็นเรื่องที่ข้ายินยอมหรือไม่ยินยอม ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้มีความสำคัญยิ่ง เข้าใจว่าคุณชายก็คงทราบดี มันไม่เพียงเกี่ยวพันถึงกองทัพเทียนเชี่ยนทั้งหมด ยังเกี่ยวพันถึงเทียนเชี่ยนทั้งหมด มันก็คือกุญแจของเทียนเชี่ยน”
ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์ที่อยู่ในมือของไท่อิ๋นสี่ไม่เพียงเป็นตราอาญาสิทธิ์ที่ใช้บัญชาการทหารเท่านั้น ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้ไม่ได้ง่ายดายเพียงแค่สามารถโยกย้ายกำลังทหารของกองทัพเทียนเชี่ยนเท่านั้น
ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคสมัยดึกดำบรรพ์มา ตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้คือกุญแจของกองทัพเทียนเชี่ยน หากคิดจะเปิดแนวป้องกันของเทียนเชี่ยน ควบคุมกำลังของเทียนเชี่ยนทั้งหมด ต้องมีตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้จึงจะทำได้
ดังนั้น แม้ได้ครอบครองกองทัพเทียนเชี่ยนทั้งหมด แต่ว่า หากไม่มีตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์นี้ล่ะก็ คิดจะทำการควบคุมเทียนเชี่ยนทั้งหมดอย่างแท้จริงล่ะก็ จะไม่สอดคล้องต้องกัน
ดังนั้น การที่เวลานี้หลี่ชิเย่ต้องการตราอาญาสิทธิ์ทางทหารรูปพยัคฆ์อันนี้ ย่อมทำให้ไท่อิ๋นสี่ลำบากใจ เพราะนี่ไม่เพียงสามารถสั่งการเคลื่อนย้ายกำลังทหารของกองทัพเทียนเชี่ยนเท่านั้น มันคือการมอบเทียนเชี่ยนทั้งหมดให้กับหลี่ชิเย่
“เรื่องนี้ข้ารู้” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบเฉยว่า “ข้าไม่ได้ต้องการกองทัพเทียนเชี่ยนของเจ้า และไม่ได้ต้องการจะชิงเทียนเชี่ยน แค่ต้องการยืมใช้ทีหนึ่งเท่านั้น ใช้เสร็จก็คืนให้เจ้า”
เรื่องนี้…ไท่อิ๋นสี่ถึงกับลังแลนิดหนึ่ง จะอย่างไรเสียเรื่องนี้เกี่ยวพันกับเทียนเชี่ยนทั้งหมด กระทั่งเกี่ยวพันถึงแดนลัทธิเซียนทั้งหมด ในเวลานี้เขาก็ไม่กล้าตัดสินใจง่ายดาย
“ใต้เท้าอิ๋น ท่านยังคงดูถูกคุณชายหลี่เกินไ” ขณะที่ไท่อิ๋นสี่กำลังลังเลอยู่นั้น ฮุ่ยชิงเสียนแห่งเขาหวู่สิงซานได้ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นของที่คุณชายหลี่ต้องการจริงๆ ไม่ว่าท่านจะยินยอมหรือไม่ เกรงว่าคงปล่อยให้ตามใจท่านไม่ได้ การที่คุณชายลี่ยินดีซื้อขายแลกเปลี่ยนกับท่าน ไม่เพียงเป็นความบริสุทธิ์ใจยิ่งใหญ่ของเขาเท่านั้น ยังเป็นการบ่งบอกว่าคุณชายหลี่ไม่ได้ประสงค์ร้าย”
…………………………………………………………………………………