Emperor's Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 3011 หินประหลาดก้อนหนึ่ง
ตอนที่ 3011 หินประหลาดก้อนหนึ่ง
ฉึกเสียงหนึ่งดังขึ้น ความมืดของหลี่ชิเย่จึงเป็นผู้บงการของโลกนี้ ในพริบตาเดียวนั่นเอง ได้จัดการกัดกินปากยักษ์ก๊าซสีดำจนหมดสิ้น
ความมืดของหลี่ชิเย่พาลและรุนแรงจนปราศจากสิ่งใดเทียบเทียม ทำให้ผู้คนต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง ไม่ว่าจะเป็นการดำรงอยู่ของสิ่งใด สิ่งปราศจากผู้ต่อกรเช่นใด ล้วนดูจะมีขนาดเล็กมากเมื่ออยู่ภายใต้ความมืดของเขา ล้วนแล้วแต่ไร้ค่าคู่ความจะกล่าวถึง ไม่สามารถต้านทานก็เขาได้อยู่แล้ว!
แม้ว่าราชันแท้จริงเซิ่นซวงจะเป็นราชันแท้จริงสิบสองลัคนาแล้ว ยังคงรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง และสั่นเทาภายใต้พลังความมืดลักษณะเช่นนี้ เหมือนว่าภายใต้พลังความมืดลักษณะเช่นนี้แล้ว ไม่ว่าผู้นั้นจะดำรงอยู่ในสถานะแข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นอัจฉริยะบุคคลที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งเพียงใด ไม่ว่าจะมีความปราศจากผู้ต่อกรเช่นใดก็ตาม พร้อมที่จะตกอยู่ในกำมือของศัตรูได้ทุกเมื่อก็เป็นได้
“นี่มัน” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับเสียวสันหลังวาบ ขนลุกไปทั้งตัว และรู้สึกเสียวสันหลังยิ่ง เหงื่อเย็นออกมาจากฝ่ามือ
นางเองก็นึกไม่ถึงว่าหลี่ชิเย่จะมีพลังความมืดที่น่ากลัว และน่าสยองขวัญเช่นนี้อยู่ในครอบครอง
“หนึ่งความนึกคิดเป็นมาร หนึ่งความนึกคิดเป็นพระ” กระบือดำขนาดใหญ่เหลือบมองราชันแท้จริงเซิ่นซวงทีหนึ่ง และเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ความสว่างก็ดี ความมืดก็ช่าง มันก็เป็นเพียงหนึ่งความนึกคิดที่อยู่ในใจของเขาเท่านั้น นังหนู เทียบชั้นกับเขาล่ะก็ เรียกว่าระดับพลังนั้นห่างไกลกันมากเหลือเกิน”
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของกระบือดำขนาดใหญ่พลันทำให้ภายในใจขจองราชันแท้จริงเซิ่นซวงต้องหวั่นไหว ถึงกับนิ่งเงียบขึ้นมา
นางที่มีแสงสว่างพิสุทธิ์ สามารถขับไล่ความมืด สามารถทำให้สิ่งสกปรกบริสุทธิ์ได้ แต่ว่า จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนี้ของนางเป็นสิ่งที่นางฝึกฝนและสั่งสมมาเป็นเวลาช้านาน
อย่างไรก็ตาม กล่าวสำหรับหลี่ชิเย่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างที่แข็งแกร่งดุดันปราศจากสิ่งเทียบเทียม หรือความมืดที่น่ากลัวดั่งคลื่นยักษ์ มันเป็นเพียงหนึ่งความนึกคิดของเขาเท่านั้นเอง
เหมือนดั่งที่กระบือดำขนาดใหญ่พูดเอาไว้อย่างนั้น ระดับพลังระหว่างพวกเขานั้นห่างไกลกันมากเหลือเกิน
ในเวลานี้ ราชันแท้จริงเซิ่นซวงจึงตระหนักได้อย่างแท้จริงว่า กำลังความสามารถ และระดับพลังของหลี่ชิเย่ที่มีอยู่นั้น นางห่างชั้นและเอื้อมไปไม่ถึงตลอดกาลอยู่แล้ว
แม้จะกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นางได้ตระหนักแล้วว่าหลี่ชิเย่นั้นแข็งแกร่งกว่าตน ทั้งยังแข็งแกร่งกว่ามากทีเดียว
แต่ว่า ในเวลานี้ในขณะนี้ นางได้ตระหนักอย่างชัดเจนแล้วว่า ช่วงห่างระหว่างตนกับหลี่ชิเย่นั้น เรียกได้ว่าห่างกันราวฟ้ากับดิน ช่วงห่างดังกล่าวเกรงว่าชาตินี้ทั้งชาติก็ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้อยู่แล้ว
เมื่อราชันแท้จริงเซิ่นซวงนึกถึงจุดนี้แล้ว อดที่จะหวั่นไหวในใจไม่ได้
เสียงจี๊ดดังขึ้นเสียงหนึ่ง จังหวะที่ความมืดของหลี่ชิเย่ได้จัดการกัดกินปากยักษ์ของก๊าซสีดำจนไม่เหลือหลอในพริบตาเดียวนั้น ก๊าซสีดำที่ยังคงเหลืออยู่ถูกทำให้ตกใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากร้องเสียงแหลมขึ้นมาเสียงหนึ่งแล้วก็หลบหนีไป หนีกลับไปซ่อนตัวอยู่ในรังของตนเอง
ชั่วครู่นั้น ก๊าซสีดำสายนี้ช่างแข็งแกร่งเพียงใด ช่างน่าสยองขวัญเช่นใด แม้กระทั่งราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็ไม่สามารถต้านทานได้ แต่ว่า ภายใต้พลังความมืดที่น่าสยองขวัญของหลี่ชิเย่ มันกลับจะต้องถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เก็บหางและหลบหนีไป
เมื่อก๊าซสีดำวิ่งหลบหนีกลับไปรังของตนแล้ว หลี่ชิเย่ก็ไม่ได้ติดตามโจมตี เพียงยิ้มนิดหนึ่งเท่านั้นเอง เขาได้เก็บงำพลังความมืดนั้นขึ้นมา
ตอนที่หลี่ชิเย่เก็บพลังความมืดกลับมานั้น ราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็ถอนหายใจยาวๆ ทีหนึ่ง แม้ว่าพลังความมืดของหลี่ชิเย่ไม่ได้สยบผู้คนใดๆ และไม่ได้เจาะจงผู้หนึ่งผู้ใด แต่ว่า เมื่อก๊าซสีดำที่น่าสยองขวัญปราศจากผู้ต่อกรระเบิดขึ้น ทำให้ผู้ใดก็ตามล้วนถึงกับต้องหวาดหวั่นพรั่นพรึง ต่างรู้สึกกดดันยิ่งภายในใจ รู้สึกว่าตนเองต้องตกอยู่ในความมืดตลอดกาล ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกต่อไป
“ที่ตรงนั้นมีภูเขาลูกหนึ่ง” หลังจากทุกคนหายใจด้วยความโล่งอกแล้ว เวลานี้หลิ่วเยี่ยนไป๋อดที่จะร้องขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
เมื่อก๊าซสีดำวิ่งหลบหนีไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกก๊าซสีดำครอบคลุมเอาไว้ก็ค่อยๆ เผยเค้าโครงที่ควรมี มองเห็นภูเขาลูกหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
ภูเขาลูกนี้ไม่ได้สูงใหญ่มากเป็นพิเศษ มันไม่ได้ตั้งตระหง่านจนทะลุเข้าไปบนท้องฟ้า มันเป็นเพียงภูเขาลูกหนึ่งที่ค่อนข้างสูงเท่านั้น
ด้วยภูเขาลูกนี้ที่ตั้งตระหง่านอยู่ที่ตรงนั้นแหละ มันได้ให้ความรู้สึกของการสยบหมื่นยุคอย่างนั้น บนภูเขาลูกนี้ได้มีการสลักอักขระยันต์ขนาดยักษ์ตัวแล้วตัวเล่าบนนั้น แม้ว่าอักขระยันต์ยักษ์เหล่านั้นจะไม่ได้เปล่งประกายออกมา แต่ว่า กลับให้ความรู้สึกกระเพื่อมเหมือนเป็นคลื่นเสียงที่กระจายออกไป
ดังนั้น เมื่อมองจากระยะห่างไกล อักขระยันต์ทั้งหมดที่อยู่บนภูเขาลูกนี้เหมือนมีคลื่นเสียงที่กระทบขึ้นไปบนยอดเขา
จากอักขระยันต์ที่มีการกระเพื่อมของรังสีเช่นนี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกมีเสียงดนตรีเซียนเพลงหนึ่งที่ดังขึ้น บทดนตรีลักษณะเช่นนี้แหมือนวนเวียนอยู่บนยอดเขาแห่งนี้ และดังก้องกังวานมานานนับพันล้านปีแล้ว หลังจากผ่านไปเป็นพันล้านปีมันยังคงอยู่
ยอดเขาลูกหนึ่งที่แลดูมีลักษณะของบทดนตรีดังก้องกังวานเช่นนี้ มันสยบหมื่นยุค มันสยบอยู่ตรงนั้นนับพันล้านปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเทพมารที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ตาม เมื่อใดที่ถูกสยบอยู่ภายใต้ภูเขาแห่งนี้ก็จะไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
เหมือนว่าภายใต้การสยบของภูเขาลักษณะเช่นนี้ จอมมารที่ถูกสยบเพียงแค่ดิ้นรนสักนิดหนึ่ง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ยินเสียงของดนตรีเซียนดังแคร๊งค์ แคร๊งค์ แคร๊งค์ดังขึ้น ดนตรีเซียนเสมือนดั่งกระบี่เซียนที่ฟาดฟันลงมา จะทำการกำจัดทักษะของจอมมารให้อ่อนแอลงครั้งแล้วครั้งเล่า
“นี่คือภูเขาแห่งการสยบลูกหนึ่งนะเนี่ย” หลังจากที่กระบือดำขนาดใหญ่มองเห็นภูเขาลูกนี้อย่างชัดเจนแล้วถึงกับพูดขึ้นมาว่า “เป็นผู้มีอภินิหารยิ่งใหญ่คนใดที่นำเอาบทดนตรีสูงสุดมาเขียนเอาไว้บนภูเขา เพื่อสยบสิ่งที่เป็นมาร”
“นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน ปฐมบรรพบุรุษที่เชี่ยวชาญเรื่องดนตรีคงมีอยู่ไม่มากกระมัง” ราชันแท้จริงเซิ่นซวงอดพึมพำขึ้นมาไม่ได้
“นี่หาใช่เพียงแค่เชี่ยวชาญในเรื่องของดนตรีเท่านั้น นี่คือผู้ปราศจากผู้ต่อกรในด้านดนตรีแล้ว” กระบือดำขนาดใหญ่ได้กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “นี่ไม่ใช่แค่เป็นการอาศัยบทดนตรีมาสยบเพียงเท่านี้ บทดนตรีลักษณะเช่นนี้ถูกเขียนเอาไว้บนยอดเขา เกรงว่าทุกๆ ช่วงเวลาก็จะมีดนตรีเซียนดังขึ้นมาครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นวิธีการบดขยี้ทำลายอย่างหนึ่ง เพื่อทำการบดขยี้ผู้เป็นมารที่ถูกสยบเอาไว้ จนกว่าจะหายวับไปกับตาในพริบตา”
“นับเป็นวิธีการที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งโดยแท้จริง” หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและเอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “สามารถมีฝีมือเช่นนี้ในแดนสามเซียนนับว่ามีเพียงไม่กี่คน สามารถจัดเข้าไปอยู่ในสิบยอดปฐมบรรพบุรุษ”
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับหวั่นไหวในใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน สิบยอดปฐมบรรพบุรุษเป็นผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะเป็นที่ทราบกันดีของผู้คนจำนวนมาก
ในเวลานี้ หลี่ชิเย่ได้ก้าวเข้าไปอยู่ในภูเขาลูกนี้แล้ว โดยมีพวกของกระบือดำขนาดใหญ่ตามติดอยู่ด้านหลัง
ไม่ว่าใครก็ตามล้วนสามารถรู้สึกได้ถึงพลังสยบที่กระเพื่อมหลังจากก้าวเข้าไปยังภูเขาลูกนั้นแล้ว เมื่อไรที่ถูกสยบอยู่ภายใต้ภูเขาลูกนี้แล้ว ก็จะถูกทำให้กระดูกสันหลังถูกกดทับจนหัก ทำให้ไม่สามารถหอบหายใจได้ทัน
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงที่ก้าวเดินอยู่บนยอดเขาก็รู้สึกหอบหายใจไม่ทันอยู่บ้าง แม้วว่าพลังสยบที่ภูเขาแห่งนี้ไม่ได้พุ่งเป้าต่อพวกเขา แต่ว่า พลังสยบที่ตลบอบอวล และวนเวียนอยู่ภายในภูเขาได้ทำให้พวกเขารุ้สึกหายใจไม่ออก
สิ่งนี้ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าพลังสยบที่อยู่ในภูเขาช่างน่าสยองขวัญ และมีความแข็งแกร่งเพียงใด หากราชันแท้จริงสิบสองลัคนาถูกสยบอยู่ตรงนี้ล่ะก็ เกรงว่าใช้เวลาไม่นานนักก็็ต้องถูกพลังสยบของภูเขาแห่งนี้บดขยี้ทำลาย
“จอมมารที่ถูกสยบล่ะ? ปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำเมื่อครู่เล่า?” ในขณะนี้ พวกของหลี่ชิเย่ได้มาถึงตีนเขาของภูเขาสยบลูกนี้แล้ว กระบือดำขนาดใหญ่มองดูรอบๆ ทีหนึ่งแล้ว ไม่เห็นปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำเมื่อครู่
พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงก็อดที่จะมองดูไปรอบๆ ทีหนึ่ง ตามหลักแล้วสมควรพบเห็นปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำที่ถูกสยบเอาไว้นั่นอย่างง่ายดายจึงจะถูก
จะอย่างไรเสีย ไม่ว่าจะดูจากปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำ หรือว่าดูจากศิลาจารึกบทเต้าเจี่ยเพียนขนาดยักษ์แล้ว มารที่ถูกสยบอยู่ตรงนี้ควรเป็นสิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารจึงถูก สิ่งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬารเช่นนี้มีหรือจะหาได้ไม่ง่าย?
แต่ดันเป็นว่าเมื่อพวกราชันแท้จริงเซิ่นซวงมองดูรอบหนึ่งแล้วก็ไม่เห็นมารที่ถูกสยบอยู่ตรงนี้ ยิ่งกว่านั้นยังไม่มีกลิ่นอายความมืดที่ดุร้ายน่ากลัวสายนั้นเมื่อครู่
“อยู่ที่นี่” ขณะที่พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงไม่สามารถหามารที่ถูกสยบอยู่ใต้ภูเขาแห่งนี้นั้น หลี่ชิเย่ได้แหวกกองหญ้าแห้งออกเบาๆ ท่ามกลางกองหญ้าแห้งปรากฏหินก้อนหนึ่งขึ้นมา
พวกของราชันแท้จริงเซิ่นซวงรีบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ พบว่ากว่าครึ่งของหินก้อนนี้ถูกฝังอยู่ในดิน โผล่มาให้เห็นเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้น
เอิกกกไม่ว่าจะเป็นกระบือดำขนาดใหญ่ หรือจะเป็นพวกราชันแท้จริงเซิ่นซวง ต่างตะลึงนิดหนึ่งเมื่อมองเห็นหินก้อนนี้ที่โผล่มาเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“เป็นมันจริงๆ รึ?” นัยน์ตาที่งดงามและประทับใจคู่นั้นของราชันแท้จริงเซิ่นซวงถึงกับเบิกกว้าง และไม่อยากจะเชื่อ
หินก้อนนี้มีขนาดเพียงเท่าๆ กับไข่ห่าน แม้ว่าหินก้อนนี้จะมีสีดำมันทั้งก้อน มองดูแล้วคล้ายเป็นหินหยกนิลอย่างนั้น แต่ว่า มันมีขนาดเพียงเท่านี้ทำให้ยากที่จะจินตนาการได้ว่า ด้วยหินก้อนหนึ่งเช่นนี้ก็คือร่างแปลงของก๊าซสีดำที่น่าสยองขวัญเมื่อครู่
เวลานี้ หลี่ชิเย่ได้เคาะเอาดินที่อยู่รอบๆ ออก เผยให้เห็นถึงสภาพที่อยู่ด้านใน เห็นเพียงตัวของภูเขาปรากฎหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อ โดยหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อเหมือนโซ่ศักดิ์สิทธิ์ดึกดำบรรพ์แต่ละเส้น ที่พันธนาการบนตัวของหินก้อนนี้อย่างแน่นหนา
หลักกฎเกณฑ์สัจธรรมเหล่านี้มัดได้แน่นมากในเวลานี้ มองออกได้ว่าหินก้อนนี้เคยดิ้นรนมาก่อน แต่ไม่สามารถดิ้นหลุดจากการสยบของภูเขา
“เป็นเจ้าตัวเล็กนี้จริงๆ” กระบือดำขนาดใหญ่ถึงกับพึมพำขึ้นมา มองดูหินก้อนนี้ที่ถูกพันธนาการด้วยหลักกฎเกณฑ์สัจธรรมแต่ละข้อ และกล่าวว่า “นึกไม่ถึงว่า เจ้าตัวเล็กนี้จะมีอภินิหารที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้”
“เจ้าน่ะสิคือเจ้าตัวเล็ก ตระกูลเจ้าล้วนเป็นเจ้าตัวเล็กทั้งหมด” ในเวลานี้เองปรากฏเสียงหนึ่งดังขึ้น เป็นเสียงที่มาจากหินก้อนนี้นั่นเอง
“หินพูดได้แล้ว” หลิ่วเยี่ยนไป๋รู้สึกแปลกใจยิ่งนัก เมื่อได้ยินเสียงที่ส่งมาจากหินก้อนนี้
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงเองก็ยืนยันได้ว่าหินก้อนนี้ก็คือปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำเมื่อครู่อย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อได้ยินเสียงของหินก้อนนี้ นางรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากมันคือมารซึ่งถูกสยบอยู่ใต้ภูเขาที่ต่างกันมากเหลือเกินจากที่จินตนาการเอาไว้
ราชันแท้จริงเซิ่นซวงยังคงเข้าใจว่าสิ่งที่ถูกสยบอยู่ใต้ภูเขานี้ และหรือจะกล่าวว่าร่างแท้จริงของปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำในจินตนาการ สมควรเป็นจอมมารที่มีสามเศียรหกกรขนาดใหญ่โตจึงจะถูก
นึกไม่ถึงว่า ร่างแท้จริงของปากขนาดยักษ์ก๊าซสีดำที่น่าสยองขวัญเมื่อครู่กลับจะเป็นเพียงหินก้อนเล็กๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้น มีขนาดเท่าๆ กับไข่ห่านเท่านั้นเอง
“หินก้อนลักษณะเช่นนี้ นับว่ามีความมหัศจรรย์โดยแท้” กระบือดำขนาดใหญ่หลังจากที่ได้ครุ่นคิดพิจารณาแล้ว มองไม่ทะลุว่าก้อนหินก้อนนี้มีเนื้อแท้อะไรกันแน่
กระบือดำขนาดใหญ่เรียกได้ว่ามีประสบการณ์ที่กว้างขวางแล้ว เคยพบเห็นโลหะศักดิ์สิทธิ์และแร่วิเศษจำนวนนับไม่ถ้วน แต่ว่าเนื้อของหินก้อนนี้เขายังเพิ่งจะพบเห็นเป็นครั้งแรก
“ฮึข้านี่แหละคือหินศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ไหนเลยจะเป็นที่เข้าใจของบรรดาผู้เยาว์เช่นพวกเจ้าได้” เวลานี้ก้อนหินได้กล่าวน้ำเสียงเย็นชาขึ้นด้วยลักษณะท่าทีที่อวดดีอย่างยิ่ง
………………………………………………………