Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 136
บทที่ 136
ข้าโดดเด่นเกินไป
“เขาจะต้องเข้าไปในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับให้ได้”
หลี่ฟู่เฉินจ้องมองอย่างตั้งมั่น
ระหว่างการบ่มเพาะ ทั้งความสามารถและทรัพยากรมีความสำคัญเท่ากัน
ภายในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ มีสมุนไพรระดับลึกลับอยู่นับไม่ถ้วน หนึ่งในบรรดาสมุนไพรระดับลึกลับเหล่านี้สามารถทำให้เขาก้าวหน้าได้ง่ายดายในเส้นทางของการบ่มเพาะ
ในโลกภายนอก สมุนไพรระดับลึกลับขั้นต่ำเพียงต้นเดียวมีมูลค่า 10,000 ถึง 30,000 เหรียญทอง สมุนไพรระดับลึกลับขั้นกลางเหรียญทองประมาณ 100,000 เหรียญ สมุนไพรระดับลึกลับขั้นสูงสามารถไปได้สูงสุดถึง 500,000 เหรียญทอง สมุนไพรระดับลึกลับขั้นสูงสุดมีมูลค่า 1.5 ล้านเหรียญทองและอาจไปถึง 3 ล้านเหรียญทอง
หากสมุนไพรสามารถนำไปกลั่นเป็นเม็ดยาต่อไปได้ มูลค่าของพวกมันจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสิบเท่า
อย่าได้กล่าวถึงนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิด แม้กระทั่งนักต่อสู้ขอบเขตปฐพีและสวรรค์ก็ยังต้องการสมุนไพรระดับลึกลับ ก้านสมุนไพรระดับลึกลับขั้นสูงสุดเพียงก้านเดียวอาจทำให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์สองคนเกิดความขัดแย้งกันได้
“หากมีใครขัดขวางข้าจากการเข้าสู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ ข้าจะทำลายความสัมพันธ์ที่มีก่อนหน้าทั้งหมด”
ดวงตาของหยูเหวินเทียนเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน
เขาผู้ซึ่งมีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว มีความเร็วในการบ่มเพาะที่สูงส่ง และอยู่ในระดับที่แปดของขอบเขตต้นกำเนิด
แต่เขาต้องการความรวดเร็วที่มากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ และเม็ดยาสีเหลืองทั่วไปก็ไม่สามารถเพิ่มระดับการฝึกฝนของเขาได้อีกต่อไปแล้ว แต่สมุนไพรระดับลึกลับนั้นมีความสามารถในการทำเช่นนั้นได้
“หือ เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ? น่าสนใจ!”
เฉินฟางหัวมาถึงระดับที่เก้าของขอบเขตต้นกำเนิดเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว โดยธรรมชาติแล้วเธอเองก็ปรารถนาที่จะเข้าสู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับเช่นกัน
เธอเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับการรับอันดับหนึ่งในสิบของศิษย์นิกายชั้นในมา
มีศิษย์นิกายชั้นในมากมายที่ระงับพลังบ่มเพาะของตนเองเพียงเพื่อต้องการเข้าสู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ ศิษย์โครงกระดูกระดับ 3 ดาวไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่โครงกระดูกระดับ 4 ดาวเหล่านั้นเป็นบางสิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
ตามความรู้ของเฉินฟางหัว ศิษย์โครงกระดูกระดับ 4 ดาวอย่างน้องหนึ่งโหลที่ยับยั้งพลังบ่มเพาะของตนเองเป็นเวลาหลายเดือน หรือแม้กระทั่งตลอดทั้งปีเพื่อที่จะได้ไปยังเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ พวกเขามีประสบการณ์สั่งสมมากมายในช่วงระยะเวลานี้
“ดังเช่นก่อนหน้านี้ ศิษย์สิบอันดับแรกจะถูกตัดสินจากการแข่งขัน มันจะถูกจัดขึ้นในอีก 3 วันต่อไป พวกเจ้าควรเตรียมตัวของเจ้าให้ดี และอย่าตำหนิสวรรค์หรือใครอื่น เมื่อตอนที่เจ้าแพ้” จ้าวหวูจินเสริม
“ผู้อาวุโส เหตุใดศิษย์ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เจ็ดและแปดเองก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน? ไม่ใช่ว่ามันเป็นการเสียเวลา?”
หนึ่งในศิษย์นิกายชั้นที่อยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตต้นกำเนิดตั้งคำถาม
จ้าวหวูจินหัวเราะ “แน่แท้แล้วว่าเจ้ามีความมั่นใจ เช่นนั้นทำไมเจ้าต้องใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ด้วย? แน่นอน ก่อนการแข่งขัน จะมีการทดสอบเพื่อคัดกรองผู้อื่น และมันก็จะเริ่มขึ้นหลังจากผ่านการคัดกรองนี้แล้วเท่านั้น เจ้าจะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้หรือไม่ก็เท่านั้น”
ได้ยินคำอธิบาย เหล่าศิษย์นิกายชั้นในที่ต้องการแสดงความคิดเห็น ทุกคนเงียบลงไป
“เอาหล่ะ ไปได้! สองสามวันนี้ทุกคนจนทำงานให้หนักและต่อสู้เพื่อตำแหน่งสิบอันดับแรก”
หลังจากการบรรยายถูกสรุปแล้ว จ้าวหวูจินและผู้อาวุโสชั้นในอื่นๆ ก็จากไป ทิ้งให้ศิษย์ชั้นในทั้งหมดอยู่ในสถานะที่ความตื่นเต้นพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
“พวกเจ้าคิดอย่างไร? ใครมีโอกาสเข้าสู่สิบอันดับแรก?”
“ข้าไม่แน่ใจเกี่ยวกับส่วนที่เหลือ แต่ข้ามั่นใจว่าจักรพรรดิดาบชิเซียงจะอยู่ในสิบอันดับแรก”
“นั้นแน่นอน จักรพรรดิดาบชิเซียงอย่างน้อยๆ ก็คงสามารถเข้าสู่ห้าอันดับแรกได้ สามอันดับแรก หรือแม้แต่กระทั้งลำดับที่ 1 มีเพียงชิเซียงอื่นๆ ที่ระงับพลังบ่มเพาะของตนเองเป็นเวลานานเท่านั้น ที่จะต่อกรกับเขาได้”
“ถูกแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเซี่ยวชิเซียงสามารถก้าวไปสู่ขอบเขตปฐพีได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพื่อที่จะเข้าสู่เขตแดนร้อย
พฤกษาเร้นลับ เขาบังคับตัวเองให้อยู่ในสถานะปัจจุบันของเขา”
“ไบ๋ชิเซียงเองก็เช่นกัน”
“หยูเหวินชิเซียงเองก็มีโอกาสอยู่มากเช่นกัน หลังจากทั้งหมดแล้วเขาก็มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาว”
“หลี่ฟู่เฉิน? เขาควรลืมมันไป! ชิเซียงที่อยู่ในลำดับต้นๆ นั้นไม่อาจนำเหลาเทียนจุนชิเซียงมาเทียบเท่าได้ คนใดคนหนึ่งในนั้นสามารถเอาชนะเหลาเทียนจุนชิเซียงได้อย่างง่ายดาย”
“หลี่ฟูเฉินไม่มีความหวังเลย ทำไมต้องพูดถึงเขา?”
ในลาน ทุกคนกำลังคุยกันและไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่มองไปยังบุคคลที่มีชื่อเสียงบางคน
หลี่ฟูเฉินไม่ได้ให้ความสนใจกับความคิดเห็นเหล่านั้น ความสามารถที่แท้จริงจะไม่ถูกเห็นหากไม่มีคำพูด ทุกอย่างจะชัดเจนในสามวัน
ทันทีที่เขากำลังจะจากไป ทันใดนั้นเองเขาก็หยุดชะงักลงในเส้นทางของเขา
จักรพรรดิดาบ หลิวหวูหลงขวางเส้นทางของเขา
“ดูเหมือนว่าเจ้าต้องการของที่อยู่ในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับอยู่เหมือนกัน เจ้าก้าวหน้าจากระดับที่หกไปยังระดับที่เจ็ดของขอบเขตต้นกำเนิดได้รวดเร็วจริงๆ ” หลิวหวูหวงกล่าวอย่างเย็นชา
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ตอบกลับ แต่ยืนฟังอยู่อย่างเงียบๆ
“ข้าแนะนำให้เจ้าล้มเลิกมัน! หากเจ้ากล้าขึ้นไปบนเวที ข้าจะเป็นคนไล่เจ้าออกไป” เมื่อใดกันที่เขา ผู้ซึ่งเป็นจักรพรรดิดาบ หลิวหวูหวง ถูกดูหมิ่นโดยคนบางคน เขายังคงมีความค้างคาใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
หลี่ฟูเฉินหัวเราะเบาๆ “ข้าสงสัยว่าเจ้าเคยได้ยินคำกล่าวนี้หรือไม่ ‘ปล่อยบางสัมพันธ์เพื่อรักษาบางสัมพันธ์ ก็ในเมื่อไม่ว่าเมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก’ แต่เดิมเราไม่มีความแค้นใดๆ ต่อกัน แต่เจ้าได้เลือกบางอย่างที่ผิดพลาดอย่างเช่นการมารุกรานข้า”
“ข้าเลือกผิดพลาดแล้วเช่นไร? เจ้าทำอะไรได้บ้าง?” หลิวหวูหวงตอบด้วยความรังเกียจ
“ข้าจะส่งคำพูดของเจ้ากลับไปที่เจ้าเอง หากเจ้ากล้าขึ้นไปบนเวที ข้าจะขับไล่เจ้าออก”
“นี่เป็นเรื่องตลกร้ายที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยิน สามวันต่อจากนี้ ข้าจะดูว่าเจ้าจะไล่ข้าออกจากเวทีเช่นไร”
สามวันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ และหลิวหวูหวงสามารถรอได้
“หลี่ชิตี๋ เจ้าสร้างศัตรูอย่างเช่นหลิวหวูหวงไว้ตั้งแต่เมื่อใด?” เฉินฟางหัวไม่อยากจะเชื่อโชคของหลี่ฟู่เฉิน ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ก็มักจะมีศัตรูเกิดขึ้น เขามีศัตรูอยู่ทุกหนทุกแห่ง
หลี่ฟู่เฉินตอบอย่างไม่สามารถทำอย่างไร้ได้ “ข้าอาจจะโดดเด่นเกินไป?”
พรืด!
เฉินฟางหัวไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่หัวเราะ
“เฉินชิเจี๋ย หลี่ฟู่เฉินกล่าวถูกแล้ว เขาโดดเด่นเกินไปจริงๆ แต่ถึงเป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ได้มีโครงกระดูกที่ดีนัก คนที่โดดเด่นเช่นเดียวกันจะพบว่าเขาค่อนข้างน่ารำคาญ” จ้าวหมิ๋งเยวี่ยเดินเข้ามา
“ฟังขึ้นและค่อนข้างสมเหตุสมผล” เฉินฟางหัวพยักหน้า
จ้าวหมิ๋งเยวี่ยแนะนำหลี่ฟู่เฉิน “เจ้าควรระวัง หลิวหวูหวงอาจเป็นผู้ที่มั่นใจในตนเองมากเกินไป แต่ความสามารถของเขานั้นมีมากอย่างล้นหลาม แม้แต่กระทั่งปู่ของข้าเองก็ยังกล่าวว่าเขาอาจมีโอกาสสร้างเต๋าแห่งดาบของตัวเองขึ้นมาได้”
“อย่าได้กังวลไป ข้าไม่เคยประมาทใคร และข้าก็จะไม่ประมาทใครเช่นกัน”
หลี่ฟู่เฉินภูมิใจในตัวเขาเอง ตอนนี้หลิวหวูหวงจงใจยั่วยุเขา หลี่ฟูเฉินตัดและสลัดประสบการณ์ที่ขมขื่นในความทรงจำของเขา
***
หลี่ฟูเฉินอยู่ท่ามกลางการฝึกทักษะดาบในลานบ้านของเขา
ยิ่งเขาฝึกฝนวิชาดาบดาวตกมากเท่าไหร่ หลี่ฟูเฉินยิ่งรู้สึกถึงขอบเขตที่ไร้ขีดจำกัดของดาบดาวตกมากเท่านั้น
ตามเหตุผล เมื่อวิชาดาบดาวตกอยู่ขั้นภวังค์และได้พัฒนาเป็นเจตจำนงแห่งดาบ มันก็ควรถึงขีดจำกัดแล้ว
แต่กลับกันหลี่ฟู่เฉินรู้สึกได้ด้วยตัวเจตจำนงแห่งดาบเอง จริงๆ แล้วมันกลับมีประตูอีกบานนึง
หลังจากที่หลี่ฟูเฉินก้าวเข้ามายังประตูบานนี้ เขาค่อยๆ ตระหนักได้ว่าดาบดาวตกนั้นกว้าขวางและลึกล้ำเพียงใด เขาเข้าใจถึงพลังอำนาจและความโหดร้ายของดาบดาวตกได้เช่นเดียวกัน
จากตัวเจตจำนงดาบดาวตกเอง หลี่ฟู่เฉินรู้สึกถึงความสำคัญที่อยู่เหนือกว่าวิชาดาบดาวตกได้
อุกกาบาตบนท้องฟ้าจะถูกจำกัดเพียงแค่วิชาดาบดาวตกเพียงวิชาเดียวได้อย่างไร?
ด้วยการวาดดาบของเขาออกไป มีแร่ก้อนใหญ่ถูกเจาะราวกับรังผึ้ง
“ไม่เลว การโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นสามครั้งเมื่อเปรียบเทียบกับกาใช้อออกครั้งก่น” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
การทดสอบเพื่อคัดกรองกำลังจะเริ่มขึ้น
การทดสอบเพื่อคัดกรองนั้นตรงไปตรงมาอย่างมาก ผู้ถูกทดสอบจำเป็นต้องทิ้งรอยลึกลงไปบนแร่โลหะระดับสีเหลืองชั้นสูงสุด
มันอาจฟังดูง่าย แต่มันยากกว่าที่คิดไว้มาก
เหล็กดำเป็นแร่โลหะสีเหลืองขั้นสูงสุด แร่เหล็กนี้อาจไม่แข็งแรงมากนัก ก็ในเมื่อมันมีส่วนผสมอื่นๆ มากมาย แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เก้าจะสามารถทำให้มันแตกหักได้ เพื่อที่จะทำสิ่งนั้นหนึ่งจะต้องมีทักษะดาบที่น่าหวาดกลัว ซึ่งสามารถบรรลุถึงขั้นรอบรู้ของมันได้