Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 137
บทที่ 137
เจตจำนงแห่งดาบทะยานเมฆา
เวทีนี้เต็มไปด้วยผู้คน แต่ศิษย์ชั้นในที่มาที่นี่ส่วนใหญ่เพียงแค่มาชมดู มีเพียง 20% เท่านั้นที่ผ่านการรับรองเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน
“ให้ข้าลองดู”
ศิษย์ชั้นในขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่แปดออกมาจากกลุ่มคน
เขากำดาบด้วยมือทั้งสองข้างและเล็งไปที่แร่เหล็กสีดำ
เคร้ง!
ประกายไฟพุ่งพวยออกมา แต่ทว่าทำได้เพียงแค่ทิ้งรอยสีขาวไว้ส่วนผิวนอกของแร่เหล็กแต่เพียงเท่านั้น
“ตัดสิทธิ์ คนต่อไป”
ผู้ดูแลชั้นในที่รับผิดชอบการคัดกรองประกาศ
มันเป็นสิ่งที่ยากลำบากยิ่ง สำหรับการสร้างรอยลึกกว่าหนึ่งนิ้วบนแร่เหล็กดำ ศิษย์นิกายชั้นในหลายคนอยู่ขอบเขตต้นกำเนิดขั้นสูง แต่อย่างมากสุดคนเหล่านั้นก็ทิ้งไว้ได้เพียงแค่ครึ่งนิ้ว
“ยากเกินไป! ข้าคิดว่ามีเพียงศิษย์ชั้นในไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำสิ่งนี้ได้?”
“ตัวเลขโดยประมาณของข้าคือ 200”
“200? จิ๊! ข้ามากที่สุดเพียง 100”
ท่ามกลางศิษย์ชั้นในด้วยกันเอง ไม่มีใครเลยที่ใช้แร่ในการฝึกฝนทักษะดาบของพวกเขา ยกเว้นศิษย์ชั้นในชั้นหนึ่ง
แม้แต่กระทั่งศิษย์ชั้นในชั้นหนึ่งเอง พวกเขาก็มักจะใช้แร่ส่วนใหญ่เป็นสีเหลืองขั้นสูง
ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะมีความยากลำบากเช่นนี้ สำหรับการทิ้งรอยลึกหนึ่งนิ้วลงไปบนแร่เหล็กดำสีเหลืองขั้นสูงสุด
“ให้ข้าไป”
คนที่กล่าวคือจ้าวหมิ๋งเยวี่ย
เพื่อเข้าร่วมในการทดสอบคัดกรอง จ้าวหมิ๋งเยวี่ยใช้เม็ดยาครึ่งก้าลึกลับเมื่อเดือนที่แล้วและยกระดับพลังบ่มเพาะของเธอขึ้นมาสู่ระดับที่เจ็ดของขอบเขตต้นกำเนิด
เคร้ง!
ประกายไฟพุ่งพ้นออกมา แต่ทว่ามีเพียงรอยตื้นๆ ที่เหลืออยู่บนแร่เหล็กดำ
จ้าวหมิ๋งเยวี่ยส่ายหัวของเธอแล้วก้าวลงจากเวที
ผลลัพธ์เองก็คือถูกตัดสิทธิ์
ศิษย์ชั้นในที่เข้ารับข้อกำหนดของการทดสอบคัดกรองเพิ่มขึ้นทีละคน แต่ละคนๆ ออกจากเวทีพร้อมด้วยสีหน้าที่เศร้าซึม มันดำเนินไปเช่นนี้
เพียงไม่นาน บุคคลกว่า 2000 คนก็ล้มเหลว
ก่อนหน้านี้ 10 อัจฉริยะของนิกายชั้นนอกถูกตัดสิทธิ์ทั้งหมด เหลือเพียงหยูเหวินเทียน
“มันถึงตาของหยูเหวินเทียนแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะมีคุณสมบัติหรือไม่?”
“เขาน่าจะทำได้ หลังจากทั้งหมดแล้วเขาก็มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวและการฝึกฝนของเขาเองก็ไม่ต่ำต้อยเช่นกัน เขาอยู่ในระดับที่แปดของขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว”
ในขณะที่ผู้ชมพูดคุยกัน หยูเหวินเทียนก็มาถึงหน้าแร่เหล็กดำแล้ว
ด้วยการชักดาบออกจากฝัก หยูเหวินเทียนออกแรงให้มากที่สุดเพื่อหวังแยกแร่เหล็กดำออกจากกัน
เคร้ง!
เศษชิ้นส่วนบินกระจายและสัญลักษณ์มากกว่าหนึ่งนิ้วปรากฏขึ้น
“หยูเหวินเทียน มีคุณสมบัติ”
ผู้ดูแลชั้นในที่รับผิดชอบพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ณ ตอนนี้ หยูเหวินเทียนเป็นเพียงคนเดียวที่ระดับต่ำกว่าขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เก้าและมีคุณสมบัติ มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก
“นี่คือสิ่งที่โครงกระดูกระดับ 5 ดาวทำได้? ข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับมันได้เลย” เก่าช่างเทียนถอยหายใจ
จาก 10 อัจฉริยะชั้นนอกเมื่อก่อนหน้านี้ เฉพาะหยูเหวินเทียนเท่านั้นที่ผ่านไปได้ ที่เหลือเหล่านั้นจึงไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่ดีนัก
“ฮ่าฮ่า ข้าจะยอมได้อย่าไร” ร่างนึงร่อนขึ้นไปบนเวที
“มันเป็นเซี่ยวหลี่ไบ๋ เซี่ยวชิเซียง”
“เซี่ยวชิเซียงมีคุณสมบัติอย่างแน่นอน แต่ข้าสงสัยว่าเขาจะทิ้งรอยไว้บนแร่เหล็กดำได้ลึกเพียงใด”
ชื่อเสียงของเซียวหลี่ไบ๋ไม่ด้อยไปกว่าจักรพรรดิดาบ หลิวหวูหวง มีบางคนกล่าวว่าเขาอาจเป็นศิษย์ชั้นในอันดับหนึ่งของนิกาย
แน่นอน นี้เป็นเพียงแค่ความคิดของบุคคลหนึ่ง
ความแข็งแกร่งของเซี่ยวหลี่ไบ๋สะสมมากขึ้นตามกาลเวลา โครงกระดูกระดับ 4 ดาวของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าโครงกระดูกระดับ 5 ดาวของหลิวหวูหวงหรือหยูเหวินเทียน
เคร้ง!
เซี่ยวหลี่ไบ๋เป็นบุคคลที่ควรค่าแก่ตำแหน่งศิษย์ชั้นในลำดับที่ 1 ใบมีดของเขาทิ้งรอยลึกสองนิ้วและลึกมากที่สุด
“ถึงตาข้าแล้ว”
นิ้วเท้าของเฉินฟางหัวแตะพื้น ขณะที่เธอพุ่งลอยไปบนเวทีราวกับก้อนเมฆที่ร่องลอยไปมา
“ทำลาย!”
เฉินฟางหัวฝึกฝนทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำที่แตกต่างกันถึงสองทักษะ หนึ่งในนั้นคือทักษะโจมตีแบบหมู่ วิชาดาบสะพรั้งอนันย์ อีกวิชานึงคือวิชาดาบสะพรั้งเหินหาว
วิชาดาบสะพรั้งเหินหาวที่พลังโจมตีสูง เพียงดาบเดียวก็สลักรอยลึกที่มากกว่าหนึ่งนิ้วลงไป
“เฉินฟางหัว มีคุณสมบัติ”
ได้ยินคำตัดสินจากผู้ดูแลชั้นใน เฉินฟางหัวปล่อยลมหายใจอย่างโล่งอก
“เฉินชิเจี๋ย ยินดีด้วย” เมื่อเฉินฟางหัวกลับมา หลี่ฟู่เฉินแสดงความยินดี
เฉินฟางหัวกล่าว “มันก็แค่โชคดี”
ณ ตอนนี้ มีศิษย์เพียง 30+ เท่านั้นที่มีคุณสมบัติ ตัวเลขต่ำกว่าที่คาดไว้มาก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับผลลัพธ์
“ไบ๋ชิเซียง กำลังขึ้นไป”
“ลั่วชิเซียง ก็กำลังขึ้นไปเช่นกัน”
“แข็งแกร่งมาก พวกเขาหยุดอยู่ที่ขอบเขตต้นกำเนิดได้อย่างไร?”
ไบ๋ชิเซียงและลั่วชิเซียงที่ถูกกล่าวถึงโดยผู้ชม แต่ละคนทิ้งรอยที่มีความลึกเกือบสองนิ้วไว้
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาอยู่ระดับที่เหนือกว่า
“นิกายชั้นในเสือซ่อนมังกรหมอบอยู่จำนวนมาก!” หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้ว
เขารู้สึกได้ว่าเซี่ยวหลี่ไบ๋เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ ในช่วงเวลาปกติจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เมื่อเซี่ยวหลี่ไบ๋ลงมือใช้ดาบของเขา หลี่ฟู่เฉินขึงรู้สึกถึงเจตจำนงแห่งดาบได้อย่างชัดเจน
นั่นหมายความว่าเซี่ยวหลี่ไบ๋ซ่อนความสามารถที่แท้จริงของเขาเอาไว้ได้มากที่สุด
ไบ๋และลั่วชิเซียงที่ทุกคนกล่าวถึงอาจจะไม่ได้เข้าใจเขตจำนงแห่งดาบ แต่พวกเขาก็อยู่ในขอบเขตที่ใกล้คียง
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น มันก็ไม่มีความเป็นไปได้สำหรับการที่จะทิ้งรอยไว้บนแร่เหล็กดำกว่าสองนิ้ว
หลังจากทั้งหมดแล้ว นี้ไม่ใช่สิ่งที่ง่ายดาย มันจะถูกเพิ่มความยากลำบากอย่างน้อยสองสามเท่า สำหรับการทิ้งรอยลึกไว้สองนิ้วแทนที่จะเป็นหนึ่งนิ้ว
“อ่อนแอ เหล่าคนที่อ่อนแอ่” จักรพรรดิดาบ หลิวหวูหวงเดินออกมาจากฝูงชน
“จักรพรรดิดาบหลิวหวูหวงในที่สุดก็ก้าวออกมาแล้ว”
“ดาบแดนร้าง จักรพรรดิดาบ ดาบวารีขาว และดาบห้วงขุนเขา สี่ชิเซียงเหล่านี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็น 4 ผู้เชี่ยวชาญสูงสุด”
การแสดงออกของทุกคนดูตื่นเต้น
สี่ชื่อนี้แสดงถึง :
ดาบแดนร้าง เซี่ยวหลี่ไบ๋
จักรพรรดิดาบ หลิวหวูหวง
ดาบวารีขาว ไบ๋เต๋า
ดาบห้วงขุนเขา ลั่วหยี่ซาน
ความสามารถของพวกเขาทั้งสี่อยู่ที่จุดสูงสุดของขอบเขตต้นกำเนิด ชื่อของพวกเขาค่อนข้างโด่งดังแม้กระทั่งในโลกภายนอกเองก็ตาม
พวกเขาทั้งสี่ต่างสังหารบุคคลที่อยู่ขอบเขตปฐพีมาแล้ว
“ข้าสงสัยว่าความสามารถของหลิวชิตี๋จะประสบความสำเร็จในระดับใด”
เซี่ยวหลี่ไบ๋สำรวจหลิวหวูหวงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
อยู่ห่างจากแร่เหล็กดำสามก้าว หลิวหวูหวงดึงดาบเหล็กสีดำของเขาออกมา
“ทุกคนมองสิ่งนี้ให้ดี”
หลิวหวูหวงคำรามอยู่ในใจของเขาและฟันลงอไปที่แร่เหล็กดำ
ปึก!
เสียงแตกต่างจากที่ผ่านมาเกินขึ้น เจตจำนงแห่งดาบของหลิวหวูหวงทำให้เกิดเสียงซึ่งดูเหมือนว่าจะมีจุดประสงค์เพื่อทำลายแร่
“เจตจำนงแห่งดาบ!”
ตาของเซี่ยวหลี่ไบ๋เบิกกว้าง
มันเป็นเพราะเขาเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเป็นอย่างดี เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกได้ทันที เมื่อตอนที่หลิวหวูหวงใช้เจตจำนงแห่งดาบเมื่อก่อนหน้านี้ มันเป็นเจตจำนงแห่งดาบที่มีอำนาจเหนือชั้นกว่ามาก สามารถเอาชนะอุปสรรคใดๆ ก็ตาม
เจตจำนงแห่งดาบทะยานเมฆา
วิชาดาบสบั้นเมฆานั้นคล้ายคลึงกับวิชาดาบดาวตก ซึ่งทั้งสองเดินอยู่บนปลายสุดของทักษะดาบ เจตจำนงแห่งดาบ ซึ่งมาจากวิชาดาบสบั้นเมฆานั้นเข้าสกดข่มและให้ความรู้สึกที่ว่ามันสามารถแยกสิ่งใดๆ ภายใต้สวรรค์ออกจากกันได้
“2.8 นิ้ว มีคุณสมบัติ”
ผู้ดูแลชั้นในที่รับผิดชอบการทดสอบคัดกรองก็ตกใจเช่นกัน เขาผู้ซึ่งเป็นนักสู้ขอบเขตปฐพีก็ยังไม่สามารถเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบได้ เขาไม่คาดหวังว่าศิษย์นิกายชั้นในจะเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบได้จริงๆ
ไม่น่าเชื่ออย่างแท้จริง
“ข้าได้ยินผิดไปใช่ไหม! 2.8 นิ้ว?”
“น่ากลัว ข้าต้องการถามเสียเหลือเกินว่าใครคือคู่แข่งของจักรพรรดิชิเซียงจะเป็นใคร? ข้าเกรงว่าแม้แต่กระทั้งเซี่ยวชิเซียงก็ไม่สามารถชนะได้”
รวมไปถึงเฉินฟางหัวและจ้าวหมิ๋งเยวี่ย ทุกคนสูดหายใจเข้าลึกๆ
มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการใช้เจตจำนงแห่งดาบกับไม่ใช่
ด้วยการเข้าใจในเจตจำนงแห่งดาบ ทักษะดาบที่ใช้ออกในช่วงเวลาเป็นตายพลังก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองเท่า มันจะเอาชนะคู่ต่อสู้แบะทำให้พวกนั้นไม่มีที่ว่างพอที่จะป้องกันได้
“หลี่ชิตี๋ เจ้ากระตุ้นบุคคลที่ไม่ควรยุ่งเข้าให้แล้ว!” เฉินฟางหัวพูดกับหลี่ฟูเฉิน
“ตอนนี้เป็นตาของข้าแล้ว” หลี่ฟู่เฉินยิ้มและก้าวขึ้นไปบนเวที
ถ้าเจ้าเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบแล้วอย่างไร?
มันความความแตกต่างระหว่างการเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบแบบลึกซึ้งกับไม่ลึกซึ้งอยู่เหมือนกัน