Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 140
บทที่ 140
ดาบปีศาจ
“นี่คือ… เทคนิคลับระดับ 3 ดาว?” จ้าวหวูจินลัดูไม่แน่ใจเท่าใด
เมื่อเปิดใช้เทคนิคลับมังกรเร้นลับ เพลิงพลังฉีสีแดงจำนวนมหาศาลถูกแปรสภาพเป็นพลังฉีมังกรเร้นลับ พลังฉีทั้พุ่งไปนั้นมีพลังของมังกรที่ทำให้เกิดความรู้สึกกลัวในจิตใจของผู้คน
ภายใต้อิทธิพลสภาวะพลังฉีของหลี่ฟู่เฉิน การแสดงออกของหลิวหวูหวงเปลี่ยนไปมากจนกระทั่งส่งผลต่อวิชาดาบของเขา
“เหอะ มันจะต้องเป็นเพียงแค่ผิวเผิน ความสามารถที่แท้จริงของเขาไม่ควรเกินกว่าของข้า”
เทคนิคลับบางอย่างนั้นช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสภาวะพลังฉี แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรกับความสามารถโดยรวม
“เจ้าจะพ่ายแพ้!”
ใช้เทคนิคลับให้เป็นประโยชน์มากขึ้น พลังของหลิวหวูหวงจึงเพิ่มขึ้นอีกขั้น เขาเฉือนหลี่ฟูเฉินด้วยการปรากฏตัวของสภาวะพลังฉีที่โดดเด่นและรุนแรง
“เจ้าคือคนที่จะพ่ายแพ้”
หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเหมือนตนเองเป็นลาวาขณะที่พลังฉีไหลออกมาอีกครั้ง และราวกับว่าร่างกายของเขากำลังฝังอยู่ใต้ภูเขาไฟที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว หากไม่ได้ปะทุออกมา
ใช้ดาบดาวตก ดาบของหลี่ฟู่เฉินก็เกินขอบเขตจำกัดของวิสัยทัศน์และปฏิกิริยาของผู้ชม แม้แต่กระทั่งผู้ดูแลชั้นในที่อยู่ในขอบเขตปฐพีก็ไม่สามารถมองเห็นวิถีของดาบได้ สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือดาวตกที่เปล่งประกายด้วยความสดใส เมื่อมันระเบิดออกมา มันนำมาซึ่งฉากที่สวยงามและตระกรานตา
ดาบพลังฉีเจาะทะลุร่างกาย ร่างของหลิวหวูหวงยืนนิ่งอยู่กับที่
เขาพ่ายแพ้!
เต๋าดาบปกครองของเขาพ่ายแพ้ และเขายังพ่ายแพ้คนๆ นึงที่เขาไม่ต้องการอีกด้วย
“มันผิดพลาดที่ใดกัน?” ดวงตาของหลิวหวูหวงดูไร้ชีวิตชีวา
เห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ หลี่ฟู่เฉินส่ายหัว เต๋าดาบปกครองก็เป็นเช่นนี้ เมื่อมันพ่ายแพ้ จิตวิญญาณที่อยู่ในจิตใจจะเกิดรอยร้าวและเจตจำนงแห่งดาบก็จะอ่อนแอลงด้วยเช่นกัน
“เต๋าดาบปกครองของเจ้าแข็งกร้าวมากเกินไป เจ้จะพ่ายแพ้ในไม่ช้าก็เร็ว” หลี่ฟู่เฉินกล่าวเบาๆ
ผู้ดูแลชั้นในสองคนช่วยหลิวหวูหวงออกจากเวที และเวทีทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“แม้แต่กระทั่งจักรพรรดิดาบชิเซียงก็ยังพ่ายแพ้ ข้ากำลังฝันไป?”
“ทุกอย่างมันช่างยอดเยี่ยมเกินไป มีอะไรที่น่าทึ่งมากกว่านี้ไหม? คำวิจารณ์ที่รุนแรงของเราเมื่อก่อนเป็นเหมือนการตบหน้าตัวเราตอนนี้ ประเด็นสำคัญคือเราไม่สมควรที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ”
“ทุกคนจะสามารถทำนายความสามารถของปีศาจจากโครงกระดูกปกติได้อย่างไร ข้าสงสัยว่ากระดูกของเขาเป็นโครงกระดูกกลายพันธุ์หรือไม่ นั้นอาจเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถตรวจจับได้ในระหว่างการทดสอบโครงกระดูก”
“ดาบปีศาจหลี่ฟู่เฉิน สมยานามนี่จะเป็นชื่อเรียกของเขา”
“ดาบปีศาจ ดาบปีศาจ ข้าสงสัยว่าดาบปีศาจผู้นี้จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อะไรได้ในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับกันแน่ ซึ่งนั้นก็จะเกิดขึ้นในอีกสามเดือนต่อไป เขาจะสามารถฆ่าศิษย์ของนิกายอื่นทั้งหมดและนำเกียรติมาสู่นิกายวารีครามของเราได้หรือไม่?”
ในขณะนี้ ทุกคนมั่นใจในชื่อดาบปีศาจของหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินแสดงความสามารถอันน่าทึ่งของเขาเพื่อพิสูจน์ตัวเอง คงไม่มีใครกล้าวิจารณ์เขาอีกในอนาคต
เพราะชื่อดาบปีศาจนี้ไม่ใช่ชื่อที่สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ง่ายดายอีกต่อไป
***
“อาวุโสใหญ่ หลี่ฟู่เฉินผู้นี้ได้รับเทคนิคลับระดับ 3 ดาวจากที่ไหนกัน เราจะถามเขาหรือเปล่า?” หนึ่งในผู้อาวุโสชั้นในถามจ้าวหวูจิน
จ้าวหวูจินชำเลืองมองไปในทันที “ทุกคนมีโอกาสเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง ถึงเขาจะได้เทคนิคลับระดับ 5 ดาวมาแล้วอย่างไร?”
“เทคนิคลับระดับ 3 ดาวนั้นหาได้ยากแม้แต่กระทั่งในนิกายวารีครามของเรา มันจะไม่เป็นการเสียของหรือถ้าอยู่ในมือของศิษย์นิกายชั้นใน?”
“ข้าจะหาเวลาคุยกับเขา เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนี้”
จ้าวหวูจินทราบดีว่าหลายคนกำลังจ้องมองตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ของเขา ตอนนี้หลี่ฟู่เฉินเป็นหนึ่งในศิษย์ที่ได้รับการพิจารณาไว้สูงโดยเขา ทุกคนจึงเห็นว่าหลี่ฟู่เฉินเป็นสิ่งที่ดูขัดหูขัดตานัยน์ตา
แต่แล้วอีกครั้ง หลี่ฟูเฉินโดดเด่นเกินไปจริงๆ มากจนกระทั่งคล้ายกับไม่เป็นความจริง
เขายังถือว่าเป็นโครงกระดูกปกติอยู่หรือไม่?
บางที อนาคตของเขาอาจไม่ใช่สิ่งที่ใครสามารถทำนายได้
***
ด้วยหลี่ฟู่เฉินที่เป็นเจ้าของเวทีที่ 1 ในตอนนี้ ความคิดของทุกคนจึงกลายเป็นว่าเวทีที่ 1 เป็นเขตแดนที่ไม่อาจก้าวผ่านไปได้ อย่าแม้แต่จะกล่าวว่าท้าทาย พวกเขาไม่มีแม้แต่เจตนาในการต่อสู้
“แน่นอนว่าดาบปีศาจเป็นชื่อที่เหมาะสมสำหรับเขา” จ้าวหมิ๋งเยวี่ยกล่าว
เฉินฟางหัวหัวเราะ “ไม่ดีหรือไร? ความสามารถของปีศาจดังกล่าวมาจากโครงกระดูกปกติของเขา เขาทำให้คนที่เหลืออย่างพวกเรากลายเป็นอะไร?”
ทั้งสิบเวที เวทีที่ 1 นั้นไร้กำลังที่จะต่อกร แต่ก็ยังมีเวทีอื่นที่จะให้ท้าทายอยู่
สามครั้ง แต่ละครั้งมีค่ายิ่ง นี่คือเหตุผลที่ทุกคนเลือกสรรคู่ต่อสู้อย่างพิถีพิถันและจะต้องไม่พยายามอย่างไร้ประโยชน์
ความสามารถพื้นฐานของหยูเหวินเทียนได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะ เนื่องจากโครงกระดูกของเขา เขาผู้ที่คล้ายกับหลิวหวูหวง ฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 2 ดาวเช่นกัน ด้วยการเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 2 ดาว ความสามารถของเขาจะถูกยกขึ้นอยู่ในระดับสูงสุดได้เป็นช่วงเวลาหนึ่ง
รากฐานของเฉินฟางหัวนั้นเหนือกว่าหยูเหวินเทียนเล็กน้อย เธอพยายามอยู่สองครั้งและประสบความสำเร็จหนึ่งครั้ง และก็พ่ายแพ้อย่างรวดเร็วไปอีกหนึ่ง ตอนนี้เธอถูกทิ้งให้อยู่กับโอกาสสุดท้ายของเธอ
สำหรับหลิวหวูหวง ผู้อาวุโสชั้นในช่วยให้เขาฟื้นตัว
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หลิวหวูหวงก็เป็นศิษย์ชั้นในซึ่งเป็นรองจากหลี่ฟู่เฉินเพียงเท่านั้น พวกเขาไม่สามารถริบโอกาสของเขาในการเข้าสู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับเนื่องจากการบาดเจ็บได้
พักฟื้นไปได้เพียงครึ่งทาง ตาของหลิวหวูหวงเปิดออก ร่องรอยพลังฉีปกครองก็ค่อยๆ กลับมารวมตัวกัน
“ผู้อาวุโส นั่นก็เพียงพอแล้ว”
“เจ้าเพิ่งฟื้นสภาพกลับมาได้เพียง 30% อย่าฝืนตัวเองจะดีกว่า”
“30% นั้นก็มากเกินพอแล้ว”
หลิวหวูหวงยืนขึ้นและเดินกลับยังเวทีหนึ่งในนั้น
“เจ้าจะก้าวลงหรือจะให้ข้าส่งเจ้าลงเอง?” หลิวหวูหวงเดินไปที่เวทีและประกาศ
เจ้าของบนเวทีคือไบ๋เต๋า “เจ้าได้รับบาดเจ็บและอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า มันอาจเป็นไปได้ที่ข้าจะชนะเจ้าโดยที่ไม่ต้องออกแรงใดๆ”
“เจ้าสามารถลองดูได้” หลิวหวูหวงเริ่มเคลื่อนไหว
เพียงแค่สิบกระบวนท่า ไบ๋เต๋าก็พ่ายแพ้
“สมยานามจักรพรรดิดาบชิเซียงไม่ได้มีไว้เพื่อแสดงเท่านั้น เขายอดเยี่ยมกว่าไบ๋เต๋าชิเซียงมาก แม้แต่กระทั่งในช่วงเวลาที่บาดเจ็บเช่นนี้ก็ยังแข็งแกร่งกว่า”
“น่าเสียดายที่มีดาบปีศาจหลี่ฟู่เฉินจัดการเขาไป หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาอาจเป็นศิษย์นิกายชั้นในที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ได้อย่างแน่นอน”
ทุกคนพูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ
หลังจากที่ไบ๋เต๋าลงไปแล้ว หลิวหวูหวงจ้องไปที่หลี่ฟู่เฉิน “หากเจ้าคิดว่าเจ้าสามารถทำลายอนุภาพจิตของข้าได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นเจ้าคิดผิดแล้ว! นอกเจ้าเต๋าดาบปกครองจะเป็นเต๋าของข้าแล้ว เต๋านี้ก็จะไม่มีวันตกตายไปเช่นกัน ไม่มีใครสามารถหยุดเต๋าแห่งดาบของข้าได้ ไม่แม้แต่เจ้า”
“กำลังพยายามไล่ตามข้าอยู่? ข้าเกรงว่าเจ้าไม่แม้แต่จะกินฝุ่นของข้าได้” หลี่ฟู่เฉินกล่าวแจกแจงชัดเจน
“เจ้า…!” ใบหน้าของหลิวหวูหวงสั่น
กล้ามากเสียจริง
เหตุใดการสกดข่มของดาบปีศาจหลี่ฟู่เฉินถึงยิ่งใหญ่กว่าการสกดของหลิวหวูหวง
นี่คือสิ่งที่ทุกคนกำลังคิด
มีคนแสดงความคิดเห็น “การปกครองของหลิวหวูหวงเป็นลักษณะที่ตั้งมั่นและมีลักษณะเด่นชัดเพียงแค่ภายนอกเท่านั้น ในขณะที่การปกครองของหลี่ฟู่เฉินเป็นประเภทที่อ่อนน้อมถ่อมตนและเกิดจากข้างใน”
“เด็กคนนี้แน่นอนว่าน่าสนใจ” จ้าวหวูจินหัวเราะ
ในที่สุดสิบอันดับของศิษย์นิกายชั้นในได้รับการพิจารณาแล้ว
เฉินฟางหัวโชคดีพอที่จะประสบความสำเร็จในความพยายามครั้งที่สามของเธอและจากนั้นก็อยู่รอดชีวิตได้จนจบ หนึ่งในเหตุผลสำคัญคือพวกเขาส่วนใหญ่ใช้เวลาทั้งหมดไปสามครั้ง
ดังนั้นอันดับหนึ่งในสิบของศิษย์นิกายชั้นในจึงเป็นเช่นนี้ : หลี่ฟูเฉิน หลิวหวูหวง เซี่ยวหลี่ไบ๋ ลั่วหยี่ซาน ไบ๋เต๋า โจวกวง หยูเหวินเทียน เฉินฟางหัว และศิษย์โครงกระดูก 4 ดาวอีกสองคนซึ่งอยู่ในจุดสูงสุดของขอบเขตต้นกำเนิด
รวมแล้วชายแปดและหญิงสองคน
จ้าวหวูจินยืนขึ้นแล้วสบัดแขนของเขา แผ่นจารึกพิเศษสิบชิ้นอยู่ในมือของเขา “นี่เป็นตราไถ่ถอนเทคนิคลับระดับ 2 ดาวที่สามารถใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น ภายในสามเดือนนี้ นอกเหนือจากการทำงานให้หนักกับการฝึกฝนของเจ้า มันก็เป็นการดีที่สุดที่จะฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 2 ดาวด้วยเช่นกัน ภายในเขตแดนรเอยพฤกษาเร้นลับ ศัตรูของคุณจะเป็นอัจฉริยะจากนิกายอื่น หากเจ้าประมาท เจ้าอาจจะตายภายใต้เงื้อมมือของพวกเขา หากใครต้องการยอมแพ้ในตอนนี้ เจ้าก็ยังมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้น ข้าสามารถหาสิ่งทดแทนใหม่ให้ได้อย่างง่ายดาย”
หลังจากได้ยินคำกล่าว ไม่มีใครที่อยากจะถอยออกไป
เรื่องตลกอะไร การเผชิญหน้ากับโอกาสมักจะอยู่ด้วยกันกับการสี่ยงตาย อันตรายเล็กๆ น้อยๆ สามารถนับได้ว่าเป็นอันตราย?
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้ามากับข้าซักพัก”
เมื่อการแข่งขันผู้รอดชีวิตสิ้นสุดลง จ้าวหวูจินส่งข้อความลับไปยังหลี่ฟู่เฉิน