Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 141
บทที่ 141
การเลือกเทคนิคลับ
“เทคนิคลับที่เจ้าใช้ มันคือเทคนิคลับระดับ 3 ดาว?”
จ้าวหวูจินกล่าวถามขึ้นในพื้นที่ที่เงียบสงบ
หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า “ใช่”
จ้าวหวูจินไม่ได้ถามว่าได้เทคนิคลับจากไหน แต่เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ตอนนี้เจ้ามีสองทางเลือก หนึ่ง ปฏิเสธที่จะส่งมอบเทคนิคลับ สอง มอบเทคนิคลับและรับคะแนนสนับสนุนจำนวนมาก เจ้าจะเลือกอันไหน?”
“ตัวเลือกที่สอง” หลี่ฟู่เฉินไร้ความลังเล
ตระกูลเจิ้งต้องการพระพุทธรูปหยกเพื่อฝึกฝนเทคนิคลับมังกรเร้นลับ หลี่ฟูเฉินผู้ซึ่งเชี่ยวชาญเทคนิคลับมังกรเร้นลับสามารถเขียนวิธีการบ่มเพาะได้โดยตรง และสามารถอนุญาตให้ผู้อื่นฝึกฝนได้
“ฉลาดเลือก” จ้าวหวูจินมองอย่างชื่นชม จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “จำนวนคะแนนสำหรับการเสนอเทคนิคลับ และการแลกเทคนิคลับนั้นแตกต่างกัน เพื่อแลกใช้เทคนิคลับระดับ 1 ดาวคือ 5,000 คะแนน เทคนิคลับระดับ 2 ดาวคือ 50,000 คะแนน และเทคนิคลับระดับ 3 ดาวคือ 500,000 คะแนน แต่การนำเสนอเทคนิคลับคะแนนจะเพิ่มเป็นสองเท่า ซึ่งนั้นหมายความว่าถ้าเจ้ามีส่วนร่วมในการมอบเทคนิคลับมังกรเร้นลับ เจ้าก็จะได้รับคะแนนสะสม 1 ล้านคะแนน”
“หือ 1 ล้านคะแนนสะสม?” หลี่ฟู่เฉินเลิกคิ้วขึ้น
1 ล้านคะแนนเกินความคาดหมายทั้งหมดของเขา แท้จริงแล้ว เขากำลังหยิบฉวยผลประโยชน์จากตระกูลเจิ้ง
ในนิกายวารีคราม ยิ่งระดับการบ่มเพาะของท่านสูงขึ้น ความต้องการต่อคะแนนสะสมก็จะมากขึ้นเท่านั้น
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับของเขาถึงระดับสูงสุด เขาจะต้องแลกเทคนิคบ่มเพาะที่สูงขึ้น
ในนิกายวารีคราม เทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงประมาณ 200,000 คะแนนสะสม ขณะที่เทคนิคระดับลึกลับขั้นสูงสุดอย่างน้อยๆ ก็ 1 ล้านคะแนนสะสม ถ้ามันเป็นหนึ่งในสองเทคนิคที่มีอยู่อย่างจำกัด อย่างเช่นเทคนิควารีครามแท้จริง หรือเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง อย่างน้อยจะต้องมี 1.5 ล้านคะแนนขึ้นไป
(TL หมายเหตุ: เทคนิคคังหลุนสัตย์จริง = เทคนิควารีครามแท้จริง เทคนิคเพลิงโลกันต์สัตย์จริง = เพลิงโลกันต์แท้จริง)
นอกจากนั้น มันก็ยังต้องใช้คะแนนสะสมจำนวนมากเพื่อแลกเทคนิคต่อสู้เช่นกัน
ในขั้นปัจจุบันของเขา ทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำไม่สามารถพัฒนารากฐานเต๋าแห่งดาบของเขาได้อีกต่อไป 100 ทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำที่แตกต่างกัน ได้ครอบคลุมวิชาดาบขั้นต่ำทั้งหมดไว้แล้ว
เขาวางแผนที่จะแลกทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางจำนวนมากมา เพื่อสร้างรากฐานดาบแห่งเต๋าของเขา หลังจากนั้น มันก็จะเป็นทักษะดาบสีเหลืองขั้นสูงและสีเหลืองขั้นสูงสุด
นี้ยังไม่นับเม็ดยา เกราะ และสิ่งของช่วยชีวิตบางอย่างซึ่งจำเป็นต้องใช้คะแนนสะสมทั้งหมด
คะแนนสะสมคือสกุลเงินในนิกายชั้นใน หากไม่มีสกุลเงินเหล่านี้ มันก็จะยากที่จะคืบหน้าใดๆ
เขาไม่ต้องการตกปลาอีกต่อไปเพราะต้องใช้เวลาและพลังงานอย่างมาก
“ตระกูลเจิ้ง… หากมีโอกาสข้าจะช่วยเหลือพวกเขาอีกครั้ง” หลี่ฟู่เฉินคิดอยู่ในใจของเขา
***
วันต่อมา หลี่ฟูเฉินมาถึงที่ห้องโถงทักษะต่อสู้แล้ว
เทคนิคลับถูกบรรจุไว้ในโถงทักษะด้วยเช่นกัน แต่อยู่ภายในห้องลับ
เมื่อหลี่ฟู่เฉินมาถึงที่ห้องลับ เซี่ยวหลี่ไบ๋ หลิวหวูหวง และคนอื่นๆ ก็อยู่ที่นั่นแล้ว
ทุกคนเลือกเทคนิคลับระดับ 2 ดาวตามที่พวกเขาต้องการ
สังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉิน หลิวหวูหวงส่งเสียงฮึ่ม
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้สนใจเขา และหยิบเทคนิคลับระดับ 2 ดาวขึ้นมาเพื่อดู
‘ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงขั้นสมบูรณ์จะช่วยเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนไหวขึ้นอย่างมาก อ่อร่าของลมจะเกิดขึ้นข้างๆ ขา’
“เทคนิคลับนี่ไม่เลว มันยอดเยี่ยมที่สุดในช่วงขับขัน!” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินสว่างขึ้น
ลูกเตะไร้เงาเองก็ไม่ได้แย่เช่นกัน แต่มันเป็นทักษะลูกเตะ มันไม่สามารถเปรียบเทียบกับท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมุ่งเน้นไปในยังการเคลื่อนไหวได้
‘เทคนิคหลอมโลหิต ช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มอุณภูมิของเลือดและพลังฉีได้เพื่อเพิ่มคุณสมบัติโดยรวม โดยเฉพาะปฏิกิริยาในด้านความรวดเร็ว’
‘เทคนิคประทับเร้นลับ ร่างกายของผู้ใช้จะต้องถูกประทับด้วยเครื่องหมายลึกลับ เปิดใช้งานเครื่องหมายลับจะเพิ่มพลังการระเบิดสภาวะพลังฉีและพลังป้องกันทางกายภาพได้’
‘พลังฉีดาบทานตะวัน เมล็ดพันธ์พลังฉีดาบทานตะวันจะถูกปลูกอยู่ภายในผู้ใช้ เมล็ดพันธุ์จะหล่อเลี้ยงดาบพลังฉีของผู้ใช้และสามารถเปิดใช้งานเพื่อทำร้ายศัตรูในช่วงเวลาสำคัญได้’
……
หลี่ฟู่เฉินได้ทำการอ่านเทคนิคลับระดับ 2 ดาวทั้งหมดยี่สิบสองเล่ม
หลี่ฟู่เฉินจบลงด้วยการเลือกท่าร่างศักดิ์สิทธิ์
แต่มันก็ไม่ใช่เพราะเขาอยากได้ความสามารถในการหลบหนีที่มีประสิทธิภาพ
โลกเป็นสถานที่ที่กว้างใหญ่และการมีความเร็วโดยรวมแล้วดีเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด้านการหลบหนี การเดินทาง หรือการทำภารกิจนิกายได้รวดเร็วขึ้น ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งหมด
เนื่องจากเขามีเทคนิคลับมังกรเร้นลับแล้ว เขาก็ไม่ต้องการเทคนิคลับใดๆ ที่เพิ่มความสามารถโดยรวมของเขาอีก
หลังจากเลือกเทคนิคลับของเขา หลี่ฟู่เฉินแลกทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางมาเพิ่มอีก 30 ทักษะ
***
กลับไปที่ลานบ้านของเขา หลี่ฟูเฉินเริ่มทำการค้นคว้าเทคนิคลับท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ทันที
เทคนิคการลับท่าร่างศักดิ์สิทธิ์นั้นคล้ายกับเทคนิคลับมังกรเร้นลับซึ่งต้องใช้การโคจรจุดชีพจรจำนวนมากเพื่อปลดล็อค แตกต่างกันเพียงแค่ว่าสิ่งนี้ทำที่ขา
แต่ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์มีเพียงแค่สองขั้นเท่านั้น
ขั้นแรกคือการที่ขาจะสร้างแรงลมออกมา
ขั้นที่สองคือการใช้ลมศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปลี่ยนเป็นเงา
ด้วยประสบการณ์ของเขาจากการฝึกฝนเทคนิคลับมังกรเร้นลับ หลี่ฟูเฉินจึงฝึกฝนท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงสามวัน ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ก็มาถึงขั้นสุดท้ายของขั้นแรก
ในพื้นที่ว่างเปล่าด้านนอกลานบ้านของเขา ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินเอนไปข้างหน้า
เงียบและไร้ตัวตน
ในช่วงเวลาต่อไป หลี่ฟู่เฉินก็บินออกไปราวกับพายุ ความเร็วนั้นรวดเร็วมาก ซึ่งแม้แต่กระทั่งหลี่ฟู่เฉินก็พบว่ามันยากที่จะเปลี่ยนแปลงทิศทาง
“เร็วมาก เพียงแค่ขั้นแรกก็พิสูจน์ได้แล้วว่ารวดเร็วกว่าลูกเตะไร้เงามากเพียงใด ขั้นสองน่าจะเป็นความเร็วสองเท่าของลูกเตะไร้เงา”
ในที่สุดหลี่ฟูเฉินก็ได้เห็นเทคนิคลับที่เชี่ยวชาญในการออกสำรวจ
เมื่อท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิดใช้งาน พลังฉีจากขาทั้งสองข้างเริ่มตอบสนองกับการไหลของพลังฉีโดยรอบ จากนั้นมันก็สร้างชั้นของกระแสลมเพื่อรับการสนับสนุนจากพลังฉี ตอนนี้หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเหมือนเขากำลังบินอยู่และไม่รู้สึกถึงแรงต้าน มันราวกบว่าเขากำลังร่อนอยู่บนอากาศ
จุดอ่อนเดียวของท่าร่างศักดิ์สิทธิ์คือความแข็งแกร่งด้านการเปลี่ยนทิศทาง ซึ่งไม่เหมือนลูกเตะไร้เงาที่ผู้ฝึกฝนสามารถเป็นเหมือนภูติผีที่เปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา ทำให้ฝ่ายตรงข้ามสับสน
เมื่อเขาฝึกขั้นแรกของท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างสมบรูณ์ หลี่ฟูเฉินเริ่มฝึกฝนขั้นที่สองทันที
ขั้นที่สองไม่ต้องสงสัยเลยว่ายากกว่าขั้นแรก
ไม่เพียงแต่ต้องใช้หมุนวนพลังฉีด้วยขาข้างหนึ่งเพื่อตอบโต้กับกระแสลมรอบๆ มันยังต้องการเสริมสร้างลมที่ด้านข้างของขาอีกด้วย
เมื่อสร้างอ่อร่าลมขึ้นได้ หลี่ฟู่เฉินก็จะสามารถเวลาบินได้เป็นเวลานานโดยไม่จำเป็นต้องเหยียบพื้น
หลี่ฟูเฉินใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเพื่อเชี่ยวชาญขั้นที่สองของท่าร่างศักดิ์สิทธิ์
***
บนเส้นทางตามภูเขา มีร่างที่กำลังบินอยู่เหนือพื้นดินเล็กน้อย ความเร็วที่ปรากฏมันรวดเร็วมาก สามารถมองเห็นได้เฉพาะขาของเงาเท่านั้น มันคล้ายกับเงาที่กำลังขี่ลม มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อ
“เร็วเกินไปแล้ว!”
หลี่ฟูเฉินมองไปรอบๆ ตัวเอง ในอดีตที่ผ่านมา ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนก็ตาม เขาก็ยังสามารถรับรู้ทุกสิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ ภาพบางอย่างเริ่มที่จะเบลอ
ด้วยสายตาของเขามันมีความสามารถพอที่จะเข้าใจทุกอย่างได้อย่างชัดเจนแม้ในขณะที่เขากำลังใช้ลูกเตะเงาวายุ…
แต่เมื่อเขาใช้ท่าร่างศักสิทธิ์ ความรู้สึกของเขาลงลึกละเอียดไม่ได้อีกต่อไป
ก่อนที่เขาจะรู้สึกถึงทุกสิ่งทุกอย่างอย่างละเอียดได้นั้น ร่างของเขาก็จะอยู่ที่อื่นแล้ว
“ความเร็วนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่ากับอีกนิดเมื่อเทียบกับลูกเตะไร้เงา”
สูดหายใจเข้าลึกๆ หลี่ฟู่เฉินโคจรย่างก้าวเงาวายุ เขาอยากรู้ ถ้าเขารวมย่างก้าวเงาวายุและท่าร่างศักดิ์สิทธิ์เข้าด้วยกัน เขาจะเร็วได้เท่าใด
ความปลอดโปร่งและสุ้มกระแสเสียงที่อ่อนโยนเกิดขึ้นตามมา ขณะที่หลี่ฟู่เฉินหายตัวไปอย่างไร้ร่องลอย เหลือเพียงแค่ร่างที่โปร่งใสเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ในอากาศ
“สามารถได้ยินเสียงได้อยู่ ความเร็วเองก็เหมือนจะรวดเร็วเกินไป เมื่ออย่างก้าวเงาวายุและท่าร่างศักดิ์สิทธิ์รวมกันจะไม่สามารถจำกัดความต้านทานอากาศได้ทั้งหมด” หลี่ฟู่เฉินกล่าวกับตัวเอง
ขณะที่เขามองไปที่ด้านข้างของตัวเอง เขาสามารถเห็นได้เพียงแต่ทิวทัศน์ที่บิดเบี้ยวเท่านั้น และตอนนี้เอง ทุกสิ่งก็คล้ายจะกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว มันคล้ายกับหม้อที่ถูกแปะติดขึ้นมา ทำให้ยากที่จะทราบว่าอันไหนเป็นอันไหน
ปิดตาของเขาและเปิดอีกครั้ง สีฟ้าเรืองแสงซึ่งมีร่องรอยของสีเขียวอยู่ภายใน ส่องเรืองแสงออกมาจากตาของเขา
ด้วยการส่องสว่างของแสง หลี่ฟูเฉินก็เห็นสภาพแวดล้อมของเขาได้ในที่สุด