Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 142
บทที่ 142
เจตจำนงเพลิงแดง
ในช่วงเวลาที่เขาฝึกฝนท่าร่างศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น หลี่ฟู่เฉินก็ยังฝึกฝนทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางไปพร้อมๆ กันด้วย
บางทีอาจเป็นเพราะเต๋าแห่งดาบของเขาในปัจจุบัน หลี่ฟู่เฉินจึงใช้เวลาน้อยกว่าหนึ่งเดือนในการเข้าสู่ขั้นภวังค์สำหรับทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลาง 6 ทักษะ
“ทักษะดาบสีเหลืองเป็นพื้นฐานของทักษะดาบ แต่รากฐานก็สามารถแบ่งแยกย่อยได้เช่นกัน ทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำเป็นรากฐานของทักษะดาบขั้นต่ำ ขณะที่ทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางก็เป็นรากฐานของทักษะดาบขั้นกลาง รากฐานของทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางเป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการรวมกันของฐานรากทักษะดาบขั้นต่ำ ฐานรากทักษะดาบระดับกลางที่น่าเกรงขามบางส่วนนั้นเป็นผลพลอยได้จากรากฐานทักษะดาบขั้นต่ำกว่าหนึ่งโหล”
หลี่ฟู่เฉินมีความรู้สึก ว่าถ้าเขาสามารถเข้าใจทักษะดาบสีเหลืองกว่า 1,000 ทักษะ มันอาจเป็นไปได้สำหรับเขาที่จะสร้างทักษะดาบระดับลึกลับของตัวเองขึ้นมา
การสร้างทักษะดาบระดับลึกลับเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ ผู้ที่สามารถสร้างทักษะดาบระดับลึกลับของตัวเองขึ้นมาได้ จะมีคุณสมบัติในการเป็นผู้เชี่ยวชาญในเต๋าแห่งดาบ และหากดูจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ทั้งหมดในนิกายวารีคราม การมีคุณสมบัติเป็นผู้เชี่ยวชาญเต๋าแห่งดาบเป็นสิ่งที่ได้หายากยิ่ง
9 … 24 … 30 ทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลาง
เช่นเดียวกับตอนที่เขาฝึกฝนทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำ ความก้าวหน้าในด้านการฝึกฝนทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉินเริ่มเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ในเดือนแรก เขามาถึงขั้นภวังค์ของทักษะดาบขั้นกลางได้เพียงแค่ 9 ทักษะเท่านั้น ในเดือนที่สอง มันคือ 15 เพียงสองสัปดาห์ในเดือนที่สาม หลี่ฟู่เฉินมาถึงขั้นภวังค์ของทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางทั้ง 30 ทักษะ
***
ยืนอยู่ในลานของเขา ร่างของหลี่ฟู่เฉินเปี่ยมล้นไปด้วยเจตจำนงแห่งดาบ
เจตจำนงดาบดาวตกราวกับอสูรที่ดูดซับเต๋าแห่งดาบและสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
‘มีโอกาสที่เจตจำนงแห่งดาบเพิ่มระดับได้อยู่หรือไม่?’ หลี่ฟู่เฉินคิดกับตัวเอง
ด้วยทักษะดาบสีเหลืองขั้นกลางทั้ง 30 ทักษะที่อยู่ในขั้นภวังค์ หลี่ฟู่เฉินก็ไม่ได้แลกทักษะดาบเพิ่มเติมอีกต่อไป
ประการแรก มันเป็นเพราะข้อจำกัดด้านเวลา ประการที่สอง เพราะเขารู้สึกว่าเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับอยู่ใกล้กับการพัฒนาแล้ว
หากบรรลุระดับเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับได้อีกครั้ง มันจะอยู่ในระดับสูงสุดสิบห้า
นี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ในบางแง่ มันสำคัญยิ่งกว่าการทำความเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ
เหตุผลหลักคือเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับนั้นเป็นเทคนิคระดับลึกลับขั้นกลาง ในขณะที่วิชาดาบดาวตกนั้นเป็นระดับลึกลับขั้นต่ำ
เมื่อแสงอาทิตย์แผดเผาส่องมาจากเบื้องบน
หลี่ฟู่เฉินที่นั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่อย่างโดดเดี่ยว ร่างกายของเขากลายเป็นมีเปลวไฟแทรกซ้อนไปทั่วร่าง
หากใครก็ตามที่ดูสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในได้ จะก็สามารถเห็นได้ว่าภายในร่างกายของหลี่ฟู่เฉินนั้นเป็นอย่างไร มันคล้ายกับเตาหลอมบำรุง เตาหลอมที่ดูคล้ายกับมีชีวิต มันกลืนกินพลังฉีเข้าไปเป็นจำนวนมาก
จากนั้นเตานั้นก็สร้างพลังฉีซึ่งเปรียบเสมือนคริสตัลสีแดงเพลิงขึ้นมาทดแทน
“โชคดีที่ข้าฝึกฝนเทคนิคร่างกายเร้นโลหิต หากไม่เช่นนั้นแล้ว เลือดและร่างกายของข้าคงไม่สามารถต้านทานพลังฉีที่ร้อนแรงเช่นนี้ได้”
เทคนิคบ่มเพาะเพลิงเป็นหนึ่งในเทคนิคที่มีอำนาจมากที่สุด และนอกจากนี้ยังมีความต้องการในด้านคุณภาพร่างกายของผู้ฝึกฝนเป็นอย่างมาก
หากคุณภาพร่างกายไม่ตรงตามมาตรฐาน มันก็ยากที่จะพัฒนาไปสู่ระดับที่ 13 และ 14 อย่าได้กล่าวถึงระดับที่ 15 การฝืนบังคับทะลวงระดับจะส่งผลให้เกิดความผิดปกติจากภายใน สำหรับคนที่โชคดี เส้นชีพจรของพวกเขาจะเพียงแค่ถูกแผดเผาและกลายเป็นคนพิการ
ได้มีการกล่าวกันว่าเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง ซึ่งเป็นหนึ่งในสองเทคนิคบ่มเพาะสูงสุดของนิกายวารีคราม มีความต้องการสูงผิดปกติสำหรับคุณภาพของร่างกาย หากไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ฝึกฝนจะไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่สูงกว่าได้
ทั่วทั้งนิกายวารีคราม ไม่มีใครสามารถเข้าถึงระดับสูงสุดระดับที่ 21 ของเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงได้
ไม่ใช่เพราะการรับรู้ไม่เพียงพอ แต่เกิดจากความกลัวและคุณสมบัติของร่างกายที่ไร้ประสิทธิภาพ
ด้วยคุณภาพร่างกายปัจจุบันของหลี่ฟู่เฉิน แม้ว่าเขาจะได้รับเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงมาเพื่อฝึกฝน เขาอย่างดีที่สุดเขาก็สามารถไปถึงระดับที่ 14 หรือ 15 เพียงแค่นั้น ก่อนที่เขาจะก้าวไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม เขาจะต้องเพิ่มระดับการฝึกฝนของเขา
ด้วยพลังบ่มเพาะที่สูงขึ้น มันจะช่วยป้องกันร่างกายของตนเองได้มากขึ้น
***
แต่ละวัน ทุกๆ วัน หลี่ฟูเฉินจะเริ่มบ่มเพาะเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และเลิกฝึกฝนเมื่อพระอาทิตย์ลง
เหลืออีกสิบวันก่อนการเปิดเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ…
เจตจำนงที่มีอุณหภูมิสูงเริ่มแผดเผาเร่าร้อนขึ้น
เจตจำนงที่มีอุณหภูมิสูงเร่าร้อนนี้ไร้รูปแบบและมองไม่เห็น แต่ทว่ามันมีอยู่จริง ทุกที่ที่มันแพร่กระจายออกไป มันจะทำให้สถานที่นั้นไหม้เกรียม ในลานที่หลี่ฟู่เฉินอยู่ พื้นผิวดินแตกระแหง ผนังแตกหัก บ้านเองก็แตกออก ต้นไม้ถูกเผาไหม้ และลำธารเหือดแห้ง เจตจำนงแผดเผานี้ดูเหมือนจะดูดซับพลังงานความร้อนจากสวรรค์และโลก ภายใต้พื้นที่แห่งนี้ มันจะรวบรวมพลังงานความร้อนทั้งหมดรอบๆ มันและเผาไหม้ทุกสิ่งอย่างรวดเร็ว
บิซซ!
แสงสีแดงที่เปล่งประกายออกมา เมื่อหลี่ฟู่เฉินก้าวลงจากก้อนหิน มันก็ละลายลงอย่างรวดเร็วในแบบที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หินใหญ่ก้อนหนึ่งคล้ายกับเทียนแท่งยักษ์ที่กำลังหลอมละลาย
ค่อยๆ ลืมตา แสงสีแดงสดใสสองประกายในประกายแววตาของหลี่ฟู่เฉิน
“งั้นแล้วนี่ก็เป็นเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่สิบห้า?”
หลี่ฟู่เฉินเปิดมือขวาของเขาขึ้นมาและเพลิงพลังฉีสีแดงก็พุ่งพวยออกมาทันที มันดูคล้ายกับเปลวไฟที่กำลังลุกโชน
เปลวไฟนี้มีจิตอยู่ภายใน ด้วยการสนับสนุนจากอนุภาพจิตในนั้น อุณหภูมิเปลวเพลิงจะร้อนมากยิ่งขึ้น ร้อนมากจนแม้แต่กระทั่งอากาศก็ดูแปลกไปและสร้างนิมิตที่ดูบิดเบี้ยวขึ้นมาได้
“ความร้อนของเพลิงสีแดงนั้นไม่น่ากลัวเท่าใด แต่หลังจากเพิ่มเจตจำนงเพลิงแดงลงไป มันกลายเป็นน่ากลัวมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ราวกับว่ามันมีวิญญาณเป็นของตัวเอง”
หลี่ฟู่เฉินสูดหายใจเข้าลึกๆ และยืนอยู่ต่อหน้าก้อนแร่เหล็กดำ เขากดฝ่ามือทั้งสองลงบนมันและใช้พลังฉีเพลิงแดงเพื่อห่อหุ้มแร่
หลังจากระยะเวลาหนึ่ง แร่ที่มีความสูง 2 เมตรได้รับการขัดเกลาเป็นเหล็กสีดำขนาดเท่าอ่างล้างหน้า
แม้ว่าเหล็กดำจะมีสิ่งเจือปนค่อนข้างมาก มันก็ยังถือว่าการปรับแต่งประสบความสำเร็จ
“เจตจำนงเพลิงแดงนั้นน่ากลัวอย่างที่ล่ำลือกัน”
หลี่ฟูเฉินที่เข้าใจเจตจำนงของดาบดาบดาวตกก็ยังต้องประหลาดใจ
เขาตระหนักได้ว่าเขายังคงดูแคลนความแตกต่างระหว่างเจตจำนงระดับลึกลับขั้นกลางกับเจตจำนงขั้นต่ำเกินไป แม้หลังจากที่เจตจำนงดาบดาวตกดูดซับสาระสำคัญของเต๋าแห่งดาบเข้าไปเป็นจำนวนมาก มันก็ยังคงไม่สามารถเปรียบเทียบกับเจตจำนงของเพลิงสีแดงได้
“หากเจตจำนงลึกลับขั้นกลางยังเหนือกว่าเป็นอย่างมาก งั้นแล้วข้าสงสัยว่าเจตจำนงระดับปฐพีนั้นจะเป็นอย่างไร มันล่ำลือกันว่าสามารถแทรกแซงสวรรค์และเปลี่ยนโลกได้”
เต๋าต่อสู้ เต๋าแห่งดาบ
เต๋ามักมีอยู่ในทักษะต่อสู้อยู่เสมอๆ
เต๋าตามธรรมชาติที่สำคัญที่สุดก็คือเต๋าสวรรค์
ทักษะต่อสู้ระดับสวรรค์เป็นจุดกำเนิดของทักษะต่อสู้ระดับต่ำ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกับเต๋าสวรรค์
เจตจำนงแห่งการต่อสู้คือธรรมชาติและยังเป็นเป้าหมายระดับสูง ซึ่งจะนำนักสู้ผู้หนึ่งเข้าไปใกล้ชิดกับเต๋าสวรรค์ได้
เมื่อคำนึงถึงปัญหาในอนาคตภายภาคหน้า หลี่ฟูเฉินมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการรักษาเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่ 15 เอาไว้
ขณะนี้เขาไม่สามารถควบคุมเจตจำนงเพลิงแดงได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด และสิ่งนี้เองก็จะช่วยส่งเสริมทั้งอำนาจและพลังของเขาได้มาก
และสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ นี้ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ดีว่าเขายังไม่สามารถควบคุมเจตจำนงเพลิงแดงได้
ในสายตาของหลี่ฟู่เฉิน พลังที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุม ไม่ถือว่าเป็นพลังของตัวเอง
สิ่งที่เขาต้องการก็คือการควบคุมพลังใหม่นี้ให้ได้อย่างเต็มที่
***
สามวันต่อมา ในที่สุดเจตจำนงเพลิงแดงก็เสถียร
ตราบใดที่เขาไม่ได้ตั้งใจโคจรเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับระดับที่ 15 เจตจำนงเพลิงแดงก็จะไม่ถูกเปิดเผย
นอกจากนั้น หลี่ฟู่เฉินยังค้นพบว่าเจตจำนงเพลิงแดงนั้นเกี่ยวข้องกับอารมณ์ของเขา
หากอารมณ์ของเขากำลังผันผวน เจตจำนงเพลิงแดงก็มีความผันผวนเช่นกัน
“ดูเหมือนว่าเจตจำนงระดับลึกลับขั้นกลางนั้นเกี่ยวข้องกับความตั้งใจของร่างกายและอนุภาพจิต เจตจำนงเพลิงแดงนี้สามารถโกรธเกรี้ยวได้อย่างง่ายดาย หากข้าดึงอารมณ์ได้ถึงขีดสุด เจตจำนงเพลิงแดงก็น่าจะแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยเช่นกัน”
ดูความเรียบร้อยในลานบ้านของเขา หลี่ฟู่เฉินหัวเราะอย่างขมขื่น
ลานบ้านไม่นับเป็นไร มันก็แค่ไม่สวยงามอีกต่อไป แต่เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านทั้งหมดกลับกลายเป็นเถ้าถ่าน หากไม่ใช่เพราะโครงสร้างที่มั่นคงของบ้าน มันก็จะถูกเผาเช่นกัน
วันถัดไป ผู้ดูแลชั้นในฝึกหัดเข้ามาส่งข่าว มันระบุให้หลี่ฟู่เฉินมุ่งหน้าไปยังห้องโถงชั้นใน
หลี่ฟู่เฉินคาดเดาว่าถึงเวลาที่ต้องออกเดินทางไปสู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับแล้ว