Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 151
บทที่ 151
ความสามารถอันน่าทึ่ง
แม้ว่าทั้งคู่จะอยู่ในระดับที่ 1 ของขอบเขตปฐพี เฉินฟางหัวก็ยังถือว่าอยูล่างๆ จากระดับเดียวกัน ถ้าเธอไม่เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบ เธอจะไม่มีวันเป็นคู่ต่อสู้ของกระบี่โลหิตหลิงหวงได้ สำหรับการที่เธอจะไปสู้กับหลิงหวงด้วยตัวเองนั้นเท่ากับการไปหาความตาย
“แต่…”
เฉินฟางหัวเต็มไปด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากหลี่ฟู่เฉินอยู่เพียงแค่ระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิดเท่านั้น และมีช่องว่างขนาดใหญ่ของพลังบ่มเพาะอยู่
“ไม่มีแต่ เจ้าคิดว่าข้าแสดงความสามารถออกมาเต็มที่แล้ว?” หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ
ไม่ว่าจะกับกรงเล็บวิญญาณเจิ้งซวนหรือปีศาจไต่อำพัน หลี่ฟู่เฉินก็จัดการมันได้ภายในเวลาเพียงไม่นาน เขาจึงยังไม่ได้แสดงความสามารถออกมาเต็มที่ แม้แต่กระทั่งตัวเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาแข็งแกร่งเพียงใด เพราะเขายังไม่พบศัตรูที่เขาต้องทุ่มพลังทั้งหมดออกไป
กระบี่โลหิตหลิงหวงเป็นคนที่น่าสะพรึงกลัว แต่ไม่ถึงจุดที่เขาไม่สามารถต่อสู้ได้
เมื่อได้ยินคำกล่าวของหลี่ฟู่เฉิน เธอเลือกที่จะเชื่อเขา
“รับโล่นี้ไป” หลี่ฟู่เฉินหยิบโล่ออกมาจากถุงเก็บของเขา มันเป็นโล่ระดับลึกลับขั้นต่ำที่เขาได้รับจากกรงเล็บวิญญาณเจิ้งซวน
หากปราศจากโล่ เฉินฟางหัวน่าจะถูกสังหารในทันทีโดยกระบี่โลหิตหลิงหวง
รับโล่มา เฉินฟางหัวไม่กล่าวคำใดอีก เธอตัดสินใจแล้ว แม้ว่าเธอจะตาย เธอจะไม่ถอยกลับและไม่เกรงกลัวอะไร
“มดตัวน้อยสองตัวกลับกล้าที่จะสู้กับข้าจริงๆ เรื่องตลกอะไร” กระบี่โลหิตหลิงหวงเห็นทุกอย่างและเผยรอยยิ้มเย็นชา
ในสายตาของเขา ไม่ว่าจะเป็นเฉินฟางหัวที่อยู่ในระดับที่ 1 ขอบเขตปฐพีหรือหลี่ฟูเฉินที่อยู่ในระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิด พวกเขาล้วนแล้วแต่เหมือนมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหลังผู้ซึ่งเป็นเพียงแค่ระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิด และยังคงพยายามทำตัวเหมือนผู้เชี่ยวชาญ เขาจะต้องหยอกล้อซักหน่อย
“ข้าไม่มีเวลาเล่นกับพวกเจ้าสองคน ไปอีกฝากนึงเพื่อรับความตายของเจ้า!”
หลิงหวางดึงกระบี่ยาวของเขาออกมาจากเอว
มันเป็นกระบี่ยาวสีเลือด ซึ่งมีนามว่า : กระบี่กระหายเลือด มันเป็นดาบสมบัติระดับลึกลับขั้นกลางที่มอบให้หลิงหวงโดยนิกายโหมกระบี่ มันมีชื่อเสียงเช่นเดียวกับกระบี่คลั่งต้วนไห่ กระบี่ร้อยเทพยุทธ์
สำหรับศิษย์นิกายโหมกระบี่คนอื่นๆ พวกเขาให้เพียงกระบี่สมบัติระดับลึกลับขั้นกลาง
ด้วยกระบี่กระหายเลือดที่ออกมาจากฝัก หลิงหวงตั้งใจที่จะเฉือนเฉินฟางหัวและหลี่ฟู่เฉินอย่างแน่วแน่
สึบ!
กลางอากาศ มีแสงสีตระการตา ดาบพลังฉีที่ดูเหมือนจะฉีกสวรรค์ได้ ลงมาที่พวกเขาทั้งสอง
‘ข้าไม่สามารถป้องกันสิ่งนี้ได้!’ นี่เป็นความคิดเพียงอย่างเดียวในใจของเฉินฟางหัว
ถูกยกระดับด้วยโล่ระดับลึกลับขั้นต่ำที่หลี่ฟู่เฉินมอบให้เธอ เฉินฟางหัวยกโล่ขึ้นมากันบริเวณหัว
เคร้ง!
เมื่อดาบพลังฉีปะทะกับโล่ เฉินฟางหัวรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาล มันราวกับว่าเธอถูกฟ้าผ่า เธอกระอักเลือดออกมาคำนึง
ร่างกายของเธอปลิ้วไปด้านหลัง
แคร็ก!
พื้นดินแตกออก มันทิ้งรอยร้าวที่ดูน่ากลัวเอาไว้ ขณะที่ดาบพลังฉีอันบอบบางถูกปล่อยออกมาจากรอยแตก
“อืม!” หลิงหวงมองอย่างประหลาดใจ ขณะที่เขามองไปทางซ้ายเพื่อหาหลี่ฟู่เฉิน
เมื่อหลิงหวงฟันไปที่หลี่ฟู่เฉินก่อนหน้านี้ ร่างกายของเขาหายไปและหลบดาบพลังฉี ขณะที่เขาปรากฏขึ้นอีกครั้ง หลี่ฟู่เฉินก็อยู่ที่ฝั่งขวาของหลิงหวงแล้ว
“ดาบดาวตก!”
เปิดใช้งานเทคนิคลับมังกรเร้นลับ เพลิงพลังฉีสีแดงจำนวนมหาศาลถูกแปรสภาพเป็นพลังมังกรเร้นลับ
เพลิงพลังฉีระดับที่ 15 ฉีนั้นว่าดุร้ายแล้ว ตอนนี้มันถูกแปรสภาพเป็นพลังฉีมังกรเร้นลับ มันจึงเต็มไปด้วยความลึกลับอย่างแท้จริง มันราวกับงูลาวาที่กำลังแหวกว่ายอยู่ภายในเส้นชีพจรของหลี่ฟู่เฉิน
ด้วยเจตจำนงของเขา พลังฉีมังกรเร้นลับก็หลั่งไหลเข้าสู่ดาบทองดำ หลี่ฟูเฉินพุ่งไปทางหลิงหวง และใช้เจตจำนงเพลิงแดงและเจตจำนงดาบดาวตก เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับดาบของเขา
“ไม่ดีแล้ว” เห็นดาบนี้ หนังศีรษะของหลิงหวงชาด้าน
ดาบนี้เร็วมากเกินไป มันเกินขีดจำกัดความเร็วของทักษะดาบที่เป็นระดับลึกลับขั้นต่ำไปแล้ว
“ดัชนีบิดใจ!”
ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะปิดกั้นด้วยดาบของเขา หลิงหหวงทำได้เพียงแต่ยกมือซ้ายของเขาที่เคลือบด้วยชั้นของพลังฉีหนาแน่นขึ้นมากัน จากนั้น เขาก็พยายามใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางจับที่ดาบทองดำ
แกร๊ก!
นิ้วของหลิงหวง ซึ่งสามารถบดเหล็กหิมะเงินได้ ถูกบดขยี้ด้วยดาบพลังฉีจากดาบทองดำก่อนที่เขาจะแตะดาบเสียอีก กระดูกในมือของเขาก็บิดม้วนราวกับเกลียวแป้งสาลี
แต่นิ้วของเขาทำให้ความเร็วดาบของหลี่ฟู่เฉินลดลงอย่างน้อย 30%
อ๊ากก!
หลิงหวงคำรามต่ำ ในขณะที่เขาหันไปด้านข้างเพื่อหลีกตัวออกจากดาบทองดำ
พื้นเริ่มแตก ขณะที่สภาวะพลังจากดาบพลังฉีและดาบทองดำกระจายไปทั่วทุกที่
หลี่ฟู่เฉินถูกผลักออกอย่างน้อยกว่าสิบสองเมตร หลิงหวงก็ถอยกลับออกไปอย่างน้อยแปดก้าว
“วิชาดาบสะพรั้งอนันย์!”
โดยไม่รู้ตัว เฉินฟางหัวก็อยู่กลางอากาศ ด้านหลังหลิงหวง ด้วยการแกว่งดาบของเธอ แสงดาบนับจำนวนนับไม่ถ้วนก็ผลิบานเหมือนดอกพลัม ดักจับหลิงหวงไว้
“ไปให้พ้น!”
ด้วยการระเบิดสภาวะพลังฉี หลิงหวงไม่ได้หันหลังกลับก่อนที่เขาจะเหวี่ยงดาบของตัวเองกลับไป คลื่นโลหิตหนาทึบจากเงากระบี่ทันทีพุ่งเข้าไปทำลายดาบสะพรั้งอนันย์ของเฉินฟางหัว กระบี่พลังฉีที่เหลือหลังจากนั้นก็เพียงพอที่จะส่งเฉินฟางหัวบินกลับไป
ปิส ปิส ปิส!
บุปผาสามดอกบานอยู่บนหลังของหลิงหวง
เมื่อหลิงหวงได้รับบาดเจ็บจากหลี่ฟู่เฉิน วิญญาณและทักษะกระบี่ของเขาก็ไม่ได้รัดกุมอีกต่อไป หากบวกกับทัศนคติที่ดูถูกดูแคลนของเขา นั่นทำให้เขาต้องจ่ายราคา
“พายุดาวตก!”
เมื่อตอนที่เฉินฟางหัวโจมตี หลี่ฟู่เฉินลอยตัวขึ้นสู่อากาศและเหวี่ยงดาบของเขา ปล่อยแสงและเปลวเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนออกจากดาบทองดำของเขา
วูบ
แสงจ้าสว่างแสบตา
เส้นดาวตกที่ไร้ขีดจำกัดตกลงมาจากฟากฟ้าราวกับพายุดาวตก
นี่คือกระบวนดาบที่สร้างขึ้นโดยหลี่ฟู่เฉิน หลังจากดูดซับเต๋าแห่งดาบมาเป็นจำนวนมาก ดาบดาวตกของหลี่ฟู่เฉินก็มี
การเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ซึ่งนี่เป็นการที่ทำให้เขาสร้างกระบวนดาบที่สองของวิชาดาบดาวตกได้
ท่านี้เป็นการโจมตีแบบพื้นที่ แต่ดาบพลังฉีแต่ละอันก็ถูกปล่อยออกไปกลับพุ่งออกไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีข้อบกพร่องไม่มากนัก
นี่คือทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำที่ถูกผลักดันให้ไปถึงขีดจำกัด ทั้งในด้านพลังและความละเอียดอ่อน
บางทีมันอาจเกินขีดจำกัดไปแล้ว
หลิงหวงตอบสนองได้ช้าเกินไปครึ่งจังหวะ เมื่อถึงเวลาที่เขารู้ตัว ดาบพลังฉีก็เข้ามาใกล้ร่างกายของเขาแล้ว!
บูมม!
พลังฉีที่ระเบิดออกมาจากนักสู้ขอบเขตปฐพีเหมือนฟองสบู่ที่กำลังขยายตัว พยายามปกป้องดาบพลังฉี
ดาบพลังฉีส่วนใหญ่กระเด้งออกมาเนื่องเกราะป้องกันของพลังฉี แต่พลังฉีป้องกันนี้ไม่ได้ไร้ที่ติและขึ้นอยู่กับโครงสร้างของร่างกาย พลังฉีป้องกันบางส่วนนั้นค่อนข้างอ่อนแอกว่าส่วนอื่นๆ
ดาบพลังฉีกว่าสิบโหลเจาะพวกมันให้อ่อนลงและทิ้งบาดแผลเล็กๆ ไว้บนร่างของหลิงหวง
“พวกเจ้าสองคนต้องตาย! ต้องตาย!”
ดวงตาของหลิงหวงแดงก่ำ แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับกระบี่คลั่งต้วนไห่ เขาก็ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ใครจะคิดว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังถูกโจมตีหลายครั้งโดยมดสองตัวนี้
เขาเป็นบุคคลที่ภาคภูมิใจ เขาไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์นี้ได้
“หลังจากทั้งหมดแล้วเขาก็อยู่ขอบเขตปฐพีระดับที่ 1” หลี่ฟูเฉินรู้สึกเสียดาย
“ฮ่าฮ่า หลิงหวง เจ้าได้รับบาดเจ็บจากมดสองตัวจริงๆ ช่างน่าประหลาดใจอะไรเช่นนี้!” จากหนึ่งพันเมตร มีร่างเงากำลังพุ่งมาจากที่นั่น เห็นได้ชัดว่ามันเป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงจากนิกายโหมกระบี่ เฉินเฟ่ยไห่
“หลี่ชิตี๋ ให้ข้าช่วยเจ้า!”
เคราะห์ดี นิกายวารีครามก็มีกำลังเสริมเช่นกัน
มันคือเซี่ยวหลี่ไบ๋และหยูเหวินเทียน
นักต่อสู้ขอบเขตปฐพีมีความอ่อนไหวต่อพลังงานของสวรรค์และโลก หากระยะทางไม่ไกลเกินไป พวกเขาก็สามารถตรวจจับได้อย่างง่ายดายว่าพลังงานระเบิดมาจากทางใด หรือมาจากไหน
“เซี่ยวชิเซียง” เฉินฟางหัวดูโล่งใจ
ด้วยเซี่ยวชิเซียงที่อยู่ที่นี่ พวกเธออาจจะได้รับชัยชนะ อย่างน้อยพวกเธอก็จะไม่ถูกทรมาน
หลังจากนั้นไม่กี่ลมหายใจ กำลังเสริมจากทั้งสองด้านก็มาถึงแล้ว
ในอีกด้านหนึ่งเป็นสี่คนที่มาจากนิกายวารีคราม หลี่ฟู่เฉิน เซี่ยวหลี่ไบ๋ เฉินฟางหัว และหยูเหวินเทียน
ในอีกด้านหนึ่งเป็นคู่จากนิกายโหมกระบี่ หลิงหวงและเฉินเฟ่ยไห่
ทั้งสองฝ่ายต่างก็มองตากันราวกับพยัคฆ์จ้องเหยื่อ ความตึงเครียดอยู่ในระดับสูง ชี้ให้เห็นว่าสามารถเข้าสู้การต่อสู้แตกหักได้ตลอดเวลา
เซี่ยวหลี่ไบ๋ตกตะลึงอยู่ในหัวใจของเขา เนื่องจากความสามารถของหลี่ชิตี๋นั้นมากมายเกินไป นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่เจ็ดสามารถทำให้กระบี่โลหิตหลิงหวงได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ หากหลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่ 8 หรือ 9 ของขอบเขตต้นกำเนิด ความสามารถของเขาจะเกินกว่าอัจฉริยะส่วนใหญ่ที่อยู่ในระดับที่ 1 ของขอบเขตปฐพีแน่นอน