Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 169
บทที่ 169
การกลับบ้าน
นอกจากการไถ่ถอนเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงแล้ว หลี่ฟู่เฉินยังได้ไถ่ถอนทักษะดาบระดับลึกลับขั้นต่ำมาอีกเล่มหนึ่ง – วิชาดาบเรืองรอง
ทักษะดาบนี้โดดเด่นอย่างแท้จริง หากวิชาดาบดาวตกเป็นอำนาจที่สามารถควบคุมได้ เช่นนั้นวิชาดาบเรืองรองก็เป็นอำนาจที่โดดเด่นยิ่งกว่า
หนึ่งเหมือนดาวตก ในขณะที่อีกหนึ่งเหมือนดวงอาทิตย์
ในลานหลังบ้านที่กว้างขวาง หลี่ฟู่เฉินกำลังฝึกวิชาดาบเรืองรอง
มันก็เหมือนแสงอาทิตย์ที่ยิงออกไป วิชาดาบเรืองรองนั้นไม่ได้ช้าไปกว่าวิชาดาบดาวตก ในแง่มุมมันอาจดูเร็วกว่าดาบดาวตก
“บูรพาตะวันเรืองรอง!”
ปล่อยแสงจ้าออกมา ดาบของหลี่ฟู่เฉินชนเข้ากับแร่เหล็กดำสูง 2 เมตร
เสียงดังกึกก้อง
สามารถเห็นหลุมขนาดใหญ่ได้บนแร่เหล็กดำ ขนาดของมันอย่างน้อยก็เป็นขนาดของอ่างล้างหน้า
หากมันเป็นวิชาดาบดาวตก มันจะเจาะแร่เหล็กดำในทันที ขนาดของรูก็จะไม่ต่างกับขนาดของหมัด
“หนึ่งโจมตีทำลายล้าง อีกหนึ่งคือพลังแห่งการเจาะทะลุทะลวงอันรุนแรง” หลี่ฟูเฉินวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างวิชาดาบทั้งสอง
ทักษะดาบ… ความเร็วไม่ได้หมายถึงพลังในการโจมตี
ความเร็วของวิชาดาบเรืองรองนั้นเร็วกว่าวิชาดาบดาวตก แต่ในแง่ของพลังโจมตี มันไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับวิชาดาบดาวตก แต่มันก็มีรัศมีโจมตีที่กว้างขวางกว่า
เพื่อที่จะเพิ่มความเร็ว ก็จะต้องเสียสละพลังงานไป
ในบรรดาทักษะดาบระดับลึกลับขั้นต่ำทั้งหมด วิชาดาบดาวตกสมดุลทั้งความเร็วและพลังโจมตี
แน่นอน ทุกวิชาดาบย่อมมีความพิเศษ
วิชาดาบเรืองรองนั้นรวดเร็วมากและมีรัศมีการโจมตีที่กว้าง แถมยังป้องกันได้ยากอีกเช่นกัน หลังจากทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่นักสู้ทุกคนที่มีพลังป้องกันสูงส่ง หากใครกำลังพูดถึงพลังป้องกันของนักสู้ตามค่าเฉลี่ยอยู่ วิชาดาบเรืองรองก็น่าจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิชาดาบดาวตก
“วชาดาบเรืองรองมาถึงขั้นสมบรูณ์ย่อยแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะต้องกลับไป”
หลี่ฟูเฉินไม่รีบร้อนที่จะไปถึงขั้นภวังค์สำหรับวิชาดาบเรืองรอง ในช่วงเวลาที่เขาเอ่อระเหยอยู่ที่บ้าน เขาสามารถใช้เวลานั้นในการฝึกฝน
ก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับ หลี่ฟู่เฉินวางแผนที่จะแลกทรัพยากรบางอย่าง
ระหว่างการเดินทางในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ หลี่ฟู่เฉินได้รับสมุนไพรมากมาย เขาเก็บบางส่วนของพวกมันไว้ เช่นสมุนไพรต้นกำเนิด ผลตัดปฐพี องุ่นเจ็ดสีเคลือบเงา และสมุนไพรพิเศษอื่นๆ แต่นอกเหนือจากสมุนไพร หลี่ฟู่เฉินคิดว่าเขาควรแลกยาเม็ดด้วยเช่นกัน กลับไปที่เมืองหมอกเมฆา เม็ดยาระดับสีเหลืองขั้นสูก็งถือว่ามีค่าและหายากที่สุดเช่นกัน
ในครั้งเดียว หลี่ฟู่เฉินแลกคะแนนสะสม 500,000 คะแนนเพื่อยาเม็ด ยาเม็ดสีเหลืองขั้นสูงและขั้นสูงสุดก็รวมอยู่ในนี้เช่นกัน
หลังจากแลกยา หลี่ฟู่เฉินไปที่ห้องโถงศิษย์หลักเพื่อส่งใบสำหรับการกลับบ้าน
ศิษย์แต่ระดับยิ่งสูงก็ยิ่งมีระดับความอิสระต่างกันออกไป
ศิษย์นิกายั้นนอกไม่ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน
ศิษย์นิกายชั้นในมีอิสระมากขึ้น ระหว่างการปฏิบัติภารกิจ พวกเขาสามารถกลับบ้านได้ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
สำหรับศิษย์หลัก เพราะพวกเขาไม่ได้มีภารกิจมากมายที่จำเป็นต้องทำให้สำเร็จมากนัก พวกเขาจึงสามารถขอกลับบ้านได้นานถึงสามเดือนต่อปี
ที่เชิงเขา หลี่ฟูเฉินจับม้าเลือดปีศาจระดับ 2 ไว้อย่างแน่นหนาและพุ่งไปทิศทางที่เมืองหมอกเมฆาตั้งอยู่
***
เมืองหมอกเมฆา
ตระกูลหลี่
ผู้นำตระกูลหลี่ในปัจจุบันคือพ่อของหลี่หยุนไห่และหลี่หยุนเห่อ หลี่ไท่ซาน
ในฐานะผู้นำตระกูลหลี่ หลี่ไท่ซานทำตามที่เขาปรารถนา ในวันปกติเขาจะจัดการกองทุนของตระกูลและใช้ทรัพยากรเหล่านี้ เขาได้เข้าสู่ขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 7 ไปยังขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 8 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะก้าวไปสู่ระดับที่ 9 หากเขาสามารถเข้าถึงขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 9 ได้ก่อนอายุ 50 ปี เขาจะมีโอกาสก้าวหน้าไปสู่ขอบเขตปฐพีในชีวิตนี้
ภายในเมืองหมอกเมฆา นักสู้ขอบเขตปฐพีถือเป็นพลังอำนาจสูงสุด แม้แต่กระทั้งเจ้าเมืองก็เป็นเพียงนักต่อสู้ขอบเขตปฐพีระดับที่ 5 เพียงเท่านั้น
“ท่านผู้นำ ท่านต้องช่วยเซี่ยวตี้ และช่วยให้พ่อของเซี่ยวตี้ค้นหาความไม่พอใจของเรา”
ในห้องโถง ใบหน้าที่ดูละเอียดลออของหลี่เซี่ยวตี้กำลังหม่นหมอง เธอกำลังคุกเข่าอย่างดื้อรั้นพร้อมๆ กับน้ำตาไหลที่กำลังไหลรินออกมาจากใบหน้าของเธอ
หลี่ไท่ซานเห็นหลี่เซี่ยวตี้ที่หน้าประตูอีกครั้ง เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้วที่เธอมาที่นี่เพื่อคุกเข่าทุกวันและให้เขาช่วยเธอหาความยุติธรรม
“หลี่เซี่ยวตี้ พ่อของเจ้าเองที่ทำเรื่องนั้น เฉินตู่หลางมีสถานะอะไร? เจ้าและพ่อของเจ้ามีสถานะอย่างไร? มันเป็นพรของเจ้าที่เฉินตู่หลางเลือกให้เจ้าเป็นภรรยาของเขา แต่พ่อของเจ้าไม่สนใจสถานะของตัวเองและไปต่อสู้กับเฉินตู่หลางด้วยชีวิตของเขา ตอนนี้เขาถูกทำร้ายจนตายโดยเฉินตู่หลาง ใครกันที่สามารถไปตำหนิเขาได้? กลับไปและหยุดเรื่องไร้สาระของเจ้า หากไม่เช่นนั้น อย่าโทษข้าที่ใช้กฎของตระกูลเราเพื่อลงโทษเจ้า”
เขาได้รับยาเม็ดสีเหลืองขั้นสูง 5 เม็ดมากจากตระกูลเฉินตู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถค้นหาความยุติธรรมให้หลี่เซี่ยตี้ได้ และเขาก็ไม่ต้องการทำเช่นนั้นเช่นกัน
สองชั่วโมงต่อมา หลี่เซี่ยตี้ก็จากไปอย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสลด
‘สาวนางนี้เคราะห์ร้ายนัก ถึงคราวที่ข้าต้องให้นางออกไปโดยการแต่งงาน นางอาจสร้างปัญหาให้กับตระกูลหลี่’ หลี่ไท่ซานคิดกับตัวเอง
ในพื้นที่ๆ ห่างออกไปจากตระกูลหลี่
หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานเห็นหลี่เซี่ยวตี้กลับมาอีกครั้งด้วยสีหน้าที่โศกเศร้า พวกเขาไม่สามารถทำอย่างไรได้ ได้แต่ถอนหายใจ
พวกเขาสงสารหลี่เซี่ยวตี้ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
“หลี่ไท่ซาน สารเลวตัวนี้! ไม่สามารถปกป้องสมาชิกตระกูลของตัวเองได้ ผู้นำตระกูลที่ดีเหมือนจะไม่ใช่มัน!” หลี่เทียนฮานเปล่งเสียงออกมาด้วยความโกรธ
เฉินหยูหยานกล่าว “เทียนฮาน ไม่ต้องกังวล ฟู่เฉินอยู่ในขอบเขตต้นกำเนิดระดับที่ 7 แล้วตอนนี้ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เขาจะต้องกลับมาแน่นอน และจัดการตระกูลหลี่ให้เป็นไปตามเดิม”
ข้อมูลของพวกเขาคือข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน ข่าวล่าสุดยังไม่ได้รับการตอบกลับ
หลี่เทียนฮานกล่าวด้วยความกังวล “นั่นคือสิ่งที่ข้าเป็นห่วง เมื่อฟู่เฉินกลับมา ข้าก็ไม่รู้ว่าตระกูลหลี่ประเภทใดที่จะถูกทิ้งเหลือไว้”
“มันจะไม่เป็นเช่นนั้น เจ้าต้องมีความมั่นใจ ข้าจะไปเตรียมอาหารสำหรับเซี่ยวตี้” เฉินหยูหยานกล่าวและนำอาหารไปให้หลี่เซี่ยวตี้ที่ลาน
นิกายวารีครามอยู่ไม่ไกลจากเมืองหมอกเมฆา แต่ก็ไม่ได้ถือว่าใกล้เคียงเช่นกัน สองสัปดาห์ต่อมา หลี่ฟูเฉินกลับมาที่เมืองหมอกเมฆาได้ในที่สุด
ชมสถานที่และทิวทัศน์ที่คุ้นเคย หลี่ฟู่เฉินเต็มไปด้วยอารมณ์ เมื่อเขาจากไป เขาอายุ 15 ตอนนี้เขาอายุ 19 ปีแล้ว เกือบ 5 ปีผ่านไปทั้งๆ แบบนั้น ทำให้เขารู้สึกไม่สมจริง
เขาควบคุมม้าเลือดปีศาจให้วิ่งเข้าไปในตระกูลหลี่
“ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 จิจิ”
ระหว่างทาง หน่วยลาดตระเวนหลายหน่วยในเมืองสังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉิน โดยเฉพาะม้าเลือดปีศาจระดับ 2 ที่หลี่ฟู่เฉินขี่มา
“หัวหน้า ทำไมข้าเหมือนรู้สึกว่าเขาช่างดูคุ้นเคย” หนึ่งในเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกล่าวกับหัวหน้าสายตรวจ
“เรามักจะลาดตระเวนรอบนอกของเมืองอยู่เสมอ มีใบหน้าที่คุ้นเคยมากมาย บางทีเขาอาจเป็นนายน้อยของหนึ่งในสี่ตระกูลที่กำลังจะกลับบ้าน” หัวหน้ากล่าว
“หัวหน้า ข้าคิดออกคิด เขาคือหลี่ฟูเฉินอดีตนายน้อย”
“เจ้าไม่ได้ล้อข้าเล่นใช่มั้ย?! ข้าได้รับข่าวว่าหลี่ฟู่เฉินทำได้ดีในนิกายวารีคราม ตอนนี้เขาอยู่ในระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิดแล้ว”
“ฮี่ฮี่ จะมีการเจรจาที่ตระกูลหลี่ในวันนี้ ตอนนี้ผู้นำตระกูลไม่ใช่หลี่เทียนฮานพ่อของหลี่ฟู่เฉินอีกต่อไป แต่เป็นหลี่ไท่ซาน อย่างไรก็ตามหลี่ไท่ซาน เป็นคนที่ค่อนข้างฉลาด เขาทำงานได้ดีภายใต้ตระกูลเฉินตู่เราที่เป็นหัวหน้า”
“จะไม่มีความวุ่นวายใดๆ เขาอยู่ที่ระดับ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิดและเป็นโครงกระดูกปกติ มันไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถก้าวสู่ขอบเขตปฐพีในชีวิตนี้ได้หรือไม่ ในตระกูลหลี่ มีนักสู้ขอบเขตปฐพีอยู่ไม่กี่คน เขาไม่อาจพลิกโต๊ะได้”
***
“ใครคือผู้บุกรุก! นี่คือตระกูลหลี่เรา เอาม้าของเจ้าออกไป”
ที่หน้าประตูของตระกูลหลี่มีสิงโตสองตัวยืนอยู่คนละฝั่ง ด้านนอกของประตูมีนักสู้ของตระกูลหลี่อยู่สองคน ขณะนั้นเองที่ผู้นำหนึ่งในสองนั้นตะโกน
หลี่ฟู่เฉินยืนยันที่จะไม่ลงจากหลังม้า “เบิกตาของเจ้า และดูว่าข้าคือใคร”