Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 174
บทที่ 174
เฉินตู่หลาง ตาย
“ใครกล้ามาซี้ซั่วที่จวนท่านเจ้าเมือง? ตาย!”
จวนของเจ้าเมือวนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดรีบออกมา พวกเขาออกมาโดยมีนักสู้ขอบเขตปฐพีเป็นผู้นำ เขาคำราม วาบดาบของเขาและแทงไปยังหลี่ฟู่เฉิน
ดาบนั้นเร็วดุจสายฟ้าผ่า มันยิงออกไปคล้ายลูกศรที่หลุดออกจากหน้าไม้
ใช้สองนิ้ว หลี่ฟู่เฉินใช้ดาบของศัตรูไว้ได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เขากล่าวเบาๆ “ช่างเป็นท่าทีที่ดุร้ายนัก ข้าจะเริ่มที่เจ้า”
จบประโยคของเขา หลี่ฟูเฉินใช้กำลังของเขาหักดาบ ใบดาบยาวกว่าเมตรคล้ายกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์เมื่ออยู่ในมือของเขา เจาะคอของฝ่ายตรงข้ามและล้มลงไปในคราเดียว
“ใครกล้าเข้ามาใกล้ข้าอีกครั้ง เช่นนั้นแล้วอย่าหาว่าข้าฆ่าอย่างไร้ปราณี” หลี่ฟู่เฉินกล่าวโดยไม่บ่งบอกถึงอารมณ์อะไร
ได้ยินคำประกาศ นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดจำนวนมากลังเล แม้แต่กระทั่งแขกของเจ้าเมืองก็ยังถูกสังหาร พวกเขาจะกล้าเข้าใกล้ได้อย่างไร ทุกคนรอให้เจ้าเมืองมาถึง
ท่านเจ้าเมืองเฉินตูเจียนเห่ออยู่ในระดับที่ 5 ของขอบเขตปฐพี หากเขาอยู่ที่นี่ เยาวชนผู้นี้จะต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน
ตระกูลเฉินตู่มีนักสู้ขอบเขตปฐพีอยู่มากมาย ยังมีแขกรับเชิญของตระกูลอื่นๆ อีกและคนจากตระกูลอื่นที่อยู่ในระดับที่สูงขึ้น
ในเวลาสั้นๆ นักสู้ขอบเขตปฐพีห้าคนก็รีบเข้ามา
เห็นร่างของแขกที่ถูกสังหารโดยหลี่ฟู่เฉิน พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นเกรี้ยวโกรธ เป็นเวลากี่ปีแล้วที่มีคนกล้าสังหารคนในจวนเจ้าเมือง การดูหมิ่นเช่นนั้นสมควรได้รับความตาย
“เจ้าเป็นใคร? เจ้ากล้าสังหารผู้คนในจวนเจ้าเมือง? หันหัวเจ้ามา และให้พวกเขาทำให้พวกเจ้ากลายเป็นศพอย่างสมบรูณ์” หนึ่งในนักสู้ขอบเขตปฐพีตะโกน
“ท่านผู้ก่อสร้าง เขาคือหลี่ฟู่เฉิน ผู้นำตระกูลตัวน้อยเก่าของตระกูลหลี่” นักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดกระซิบกับนักสู้ขอบเขตปฐพีที่เป็นอาวุโสกว่า
“ชายชราผู้นี้คือเฉินตู่ช่างเฟิง เจ้าคือหลี่ฟู่เฉินหรือไม่?” เฉินตู่ช่างเฟิงมีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออก เขารู้เกี่ยวกับความสำเร็จของหลี่ฟูเฉินในนิกายวารีครามอย่างคร่าวๆ เขารู้ว่าสถานะของหลี่ฟู่เฉินนั้นไม่ง่ายและยังสามารถฆ่าอาวุโสเหลาได้อย่างง่ายดาย สมมติว่าหลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับที่ 9 ของขอบเขตต้นกำเนิด หากเขาจะสามารถฆ่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตปฐพีระดับที่ 1 ได้ก็ไม่นับว่าน่าแปลกใจ ก็ในเมื่อหลี่ฟู่เฉินมีความสามารถที่พิเศษ
“บอกให้เฉินตู่หลางออกมาพบข้า ข้าไม่ได้สนใจที่จะจัดการกับคนต้อยต่ำเช่นเจ้า”
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าเป็นศิษย์ชั้นในนิกายวารีคราม? นี่คือที่อยู่อาศัยของท่านเจ้าเมือง แม้แต่กระทั่งผู้อาวุโสชั้นนอกก็ยังต้องแสดงความเคารพที่นี่ อย่าสร้างปัญหาให้กับตระกูลหลี่ของเจ้าและรีบยอมแพ้เพื่อรับโทษสถานเบา” เฉินตู่ช่างเฟิงจ้องมองไปยังหลี่ฟู่เฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะสถานะศิษย์ชั้นในของเขา เขาจะฆ่าหลี่ฟูเฉินให้ตายในดาบเดียว
หลี่ฟู่เฉินหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ตระกูลเฉินตู่ของเจ้าไม่มีคุณสมบัติขอให้ข้ายอมแพ้”
“โห? ใครกล้าบอกว่าตระกูลเฉินตู่ของข้าไม่มีคุณสมบัติ? หลี่ฟู่เฉิน ดูเหมือนว่าหลังจากที่เจ้าเป็นศิษย์ชั้นใน ความมั่นใจของเจ้าก็เติบโตขึ้นมาก และตอนนี้กระทั่งมีความกล้าที่จะมาสังหารผู้คนในบ้านของข้า ตอนนี้เจ้ากำลังกระตุ้นอำนาจของข้าอยู่ แม้ว่าข้าจะทำลายทักษะยุทธ์ของเจ้า นิกายวารีครามก็ไม่ทำอะไรกับข้าอยู่แล้วถูกไหม?”
เสียงที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจสะท้อนออกมา
มันเป็นผู้นำตระกูลเฉินตู่ เจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆา เฉินตู่เจียนเห่อ
เฉินตู่เจียนเห่อผู้เป็นเจ้าเมืองมีสถานะคล้ายกับผู้อาวุโสชั้นนอกของนิกาย หากอยู่ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาในฐานะเจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆาจะไม่สามารถลงโทษหลี่ฟู่เฉินได้โดยตรง แต่ถ้าเป็นหลี่ฟู่เฉินที่เป็นฝ่ายยั่วยุเขา เช่นนั้นแล้วเขาก็มีสิทธิ์ที่จะลงโทษเขา
ตอนนี้หลี่ฟู่เฉินสังหารแขกของตระกูลเฉินตู่ไปแล้ว ก็ถือว่าเป็นการก่อความผิดร้ายแรงและถึงแม้ว่าเขาจะทำลายทักษะยุทธ์ของหลี่ฟู่เฉิน นิกายวารีครามก็จะลงโทษเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากเป็นฝ่ายหลี่ฟู่เฉินที่ทำให้ใครบางคนไม่พอใจก่อน นั่นก็ถือเป็นความผิดร้ายแรงสำหรับนิกายวารีคราม
หลี่ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้นมอง ชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมายังทิศทางของเขา
มันเป็นเฉินตู่เจียนเห่อ
เฉินตู่เจียนเห่อ อายุ 50 ปี เขามีไหล่ที่กว้างขวางและถือว่าดูดี แต่จมูกโค้งง้อคล้ายกับนกอินทรีและดวงตาที่ดูแหลมคมทำให้ภาพลักษณ์ตอนแรกของเขาถูกทำลาย มันให้ความประทับใจแก่ผู้คนเพียงแค่มองเห็นครั้งแรก
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้ายอมรับความผิดของเจ้าหรือไม่?” เฉินตู่เจียนเห่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่รุนแรง
“ข้า? ข้าทำสิ่งใดผิด?”
“สิ่งใดผิด? การที่เจ้าก้าวเข้ามาในถิ่นที่อยู่ของเจ้าเมืองก็ถือเป็นความผิด การสังหารแขกของตระกูลเฉินตู่ของข้าก็ถือเป็นความผิด และการที่เจ้ายังไม่ยอมรับว่าตนเองผิด นั้นก็ถือเป็นความผิดอีกเช่นกัน การทำผิดต่อบุคคลที่อยู่ในระดับสูงกว่าก็คือความผิบาปที่ร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม ด้วยความผิดบาปที่สะสมอยู่มากมายนี้ วันนี้ ข้า เฉินตู่เจียนเห่อจะเป็นคนบอกให้เจ้ารู้เองว่าความผิดใดที่ไม่สามารถกระทำได้”
“คิคิ นั้นคือความผิดบาปหรือไม่? จากสิ่งที่ข้าเห็น ไม่จำเป็นต้องมีตระกูลเฉินตู่ของเจ้าอยู่ และเจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนในฐานะเจ้าเมืองเลยก็ยังได้”
“กล้าดียังไง” สภาวะพลังฉีของเฉินตู่เจียนเห่อถูกระเบิดออกมา สภาวะพลังฉีจากพลังฝึกฝนขอบเขตปฐพีระดับที่ 5 ของเขาทำให้ทุกคนอึดอัด
หลี่ฟู่เฉินกล่าว “ดวงตาของเจ้าช่างมืดบอด ข้าไม่ได้เป็นศิษย์ชั้นใน แต่ข้าเป็นศิษย์หลักของนิกายวารีคราม”
โคจรเทคนิคเพลิงโลกันต์ สภาวะพลังฉีของหลี่ฟู่เฉินก็ถูกระเบิดออกมาเช่นกัน
บูม!
ในขณะที่เป็นสภาวะพลังฉีทั้งสองเข้าปะทะกัน ใบหน้าของเฉินตู่เจียนเห่อเปลี่ยนเป็นซีดและตกใจ “ขอบเขตปฐพีระดับที่ 1 ?”
“ถูกแล้ว เจ้า เจ้าเมืองหมอกเมฆาไม่นับเป็นอะไรเลยในสายตาของข้า ตอนนี้เจ้าเรียกเฉินตู่หลางออกมาได้หรือยัง?!” หลี่ฟู่เฉินกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็น
ทุกคนในที่อยู่ในจวนเมืองเมืองกลายเป็นประหลาดใจ
ศิษย์หลัก?
หลี่ฟูเฉินเป็นศิษย์หลัก
อาศัยอยู่ในแคว้นวารีคราม แน่นอนว่าพวกเขาย่อมเข้าใจสถานะของศิษย์หลัก มันเป็นสถานะที่สูงกว่าเจ้าเมืองและถ้าเฉินตู่เจียนเห่อเป็นท้องฟ้าของเมืองหมอกเมฆาเช่นนั้นหลี่ฟูเฉินก็เป็นท้องฟ้าที่เหนือท้องฟ้านี้ เหล่านักสู้ขอบเขตปฐพีที่กล่าวว่าหลี่ฟู่เฉินหยิ่งผยอง ตอนนี้กลายเป็นหวาดกลัวและไม่กล้าที่จะกล่าวอีกต่อไป
นี่คือความขัดแย้งระหว่างศิษย์หลักและเจ้าเมือง พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปแทรกแซง
สูดหายใจเข้าลึกๆ ยังไงซะเฉินตู่เจียนเห่อก็ยังคงเป็นเจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆา เขาสั่งให้ใครบางคนไป “ไปนำเฉินตู่หลางมาที่นี่”
เขารู้อย่างคร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเฉินตู่หลาง แต่เขาไม่ได้สนใจ หลี่ต๋าเจียงไม่ได้เป็นบุคคลสำคัญในตระกูลหลี่ เขาตายไปแล้ว และเขาได้ส่งยาเม็ดสีเหลืองขั้นสูงไป 5 เม็ดเพื่อชดเชย
มันควรจะเพียงพอที่จะชดเชยสำหรับชีวิตของหลี่ต้าเจียง
เฉินตู่หลางยังไงซะก็เป็นลูกพี่ลูกน้องในสายเลือดและเขาก็ต้องการช่วยชีวิตเขาไว้
“หลี่ฟู่เฉิน ถือซะว่าข้าขอ เรื่องนี้จะถูกตัดสิน สำหรับเฉินตู่หลาง ฉันจะลงโทษเขาอย่างจริงจังและขังเขาไว้หนึ่งเดือน” เฉินตู่เจียนเห่อไม่เต็มใจอย่างยิ่ง เขาผู้ซึ่งเป็นเจ้าเมืองหมอกเมฆาไม่เคยต้องการพูดอย่างสุภาพกับใครคนไหน ในเมืองหมอกเมฆา ไม่มีใครกล้าท้าทายสิ่งที่เขาพูด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องการจะก้มศีรษะลง เขาสาบานว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้กล่าวสิ่งใด
ในเวลาสั้นๆ เฉินตู่หลางก็มาถึง
ด้วยเฉินตู่เจียนเห่อที่สนับสนุนเขา เฉินตู่หลางดูเหมือนจะไม่กลัวเลย และให้ความรู้สึกคลายกับเป็นผู้คนที่มีศีลธรรม
เมื่อเห็นเฉินตู่หลาง หลี่เซียวตี้รู้สึกปั่นป่วน และสายตาถูกย้อมไปด้วยเปลวแห่งความแค้น
“เจ้าคือเฉินตู่หลาง?” หลี่ฟู่เฉินกล่าวถาม
“ใช่ ข้ายอมรับผิด แต่มันไม่ได้เกิดจากความตั้งใจ ยิ่งไปกว่านั้น นางเป็นคนที่ล่อลวงข้าและต้องการที่จะโกงข้าจากความมั่งคั่งที่ข้ามี มีพยานหลายคนในเมืองหมอกเมฆา เจ้าไม่สามารถเชื่อในเรื่องราวของนางได้”
เฉินตู่หลางพยายามอธิบาย
“ตาย!”
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการเสียเวลาโต้เถียงกับเฉินตู่หลาง ดาบของเขาออกจากฝัก ขณะที่แสงดาบถูกส่งไปยังคอของเฉินตู่หลาง
ปิสส!
ศีรษะมนุษย์กระเด็นไปที่น เฉินตู่หลางตกตายลงไปทั่งที่สิ่งต่างๆ ยังไม่แน่นอน
เขาไม่สามารถเข้าใจได้แม้กระทั่งหลังความตาย ทำไมหลี่ฟู่เฉินถึงกล้าฆ่าลูกพี่ลูกน้องของเฉินตู่เจียนเห่อต่อหน้าเฉินตู่เจียนเห่อ นี่มันนอกกฎหรือไม่?
ทุกคนตกตะลึง
แม้แต่กระทั่งหลี่เซียวตี้ก็ตกใจ
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ฟังหรือถาม และก็ฆ่าเฉินตู่หลางเลย?
“การมาสังหารสมาชิกตระกูลหลี่ของข้า ย่อมสมควรตาย” หลี่ฟู่เฉินกล่าวอย่างเฉยเมย