Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 178
บทที่ 178
ผู้อาวุโสนิกายมาเยี่ยมชม
สองสัปดาห์ต่อมา นิกายส่งคนมาสอบสวย
มันเป็นผู้อาวุโสนิกายชั้นใน อาวุโสคัง
อาวุโสคังมาตามคำสั่งของอาวุโสใหญ่ ก่อนที่เขาจะมาที่นี่ เขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลเจ้าเมืองในเมืองหมอกเมฆา ตระกูลเฉินตู่ เขารู้ว่าตระกูลนี้ค่อนข้างดังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รังแกทั้งชายและหญิง รับสินบนและนำผู้เยาว์มารับบาปของตนเอง สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาทำเป็นประจำ
ภายใต้สถานการณ์ปกติ นิกายวารีครามจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกเขา หลังจากทั้งหมดแล้ว ไม่ว่ามันจะเป็นตระกูลอะไร หลังจากกลายเป็นตระกูลเจ้าเมือง พวกเขาจะเปลี่ยนศีลธรรมในตัวไม่ช้าก็เร็ว ตราบใดที่มันไม่ชั่วร้ายหรือมากเกินไป นิกายวารีครามก็สามารถปิดตาข้างหนึ่งและส่งคำเตือนได้
แต่มันไม่ใช่กับครั้งนี้ ณ ขณะนี้ มันเป็นศิษย์หลักระดับทองที่เป็นคนระงับเจ้าเมือง
หากแม้แต่กระทั้งศิษย์หลักระดับทองก็ไม่สามารถทนได้ เช่นนั้นนิกายวารีครามก็ต้องพิจารณาปัญหานี้อย่างจริงจัง
หนึ่งคือเจ้าเมืองของเมืองหมอกเมฆา อีกหนึ่งเป็นศิษย์หลักระดับทอง เห็นได้ชัดว่าใครมีความสำคัญกว่ากัน
ในท้องฟ้าเหนือเมืองหมอกเมฆา เสียงของอาวุโสคังดังขึ้นและได้ยินทั่วทั้งเมือง “ในช่วงเวลาที่เฉินตู่เจียนเห่อเป็นเจ้าเมือง เขาลำเอียงสำหรับกลุ่มคนของเขาเองและอนุญาตให้พวกนั้นกดขี่ข่มเหง จนถึงจุดที่กระทำการปล้นและฆาตกรรม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเจ้าเมือง ตำแหน่งนั้นจะถูกควบคุมโดยผู้นำตระกูลหลี่ชั่วคราว หลี่เทียนฮาน เจ้าเมืองคนใหม่จะได้รับการแต่งตั้งทันทีเมื่อมีความพร้อม”
มีอย่างน้อย 8,000 ไม่ก็ 10,000 นักสู้ขอบเขตปฐพีอยู่ในนิกายวารีคราม การหาเจ้าเมืองที่เหมาะสมนั้นเป็นงานที่ค่อนข้างง่าย
“วันที่ตระเฉินตู่ปกครองเมืองหมอกเมฆาสุดท้ายแล้วก็สิ้นสุดลง”
“หากข้าจำไม่ผิด เฉินตู่เจียนเห่ออยู่ในตำแหน่งนี้มาประมาณ 18 ปีแล้ว”
“ถูกแล้ว ตั้งแต่เฉินตู่เจียนเห่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ตระกูลเฉินตู่ก็ได้รับการสนับสนุนเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลหลักขณะที่เป็นผู้นำของตระกูลใหญ่ทั้งสี่นี้ หลังจาก 18 ปีผ่านไป ตระกูลเฉินตู่ได้ถูกฉีกออกจากม่านอย่างสมบูรณ์ เขาสำเร็จได้เพราะเขาเป็นเจ้าเมือง และก็ล้มเหลวเพราะการเป็นเจ้าเมืองด้วยเช่นกัน”
ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองหมอกเมฆากว่า 200,000 คนกำลังสนทนากัน ในขณะที่พวกเขาได้ยินเสียงของผู้อาวุโสอย่างชัดเจน
***
ตระกูลหลี่
อาวุโสคังมาเยี่ยมหลี่ฟู่เฉินเป็นการพิเศษ
“อาวุโสคัง” หลี่ฟูเฉินอยู่ในสวนของเขา ทักทายอาวุโสคังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หิน
อาวุโสคังหัวเราะ “ตอนนี้ ไม่มีใครสามารถท้าทายตระกูลหลี่ภายในเมืองหมอกเมฆาได้อีกต่อไป ขอแสดงความยินดี”
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “มันคงจะเป็นเรื่องตลกสำหรับอาวุโสคัง แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย หลังจากชำระหนี้กับพวกเขา ข้าเพียงแต่ไล่ล่าเต๋ายุทธ์ต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งหลังจากก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุด”
อาวุโสคังพยักหน้าและกล่าวว่า “เป็นการดีที่เจ้าสามารถละทิ้งความปรารถนาและการหยุดการล่อลวงของทางโลกทั้งหมดเหล่านี้ อัจฉริยะหลายคนสามารถบรรลุระดับที่สูงขึ้น แต่ก็หยุดชะงักต่อสิ่งต่างๆ มากเกินไป จากนั้นพวกเขาก็จะค่อยๆสูญเสียหัวใจที่ของเต๋าแห่งยุทธ์ ผู้ที่สามารถบรรลุศักยภาพอย่างเต็มที่คือผู้ที่สามารถต้านทานการล่อลวงและทนต่อความสันโดษได้”
หลี่ฟูเฉินสงบนิ่งกว่าที่คิด สงบสติอารมณ์ดีที่และไม่ได้ดูเหมือนเด็กอายุ 19 ปี มันราวกับว่าเขาเป็นชายชราผู้ที่มีสติปัญญาในการมองผ่านกฎเกณฑ์ของโลกนี้
จิบชาครั้งนึง อาวุโสคังกล่าว “จงฝึกฝนให้หนักต่อไป ความจริงที่ว่าเจ้าสามารถเป็นศิษย์หลักระดับทองได้นั้นย่อมหมายความว่าเจ้ามีศักยภาพที่สูงมาก แต่อย่าได้นิ่งนอนใจและหยิ่งผยอง ทวีปยูนิคอร์น(มันมาชื่อนี้เลย ค่อยเปลี่ยนทีหลัง)ตะวันออกนั้นกว้างใหญ่มากและสี่ภาคของทั้งสี่นิกายเป็นเพียงส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็ง มันมีแคว้นมากมายหลายแคว้น เช่นเดียวกันภูมิภาคอื่นๆ ถูกควบคุมโดยนิกายอื่นๆ แคว้นร้อยเทพยุทธ์อันแสนวุ่นวาย หรือแม้แต่กระทั่งแคว้นสิบปีศาจที่ปีศาจวิ่งอยู่เต็มไปหมด”
“นักสู้ตามค่าเฉลี่ยสามารถสำรวจทั่วทั้งทวีปยูนิคอร์นตะวันออก 70% จากทั้งหมด บางแคว้นหรือภูมิภาคนั้นหวงห้าม เกี่ยวกับทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แคว้นวารีครามของเราเป็นเพียงแคว้นธรรมดาๆ เพื่อป้องกันตัวเอง เจ้าจะต้องก้าวหน้าต่อไป”
“ในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก มีสงคราม 3 นิกาย กับทุกสงครามนิกาย นิกายจำนวนมากจะต้องเผชิญกับถูกจำกัดโดยไม่มีข้อยกเว้น พวกเขาอ่อนแอและจะเป็นนิกายที่เล็กกว่าเสมอ นิกายวารีครามของเราไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับสงครามนิกาย แต่เราต้องเตรียมการสำหรับสงครามสี่นิกาย”
“ข้าไม่ได้กล่าวทั้งหมดนี้เพื่อกดดันเจ้า ตอนนี้เจ้ายังเป็นเพียงนักสู้ขอบเขตปฐพีและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทวีปยังไม่เกี่ยวข้องสำหรับเจ้า ข้าแค่อยากให้เจ้ารู้ว่าขอบเขตปฐพีเป็นเพียงข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการที่เจ้าจะได้ปกป้องความปลอดภัยของเจ้าเองในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก หากเจ้าต้องเดินทางโดยปราศจากอุปสรรคในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ที่เป็นอยู่นี้ยังไม่เพียงพอ”
อาวุโสคังมาที่นี่โดยอาวุโสใหญ่ เขารับหน้าที่ในการเตือนหลี่ฟู่เฉินให้รักษาจิตวิญญาณต่อสู้อันแรงกล้านี้เอาไว้
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “อาวุโสคัง อย่ากังวลไปเลย ข้าเข้าใจทุกสิ่งที่ท่านกล่าวถึง การเพลิดเพลินกับสิ่งเร้าและการหยิ่งยะโสเป็นสิ่งที่จะไม่เกิดขึ้นกับข้า”
มีเครื่องรางทองคำ วิสัยทัศน์ของเขากว้างกว่าคนอื่นมาก เขาสงสัยว่าเครื่องรางทองคำอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นของโลกนี้และอาจเป็นสมบัติล้ำค่าซึ่งอยู่ในที่อื่นไกล และเพื่อไม่ให้เครื่องรางทองคำด้อยค่าลง วิธีเดียวของหลี่ฟู่เฉินคือการรุดหน้าและก้าวข้ามตัวเองอยู่ตลอด จนกว่าเขาจะเข้าใจความลับของเครื่องรางทองคำได้อย่างเต็มที่
หลังจากคุยกันกว่าสองชั่วโมง อาวุโสคังก็นำตัวเฉินตู่เจียนเห่อและจากไป
เฉินตู่เจียนเห่อยังจัดเป็นบุคคลระดับกลางของนิกายวารีครามได้อยู่เช่นกัน การถูกไล่ออกจากตำแหน่งเจ้าเมืองเป็นการลงโทษที่ร้ายแรง แต่ยังมีงานอื่นที่สามารถจัดการให้เขาทำได้
***
“พ่อ แม่ กิจการของตระกูลสามารถมอบให้ผู้อื่นจัดการได้ ท่านมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำตั้งแต่นี้”
ในวันนี้ หลี่ฟู่เฉินและครอบครัวของเขามารวมตัวกัน
หลี่เทียนฮันถามด้วยความสงสัย “สำคัญ อะไร?”
หลี่ฟู่เฉินดึงถุงเก็บออกมาสามใบแล้วกล่าวว่า “ในถุงเก็บทั้งสามนี้เป็นสมุนไพรและยาเม็ด”
“ถุงเก็บของ?” หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานยืดหลังขึ้น
ถุงเก็บเป็นสิ่งที่พวกเขาเคยแต่ได้ยินเท่านั้น และไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตของพวกเขา
ได้มีการกล่าวกันว่าถุงเก็บหนึ่งใบมีมูลค่าหลายหมื่นเหรียญทอง หากสถานะของใครไม่สูงพอ เจ้ามีเงินแต่ก็จะไม่สามารถซื้อด้วยเหรียญทองได้ เจ้าจะไม่สามารถเอาสิ่งใดมาได้เลย
ยิ่งไปกว่านั้น หลี่ฟู่เฉินยังนำมันมาสามใบในครั้งเดียว มันเกินจริงเกินไป
เปิดถุงเก็บ หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานตกตะลึงอีกครั้ง สมุนไพรทั้งหมดถูกเก็บไว้ในกล่องหยก หลังจากเปิดกล่องใดกล่องหนึ่ง ทุกอย่างภายในเป็นสมุนไพรสีเหลืองขั้นสูงหรือขั้นสูงสุดหมด มีแม้แต่กระทั่งสมุนไพรระดับลึกลับขั้นต่ำ
มันน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่อพูดถึงเรื่องเม็ดยา ขวดยาถูกยกสูงขึ้นและเป็นเม็ดยาสีเหลืองขั้นสูงไม่ก็ขั้นสูงสุดทั้งหมด หากเม็ดยาเหล่านี้ถูกประมูลออกไป พวกเขาจะได้เหรียญทองอย่างน้อย 1 หรือ 2 ล้านเหรียญ ซึ่งเทียบเท่ากับการอดหอยรอมริดของตระกูลหลี่สิบปี
“ฟู่เฉิน เจ้าต้องการสิ่งเหล่านี้มากกว่าเรา เรายอมรับมันมาไม่ได้” หลี่เทียนฮานกล่าว
หลี่ฟู่เฉินส่ายหัว “ข้าได้รับคะแนนสะสม 10 ล้านคะแนนจากเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ ข้าหาทรัพยากรเหล่านี้ได้มากเท่าที่ต้องการ ดังนั้นพวกเท่านไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับข้า”
เมื่อเขาจบประโยค หลี่ฟู่เฉินดึงถุงเก็บอื่นขึ้นมา แต่ตอนนี้เขาเปิดถุงเก็บของส่วนตัว จากนั้นเขาก็หยิบกล่องหยกที่บรรจุสมุนไพรหวดคืนกำเนิดและผลตัดปฐพีออกมา
“พ่อ แม่ นี่คือสมุนไพรหวนคืนกำเนิด มันช่วยให้คท่านสามารถเลื่อนระดับนึงได้อย่างรวดเร็วและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ พ่อ ตอนนี้ท่านอยู่ที่ระดับที่ 7 ของขอบเขตต้นกำเนิด ท่านต้องการสมุนไพรหวดคืนกำเนิดสองต้น เพื่อที่ท่านจะได้ไปถึงระดับที่ 9 ของขอบเขตต้นกำเนิด แม่ ท่านอยู่ในระดับที่ 2 ของขอบเขตต้นกำเนิด ท่านอาจไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับที่ 9 ของขอบเขตต้นกำเนิดได้ในเวลาอันสั้น แต่มันไม่น่าจะมีปัญหาหากเป็นภายในสองสามปีนี้”
สมุนไพรหวนคืนกำเนิดอาจไม่มีผลข้างเคียงใดๆ แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่
ระดับที่เพิ่มไปแล้วครั้งนึงจะสามารถใช้สมุนไพรหวนคืนต้นกำเนิดได้อีกครั้งจะขึ้นอยู่กับร่างกายของบุคคล
หลี่ฟู่เฉินไม่หยุดและเปิดกล่องที่บรรจุผลตัดปฐพีออกมา “นี่คือผลตัดปฐพี เมื่อวันที่ท่านมาถึงจุดสูงสุดของขอบเขตต้นกำเนิด ท่านสามารถทานผลตัดปฐพีนี้เพื่อไปยังขอบเขตปฐพีโดยตรงได้”
ด้วยข้อมูลที่น่าตื่นตะลึงถูกซัดมาทีละอย่างละอย่าง หลี่เทียนฮานและเฉินหยูหยานเกือบเป็นลมและแทบหายใจไม่ออก
แต่ตอนนี้ข้อมูลที่น่าตื่นตะลึงที่สุดก็มาถึง หลี่ฟูเฉินหยิบองุ่นเจ็ดสีเคลือบเงาและเทคนิคบ่มเพาะสีเหลืองขั้นสูงสุดขึ้นมา