Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 180
บทที่ 180
การรับรู้อันรุนแรง
“จิตวิญญาณสีฟ้าอ่อนมีการรับรู้สูงกว่าจิตวิญญาณสีเขียวเพียงไม่กี่เท่า แต่มันก็สามารถช่วยให้ข้าเข้าใจเจตจำนงเงาวายุ เจตจำนงหลอมเหล็ก และเจตนจำลูกไร้เงา?”
เมื่อการรับรู้ของคนๆ หนึ่งก้าวขึ้นมาถึงระดับนึง มันอาจอนุญาตให้คนหนึ่งรับรู้ถึงเจตจำนงของทักษะยุทธ์ได้
อย่างแรกคือเจตจำนงเงาวายุ(ย่างก้าวเงาวายุ)และเจตจำนงลูกเตะไร้เงา
ทั้งสองเจตจำนงเกี่ยวข้องกับลมซึ่งสามารถเติมเต็มซึ่งกันและกันได้
บนรอบภูเขาที่กว้างขวาง ร่างกลายเป็นว่างเปล่าขณะที่เงาเคลื่อนตัวไปทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว
เป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายความรวดเร็วนี้
ดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าลม คล่องแคล้วว่องไวประดุจนก และในขณะที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบๆ ก็ไม่มีแม้แต่เสียงหรือการคงอยู่ใดๆ เขาเร็วประดุจสายฟ้าฟาด
“เมื่อเจตจำนงเงาวายุรวมกับเจตจำนงลูกเตะไร้เงา ความเร็วของข้าก็เหนือกว่าท่าร่างศักดิ์สิทธิ์และความคล่องตัวก็เพิ่มขึ้นอีกสองสามเท่าเช่นกัน”
ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์มีประโยชน์อย่างมากและรวดเร็วในตอนที่เขาใช้มันเพื่อสำรวจดินแดน แต่ความเร็วของมันสำหรับเส้นทางตรงเท่านั้น สำหรับเจตจำนงเงาวายุและเจตตำนงลูกเตะไร้เงาที่มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางโค้ง มันก็ไปถึงจุดสุดยอดและเกินขีดความสามารถปกติของมนุษย์ปถุชนธรรมดา
ใบไม้ที่กำลังลอยอยู่
หลี่ฟูเฉินเหยียบใบไม้เบาๆ กลางอากาศ ในขณะที่เขาโลดเล่นไปพร้อมกับมัน
“แม้ว่าการยกระดับโคนงกระดูกจะช่วยเพิ่มคุณสมบัติทั้งหมดของข้า แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการรับรู้ ดูเหมือนว่าจะมีประโยชน์ไม่มากนัก”
เมื่อการรับรู้ของคนๆ มีแค่ระดับดี มันก็ไม่น่ากลัวแต่อย่างใด แต่ถ้าการรับรู้ของใครเกินมากกว่านั้น มันจะกลายเป็นความน่าหวาดกลัว
เมื่อไม่มีปัญหาใดๆ ในการเข้าใจทักษะต่อสู้ มันเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์ มันเหมือนกับว่าท่านสามารถสัมผัสถึงความลับของสวรรค์และโลกได้
หลังจากเข้าใจเจตจำนงเงาวายุและลูกเตะไร้เงา ตอนนี้มันก็ถึงเวลาของเจตจำนงหลอมเหล็กแล้ว
เจตจำนงหลอมเหล็กเกี่ยวข้องกับไฟ
ในขั้นสุดท้าย ฝ่ามือหลอมเหล็กสามารถหลอมเหล็กและแร่ที่เป็นโลหะได้ หลี่ฟูเฉินไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงชนิดจะเกิดขึ้นเมื่อมีเจตจำนงหลอมเหล็กเพิ่มเข้ามา
เพื่อทำความเข้าใจเจตจำนงหลอมเหล็ก หลี่ฟูเฉินจึงนำเตาหลอมมาที่นี่โดยเฉพาะ เขาโยนถ่านเข้าไปแล้วก็จุดไฟ
บิสส!
เมื่อไฟเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันก็เริ่มแตกออกและเปลี่ยนตนเองเป็นประกาย
“ไฟ มันต้องการเชื้อเพลิงในการเผาไหม้ หากแหล่งเชื้อเพลิงเพียงพอ เปลวไฟก็สามารถรุนแรงขึ้นได้อีก ความรุนแรงของไฟสามารถเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด แต่ก็จำเป็นต้องมีแหล่งเชื้อเพลิงเพื่อที่จะรักษาความมั่นคงนั้นไว้ได้”
หลี่ฟู่เฉินแบมือขวาของเขาและถ่ายพลังฉีเพลิงโลกันต์แท้จริงลงบนฝ่ามือของเขา ในขณะที่เขาบีบอัดมันอย่างต่อเนื่อง
อากาศที่อยู่เหนือตัวหลี่ฟู่เฉินค่อยๆ บิดเบี้ยว
ช่วงเวลาต่อมา เปลวไฟสีเขียวก็ปรากฏออกมา ขณะที่มันปกคลุมฝ่ามือของหลี่ฟู่เฉิน
หาไม้สักชิ้น หลี่ฟู่เฉินใช้มือขวาจับมัน
ในพริบตา ไม้ถูกไฟเผาและกลายเป็นเถ้า
หลี่ฟู่เฉินหยิบชิ้นส่วนของโลหะสีเหลืองขั้นสูงสุดออกมาจากถุงเก็บของเขาและถือไว้
ในช่วงเวลาสั้นๆ โลหะเริ่มละลายและหยดเหลวของโลหะก็ตกลงมา
“พลังทำลายล้างมากมายอะไรเช่นนี้” หลี่ฟูเฉินประหลาดใจกับพลังทำลายล้างของเจตจำนงหลอมเหล็ก
เขาประหลาดใจกับพลังการทำลายล้างของเปลวเพลิง
เหตุผลที่เจตจำนงฝ่ามือหลอมเหล็กสามารถที่จะมีพลังเช่นนี้ได้ก็เนื่องจากพลังฉีเพลิงโลกันต์แท้จริง ก็ในเมื่อทักษะทั้งสองนี้มีทักษะวิชาประเภทความร้อนเช่นเดียวกัน
แสงเพลิงส่องเข้ามาในดวงตาของหลี่ฟู่เฉิน ขณะที่เขาเริ่มนำเจตจำนงเพลิงแดงรวมเข้ากับเจตจำนงหลอมเหล็ก
บิสส!
เปลวเพลิงสีเขียวเริ่มเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงสีเขียวเข้ม ชิ้นส่วนของไม้ที่สัมผัสกับเปลวเพลิงสว่างขึ้นทันทีและเพียงอึดใจเดียว มันก็กลายเป็นขี้เถ้า
ถือแร่ไว้ มันละลายเร็วมากแม้แต่กระทั่งดวงตาของมนุษย์ธรรมดาก็สามารถมองเห็นว่าหลอมเหลวคล้ายลาวาที่หลอมละลาย
“หลอมเหล็กด้วยมือปล่าว ข้าสงสัยว่าอาวุโสที่ทำอาวุธจะหลอมเหล็กด้วยวิธีเช่นนี้หรือไม่”
นิกายวารีครามเป็นนิกายที่ยึดมั่นในเต๋าแห่งดาบ และดาบเองก็ถูกสร้างขึ้นจากโถงทำอาวุธด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดาบของเหล่าศิษย์หรือดาบของผู้ดูแลหรือผู้อาวุโส พวกมันทั้งหมดก็ถูกสร้างขึ้นที่โถงทำอาวุธ แน่นอน นอกเหนือจากผู้อาวุโสที่ทำอาวุธ ก็มีศิษย์หลายคนที่ทำอาวุธอยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับดาบสมบัติทุกชิ้นที่พวกเขาปรับแต่งขึ้นมา พวกเขาจะได้รับการตอบแทนด้วยคะแนนสะสมตามคุณภาพของดาบ
ด้วยการรับรู้ที่แข็งแกร่งดังที่มี หลี่ฟูเฉินจึงไม่ต้องการให้มันถูกปล่อยร้างเอาไว้
***
หนึ่งเดือนต่อมา
จำนวนดาบทักษะดาบสีเหลืองที่หลี่ฟู่เฉินบรรลุถึงขั้นภวังค์ในตอนนี้มีทั้งหมด 350 เล่ม
เป็นทักษะดาบสีเหลืองขั้นต่ำ 100 เล่ม ขั้นกลาง 100 เล่ม ขั้นสูง 100 เล่ม ขั้นสูงสุด 50 เล่ม
ด้วยความเข้าใจต่อเต๋าแห่งดาบที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยะสำคัญของเขา มันจึงช่วยเสริมสร้างการรับรู้ต่อดาบของหลี่ฟู้ฉินอย่างมาก
ในเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ หลี่ฟู่เฉินบรรลุขั้นภวังค์ของทักษะดาบลึกลับขั้นต่ำวิชาดาบทยานนภาและเข้าใจเจตจำนงดาบทะยานนภา
อีก 5 วันต่อมา วิชาดาบทยานเมฆาลึกลับขั้นต่ำก็มาถึงขั้นภวังค์พร้อมๆ กับเจตจำนงแห่งดาบทะยานเมฆา
จากนั้นมันก็เป็นเจตจำนงดาบตะวัน เจตจำนงดาบเพลิงเด่น และเจตจำนงดาบปฐพีเหือดแห้ง
หลังจากกลับมาที่นิกายเป็นเวลาสองเดือน หลี่ฟู่เฉินได้เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบทั้งหมดเจ็ดเจตจำนง
ในเวลาเดียวกัน เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินก็ก้าวหน้าจากระดับที่ 13 ขั้นไปยังระดับที่ 14 และมุ่งหน้าไปยังระดับที่ 15 อย่างต่อเนื่อง
“ถึงเวลาที่ต้องแลกทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง”
ทักษะดาบลึกลับขั้นกลางนั้นยากที่จะเข้าใจ แม้แต่กระทั่งนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับสูงเองก็ตาม และท่ามกลางศิษย์หลักของนิกายวารีครามเอง มีบุคคลน้อยกว่าสิบคนที่เข้าใจเจตจำนงแห่งดาบของทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง ในหมู่พวกนั้นมีเพียงดาบคลั่ง ดาบพยัคฆ์ ดาบไร้อารมณ์ และอื่นๆ
***
มาถึงที่ห้องโถงทักษะ หลี่ฟู่เฉินเริ่มเลือกทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง
“วิชาดาบธารภูผา สภาวะพลังแห่งดาบที่แข็งแกร่ง”
“วิชาดาบเมฆาขาว เคร่งขรึมและไร้สภาวะอารมณ์”
“วิชาดาบเก้าโคจร หมุนเก้าครั้งในแต่ละดาบ”
“วิชาดาบโคจรเลื่อนไหล สภาวะพลังดาบที่ชั่วร้าย”
“วิชาดาบเพลิงดาวตก หนึ่งดาบต่อหนึ่งเพลิงดาวตก”
……
ทักษะดาบลึกลับขั้นกลางมีมูลค่าคะแนนสะสมอย่างน้อย 30,000 คะแนนต่อเล่ม ครึ่งหนึ่งของราคานั้นหมายความว่าประมาณ 1 ถึง 2 หมื่นคะแนน หลี่ฟู่เฉินมีคะแนนสนับสนุน 10 ล้านคะแนน เขาจึงไม่ได้สนใจกับสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้
เขาตระหนักได้ว่าทักษะดาบสองสามเล่มนั้นค่อนข้างเหมาะสำหรับตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะแลกมันมาเพิ่มเติม
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่ฟู่เฉินเลือกทักษะดาบสามเล่ม ทักษะดาบเก้าโคจร ทักษะดาบโคจรเลื่อนไหล และทักษะดาบเพลิงดาวตก
เมื่อผู้อาวุโสในห้องโถงสังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉินเลือกสามทักษะดาบขั้นกลางมาถึงสามเล่ม เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและคิด ‘เด็กหนุ่มผู้นี้ใช่หยิ่งยะโสและโลภเกินไปหรือไม่?’
เขารู้ว่าหลี่ฟู่เฉินคือใคร แต่ในมุมมองของเขา มันก็ดี หากว่านักสู้ขอบเขตปฐพีสามารถฝึกฝนวิชาดาบลึกลับขั้นกลางไปจนถึงขั้นภวังค์ได้ แต่เพื่อฝึกฝนทั้งสามนี้ ไม่ได้หมายความว่าเวลาที่ต้องใช้จะเพิ่มขึ้นสามเท่า แต่ที่ต้องใช้อย่างน้อยๆ ก็สิบเท่า
ส่ายหัวของเขา ผู้อาวุโสไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด
ศิษย์หลักระดับทองทุกคนนั้นดื้อรั้น เมื่อพวกเขาตั้งมั่นกับบางสิ่ง ก็ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนใจพวกเขาได้แล้ว
ถือวิชาดาบสามเล่ม หลี่ฟูเฉินกลับไปที่ลานบ้านของเขาเอง
หลังจากที่คิดไปมา เขาตัดสินใจที่จะศึกษาวิชาดาบเพลิงดาวตกเป็นอันแรก
วิชาดาบนี้เกี่ยวข้องกับไฟและน่าจะง่ายกว่าสำหรับการทำความเข้าใจ
ระหว่างการฝึกฝนของเขา หลี่ฟูเฉินคิดว่าทักษะดาบก็เป็นยังทักษะดาบอยู่ดี เกี่ยวกับความสามารถในการสังหาร เทคนิคบ่มเพาะย่อมไม่สามารถเปรียบเทียบได้
แม้ว่าเขาจะมาถึงระดับสูงสุดของเทคนิคเปลวเพลิงลี้ลับแล้ว และยังเข้าใจเจตจำนงเพลิงแดงอีก
แต่หลี่ฟูเฉินก็รู้สึกว่าหากเขาสามารถเข้าใจเจตจำนงแห่งดาบเพลิงดาวตกได้ พลังอำนาจของมันอาจมากกว่าเจตจำนงเพลิงแดงหลายเท่า
วิชาดาบเพลิงดาวตกเป็นวิชาดาบที่ดุดัน รุนแรง มากเสียยิ่งกว่าวิชาดาบดาวตก
วิชาดาบดาวตกพุ่งเข้าไปเพื่อเจาะทะลวง ในขณะที่วิชาดาบเพลิงดาวตกพุ่งเข้าไปเพื่อทำลายล้างสังหารในครั้งเดียว
เพลิงดาวตกหนึ่งดาบก็เพียงพอที่จะกำจัดศัตรู ไม่ว่าเกราะป้องกันพลังฉีหรือเทคนิคปรับแต่งร่างกาย มันจะกลายเป็นกระดาษเมื่ออยู่ต่อหน้าวิชาดาบเพลิงดาวตก
แต่เฉพาะผู้ที่ฝึกฝนเทคนิคประเภทความร้อนเท่านั้นถึงจะสามารถฝึกฝนวิชาดาบเพลิงดาวตกได้