Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 188
บทที่ 188
วิกฤต
ด้วยจิตวิญญาณที่เป็นสีฟ้าอ่อนของเขาตอนนี้ มันทำให้การรับรู้ของหลี่ฟู่เฉินมีมากเกิดจนถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของเขาเพิ่งทะลุระดับ 14 ตอนนี้มันแสดงสัญญาณของการทะลุระดับที่ 15 แล้ว
ในฐานะที่เป็นเทคนิคลึกลับขั้นสูงสุด โดยปกติจะใช้เวลานานมากสำหรับการพัฒนาในแต่ละระดับของเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง การตัดผ่าน 1 ระดับได้ในทุกๆ ปีก็ถือว่าเร็วมากแล้ว แต่การตัดผ่านได้ภายในไม่กี่เดือน มันผิดธรรมชาติเกินไป
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า หลี่ฟู่เฉินนั่งอยู่ท่ามกลางมัน
ในร่างกายของเขา เทคนิคเพลิงโลกันต์โคจรอย่างรวดเร็ว ขณะที่มันดูดซับร่องพลังฉีประเภทร้อนจากสวรรค์และโลก
เทคนิคบ่มเพาะจำเป็นต้องดูดซับพลังฉีด้วยเช่นกัน แต่มันก็สามารถก้าวหน้าได้เพียงเล็กน้อย คุณภาพสมควรเน้นมากกว่าปริมาณ
เมื่อจิตทั้งห้าถูกเพ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเหมือนมีดวงอาทิตย์อยู่จุดพลังฉีเหนือสะดือของเขา นอกจากนี้เขายังรู้สึกได้ถึงดวงอาทิตย์บนท้องฟ้าด้วยเช่นกัน ดวงอาทิตย์ทั้งสองสะท้อนไปมาอย่างพร้อมเพรียง มันก่อเกิดสัมพันธ์อันลึกลับขึ้นมา
(หมายเหตุ 1 : จิตทั้งห้าหมายถึง จิตตรงฝ่ามือทั้งสอง เท้า และส่วนบนของหัว)
(หมายเหตุ 2 : จุดพลังฉีเหนือสะดือ = ตันเทียน ห่างออกไป 2 นิ้วคือที่ๆ จุดพลังฉีเหนือสะดืออยู่)
ทักษะต่อสู้ทุกประเภท รวมถึงเทคนิคบ่มเพาะ ทุกอย่างของพวกมันมีความลึกลับของสวรรค์และโลกซ่อนอยู่ บ้างมีจำนวนน้อย ขณะที่บ้างที่จำนวนมาก ยิ่งทักษะระดับสูงมากขึ้น ความลึกลับของสวรรค์และโลกที่อยู่ในมันก็ยิ่งมากขึ้นตามเช่นกัน
ในตำนานเล่าว่าเมื่อเราฝึกฝนทักษะต่อสู้ไปจนถึงระดับสวรรค์ไปจนถึงจุดสูงสุด เจตจำนงที่สร้างขึ้นสามารถรบกวนวิธีแห่งสวรรค์และโลกที่กำเนิดอยู่รอบๆ ตัวได้
แต่ไม่มีใครเคยเห็นสิ่งที่กล่าวถึงในตำนาน
แต่เมื่อทักษะต่อสู้ระดับปฐพีถูกฝึกฝนจนถึงขีดจำกัด เจตจำนงก็จะหลุดพ้นออกจากทักษะต่อสู้ และกลายเป็นตัวตนที่โดดเดี่ยว มันสามารถใช้เจตจำนงนั้นเพื่อสังหารได้
ในหลุมฝังศพของนักสู้ที่แท้จริงเจตจำนงของพวกเขาจะถูกทิ้งไว้ เมื่อใดก็ตามที่มีผู้บุกรุก พวกเขาจะได้รับการโจมตีจากเจตจำนง โดยส่วนใหญ่ 9 ใน 10 ของผู้บุกรุกจะตกตายลงไปจากการโจมตีของเจตจำนง
ยิ่งไปกว่านั้น เจตจำนงที่แตกต่างผลลัพธ์ที่เกิดก็ย่อมแตกต่าง
เจตจำนงบางเจตจำนงก็มีลักษณะที่ก้าวร้าว ขณะที่บางเจตจำนงที่นุ่มนวล
ยกตัวอย่างเช่น หากทางเข้าสุสานมีเจตจำนงประเภทนุ่มนวลเป็นสิ่งต้านรับ ผู้ที่มีความสามารถไม่เพียงพอก็ไม่สามารถเข้าไปได้
แม้ว่าเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงจะไม่ใช่เทคนิคระดับปฐพี แต่มันก็ใกล้เคียงยิ่ง และเจตจำนงเทคนิคนั้นดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า
ขณะที่ดวงอาทิตย์ขนาดเล็กๆ ในจุดพลังฉีเหนือสะดือโคจรไปรอบๆ เปลวเพลิงก็ถูกจุดขึ้น
เจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงตอนนี้เป็นเพียงเจตจำนงที่มีรูปแบบอันเรียบง่ายและไม่ได้เป็นเจตจำนงที่สมบูรณ์ เมื่อนักสู้ศึกษาเทคนิค พวกเขาต้องศึกษาเจตจำนง และค่อยๆ เสริมพลังเพื่อเลื่อนระดับเทคนิค
ในวันหนึ่งที่เทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินทะลุถึงระดับที่ 21 เจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างแน่นอน บางที เขาอาจจะสามารถใช้เจตจำนงเทคนิคเพื่อสังหารได้
เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน หลี่ฟู่เฉินก็ค่อยๆ หยุดโคจรเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของเขาอย่างช้าๆ ขณะที่ไอร้อนพลังฉีถูกคายออกมาจากปากของเขา
วันถัดไป หลี่ฟูเฉินยังคงฝึกฝนเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น
ในบ่ายวันที่สาม…
ดวงอาทิตย์ในวันนี้ช่างเลวร้ายยิ่ง ดูเหมือนราวกับว่ามันจะพร้อมที่จะเผาผลาญโลกทั้งใบให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ดวงอาทิตย์ขนาดเล็กในจุดพลังฉีเหนือสะดือของหลี่ฟู่เฉินโคจรด้วยความเร็วสูง เนื่องจากเปลวเพลิงได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองวันที่ผ่านมามาก
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด หลี่ฟู่เฉินรู้สึกเพียงแค่ว่าจุดเหนือสะดือของเขาและเส้นชีพจรมีอาการปวดแสบปวดร้อน ในช่วงเวลาต่อไป เทคนิคเพลิงโลกันต์ก็ปะทุขึ้น คลื่นความร้อนพลุ่งพล่านออกมาจากแกนกลางตันเถียนของหลี่ฟู่เฉิน มันแพร่กระจายออกไปๆ รอบๆ ตัวเขา เผาพื้นดินจนแตกระแหง
“ในที่สุดข้าก็ตัดผ่านสำเร็จ?” หลี่ฟู่เฉินรู้สึกยินดีอย่างมาก
ระดับที่ 15 ของเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงนั้นแข็งแกร่งอย่างผิดปกติ ใช้สติของเขาเพื่อสัมผัสกับดวงอาทิตย์เล็กๆ ในจุดพลังฉีเหนือสะดือ เขาเห็นว่าตอนนี้มันสว่างกว่าแต่ก่อนมาก มันดูคล้ายกับลูกบอลลาวา
เมื่อเขาใช้สติรู้สึกถึง เขาสามารถรู้สึกถึงความร้อนจากมันได้
“เมื่อครู่ข้ารู้สึกเหมือนกับว่าจุดพลังฉีเหนือสะดือและเส้นชีพจรของข้าเกือบแตกร้าว ดูเหมือนว่าระดับการฝึกฝนของข้าต่ำเกินไป”
เพื่อก้าวหน้าในเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง นั้นก็หมายความว่าเส้นชีพจรของคนๆ หนึ่งอาจถูกเผาไหม้ได้ เฉพาะผู้ที่มีร่างกายที่แข็งแกร่งหรือระดับการฝึกฝนสูงส่งเท่านั้นถึงจะที่สามารถเลื่อนระดับได้อย่างราบรื่น
ความแข็งแกร่งทางกายภาพของหลี่ฟู่เฉิน พิจารณาได้ว่าเป็นอันดับต้นๆ ในนิกายวารีคราม หลังจากทั้งหมดแล้ว เทคนิคขัดเกลาร่างกายที่ดีที่สุดของนิกายวารีครามก็เป็นเพียงทักษะลึกลับขั้นสูง
แต่ระดับการฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินต่ำเกินไป หากเป็นนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับที่ 1 คนอื่น พวกเขาถูกเผาเมื่อพวกเขาก้าวขึ้นสู่ระดับที่ 15 ของเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง
แน่นอน ว่ามีบุคคลเช่นนั้นจำนวนไม่มาก ระดับการรับรู้เช่นหลี่ฟู่เฉินจะมีซักกี่คน?
‘หวังว่าดอกเพลิงเยือกแข็งที่เก็บไว้ จะพาข้าก้าวเข้าสู่ระดับที่ 17 ได้ เมื่อข้าเข้าสู่ระดับที่ 16 ข้าจะต้องอดทนกับมันช่วงเวลานึง’
หลี่ฟูเฉินได้รับดอกเพลิงเยือกแข็งในระหว่างการเดินทางอยู่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ ดอกไม้ดอกนี้สามารถช่วยในผู้ที่ฝึกฝนเทคนิคประเภทร้อนหรือเทคนิคเยือกแข็งได้ มันอนุญาตให้ผู้ฝึกฝนก้าวหน้าในเทคนิคหนึ่งระดับโดยไม่ทำอันตรายต่อเส้นชีพจรแต่อย่างใด
หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาหากพึ่งพาร่างกายของเขาตัดผ่านเข้าสู้ระดับที่ 16 หลังจากทั้งหมดแล้ว มันจะเจ็บปวดเล็กน้อยเพียงแค่ตอนที่เพลิงลุกไหม้
เมื่อเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงทะลุระดับที่ 15 เจตจำนงเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินจึงเติบโตขึ้นมาก ด้วยเจตจำนงเทคนิคที่ก้าวหน้าของเขา ขอควดในด้านพลังฝึกฝนของเขาจึงหายไป นั่นหมายความว่าหลี่ฟูเฉินสามารถพัฒนาสู่ขอบเขตปฐพีระดับที่ 2 ในในทันที
‘แน่นอนว่านี่คือผลลัพธ์แบบต่อเนื่อง!’
หลี่ฟูเฉินไม่รีบเร่งในการตัดผ่าน ก็ในเมื่อเขาตั้งใจที่จะรักษาเสถียรภาพของเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงระดับที่ 15 ให้ได้เสียก่อน
***
สองวันต่อมา…
หลี่ฟู่เฉินสูดลมหายใจนำอากาศเข้าปอด และเตรียมพร้อมที่จะตัดผ่านเข้าสู่ขอบเขตปฐพีระดับที่ 2
ด้วยเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงที่ถูกโคจร พลังงานจำนวนมากของสวรรค์และโลกถูกพลังฉีบีดอัดให้แน่นขึ้น
มันพยายามทำให้พายุจิตวิญญาณพลังฉีก่อตัว
‘ในตอนนี้ข้าต้องใช้เม็ดยา’
สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ พลังงานพลังฉีจากสวรรค์และโลกหายากและไม่สามารถสร้างพายุทอร์จิตวิญญาณพลังฉีได้
หลี่ฟูเฉินจะไม่สามารถตัดผ่านไปสู่ระดับที่ 2 ของขอบเขตปฐพีได้โดยการแค่ดูดซับพลังงานพลังฉี เขาสามารถตัดผ่านได้ก็ต่อเมื่อเขาบริโภคและใช้ประโยชน์จากยาจากเม็ดยา
บริโภคเม็ดยาสีเหลืองขั้นสูงสุด หลี่ฟูเฉินโคจรเทคนิคของเขาเพื่อดูดซับผลของยา
หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ หลี่ฟู่เฉินบริโภคเม็ดยาสีเหลืองขั้นสูงสุดอีกเม็ด
ภายในเวลาเพียงสองชั่วโมง หลี่ฟู่เฉินใช้เม็ดยาสีเหลืองขั้นสูงสุดไปแล้วกว่า 5 เม็ด มันจะมีค่า 50,000 คะแนน
โชคยังดี ที่ความมั่งคั่งที่หลี่ฟู่เฉินมีนั้นเกินพอ
***
หลายพันเมตรขึ้นไปบนท้องฟ้า อสูรวิญญาณระดับ 2 เหยี่ยวทะยานเมฆาร่อนอยู่บนมัน
ที่ด้านหลังของเหยี่ยวทะยานเมฆา เป็นนักสู้ขอบเขตปฐพีที่ยืนอยู่ จากลักษณะของอาภรณ์ของเขา เห็นได้ชัดว่าเขามาจากนิกายวารีคราม
นี่เป็นสายลับจากสาขาที่เจ็ด พวกเขาเชี่ยวชาญในการสอดแนมสถานการณ์โดยรอบ
เหตุผลที่สาขาสมาคมมือปีศาจถูกกำจัดลงก็เพราะพวกเขาไม่มีอสูรประเภทอากาศ ทักษะฝึกฝนอสูรนั้นใช้ได้เฉพาะกับนิกายเท่านั้น มันเป็นพลังพื้นฐานของนิกายด้วยเช่นกัน ด้วยการอาศัยการขี่ม้าหรือการเดินเท้า ข้อมูลจะไม่ถูกส่งต่อจนกว่าศัตรูจะเข้ามาปะทะ
สายลับผู้นี้กินผลไม้บางอย่าง ในขณะที่สุ่มดูด้านล่าง
“หืม?”
จากความสูงหลายพันเมตร สายลับผู้นั้นเห็นคลื่นสีดำพุ่งเข้ามาหาทิศทางของสาขาที่เจ็ด
“นั้นคือ… ศัตรู!”
สายลับผู้นั้นตกใจ เขาควบคุมเหยี่ยวทะยานเมฆาให้พุ่งขึ้นที่สูงกว่าเดิม ขณะที่เขาเตรียมที่จะหันหลังกลับเพื่อถ่ายทอดข้อความ
“ตาย!”
ขณะนี้เอง ชายเสื้อคลุมสีดำปรากฏตัวขึ้นจากท้องฟ้าเบื้องบนและส่งฝ่ามือของเขาไปที่สายลับผู้นั้น
มันเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์
ปิสส!
สายลับผู้นั้น และเหยี่ยวทะยานเมฆาล่วงลงไปพร้อมกัน
ชวู! บูมม!
ดอกไม้ไฟสีแดงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและระเบิดออก มันโดดเด่นสะดุดตา
ชายเสื้อคลุมสีดำขมวดคิ้ว เขาเข้ามาสังหารอย่างรวดเร็ว แต่ใครจะรู้ว่าเป้าหมายก็ยังสามารถส่งสัญญาณออกไปได้
“ไม่สำคัญ ยังมีอีกครึ่งวันก่อนที่เราจะไปถึงสาขาที่เจ็ด ไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเรากำลังไป” ชายเสื้อคลุมสีดำอีกคนปรากฏตัวขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูอันตราย
***
สาขาที่เจ็ด…
“ท่านผู้บัญชาการสาขา มีบางคนใช้สัญญาณไฟแดง” สายลับอีกคนวิ่งเข้ามาในห้องประชุม
“สัญญาณไฟสีแดง…”
หน้าของหวังกานซีดเผือก หากสัญญาณไฟแดงถูกใช้ออกมา นั้นหมายความว่าศัตรูกำลังบุกรุก
“ส่งคำสั่งของข้าออกไป ทุกคนมุ่งหน้าไปยังสาขาที่หกทันที” เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตและความตายของสมาชิกสาขาที่เจ็ดทั้งหมด หวังกานไม่เห็นแก่ตัวมากพอที่จะอยู่ที่นี่และรอให้ศัตรูเข้ามาล้อมรอบพวกเขา