Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 189
บทที่ 189
การหลบหนีครั้งใหญ่
คำสั่งอพยพออกมาอย่างกะทันหัน ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ทุกคน
หากต้องการให้สาขาที่เจ็ดย้ายไปยังที่พำนักในนิกายวารีคราม นั่นแสดงให้เห็นว่าศัตรูน่ากลัวเพียงใด
‘ต้องเป็นศูนย์บัญชาการของสมาคมมือปีศาจที่มาแก้แค้น!’ หลี่ฟู่เฉินคาดเดา
ในฐานะที่เป็นองค์กรเต๋าปีศาจหนึ่งในสิบของแคว้นวารีคราม สมาคมมือปีศาจจึงนับเป็นองค์กรที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ด้วยพลังทั้งหมดของสมาคมมือปีศาจ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สาขาที่เจ็ดจะต้องล่าถอย หากถูกคุกคาม
มันจะโอหังเกินไปหากที่จะไปดูแคลนพลังของสมาคมมือปีศาจ
ความแข็งแกร่งโดยรวมขององค์กรเต๋าปีศาจอาจไม่ได้ด้อยไปกว่านิกายวารีคราม
องค์กรเต๋าปีศาจที่แข็งแกร่งบางองค์กรอาจมีพลังในการเอาชนะนิกายได้
แต่พวกเขาไม่สามารถแสดงความอาจหาญได้อย่างเปิดเผยและทำได้เพียงแต่ซ่อนเร้นอยู่ในความมืด หากพวกเขากล้าแสดงกำลังทหารอย่างเปิดเผย พวกเขาจะถูกโจมตีจากนิกายหลากหลายทันที เช่นเดียวกับนิกายหมัดปีศาจในอดีต
หากองค์กรเต๋าปีศาจอ่อนแอ่และมีขนาดเล็กเกินไป พวกเขาก็จะถูกลบล้างโดยองค์กรเต๋าปีศาจอื่นๆ ในแคว้นวารีคราม พวกเขาจะไม่อนุญาตให้องค์กรขนาดเล็กได้รับประโยชน์ในขณะที่พวกเขาเป็นคนถูกกำหนดเป้าหมาย
สมาชิกทั้งหมดจากสาขาที่เจ็ดขี่ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 และควบม้าไปยังสาขาที่หกทันที
ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกทั้งหมด ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 เป็นสัตว์ที่ดีที่สุดในการเดินทางภาคพื้นดิน ทุกนิกายจะทำให้ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 เชื่องอย่างน้อยหมื่นตัว สำหรับม้าเลือดปีศาจระดับ 1 พวกมันมีความหมายสำหรับนักสู้ทั่วไปสำหรับการที่ใช้เป็นพาหนะ
ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 สามารถเดินทางด้วยความเร็วแบบไม่หยุดพักและมีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งทั้งยังรักษาความเร็วสูงสุดได้ดี
แต่ไม่ว่าม้าเลือดปีศาจระดับ 2 จะวิ่งได้เร็วแค่ไหนก็ตาม มันก็ไม่สามารถเอาชนะความเร็วในการบินของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ได้
นักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ห้าคนปิดกั้นเส้นทางสาขาที่เจ็ด
ตอนนี้ สาขาที่เจ็ดมีนักสู้ขอบเขตสวรรค์อยู่เพียงแค่สามคนเท่านั้น
หนึ่งในนั้นคือผู้บัญชาการสาขา หวังกาน อีกสองคนเป็นรองผู้บังบัญชาสาขา
ยิ่งไปกว่านั้น ในห้านักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ หนึ่งในนั้นเป็นระดับกลางจริงๆ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่ระดับ 4 ของขอบเขตสวรรค์ นั้นก็ถือได้ว่าเป็นระดับกลาง
“พวกเจ้าทุกคนรีบไป และอย่ามองย้อนกลับมา!” หวังกานคำราม
นี่คือวิกฤตชีวิตและความตาย อย่าได้คิดถึงการช่วยคนอื่น มันคงดีมากแล้วหากเจ้าสามารถช่วยตัวเองได้ แน่นอน ในฐานะผู้บัญชาการสาขา เขาไม่สามารถหนีได้ มีศิษย์หลักสิบคนอยู่ที่สาขาที่เจ็ด หากการหลบหนีของเขาจะส่งผลให้ศิษย์หลักทั้งหมดถูกจำกัด เบื้องบนของนิกายวารีครามจะไม่ลงโทษเขา แต่ตระกูลเขาทั้งตระกูลจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นแทน
“ชดใช้มาซะ!”
หลี่ฟู่เฉินกระแทกท้องม้าอย่างแรง ทำให้ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 เร่งความเร็วจนถึงระดับสูงสุด
ที่ด้านข้างของเขาคือเซียงเทียนเชียงและศิษย์หลักคนอื่นๆ
หลี่ฟูเฉินไม่กล้าใช้เทคนิคตัวเบาเพื่อหลบหนี ก็ในเมื่อเขากลัวว่ามันอาจดึงดูดความสนใจเอาได้ คนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้จะเป็นคนแรกที่ตาย
“เมื่อเราไปถึงสาขาที่หกจะยังมีโอกาสรอดอยู่ เวรเอ้ย นักสู้เต๋าปีศาจเหล่านี้อวดดีเกินไป!” หนึ่งในศิษย์หลักสถบและสาปแช่ง
“ฮึ่ม คอยดูเถอะ! หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้ นิกายจะต้องโกรธจัดและส่งนักสู้ขอบเขตสวรรค์จำนวนมากออกไปเพื่อกำจัดองค์กรเต๋าปีศาจ” ศิษย์หลักอีกคนหนึ่งกล่าวด้วยสีที่มืดมน
หลี่ฟู่เฉินมองดูพวกเขาและคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที จากนั้นเขาก็จงใจเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขากับตัวเขาเอง
เซียงเทียนเชียงเองก็ค่อนข้างมีไหวพริบอยู่เช่นกัน เมื่อเห็นว่าหลี่ฟูเฉินจงใจเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขา เขาทำสิ่งเดียวกัน
บูม!
พลังฉีอันรุนแรงดั่งเช่นพายุที่น่าหวาดกลัวที่สุดลงมายังกลุ่ม นักสู่ขอบเขตปฐพี 8 คนและนักสู้ขอบเขตต้นกำเนิดหลายสิบคนเสียชีวิตทันทีพร้อมๆ กับม้าของพวกเขา ระเบิดออกเป็นหมอกเลือด
คนที่ฆ่าพวกเขาคือนักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ ด้วยความสามารถของขอบเขตสวรรค์ เขาจึงสามารถสังหารนักสู้ขอบเขตปฐพีและขอบเขตต้นกำเนิดได้ราวกับเชือดไก่ เชือดออกเป็นกลุ่มเชือดทั้งหมด
“ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”
มองย้อนกลับไปยังที่ๆ พวกเขาพึ่งผ่านมา หนังศีรษะของเซียงเทียนเชียงด้านชา มันได้กลายเป็นเส้นทางแห่งความตายไปแล้ว เส้นทางที่มีผู้คน ม้า และศิษย์หลักบางคนที่ถูกสังหาร
หันกลับไปด้านหน้า เซียงเทียนเชียงมองหลี่ฟู่เฉิน
ดวงตาของเขาดูแล้วราวกับว่าได้รับพรและเช่นเดียวกับความหวาดหวั่น
กล่าวตามตรง เมื่อเขาติดตามหลี่ฟู่เฉินในการออกห่างจากกลุ่ม มันเป็นการกระทำที่มาจากจิตใต้สำนึกทั้งหมด และการเคลื่อนไหวตามจิตใต้สำนึกนี้ช่วยชีวิตเขาไว้ได้
หากก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่ชื่นชมการรับรู้ของหลี่ฟู่เฉิน เช่นนี้ตอนนี้เขาเริ่มชื่นชมเลื่อมใสหลี่ฟู่เฉินในฐานะคนผู้หนึ่ง
เขาไม่ใช่มนุษย์แล้ว เขาจะมีการรับรู้และจิตใจที่แข็งแกร่งในเวลาเดียวกันได้อย่างไร เขารู้ว่าถ้าศิษย์ทั้งหมดจมารวมตัวกันในที่เดียว มันจะดึงดูดความสนใจ
“เราสองคนควรรักษาระยะห่างกว่านี้ เราทั้งคู่ยังเด็กเกินไป เพียงแค่มองแวบเดียวก็พอจะรู้ว่าเราเป็นศิษย์หลัก” หลี่ฟู่เฉินกล่าว
“อ่า”
เซียงเทียนเชียงเข้าใจจุดนี้และเริ่มแยกออกห่างจากหลี่ฟู่เฉิน
ทุกครั้งที่นักสู้เต๋าปีศาจเคลื่อนไหว มันจะนำมาซึ่งชีวิตจำนวนมหาศาลที่สูญเสียไป หลักจากที่เขาโจมตีอย่างต่อเนื่อง ก็เหลือศิษย์หลักที่มีชีวิตรอดเพียงแค่สามคน
พวกเขาคือดาบไร้อารมณ์ เซี่ยเฟิง หลี่ฟู่เฉิน และเซียงเทียนเชียง
ในไม่ช้า ความสนใจของนักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์ก็ตกลงที่ดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิง
ด้วยประสาทสัมผัสของนักสู้ขอบเขตสวรรค์เช่นเขา เขาสามารถรู้สึกถึงสภาะพลังฉีอันแหลมคมจากดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิงได้ มันดูแตกต่างจากศิษย์หลักทั่วไปมาก
“เขาสมควรเป็นศิษย์หลักระดับทอง” เขาหัวเราะเยาะอย่างมุ่งร้ายและส่งฝ่ามือข้ามท้องฟ้าไปทางเซี่ยเฟิง
ม้าเลือดปีศาจระดับ 2 ชะงักขณะที่เซี่ยเฟิงกลายเป็นภาพติดตาและกระโจนออกไป
ในช่วงเวลาสำคัญ เขาเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 2 ดาว ท่าร่างศักดิ์สิทธิ์ เสริมด้วยเทคนิคตัวเบา ความเร็วของเขาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด
เขาหลบการโจมตีได้อย่างหวุดหวิด
“โห้? เจ้าหลบนั้นได้? ไม่เป็นไร ให้ข้า นกฮูกโลหิต ได้เล่นกับเจ้า”
นกฮูกโลหิตส่งฝ่ามือไปยังเซี่ยเฟิง
เซี่ยเฟิงเผยมือของเขาและโยนระเบิดอัคนีคำรนออกไป
ระเบิดอัคนีคำรนเป็นสิ่งที่หายากยิ่งกว่าระเบิดอัคนีธรรมดาทั่วไปมาก ระเบิดหนึ่งลูกมีมูลค่าการคะแนนกว่า 10,000 คะแนนและสามารถทำลายนักสู้ขอบเขตปฐพีได้อย่างง่ายดาย ระเบิดอัคนีคำรนจำนวนหนึ่งนั้นหมายความว่ามันมีค่าประมาณสองสามแสนคะแนนสะสม
มีเพียงศิษย์หลักเช่นเซี่ยเฟิงเท่านั้นถึงสามารถใช้จ่ายคะแนนสะสมได้มากมายเช่นนี้
ระเบิดอัคนีคำรนหลายลูกก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งพลังฝ่ามือของนกฮูกโลหิตได้ แต่มันก็ยังสามารถสร้างช่องว่างได้ และเป็นเซี่ยเฟิงที่ใช้ช่องว่างนี้เบี่ยงตัวเขาไปทางซ้ายและพุ่งไปในทิศทางนั้น
ครืน!
ตำแหน่งที่เซี่ยเฟิงยืนอยู่แต่เดิมนั้นกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ซึ่งสามารถฝังศพได้กว่าร้อยศพอย่างง่ายดาย
“น่าสนใจ ข้าอยากจะดูว่าเจ้าจะซ่อนไพ่ตายใดไว้อีก”
นกฮูกโลหิตสะบัดนิ้วของเขา สิ่งที่ถูกดีดออกมาจากนิ้วนั้นมีความเร็วอย่างน่าอัศจรรย์ใจ มันบินเร็วกว่าลูกศรถึงสองสามเท่า
ปิสส!
ร่างกายของเซี่ยเฟิงระเบิดออกและล่วงลงมาราวกับผ้าขี้ริ้วที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังจากดูใกล้ๆ จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงแค่เสื้อผ้าชิ้นหนึ่ง
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเซี่ยเฟิงได้ใช้ออกทักษะหลบหนีประเภทหนึ่งซึ่งคล้ายกับจักจั่นที่สั่นกระดองของมัน
‘โชคดีที่เซี่ยเฟิงมาที่นี่เพื่อช่วยดึงดูดความสนใจให้เรา’ หลี่ฟู่เฉินรู้สึกมีความสุข
นักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์มีทั้งหมดห้าคน สี่คนกำลังเข้าพัวพันอยู่กับผู้บัญชาการสาขาที่เจ็ดทั้งสาม ที่เหลือจากพวกนั้นมาเพื่อจัดการกับคนที่เหลือเป็นพิเศษ
หากมีอีกคนมาตามล่าพวกเขา เขาจะไม่มีความมั่นใจในการมีชีวิตรอดอีกต่อไป
อ๊ากกก!
เสียงกรีดร้องอย่างน่าสังเวชดังมาจากด้านหลัง
มันเป็นเสียงของรองผู้บัญชาการสาขาหลิวคุน
ด้วยสี่ต่อสาม หนึ่งในนั้นต้องต่อสู้กับศัตรูสองคนแน่นอน
หลิวคุนมีความสามารถที่อ่อนแอที่สุดจากผู้บังคับบัญชาทั้งสาม แต่เขากลับต้องเผชิญหน้ากับศัตรูสองคน หลังจากผ่านไปสองสามร้อยกระบวนท่า เขาจึงถูกสังหาร
“เจ้าไล่ตามพวกที่เหลือ” หัวหน้าของสมาคมมือปีศาจส่งข้อความไปยังหนึ่งในนักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์
“ได้” ร่างของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ผู้นี้เปล่งประกายในขณะที่เขาไล่ตามหลี่ฟูเฉินและกลุ่มผู้หลีกหนี
“ไม่ดีแล้ว นักสู้เต๋าปีศาจขอบเขตสวรรค์อีกคนนึงกำลังมา”
หลี่ฟู่เฉินสังเกตเห็นสภาวะพลังฉีที่แข็งแกร่งจากด้านหลัง ในใจของเขากลายเป็นตื่นตระหนก แต่มันกลับกลายเป็นความคิดไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้ในทันที
“ข้าไม่สามารถตายที่นี่ได้”
ในขณะนี้เองที่หลี่ฟูเฉินไม่เชื่อเรื่องบังเอิญอีกต่อไป
อายุน้อยของเขาหมายความว่าเขาจะกลายเป็นเป้าหมายที่โดดเด่นที่สุดอย่างแน่นอน
โคจรย่างก้าวเงาวายุและเปิดใช้งานเทคนิคลับมังกรเร้นลับ หลี่ฟู่เฉินดีดตัวออกจากม้าเลือดปีศาจระดับ 2 ความเร็วของเขาเมื่อเทียบกับเซี่ยเฟิง มันอยู่ในระดับเดียวกัน หากไม่เช่นนั้นก็รวดเร็วกว่า