Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 201
บทที่ 201
ใบประกาศจับ
หลี่ฟู่เฉินที่เดินออกมาจากร้านขายของเก่า เห็นหลี่หวูเซี่ยได้ทันที
ถึงแม้เขาจะสันนิษฐานว่าหลี่หวูเซี่ยจะไม่สามารถมองการปลอมตัวของเขาออก แต่เขาก็อยากปลอดภัยไว้ก่อน ดังนั้นเขาจึงหันกลับมาและโชวแผ่นหลังของเขาให้หลี่หวูเซี่ยเห็นแทน
“จับเขาไว้!” เสียงตะโกนของหลี่หวูเซี่ยดังออกมา
เยาวชนสองสามคนเข้าหาพร้อมที่จะจับตัวหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินถามอย่างไม่ตั้งใจ “มีอะไรข้าช่วยหรือไม่?”
เป็นการดีที่สุดที่จะไม่เปิดเผยตัวตนของเขาภายในเมือง เยาวชนที่อยู่กับหลี่หวูเซี่ยล้วนแล้วแต่มีอิทธิพลในระดับหนึ่ง
หลี่หวูเซี่ยขมวดคิ้ว มองที่หลังของเขา เขาคิดว่ามันเป็นหลี่ฟู่เฉิน แต่เมื่อเขามองเขาจากด้านหน้า เขาแตกต่างจากหลี่ฟู่เฉินอย่างสิ้นเชิง แม้แต่กระทั่งอายุก็ไม่ตรงกัน
หม่าเทียนหยางกล่าวกับหลี่หวูเซี่ย “หลี่เซียง บุคคลผู้นี้ทำให้เจ้าขุ่นเคือง? ทำไมไม่จับเขากลับไปละ โยนเขาเข้าคุกและทรมานเขาทุกวันดีหรือไม่?”
“มาให้เขาได้ลิ้มรสกับลาเสปนเถอะ” หนึ่งในเยาวชนที่มีผิวขาวเสนอออกมาอย่างชั่วร้าย
(หมายเหตุ TL: ลาสเปนเป็นอุปกรณ์ทรมานชนิดหนึ่ง)
หลี่หวูเซี่ยโบกมือ “ไปให้พ้น!”
เนื่องจากไม่ใช่หลี่ฟู่เฉิน เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
เมื่อได้ยินคำสั่ง หลี่ฟูเฉินรีบไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ถูกต้อง
บางสิ่งไม่ถูกต้อง
หลังจากที่หลี่ฟูเฉินจากไปแล้ว หลี่หวูเซี่ยจึงพบว่ามันแปลก
“มุมมองด้านหลังจะคล้ายกันได้ยังไง? แต่ด้านหน้ากลับดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง? เขาจะต้องปลอมตัว”
หลี่หวูเซี่ยค้นพบจุดสำคัญได้อย่างรวดเร็ว
“เร็ว! หาคนเมื่อกี้เร็ว! ใครก็ตามที่หาเขาเจอข้าหลี่หวูเซี่ยจะถือเป็นหนี้บุญคุณ” หลี่หวูเซี่ยคำราม
หม่าเทียนหยางและกลุ่มตกตะลึง พวกเขาคิดอยู่ในใจ ‘ข้าคิดว่าพวกเราแปลกแล้ว แต่หลี่หวูเซี่ยผู้นี้กลับแปลกยิ่งกว่า ตอนนึงก็บอกให้คนผู้นั้นไปให้พ้น ในอีกตอนนึงก็บอกให้ข้าเขาอีกครั้ง เขาใช่ต้องการล้อเล่นกับเราหรือไม่?’
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกหงุดหงิด แต่หม่าเทียนหยางก็ยังส่งคนไปไล่ล่าหลี่หวูเซี่ย
หลังจากหลุดพ้นจากสายตาหลี่หวูเซี่ยไป หลี่ฟู่เฉินเดินวนรอบๆ เลี้ยวสองสามครั้ง ก่อนออกจากถนนโบราณ
“หลี่หวูเซี่ยรู้ว่าหลังของข้าดูคุ้นเคยสำหรับเขา เมื่อเขาตระหนักถึงมันได้ เขาจะส่งคนมาตามล่าข้าทีหลัง” ความคิดของหลี่ฟู่เฉินละเอียดรอบคอบและเต็มไปด้วยแผนการ
“สิ่งนี้ไม่ดีนัก สิ่งสำคัญสำหรับข้าตอนนี้คือการออกจากเมืองสีโลหิตโดยเร็วที่สุด”
ความคิดของหลี่ฟู่เฉินหมุนวนอย่างรวดเร็ว เขาดึงตัวเองเข้ามาอยู่ในที่ของหลี่หวูเซี่ย เขาคิดต่อไปว่าหากหลี่หวูเซี่ยไม่พบตัวเขา ขั้นตอนต่อไปของหลี่หวูเซี่ยคงจะเป็นการออกใบประกาศจับ เมื่อใบประกาศเหล่านั้นออกมา เขาจะถูกจับตัวได้อย่างแน่นอนเมื่อเดินบนถนน ถ้าเขาพยายามออกจากเมือง เขาก็จะพบกับยามเฝ้าประตูเมือง บางทีพวกเขาอาจจะปิดประตูเมือง
สิ่งเดียวที่หลี่ฟู่เฉินทำได้ในตอนนี้ก็คือการปลอมตัวหรือออกจากเมืองสีโลหิตตอนนี้
แผนแรกมีความเสี่ยง ซึ่งเป็นสาเหตุที่แผนหลังเป็นแผนที่ดีกว่า
หัวเราะด้วยหน้าบูดเบี้ยว หลี่ฟูเฉินมุ่งหน้าไปยังประตูเมือง
15 นาทีต่อมา ผู้ใต้บังคับบัญชาของหม่าเทียนหยางก็กลับมาและรายงานว่าพวกเขาหาหลี่ฟู่เฉินไม่พบ
ไม่เต็มใจที่จะยอมรับผลลัพธ์ หลี่หวูเซี่ยกล่าวกับหม่าเทียนหยาง “ปิดประตูเมืองและออกใบประกาศจับ เขาจะไม่มีวันหนีไปจากข้าได้”
หลี่หวูเซี่ยรู้สึกเสียใจมากในตอนนี้ เขารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจอย่างรีบร้อน ทำไมเขาถึงไม่จับคนที่มีด้านหลังเหมือนกับหลี่ฟู่เฉิน… ทำไมเขาถึงปล่อยเขาไป?
“หลี่เซียง? ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถออกคำสั่งปิดประตูเมืองให้ได้”
หม่าเทียนหยางรู้สึกกระอักกระอวน มีเพียงเฉพาะผู้นำตระกูลหม่าเท่านั้นที่สามารถขอปิดประตูเมืองได้ เขาเป็นเพียงผู้เยาว์ของตระกูลหม่าละไม่มีอำนาจเช่นนั้น แต่การออกใบประกาศจับเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้
หลี่หวูเซี่ยกล่าว “งั้นก็บอกกับคนที่สามารถออกคำสั่งได้! แค่กล่าวว่า ข้า หลี่หวูเซี่ย นายน้อยนิกายสวรรค์ปีศาจต้องการปิดประตูเมืองเพื่อค้นหาศัตรูของนิกายสวรรค์ปีศาจ”
ถึงนิกายสวรรค์ปีศาจของเขาจะไม่ได้เป็นนิกายที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่เมืองสีโลหิตก็ไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึงในนิกายสวรรค์ปีศาจเขา หากใครกล้าท้าทานเขา เขาจะให้พวกมันรู้ซึ่งถึงผลที่ตามมา
เมื่อสัญญาณไฟลุกโชนขึ้นสู่ท้องฟ้า ประตูเมืองสีโลหิตก็ปิดลง
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมประตูเมืองถึงถูกปิด?”
“ข้าจะรีบกลับ!”
“บ้าเอ้ย เมืองสีโลหิตใช่มีอะไรผิดปกติหรือไม่?”
ผู้ที่ติดอยู่ในเมืองโลหิตต่างก็ตะโกนด้วยความอึดอัดขัดข้อง
ในเวลาเดียวกัน ทีมยามลาดตระเวนติดใบประกาศจับหลี่ฟูเฉิน มันมีสองใบประกาศจับ หนึ่งในนั้นคือใบหน้าเดิมของหลี่ฟูเฉิน อีกหนึ่งเป็นใบหน้าที่เขาปลอมตัว
“หืมม? ทำไมคนผู้นี้ถึงดูเหมือนเฉินเซียงตี๋?”
ด้านนอกประตูสมาคมกุหลาบพาณิช หวงเปี่ยวดูใบประกาศและขมวดคิ้ว
“เป็นเฉินเซียงตี๋จริงๆ หรือไม่?!” เจียงต้าเฉียนถามด้วยความสงสัย
พวกเขาสองคนมองหน้ากัน
จนถึงตอนนี้ หลี่ฟูเฉินได้ออกจากเมืองสีโลหิตไปแล้ว
“หลี่หวูเซี่ยผู้นี้เหมือนวิญญาณฟ้าสางที่ดูขัดหูขัดตา หากมีโอกาส ข้าจะต้องจัดการเขาอย่างแน่นอน”
หลี่ฟู่เฉินเกลียดความรู้สึกที่ต้องโดนไล่ล่า หากก่อนหน้านี้เขาไม่ได้หลบหนีออกมา เขาอาจจะถูกจับกุมไปแล้ว หลังจากทั้งหมดแล้ว เมืองสีโลหิตก็มีนักสู้ขอบเขตสวรรค์อยู่มากมาย นอกจากนี้ เขาแทบจะแน่ใจได้ว่าหลี่หวูเซี่ยต้องมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตสวรรค์ติดตามเขามา
***
ไม่กี่วันต่อมา…
เลื่อนมือไปมา หลี่หวูเซี่ยทุบเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดที่อยู่ในห้อง
“ตัวบัดซบหลี่ฟู่เฉิน มันจะต้องยังอยู่ในเมือง ข้าจะจับมันให้ได้”
สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าหลี่ฟู่เฉินออกจากเมืองสีโลหิตไปแล้ว
แต่ความฉลาดของศัตรูทำให้หลี่หวูเซี่ยยิ่งโมโหมากขึ้น
บูม!
ประตูตระกูลหม่าถูกเฉือนเป็นชิ้นๆ พร้อมกับรูปปั้นสิงโตทั้งสอง ดาบพลังฉีที่ดุเดือดขยายตัวราวกับพายุที่น่าหวาดกลัวที่สุด
“ใครกล้าทำบ้าอะไรในตระกูลหม่าเรา?”
ทันใดนั้นร่างสามร่างก็ปรากฏขึ้น พวกเขาเป็นนักสู้ขอบเขตสวรรค์
“ข้าเป็นผู้อาวุชั้นในของนิกายวารีคราม มันเกินขอบเขตเกินไป ตระกูลหม่าของเจ้าใช่บ้าไปแล้วหรือไม่?”
ศิษย์หลักต้องเสี่ยงฝึกสภาวะจิตจากอันตรายด้วยตัวของพวกเขาเอง ผู้อาวุโสชั้นในบางครั้งก็จะทำสิ่งเดียวกันและค้นหาโอกาส
“นิกายวารีคราม?”
ผู้ก่อตั้งตระกูลหม่าทั้งสามการแสดงออกเปลี่ยน
“เราทำเกินขอบเขตตั้งแต่เมื่อใด?” หนึ่งในผู้ก่อตั้งระงับความโกรธของเขาและสอบถาม
เยี่ยหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ก็การที่เจ้าติดใบประกาศจับเป็นศิษย์หลักนิกายวารีคราม หากตระกูลหม่าของเจ้าไม่ต้องการถูกทำลาย เจ้าเอาใบประกาศจับทั้งหมดออกและยกเลิกหมายจับนั้นไปซะ ทั้งเมืองต้องจะเต็มไปใบประกาศที่มีคำขอโทษเป็นลายลักษณ์อักษรถึงนิกายวารีครามภายในสามวัน หรือหากไม่ทำเช่นนั้นก็คงต้องให้ตระกูลหม่าพินาศสิ้นไป”
เสียงของเยี่ยหัวดูสงบ แต่ผู้ก่อตั้งทั้งสามของตระกูลหม่ารู้สึกกลัวอย่างแท้จริงเพราะเขาสงบเกินไป
ตระกูลหม่าไม่สามารถที่จะยั่วยุกลุ่มใดๆ ในทวีปตะวันออกยูนิคอร์นได้ หากนิกายวารีครามต้องการกำจัดตระกูลหม่า เช่นนั้นพวกเขาก็จะกำจัดตระกูลหม่าอย่างแน่แล้ว แม้แต่นักสู้ขอบเขตสวรรค์ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นได้ นอกเสียจากว่ามันจะผู้ทรงอำนาจจากนิกานนภาดาราหรือคนจากตระกูลตวนหลิน
เยี่ยหัวจากไป…
ไม่นานหลังจากที่เขาจากไป ทุกๆ ใบประกาศที่ถนนและตรอกซอกซอยถูกฉีกออกและแทนที่ด้วยคำบรรยายขอโทษ เนื้อหาของคำบรรยายฉบับนี้คือตระกูลหม่ายอมรับความผิดของตัวเองที่เขาทำให้คนดีต้องการเป็นคนผิด
ตระกูลหม่า…
เพี๊ยะ!
ผู้นำตระกูลหม่า – หม่าเทียนบ๋าตบหน้าของหม่าเทียนหยาง “ใครขอให้เจ้าประจบกับนายน้อยนิกายสวรรค์ปีศาจ?!”
“พ่อ ท่านไม่ได้พูดเรื่องสร้างความสัมพันธ์กับเหล่าศิษย์จากนิกายหรอกหรือ? หลี่หวูเซี่ยเป็นนายน้อยของนิกายสวรรค์ปีศาจ มันจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตระกูลหม่าเรา” หม่าเทียนหยางตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ
หม่าเทียนบ๋ากล่าว “ข้าจำไม่ได้ว่าให้เจ้าเข้าไปเกี่ยวข้องกับศิษย์นิกายและทำให้พวกเขาคุ้นเคือง เพียงแค่รักษาความนอบน้อมขั้นพื้นฐานและความสุภาพเท่านั้นก็พอ” ตระกูลหม่าไม่สามารถที่จะรุกรานนิกายสวรรค์ปีศาจหรือนิกายวารีครามได้
“ขอรับท่านพ่อ” หม่าเทียนหยางกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในเมืองสีโลหิตทำให้หลี่หวูเซี่ยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เขานำกองกำลังมาลงโทษตระกูลหม่า
หม่าเทียนบ๋ากล่าวด้วยร้อยยิ้มแบบคนเป็นรอง “นายน้อยหลี่ โปรดอย่าได้นำตระกูลหม่าเราไปถึงจุดที่ยากลำบากเลย ผู้อาวุโสนิกายชั้นในของนิกายวารีครามเพิ่งมาเตือนเราตระกูลหม่า พวกเขาจะกำจัดตระกูลหม่าของเรา หากเราไม่ยกเลิกหมายจับภายในสามวัน”
“มันกล้าดียังไง…”
หลี่หวูเซี่ยโกรธเกรี้ยว เขาออกไปพร้อมกับกล่าวว่า ‘ไร้ประโยชน์’ ทิ้งท้าย