Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 205
บทที่ 205
หลี่ฟู่เฉิน?
เหตุผลที่ฟู่จงชานเชิญศิษย์หลักนิกายสวรรค์ปีศาจมาไม่ใช่เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับนิกายสวรรค์ปีศาจ
หากเขามีความคิดนี้อยู่ในใจ มันจะเป็นเรื่องตลกอย่างแน่นอน
ความสัมพันธ์ระหว่างนิกายนับเป็นหนึ่งในผลประโยชน์ แต่เมื่อไหร่กันมีช่องว่างสำหรับมิตรภาพของพวกเขา? แม้ว่าสถานการณ์ระหว่างนิกายโหมกระบี่และนิกายสวรรค์ปีศาจจะไม่ได้เต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่มันก็เป็นเหมือนสถานการณ์ระหว่างนิกายวารีครามกับนิกายสวรรค์ปีศาจ
เหตุผลที่เขาเชิญศิษย์หลักจากนิกายสวรรค์ปีศาจมาก็เพราะพวกเขาเสนอที่จะจ่ายราคาเป็นศิลาดาราหนึ่งก้อน
ศิลาดาราเป็นกุญแจสำคัญในเขตแดนเร้นลับถนนดารา มันเป็นสถานที่ลึกลับและมีเอกลักษณ์ที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกทั้งหมด
เขตแดนเร้นลับนี้ไม่เหมือนกับเขตแดนเร้นลับอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาและสถานที่เฉพาะในเข้าไป เขตแดนเร้นลับถนนดาราต้องการศิลาดาราเพื่อเข้าไป ด้วยการบดศิลาดาราหนึ่งก้อน หนึ่งก็ก็สามารถเข้าสู่เขตแดน
เขตแดนเร้นลับถนนดารานั้นมีข้อจำกัดในเรื่องระดับการฝึกฝนและอายุ ผู้ที่ต้องการเข้าสู่เขตแดนถนนดาราอย่างน้อยต้องอยู่ในขอบเขตปฐพีและมีอายุไม่เกิน 35 ปี เฉพาะหลังจากทำตามเงื่อนไขทั้งสองนี้แล้วพวกเขาถึงจะสามารถเข้าไปได้
และสิ่งที่สามารถบรรลุเงื่อนไขสองข้อนี้ได้ก็คือศิษย์หลักจากนิกายต่างๆ
ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่ทำให้ชื่อของเขตแดนเร้นลับถนนดารามีชื่ออื่นอยู่อีก – เขตแดนอัจฉริยะ
ตามบันทึกจากผู้ที่เคยเข้าไปยังเขตแดนเร้นลับถนนดาราแล้ว มีถนนที่คล้ายกับท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว ยิ่งความแข็งแกร่งของท่านมีมากเท่าไหร่ โอกาสในอนาคตที่ท่านจะได้รับก็มีมากเท่านั้น
เมื่อเวลาที่แน่นอนมาถึง สิ่งกีดขวางเกิดขึ้น เมื่อท่านผ่านสิ่งกีดขวาง ท่านก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้
ทุกครั้งที่ผ่านสิ่งกีดขวาง ร่างกายของผู้คนหนึ่งก็จะได้รับปรับแต่งจากพลังงานของเขตแดนเร้นลับถนนดาราและความเร็วในการฝึกฝนที่เร็วยิ่งขึ้น
แน่นอน หลังจากนั้นพลังงานของเขตแดนเร้นลับถนนดาราจะลดลง ความเร็วในการฝึกฝนของคนๆ หนึ่งจะกลับมาเป็นปกติ
ศิษย์หลักจานิกายต่างๆ ตรงมาที่แคว้นร้อยเทพยุทธ์ โดยปกติแล้วมักมาเพื่อเข้าสู่เขตแดนเร้นลับถนนดารา หลังจากออกจากเขตแดน ระดับการฝึกฝนของพวกเขามักก้าวหน้าขึ้นอย่างฉับพลัน มันไม่ได้เกินความจริงเลยที่จะบอกว่าพวกเขาสามารถฝ่าเข้าสู่ขอบเขตเพื่อพัฒนาต่อไปได้ทันที
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งลึกลับเพียงอย่างเดียวในเขตแดนเร้นลับถนนดารา เฉพาะอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้นถึงสามารถเข้าไปยังส่วนลึกของเขตแดนเร้นลับถนนดาราได้ และหลังจากที่พวกเขาออกจากเขตแดน ปกติแล้วพวกเขาจะเก็บความลึกลับเหล่านั้นไว้กับตัวเองและจะไม่เปิดเผยต่อคนอื่น
ฟู่จงชานครั้งหนึ่งเคยเข้าไปในเขตแดนเร้นลับถนนดารา แต่แม้แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถไปลึกเข้าไปในเขตแดนเร้นลับถนนดาราได้ ดังนั้น เขาจึงเสนอศิลาดารานี้ให้กับหนึ่งในศิษย์น้องและเลือกที่จะเข้าสู่หลุมฝังศพของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดแทน
ชายเสื้อคลุมดำจากนิกายสวรรค์ปีศาจคือซูเห่ยชาน ศิษย์หลักระดับเงิน เขาเป็นผู้จ่ายศิลาดาราก้อนนี้เพื่อแลกกับโอกาสนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าคนผู้นี้จะมาคนเดียว แต่ไม่คาดคิด เขาได้พบกับนายหลี่หวูเซี่ยในเมืองสีโลหิตเสียก่อน
ระดับการฝึกฝนของหลี่หวูเซี่ยอยู่ที่ระดับ 3 ขอบเขตปฐพีและมีความสามารถโดยรวมที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่ในฐานะที่เขาเป็นถึงนายน้อยของนิกาย หลี่หวูเซี่ยจึงครอบครองสิ่งของช่วยชีวิตไว้มากมาย หลังจากที่หลี่หวูเซี่ยเปิดเผยไพ่ตายของเขา ซูเห่ยชานก็ตัดสินใจนำหลี่หวูเซี่ยไปในการเดินทางครั้งนี้ด้วย
หลี่ฟู่เฉินไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับหลี่หวูเซี่ยที่นี่ และในทางกลับกันเองก็เช่นกัน
“หลี่ฟู่เฉิน เป็นเจ้า!” หลี่หวู่เซี่ยกระชากเสียงก่อนที่จะปล่อยเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมา
เขาเสียใจเมื่อครั้งที่เขาปล่อยให้หลี่ฟู่เฉินหลุดรอดออกจากมือไป ใครจะรู้ว่าสวรรค์ชื่นชอบเขาและนำศัตรูมายังประตูหน้าให้เขา
“หลี่หวูเซี่ย”
เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว หลี่ฟูเฉินไม่มีความตั้งใจที่จะปกปิดตัวตนของเขาอีกต่อไป ด้วยมือที่จับไปยังใบหน้า เขาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขา
“เฉินชิเซียง?”
ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูตกตะลึง เฉินชิเซียงที่พวกเขากล่าวอยู่เสมอกลับเป็นชายอายุเยาวกว่าพวกเขา จากรูปลักษณ์ของเขา ดูแล้วอายุไม่น่าเกิน 20 ปี? เพื่อบรรลุถึงระดับที่ 2 ของขอบเขตปฐพีตั้งแต่ยังเยาววัย เขาเป็นหนึ่งในอัจฉริยะชั้นยอดอย่างแน่นอน
สิ่งสำคัญที่สุดคือ หลี่ฟูเฉินได้สังหารหลิวกวงเฟิงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าหลี่ฟู่เฉินใช้สิ่งประดิษฐ์บางอย่างในการทำเช่นนั้น แต่สิ่งประดิษฐ์จะต้องถูกควบคุมโดยผู้ใช้ และถ้าความสามารถของผู้ใช้อ่อนแอ พลังของสิ่งประดิษฐ์จะถูกจำกัดเอาไว้
เมื่อเห็นรูปร่างที่แท้จริงของหลี่ฟู่เฉิน สงฉิงเห่อและฟู่จงชานเองก็แปลกใจเช่นกัน
อยู่ในระดับที่ 2 ของขอบเขตปฐพีเมื่ออายุ 20 เขาย่อมได้รับการพิจารณาว่าเป็นอัจฉริยะชั้นยอดสำหรับทุกนิกาย มีเพียงโครงกระดูกระดับ 5 ดาวที่ยอดเยี่ยมเท่านั้นถึงสามารถนำไปเปรียบเทียบกับเขาได้
โชคดีที่ฟู่ขงชานเดินทางออกจากนิกายของเขามาเกือบหนึ่งปีแล้วและไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับ หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะเต็มไปด้วยความเป็นปฏิปักษ์ต่อหลี่ฟู่เฉิน ก็ในเมื่อหลี่ฟู่เฉินได้สังหารอัจฉริยะของนิกายโหมกระบี่ไปมากมาย
เหว่ยชานเห่อและชูมู่หยูมองไปในทางหลี่ฟู่เฉิน
เหว่ยชานเห่อแสดงความอิจฉา ขณะที่ชูมู่หยูแสดงความอยากรู้อยากเห็น
ในตอนแรกเธอไม่ได้สังเกตถึงการดำรงอยู่ของหลี่ฟู่เฉิน แต่ด้วยความสนใจของเธอที่มีต่อเขาในตอนนี้ เธอตระหนักได้ทันทีว่ามีอะไรแปลกประหลาดเกี่ยวกับหลี่ฟู่เฉิน
เขาให้ความรู้สึกลึกลับแก่เธอยิ่ง บางครั้งเขาก็รู้สึกเหมือนดวงอาทิตย์ที่สว่างจ้า แต่บางทีก็ให้ความรู้สึกเหมือนดาบแห่งสมบัติที่ไม่มีใดเหมือน สภาวะพลังฉีอันสง่างาม
“บุคคลผู้นี้มีลักษณะพิเศษบางอย่าง”
สัมผัสของโครงกระดูก 6 หกดาวอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม
ในบางแง่ของสัมผัสของโครงกระดูกระดับ 6 ดาวอาจเกินเลยสัมผัสของนักสู้ขอบเขตสวรรค์ไปไกล
และเช่นเดียวกับแม่เหล็ก จะมีบางครั้งที่แม่เหล็กจะขับไล่หรือดึงดูดซึ่งกันและกัน
“เจ้าคือหลี่ฟู่เฉิน?”
สภาวะพลังฉีของซูเห่ยชานระเบิดออกและเข้าปกคลุมหลี่ฟู่เฉิน
หลี่ฟู่เฉินได้สังหารอสูรขาวของนิกายสวรรค์ปีศาจไป คู่อสูรขาวดำ อสูรขาวนั้นเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของลูกพี่ลูกน้องของเขา อสูรดำ
“ใช่เป็นข้าเอง”
ตั้งแต่ที่สถานการณ์ได้เป็นเช่นนี้แล้ว หลี่ฟูเฉินไม่ได้รั้งอะไรไว้อีก หากพวกเขาต้องการการต่อสู้ เช่นนั้นเขาก็จะต่อสู้ แม้ว่าจะเป็นซูเห่ยชานที่อยู่ในระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีก็ตาม
“เจ้าสมควรตายเพื่อศิษย์นิกายสวรรค์ปีศาจเรา! ข้าเป็นผู้ปลิดชีวิตเจ้าเอง”
อาวุธที่ดูแปลกๆ ปรากฏขึ้นในมือของซูเห่ยชาน
อาวุธนี้ถูกแยกออกเป็นสามส่วน แท่งโลหะ โซ่ และลูกบอลโลหะแหลมๆ
ค้อนอุกกาบาตเป็นอาวุธพิเศษที่มีพลังทำให้ถึงตาย
บูม!
จับแท่งโลหะไว้ ซูเห่ยชานเหวี่ยงแขนของเขาอย่างดุเดือด ค้อนอุกกาบาตซึ่งถูกเชื่อมโยงโดยโซ่พุ่งเข้าสู่หลี่ฟูเฉินคล้ายกับอุกกาบาตที่ถูกตอกหมุดมา
เปิดใช้งานฝ่ามือกระจ่าง มือของหลี่ฟู่เฉินรวบรวมพลังฉีบริสุทธิ์ของฝ่ามือกระจ่างไว้แน่น เขาดึงดาบทองดำของเขาออกมา เพื่อต้านรับค้อนอุกกาบาต
ครืน!
ชั้นที่สามของโรงแรมปลิวออกไป หลี่ฟู่เฉินกระเด็นออกมา เขาร่อนตัวลงบนถนน
ศิษย์หลักจากนิกายต่างๆ เองก็มีความแตกต่างอยู่เช่นกัน เหล่าศิษย์หลักที่มีระดับพลังฝึกฝนสูงจะสามารถสืบทอดงานทักษะแท้จริงได้อย่างแน่นอน
หลี่ฟู่เฉินฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 3 ดาว
เห็นได้ชัดว่าซูเห่ยชานผู้นี้ก็ได้ฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 3 ดาวเช่นกัน
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่สูงมากเท่าใดนัก แต่เมื่อเขาแสดงพลังฝึกฝนระดับที่ 8 ของขอบเขตปฐพีออกมา มันก็เป็นเรื่องง่ายที่จะสกดข่มหลี่ฟู่เฉิน
ในความเป็นจริงแล้ว มันคงเป็นไปไม่ได้ที่หลี่ฟู่เฉินจะฆ่าหลิวกวงเฟิงจากนิกายพัตรเงินผู้นั้น หากเขาไม่ได้ใช้อาวุธระดับปฐพีเพื่อแอบลอบโจมตี
“หลี่ฟู่เฉิน ยอมรับชะตากรรมของเจ้า!” ซูเห่ยชานไล่ตามหลี่ฟูเฉินไป
“วิชาดาบโคจรหลั่งไหล่!”
สภาวะพลังฉีที่น่าประทับใจปรากฏต่อหน้าซูเห่ยชาน หลี่ฟู่เฉินเปิดเผยสภาวะพลังฉีของเขาและใช้ทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลางไปพร้อมๆ กัน วิชาดาบโคจรหลั่งไหล่
ทันใดนั้นเอง แสงดาบเพลิงหมุนวนราวกับน้ำที่ไหลเวียนและเปลี่ยนเป็นวังวน จากนั้นเขาก็ตอบโต้ซูเห่ยชานอีกครั้ง
ครืน!
มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏบนถนน
คราวนี้หลี่ฟู่เฉินถอยออกไปเพียงสามก้าว
แม้ว่าซูเห่ยชานจะฝึกฝนเทคนิคลับระดับ 3 ดาว แต่ระดับเทคนิคของหลี่ฟู่เฉินนั้นสูงมากกว่า
แม้แต่กระทั้งเทคนิคลับระดับ 3 ดาวของหลี่ฟู่เฉินระดับก็สูงกว่าเช่นกัน
ควบคู่ไปกับเจตจำนงทักษะดาบลึกลับขั้นกลาง หลี่ฟูเฉินก็แทบจะก่ำกึงกับคู่ต่อสู้ของเขา
นี่คือความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะชั้นยอดกับอัจฉริยะปกติ คุณสมบัติที่เหนือกว่าต่างๆ ไม่เพียงพอที่จะแก้ได้จากปัจจัยเดียว
“เป็นไปไม่ได้ ความสามารถของเขา… มันจะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้เช่นไร?”
หลี่หวูเซี่ยตกตะลึง หลี่ฟูเฉินครั้งก่อนที่เขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับก็น่าสะพรึงกลัวอยู่ก่อนแล้ว แต่ก่อนนี้ หลี่ฟู่เฉินแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่อย่างน้อยก็สองถึงสามเท่า
แต่ยิ่งหลี่ฟู่เฉินน่ากลัวมาเท่าใด เจตนาสังหารของเขาก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น หากเขาไม่กำจัดหลี่ฟู่เฉิน เช่นนั้นแล้วหลี่ฟูเฉินจะกลายเป็นปีศาจในใจตลอดชีวิตที่เหลือของเขา
“เจตจำนงดาบลึกลับขั้นกลาง อย่างที่คาดไว้”
บนชั้นสามของโรงเตี้ยม มันเหลือความสมบรูณ์อยู่ไม่กี่จุดเท่านั้น สถานที่ที่ชูมู่หยูยืนอยู่นั้นเป็นจุดนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
เห็นทักษะดาบของหลี่ฟู่เฉิน ดวงตาของชูมู่หยูมีประกายแสงแปลก ๆ
เธอแม้เคารพศิษย์หลักระดับเงิน แต่เธอไม่ได้เห็นศิษย์ส่วนใหญ่อยู่สายตาของเธอ เธอจะให้ความสำคัญกับอัจฉริยะที่แท้จริงเท่านั้น แม้ว่าระดับการฝึกฝนของหลี่ฟู่เฉินจะค่อนข้างอ่อนแอ แต่คุณลักษณะอื่นๆ ของเขาได้มาถึงระดับที่น่ามหัศจรรย์อย่างไม่ต้องสงสัย