Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 206
บทที่ 206
ข้าจะสังหารใครก็ตามที่เคลื่อนไหวอีกครั้ง
“หลี่ฟู่เฉิน วันนี้เจ้าต้องตาย!”
การดำรงอยู่เชกเช่นปีศาจของหลี่ฟู่เฉินทำให้เจตนาสังหารของซูเห่นชานเพิ่มขึ้น
หลี่ฟูเฉินเป็นเพียงแค่ระดับที่ 2 ของขอบเขตปฐพีและแทบจะสามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ และจะเป็นเช่นไรหากหลี่ฟู่เฉินอยู่ระดับที่ 3 ของขอบเขตปฐพี หลี่ฟู่เฉินจะไม่ก้าวล้ำไม่ไปกว่าเขาหรือ? และหากเขาอยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตปฐพี หลี่ฟู่เฉินไม่ใช่จะจัดการเขาทันที?
ซูเห่ยชานไม่ต้องการให้หลี่ฟู่เฉินเติบโตสืบต่อไป
ดึงความสามารถของเขามาสู่ขีดจำกัด ซูเห่ยชานใช้ค้อนทุบไปที่หลี่ฟู่เฉินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความแข็งแกร่งและความเร็วในการโจมตีของเขายิ่งมายิ่งดุร้ายกว่าเก่า
หลี่ฟู่เฉินยังคงก้าวถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
‘ในแง่ของความสามารถ เห็นได้ชัดว่าข้าอ่อนแอกว่า มันไม่จำเป็นต้องต่อสู้โดยตรง’
ทันใดนั้นเอง ร่างของหลี่ฟู่เฉินกลายเป็นพร่ามัว รอบๆ ทุกด้านของซูเห่ยชาน ร่างโปร่งใสของหลี่ฟู่เฉินปรากฏขึ้น
ก่อนหน้านี้หลี่ฟู่เฉินโคจรย่างก้าวเงาวายุ และหากหลี่ฟู่เฉินโคจรย่างก้าวเงาวายุอย่างจริงจัง ผลที่ตามมาร่างก็ไม่อาจปรากฏขึ้นอีกแล้ว
แต่ความสามารถของซูเห่ยชานนั้นแข็งแกร่งอยู่บ้าง หากหลี่ฟู่เฉินไม่ได้โคจรเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริง และเลือกที่จะโคจรย่างก้าวเงาวายุแทน การโจมตีทีเดียวจากเขาก็อาจทำให้ศัตรูบาดเจ็บสาหัญแล้ว
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการเสี่ยงทั้งๆ แบบนี้
ด้วยเจตจำนงลูกเตะไร้เงา ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินจึงรวดเร็วขึ้นมาก ไร้เงาหรือร่องรอยใดๆ ซูเห่ยชานโจทตีด้วยค้อน 18 ครั้ง แต่ก็พลาดอย่างต่อเนื่อง
“อุบายของเจ้าอาจดีอยู่บ้าง แต่อย่าได้ประมาทข้า”
ความเร็วในการเคลื่อนไหวและความเร็วในการโจมตีของซูเห่ยชานก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โจมตีด้วยค้อนสองถึงสามครั้ง ครั้งนี้มันกลับบีบบังคับให้หลี่ฟู่เฉินต้องเปลี่ยนท่าร่าง
ซูเห่ยชานสุดท้ายแล้วก็เป็นนักสู้ขอบเขตปฐพีระดับที่ 8 ความเร็วและความสามารถในการตอบสนองของเขานั้นโดดเด่นและสามารถตามจังหวะของหลี่ฟู่เฉินได้บางแล้ว หลังจากที่คุ้นเคยกับมัน
“เปิด!”
เมื่อเปิดใช้เทคนิคลับมังกรเร้นลับ ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินก็เพิ่มขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
ฝ่ามือกระจ่างสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของฝ่ามือได้ แต่ไม่สามารถเพิ่มพลังในเทคนิคตัวเบาและทักษะลูกเตะได้ ในขณะที่เทคนิคลับมังกรเร้นลับสามารถเพิ่มความแข็งแรงโดยรวมของพลัง
แน่นอน เทคนิคลับมังกรเร้นลับสามารถเพิ่มความสามารถโดยรวมของเขาได้สองเท่าแต่เพียงเท่านั้น ขณะที่ฝ่ามือกระจ่างสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของฝ่ามือได้มากกว่าสองเท่า
เมื่อความสามารถโดยรวมของคนๆ หนึ่งไม่ได้อ่อนแอกว่าคู่ต่อสู้ เช่นนั้นแล้วฝ่ามือกระจ่างยิ่งกลายเป็นมีประสิทธิภาพมาก แต่เมื่อความสามารถโดยรวมของคนนั้นอ่อนแอกว่าศัตรู เทคนิคลับของมังกรเร้นลับกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากกว่า
มันจะถูกตัดสินตามสถานการณ์
สำหรับตอนนี้ ซูเห่ยชานไม่สามารถติดตามจังหวะของหลี่ฟู่เฉินได้อีกต่อไป
ลูกเตะไร้เงาไม่ได้มีแต่ความเร็วเท่านั้น แต่มันยังมีความสามารถในการหลอกล่อเช่นกัน หากมันเป็นความเร็วเพียงอย่างเดียว ซูเห่ยชานอาจไม่แพ้หลี่ฟู่เฉิน เขาอาจจะดีกว่าเล็กน้อยเสียด้วยซ้ำ
แต่ช่างน่าเสียดายที่การต่อสู้ระหว่างนักสู้คนนึงนั้นไม่ง่ายดายนัก
แม้ว่าท่านจะมีความเร็วสูงส่ง แต่ถ้าหากถูกก่อกวนโดยศัตรู ความเร็วที่โดดเด่นนั้นก็จะลดลง
“บัดซบ 18 ค้อนทลายภูผา!”
ซูเห่ยชานไม่ชอบการต่อสู้ที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ เขาชอบที่จะต่อสู้อย่างเที่ยงธรรมและซื่อตรง ท่าสังหารค้อนทลายภูผาปลดปล่อยเงาค้อน 18 เงาไปในทุกทิศทาง เนื่องจากพลังอันมหาศาล ความปั่นป่วนของอากาศจำนวนมากก่อเกิดขึ้น ปลดปล่อยสถานะที่น่าประทับใจ
ทักษะค้อนนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างใส่ใจเพื่อมุ่งเป้าไปยังนักสู้ที่มีความเร็วและความแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยม
“นิกายสวรรค์ปีศาจของเจ้าช่างไร้ยางอายยิ่งนัก หมอบลง!” ฟานเฉียนสงคำรามอย่างดุเดือด
ซูเห่ยชานเริ่มต่อสู้เพียงเพราะเขารู้สึกไม่ชอบ ฟานเฉียนสงจึงไม่มีเวลาโต้ตอบ เมื่อถึงเวลาที่เขาสามารถตอบสนอง พวกเขาทั้งสองคนก็อยู่บนถนนแล้ว
เขาเป็นพยานที่เห็นหลี่ฟูเฉินปิดกั้นการเคลื่อนไหวของซูเห่ยชาน ฟานเฉียนสงจึงไม่รีบร้อนที่จะให้ความช่วยเหลือ เขาต้องการใช้โอกาสนี้ในการสังเกตรูปแบบการโจมตีของซูเห่ยชาน
แต่ตอนนี้เขาเห็นหลี่ฟู่เฉินตกลงมากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาทนยับยั้งตนเองอยู่ได้อย่างไร? เขามาถึงบนถนนในพริบตา เขายกพองเหล็กที่แขนของเขาขึ้นมาเพื่อหยุดพายุของกระโจมตี สกัดกั้นเงาค้อนทั้งหมดของซูเห่ยชาน
“เจ้ากำลังถามหาความตาย? นี่คือเรื่องระหว่างนิกายสวรรค์ปีศาจของข้ากับนิกายวารีคราม มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของนิกายไร้กังวล” ซูเห่ยชานรู้สึกไม่พอใจ
ความสามารถของฟานเฉียนสงจัดอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ 18 ค้อนทลายภูผาของซูเห่ยชานมีความแข็งแกร่งถึงเช่นนี้ แต่กลับถูกทำให้สลายไปด้วยฟานเฉียนสงในระยะเวลาสั้นๆ
“หลี่ฟู่เฉินเป็นผู้มีพระคุณของข้า หากเจ้าสร้างปัญหากับหลี่ฟู่เฉิน มันก็ย่อมหมายความว่าเจ้าสร้างปัญหาให้กับข้าเช่นกัน” ฟานเฉียนสงประกาศออกมาอย่างเย็นชา
ฟานเฉียนสงเป็นศิษย์หลักระดับทองของนิกายไร้กังวล ทำไมเขาถึงต้องกลัวนักสู้ที่อยู่ในระดับ 8 ของขอบเขตปฐพีด้วยเล่า? ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นเหนือกว่าซูเห่ยชานมาก หากหลี่ฟู่เฉินอยู่ในระดับ 5 ของขอบเขตปฐพี บางทีเขาอาจมอบความพ่ายแพ้ให้กับซูเห่ยชานได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ฟู่จงชานทำไมเจ้าถึงไม่เคลื่อนไหว?” ซูเห่ยชานหันไปถามฟู่จงชานที่อยู่บนชั้นสามของโรงแรม
ฟูจงชานตอบ “ทำไมข้าต้องเคลื่อนไหว?”
เขาไม่มีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือนิกายสวรรค์ปีศาจใดๆ
หลี่หวูเซี่ยกล่าว “ฟู่จงชาน เจ้าคงไม่รู้ว่าศิษย์สิบคนของนิกายโหมกระบี่ของเจ้าที่เข้าไปยังเขตแดนร้อยพฤกษาเร้นลับนั้นเป็นอย่างไรกระมัง? ครึ่งหนึ่งของพวกเขาเสียชีวิตภายใต้มือของหลี่ฟูเฉิน นั้นรวมถึงอัจฉริยะของนิกายโหมกระบี่เจ้า เฉินเฟ่ยเห่อ”
หลี่ฟู่เฉินเคยสังหารคนเหล่านั้นไปมากก็จริง แต่มันเป็นเพียงประมาณครึ่งหนึ่งของสิ่งที่หลี่หวูเซี่ยกล่าว เขาพยายามกล่าวเกินจริง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟู่จงชานมองไปที่หลี่ฟู่เฉินเพื่อสอบถาม “เป็นเช่นนั้น?”
“เป็นเช่นนั้นแล้วอย่างไร?”
หลี่ฟูเฉินไม่ได้พยายามที่จะปฏิเสธ ไม่ว่าเขาจะฆ่าไปกี่คน ฟูจงชานก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ดี เนื่องจากเป็นเช่นนั้นแล้ว มันจึงไม่จำเป็นต้องลดศักดิ์ศรีของเขาลง
“เจ้า… สมควรตาย” ร่างกายของฟู่จงชานพุ่งเข้าหาหลี่ฟู่เฉิน
เคร้ง!
ขณะที่พองและดาบปะทะกัน ฟานเฉียนถูกบังคับให้ถอยห่างออกไปหลายสิบก้าว
ฟานเฉียนสงเป็นศิษย์หลักระดับทอง แต่อย่างไรนั้นก็คือฟู่จงชาน ยิ่งไปกว่านั้น ระดับการฝึกฝนของฟู่จงชานสูงกว่าระดับของเขาสองระดับ
“พี่ ให้ข้าช่วยท่าน”
ฟานเฉียนหยูร่อนลงมาและหยุดอยู่ข้างฟานเฉียนสงและหลี่ฟู่เฉิน
“ฟานเฉียนสง เจ้าควรถอยออกไป”
ฟู่จงชานจ้องไปที่ฟานเฉียนสงด้วยสายตาที่ตั้งใจจะฆ่า
ฟานเฉียนสงตอบ “ฟู่จงชาน อย่าลืมว่าข้ายังมีแผนที่ที่ไม่สมบูรณ์อยู่ หากไม่มีข้า พวกเจ้าก็ลืมเกี่ยวกับการค้นหาหลุมฝังศพไปได้เลย”
“ข้ายังสามารถเอาแผนที่มาได้ หลังจากที่ข้าฆ่าเจ้า” เจตนาสังหารจากร่างของฟู่จงชานรุนแรงยิ่งขึ้น
“ก้าวมาและลองดู” ฟานเฉียนสงสูดหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยปลดเจตนาสังหารอันรุนแรงออกมาเช่นเดียวกัน
“ฟานเฉียนสง ปล่อยเขาให้ข้าเอง” หลี่ฟู่เฉินหยิบเศษโลหะออกมาและถือมันไว้ในมือของเขา เขาตัดสินใจแล้ว ถ้าพวกเขาจะเริ่มการต่อสู้อีกครั้ง เขาจะไม่สนใจอะไรและฆ่าสมาชิกทั้งสามจากนิกายสวรรค์ปีศาจและนิกายโหมกระบี่ เขาไม่ได้พิจารณาผลที่จะตามมาด้วยซ้ำ
ฟานเฉียนสงเห็นเศษโลหะในมือของหลี่ฟู่เฉินและตัดสินใจปล่อยหลี่ฟู่เฉินไป เขาลืมไปว่าหลี่ฟู่เฉินครอบครองสิ่งประดิษฐ์ที่น่าเกรงขามไว้อยู่เป็นเนือง
“ฟู่จงชาน รวมมือกันและกำจัดคนทั้งสามออกไป”
“ได้ มาจำกัดมันก่อนเถอะ”
มือของหลี่ฟู่เฉินมีธงสีแดงเลือดถือไว้อยู่ มันปลดปล่อยคลื่นพลังฉีโลหิตอันไร้ขอบเขตออกมา
“พอได้แล้ว ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะบาดหมางอะไรกัน แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนคือการหาหลุมฝังศพ จะไม่มีใครกระทำการใดๆ ก่อนที่จะพบหลุมฝังศพนี้” ชูมู่หยูลุกขึ้นและปลดปล่อยพลังฉีอันนุ่มนวลและอ่อนโยนออกมา ซึ่งสิ่งเข้าไปสลายเจตจำนงต่อสู้และเจตนาสังหารออกไปจากทุกคน
เจตจงนำต่อสู้และเจตนาสังหารจะจางหายไปได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ได้อย่างไร? เจตนาสังหารเล็กน้อยหายไปจากซูเห่ยชานและอีกสามคน แต่มันก็ไม่ได้กระจายไปอย่างสมบูรณ์
“ลองดู” ซูเห่ยชานจงใจเคลื่อนไหวต่อ
“ป่าเถื่อน!”
ชูมู่หยูเปิดใช้งานเทคนิคลับบางอย่างที่ไม่รู้จักและร่างกายของเธอก็เปล่งประกายแสงออกมา สภาวะพลังฉีที่น่าประทับใจก็ระเบิดออกมา ซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดสั่นคลอน พลังฉีทุกคน เลือดและชีวิตรู้สึกเหมือนกำลังจะละลายหายไป
“ข้าจะสังหารใครก็ตามที่เคลื่อนไหวอีกครั้ง!”
มือของชูมู่หยูมีเคียวสีเขียวเข้มปรากฏซึ่งมันก็ไม่ได้ดูธรรมดาแต่อย่างใด มันมีสภวะพลังที่ดูเหมือนว่าจะสามารถตัดอะไรก็ได้
“ชูมู่หยู นี้หมายความว่าอย่างไร?”
การดำรงอยู่ของชูมู่หยูเป็นเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำให้ฟู่จงชานรู้สึกกลัว
เขาอยู่ในระดับที่ 7 ของขอบเขตปฐพี ขณะที่ชูมู่หยูอยู่ในระดับที่ 4 ของขอบเขตปฐพี แต่ชูมู่หยูเป็นโครงกระดูก 6 ระดับดาว และในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก เธอได้รับการพิจารณาให้เป็นอัจฉริยะที่ไร้ผู้ใดเปรียบ ความสามารถในการต่อสู้ของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าความสามารถในการต่อสู้ของฟู่จงชาน
“ตั้งที่ชูชิเหม่ยกล่าวให้หยุด พวกเจ้าก็สมควรทำตามมัน!” เหว่ยชานเห่อที่ยืนอยู่ข้างชูมู่หยู ก็ปลดปล่อยสภาวะพลังฉีออกมาเช่นกัน