Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 208
บทที่ 208
การต่อสู้วุ่นวายที่ปากทางเข้าสุสาน
หมอกภายในหุบเขานั้นหนาแน่นกว่าที่อื่นมาก แม้แต่ห้านิ้วมือก็มองไม่เห็น
แม้ว่าพวกเขาจะมีสัมผัสพิเศษ แต่ทุกคนที่นี่ก็สามารถรับรู้วัตถุได้ไกลที่สุดก็ห่างออกไปภายในรัศมีไม่กี่สิบเมตร
ไม่สามารถสัมผัสอะไรได้นอกเหนือจากระยะสิบเมตรเป็นต้นไป
เดินไปตามหุบเขา และในขณะที่เดินไปนั้นท้องฟ้าก็ค่อยๆ มืดมิดลง
เมื่อหมอกและกลางคืนได้หลอมรวมซึ่งกันและกัน สัมผัสของทุกคนก็ลดลงอีกครั้ง
การเดินทางของพวกเขาผ่านไปหนึ่งคืน
***
ในตอนเช้าของวันถัดไป
รัศมีของดวงอาทิตย์ส่องแสง มันแม้ไม่สามารถตัดผ่านเข้ามาในหมอกได้
หลังจากระยะเวลาหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงจุดสิ้นสุดของหุบเขา
ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นจุดจบจริงหรือไม่
แต่สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือหมอกน้ำวนปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา
กระแสหมอกวนเวียนขนาดใหญ่และมันก็ขวางกั้นทุกอย่างที่ขวางหน้า มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยง
“หมอกหนาทึบในดินแดนหมอก ที่แท้แล้วมีต้นกำเนิดมาจากที่นี่?” หลี่ฟู่เฉินคาดเดา
ฟานเฉียนสงส่ายหัว “ดินแดนหมอกมีความลึกลับมากกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้ กระแสหมอกวนเวียนนี้สามารถพบได้ในพื้นที่อื่นของดินแดนหมอก อันที่ใหญ่ที่สุดนั้นใหญ่พอๆ กับที่ดวงอาทิตย์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า”
ไม่มีใครรู้ว่าหมอกปรากฏจากที่ใด เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อหลายศตวรรษที่ผ่านมา
ด้วยความลังเล ทุกคนเดินเข้าไปในกระแสหมอกวนเวียน
ไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะหรือความผิดปกติใดๆ ทุกคนเดินผ่านกระแสหมอกวนเวียน จนกระทั้งมาถึงโลกที่ปราศจากหมอกใดๆ
เมื่อมองย้อนกลับไป มีหมอกหนาๆ แต่กระแสหมอกวนเวียนหายไปแล้ว
“สถานที่ลึกลับ” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินแสดงออกถึงความอยากรู้อยากเห็นและความงุนงง
กี้ กี้!
เสียงที่เจาะทะลุทะลวงหูทำให้ดวงตาของพวกเขามีเลือดไหลออกมา ขณะที่พวกเขาตกอยู่ในความมึนงง
ทุกคนโคจรพลังอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องหูของพวกเขา
เมื่อพวกเขาเงยหัวขึ้น พวกเขาเห็นสัตว์ปีศาจค้างคาวขนาดมหึมากำลังบินมาหาพวกเขา
สัตว์ปีศาจระดับ 3 ชั้นสูง – ปีศาจค้างคาวยักษ์
ความสามารถในการต่อสู้ของสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นสูงนั้นแตกต่างกันออกไป เช่นเดียวกับมนุษย์ที่มีความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะกับมนุษย์ทั่วไป
ปีศาจค้างคาวยักษ์นั้นอยู่ในจุดสูงสุดของสัตว์ปีศาจระดับ 3 ขั้นสูง เพื่อที่จะสังหารมันเป็นเรื่องยากราวกับการผ่านชั้นสามของหอคอยศิษย์สายตรง
ถ้าเป็นการต่อสู้เดี่ยวๆ จะไม่มีใครคนใดในพวกเขาเป็นคู่ต่อสู้ของมัน
เฉพาะบุคคลที่อยู่ในประเภทเดียวกันกับดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิงเท่านั้น ที่สามารถสังหารปีศาจค้างคาวยักษ์ได้ด้วยตนเอง
และต้องเป็นเซี่ยเฟิงที่ผ่านชั้นสามของหอคอยศิษย์สายตรงชั้นสามแล้วเท่านั้น
“มันเป็นปีศาจค้างคาวยักษ์ ฆ่ามันเร็ว”
เหว่ยชานเห่อรู้ดีว่าปีศาจค้างคาวยักษ์ตัวนี้น่ากลัวเพียงใด เขาถ่ายพลังฉีเพื่อโจมตีปีศาจค้างคาวยักษ์อย่างรวดเร็ว
ได้ยินดังกล่าว ทุกคนเริ่มปลดปล่อยพลังฉี
ปีศาจค้างคางยักษ์รวดเร็วมาก หากพวกเขาไม่ฆ่ามัน พวกเขาจะไม่สามารถมีสมาธิกับการค้นหาหลุมฝังศพ
พลังฉีสิบเอ็ดสายลองขึ้นไปบนท้องฟ้า
แต่ปีศาจค้างคาวยักษ์นั้นคล่องแคล่วว่องไวมาก ร่างกายมันโก้งโค้งกลางอากาศและหลบพลังฉีสิบเอ็ดได้อย่างง่ายดาย
กี้!
คลื่นเสียงที่มองไม่เห็นถูกปล่อยออกมา ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนหัวของพวกเขากำลังแยกออกจากกัน
ความเร็วและรัศมีของคลื่นเสียงมีขนาดใหญ่เกินไป แม้แต่กระทั้งชูมู่หยูก็ไม่สามารถหลบได้ทันเวลา
“แยกกันโจมตี”
ชูมู่หยูวางแผนและเป็นคนแรกที่ลอยออกไปไกลหลายสิบเมตร เหว่ยชานเห่อติดตามเธอไปอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น
ในพริบตา ทุกคนแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มและโจมตีปีศาจค้างคาวยักษ์จากสี่มุม
ปีศาจค้างคาวยักษ์ฉลาดแกมโกงและรู้ว่าควรเอาชนะไปทีละกลุ่ม มันริเริ่มความคิดและตรงไปยังกลุ่มของหลี่ฟู่เฉิน
เห็นได้ชัดว่ามันตั้งใจที่จะต่อสู้ระยะประชิด หลังจากทั้งหมดแล้ว สัตว์ปีศาจตนนี้ก็เป็นประเภทพิเศษ
“ไปให้พ้น!” ด้วยการแกว่งพลองของเขา ฟานเฉียนสงเข้าไปพัวพันปีศาจค้งคาวยักษ์พายุแห่งการโจมตี
ก๊อง ก๊อง!
ราวกับเสียงฝนและเสียงพิณ ปีศาจค้างคาวยักษ์ไม่ได้หลบหรือเคลื่อนย้ายไปไหน มันอดทนต่อการโจมตี บาดแผลปรากฏบนร่างกายของมัน แต่เป็นเพียงบาดแผลตื้นๆ กรงเล็บของมันโจมตีไปที่ฟานเฉียนสง
หากโดนโจมตีด้วยกรงเล็บนี้ ฟานเฉียนสงจะต้องตายอย่างแน่นอน
“พี่!”
อาวุธของฟานเฉียนหยูเป็นมีดคู่พระจันทร์เสี้ยว ขณะที่เธอกวัดแกว่งมัน แสงนับไม่ถ้วนมุ่งหน้าไปยังปีศาจค้างคาวยักษ์
“ถอยไป!”
หลี่ฟู่เฉินได้เตรียมกระบวนท่าสังหารรไว้ขณะที่ปีศาจค้างคาวพุ่งมาที่พวกเขา ด้วยวิชาดาบโคจรหลั่งไหล วงแหวนไฟชนเข้ากับปีศาจค้างคาวยักษ์ มันทำให้ปีศาจค้างคาวยักษ์มึนงงไปชั่วครู่ ซึ่งฟานเฉียนสงก็ใช้จังหวะนี้ในการหลบหนี ในเวลาเดียวกัน การโจมตีของฟานเฉียนหยูก็ปะทะเข้ากับร่างของปีศาจค้างคาวยักษ์
“ตอนนี้แหละโจมตี!”
เหว่ยชานเห่อและกลุ่มสงฉิงเห่อทำการโจมตี
เฉพาะฟู่จงชาน ซู่เห่ยชาน และหลี่หวูเซี่ยเท่านั้นที่ไม่ได้ให้การสนับสนุนใดๆ พวกเขาไม่สามารถรอให้ปีศาจค้างคาวยักษ์ฆ่ากลุ่มของหลี่ฟู่เฉินเร็วๆ
แสงสีเขียวเข้มส่องประกาย… โดยไม่ทันรู้ตัวชูมู่หยูก็ไปปรากฏขึ้นที่ด้านขวาของปีศาจค้างคาวยักษ์เรียบร้อยแล้ว เลือดสดปะทุขึ้น เมื่อเคียวของเธอเหวี่ยงลงและเกือบจะตัดปีกของสัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์ได้
“แข็งแกร่งอย่างแท้จริง เธอเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกันกับดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิงแล้ว” ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเบิกกว้าง
ความสามารถของชูมู่หยูไม่เป็นที่สงสัยอีกต่อไป เธอเป็นนักสู้ที่น่าเกรงขามมากที่สุดเป็นอันดับสองที่เขาเคยเห็นมา อันดับหนึ่งเป็นดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิง
แน่นอน ว่าเป็นเพราะเขายังไม่ได้พบผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากอะไรนัก
ยกตัวอย่างเช่นดาบคลั่งหรือดาบพยัคฆ์
ปีศาจค้างคาวยักษ์เดินโซเซและชนกับพื้นด้วยแรงกระแทก มันไม่สามารถบินได้อีกต่อไป เนื่องจากมันตกมาบนพื้นดินแล้ว
ด้วยสัตว์ปีศาจค้างคาวยักษ์ที่อยู่บนดิน มันจึงสามารถใช้ความสามารถโดยรวมได้ 30% หรือ 40% เท่านั้น ภายใต้การโจมตีจากทุกคน ปีศาจค้างคาวยักษ์ก็ถูกสังหารลงในไม่นาน พวกเขาเปิดท้องของมัน แต่ไม่สามารถหาแกนปีศาจได้พบ
หลังจากนั้น กลุ่มก็พบสัตว์ปีศาจระดับ 3 ชั้นสูงอีกสองสามตัว บางตัวแข็งแกร่งในขณะที่บางตัวอ่อนแอ่ ด้วยการร่วมมือกันของพวกเขา แม้แต่การเอาชนะการดำรงอยู่อย่างเช่นดาบไร้อารมณ์เซี่ยเฟิงก็อาจเป็นไปได้จริงๆ ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ได้พบอุปสรรค์ใดๆ มากมายนัก
ด้วยหมอกที่เป็นอยู่นี้ เส้นทางบนแผนที่นี้จึงมีประโยชน์มากกว่าที่ควร ครึ่งวันต่อมา ในที่สุดกลุ่มก็พบทางเข้าสู่หลุมฝังศพ
ทางเข้าเป็นเนินเขาเล็ก ๆ ซึ่งภายในว่างเปล่า ประตูโลหะขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นด้วยเสาสองเสาที่ด้านนอก
“ตาย!”
เพียงอึดใจเดียว กลุ่มของหลี่ฟู่เฉินและกลุ่มของหลี่หวูเซี่ยก็ได้เคลื่อนไหว
เป้าหมายของกลุ่มหลี่ฟู่เฉินคือซูเห่ยชาน ในขณะที่กลุ่มของหลี่หวูเซี่ยตั้งเป้าไปที่ฟานเฉียนหยู
สิ่งที่กลุ่มของหลี่หวูเซี่ยคาดไม่ถึงก็ก็คือกลุ่มของหลี่ฟู่เฉินดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเป้าหมายของพวกเขาคือฟานเฉียนหยู พวกเขาตั้งขบวนเป็นรูปสามเหลี่ยมโดยที่หลี่ฟู่เฉินและฟานเฉียนสงอยู่ที่ด้านหน้า ในขณะที่ฟานเฉียนหยูอยู่ที่ด้านหลัง
คลื่นลูกแรกของการโจมตีนั้นช่างง่ายดาย ทั้งหกคนขว้างสิ่งของที่ช่างน่ารังเกียจออกมา
หลี่ฟู่เฉินขว้างระเบิดอัสนีคำรนออกมา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณร้อยคะแนนสะสมต่อลูก
ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูต่างก็ขว้างระเบิดโลหะออกมา ระเบิดแต่ละลูกจะระเบิดออกก็ต่อเมื่อสัมผัสกับกระแสพลังฉีที่ไม่เสถียร มันจะปลดปล่อยลูกปัดโลหะสีแดงออกมามากมาย เหมือนกับอุกกาบาตขนาดเล็กที่มีพลังทะลุทะลวงสูง
สำหรับกลุ่มของฟูจงชาน ทั้งสามขว้างระเบิดอัสนีคำรนออกมา
นิกายวารีคราม นิกายโหมกระบี่ และนิกายสวรรค์ปีศาจเป็นส่วนหนึ่งของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก พวกเขาค่อนข้างอยู่ใกล้กับนิกายที่เกรงขามซึ่งเรียกว่านิกายเกลียวอัสนี นิกายเกลียวอัสนีนี้เชี่ยวชาญในการผลิตอาวุธ ระเบิดเกลียวอัสนีและระเบิดอัสนีคำรนเป็นอาวุธที่ถูกสร้างโดยนิกายเกลียวอัสนี
ทั้งสามนิกายนี้จะไปเยี่ยมชมนิกายเกลียวอัสนีเพื่อนำเข้าอาวุธอยู่เป็นประจำ
แน่นอนว่าอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่ของนิกายเกลียวอัสนีนั้นไม่ใช้ระเบิดอัสนีคำรนที่จำหน่ายขาย
ระเบิดอัสนีคำรนเพียงลูกเดียวอาจสามารถสังหารนักสู้ขอบเขตปฐพีธรรมดาระดับต่ำได้ด้วยแรงระเบิดเพียงอย่างเดียว
ครืน!
สามารถได้ยินเสียงระเบิดรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ประกายไฟและสายฟ้าลุกลามไปทั่วรัศมีหนึ่งร้อยเมตรทั้งหมด มีเม็ดโลหะสีแดงกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ สร้างรอยและหลุมหลายร้อยหลุมบนพื้นผิวดิน
ชูมู่หยูและคนอื่นๆ ได้ถอยจากพื้นที่นี้ไปแล้ว พวกเขาสังเกตุการต่อสู้อยู่สักครู่และก็หมดความสนใจไป พวกเขามุ่งหน้าไปยังประตูโลหะ
ควันค่อยๆ จางหายไป
บริเวณด้านหน้าประตูโลหะอยู่ในสภาพยุ่งเหยิง
ห่างออกไปหลายเมตร หลี่ฟูเฉินและกลุ่มของเขาต่างก็ถือโล่ใบใหญ่ไว้อยู่ ก่อรูปร่างลักษณะเหมือนเกราะป้องกันกึ่งโดม ปกป้องร่างกายของพวกเขาไว้
ฝั่งตรงข้าม กลุ่มของฟูจงชานอยู่ในสถานะที่ดูน่าสมเพช
ทั้งสามคนก็ถือโล่เช่นกัน แต่พวกเขาไม่ได้ร่วมมือกันและดูแลตัวของตัวเองแทน พลังทำลายจากระเบิดอัสนีคำรนและลูกปัดโลหะทำให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่บ้าง โดยเฉพาะหลี่หวูเซี่ยที่เต็มไปด้วยเลือดจำนวนมากซึ่งกำลังไหลซึมออกมา
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ เรื่องนี้มีกลุ่มลับ ซึ่งตอนจะถูกกว่า TN กลุ่ม 3 เริ่มที่ตอน 216
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ INDYNOVEL