Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 212
บทที่ 212
หมดหวัง
ฟูจงชานถือดีเกินไป เขาคิดว่าเขาจะสามารถรับมือกับหลี่ฟู่เฉินได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้เทคนิคลับใดๆ และยังคิดอีกว่าจะสามารถชนะหลี่ฟู่เฉินได้ภายในสิบดาบ
ความเป็นจริงครั้งนี้มันได้ตบหน้าเขาอย่างโหดร้าย
เขาเปิดใช้งานเทคนิคลับระดับ 3 ดาวของตน ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นมากและความเร็วของดาบก็เช่นกัน หลี่ฟู่เฉินเองก็เกือบถูกฟันเพราะความไม่ระวัง หากมันไม่ได้เป็นเพราะการตอบสนองที่รวดเร็วของเขา เขาก็คงจะถูกผ่าออกเป็นสองส่วนไปแล้ว และในตอนนี้ เขาไม่ได้โคจรเทคนิคเพลิงโลกันต์แท้จริงไว้ ดังนั้นพลังป้องกันของเขาจึงยิ่งลดน้อยลงไปอีก
กระดกกลืนยาฟื้นระดับลึกลับขั้นต่ำเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง หลี่ฟู่เฉินผลักดันความเร็วของเขาไปจนถึงขีดสุด เขาหลบดาบที่สองของฟูจงชานอย่างยากลำบากแม้ว่าเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากเทคนิคลับแล้วก็ตาม
ปั้ง!
หลี่ฟู่เฉินขว้างระเบิดพิษจำนวนมากออกไป ขณะที่ละอองหมอกกระจายออกมาจนหนาแน่น
“ออกไป!”
มือซ้ายของฟูจงชานขดตัวราวกับหัวมังกร หมุนวนอยู่ภายในหมอก ส่งผลทำให้หมอกทั้งหมดนี้เริ่มจางหายไป
ฮอง ฮอง ฮอง…
ขณะเดียวกับลมที่เหมือนพายุถูกปล่อยออก หมอกพิษหนาแน่นก็ถูกเป่าออกไปในไม่กี่ลมหายใจ
ความสามารถของฟูจงชานแข็งแกร่งเกินไป ศรทลายปีศาจทำให้เขาบาดเจ็บได้จริง แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการบาดเจ็บสาหัส ความสามารถของเขาได้รับผลกระทบแน่ๆ แต่ด้วยการเปิดใช้งานเทคนิคลับ ความสามารถของเขาก็เพิ่มขึ้นแทนที่จะลดลง มันเป็นการผลักดันทำให้หลี่ฟู่เฉินต้องตกลงไปในสถานการณ์ที่อันตราย
เมื่อบาดแผลของเขาเริ่มฟื้นตัว หัวของหลี่ฟู่เฉินก็อาจจะตกลงแทนเอาได้
เขาสามารถดูออกได้เลยว่าศรทลายปีศาจจะไม่มีโอกาสได้ใช้อีกต่อไป และด้วยศัตรูที่ระวังตัวอยู่แบบนี้ โอกาสสำหรับเขาคงไม่ได้มีมากมายนัก แม้ว่าเขาจะใช้อาวุธระดับปฐพี เขาก็จะมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากเขาพลาดในครั้งนี้ เขาจะไม่มีโอกาสอีกต่อไป
ในอีกด้านหนึ่ง ฟานเฉียนหยูก็ตกอยู่ความเสียเปรียบเช่นกัน
ธงโลหิตในมือของหลี่หวูเซี่ยนั้นน่าหวาดกลัวเกินไป มันเองก็ดูเหมือนจะเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวมของเขา มันต้องการเพียงแค่ต้องการพลังฉีถ่ายเข้าไปเพื่อระเบิดออกพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา
ไม่มีวิธีอื่นอีก ฟานเฉียนหยูเก็บมีดจันทร์เสี้ยวลงไปและหยิบร่มเหล็กขึ้นมา
ร่มเหล็กนี้เองก็เป็นอาวุธพิเศษ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งการโจมตีและป้องกัน ในช่วงเวลาสั้นๆ เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอีก
ปิสส!
ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินเริ่มมีบาดแผลเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้ทั่วทั้งร่างของเขาอาบไปด้วยเลือด
เผชิญหน้ากับคมดาบ กลยุทธหมอกพิษก็ไม่สามารถใช้ได้อีกต่อไป
ฟูจงชานไม่เหมือนกับซูเหยชาน ซึ่งเป็นเพียงศิษย์หลักระดับเงิน เขาเป็นศิษย์หลักระดับทอง ไม่ว่าจะเป็น ระดับเทคนิค ระดับเทคนิคลับ หรือระดับทักษะต่อสู้ พวกมันทั้งหมดย่อมเหนือกว่าของซูเหยชาน เว้นเพียงแต่ระดับบ่มเพาะที่ต่ำกว่าก็เพียงแต่แค่นั้น
“ทำไมข้าถึงไม่สามารถสังหารมันได้?”
ฟูจงชานดูร้อนใจ ศรทลายปีศาจอาจจะทำให้เขาบาดเจ็บได้ไม่มากนัก แต่มันก็ไม่ได้เบาถึงขั้นไม่รู้สึกอะไรเช่นกัน หากการต่อสู้ยังดำเนินต่อไป อาการบาดเจ็บของเขาจะรุนแรงขึ้นอย่างไม่มีข้อแม้ และเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส มันก็จะ
ส่งผลต่อความสามารถต่างๆ ของเขา โดยเฉพาะปฏิกิริยาตอบสนองของเขา
หลี่ฟู่เฉินยังคงยืนหยัดอยู่อย่างอดทน พยายามที่จะยับยั้งตนเองจากการใช้อาวุธระดับปฐพี
เขาต้องการโอกาสที่จะทำร้ายศัตรูอย่างรุนแรง เขาไม่ได้หวังว่าจะเอาชนะศัตรูของเขาได้ในตอนนี้
เศษอาวุธระดับปฐพีนั้นเป็นเพียงแค่อาวุธที่เสียหาย มันไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ที่มีพลังสังหารเบ็ดเสร็จ
หากสามารถทำร้ายศัตรูของเขาได้อย่างรุนแรง มันก็นับว่าประสบความสำเร็จแล้ว
“ตาข่ายสวรรค์!” ฟูจงชานใช้ท่าสังหารของเขาอีกครั้ง
“นครพายุ!”
เมื่อพายุถูกปลดปล่อยออกมา มันก็เข้าไปปะทะกับท่าสังหารของฟูจงชาน
หลังจากการระเบิดเล็กน้อย พายุก็เหือดหายไป ในขณะที่แสงดาบรูปตาข่ายก็สลัวลงและเผยให้เห็นข้อบกพร่องมากมาย
มันเป็นฟานเฉียนสง
ฟานเฉียนสง ผู้ที่อยู่ในระดับที่ห้าขอบเขตปฐพีมีความสามารถเหนือกว่าหลี่ฟู่เฉินอย่างมาก หากเขาทุ่มเต็มกำลัง มันก็เป็นไปได้ที่จะสลายการโจมตีนี้
โดยไม่เสียเวลาใดๆ อีก เมื่อฟานเฉียนสงสกัดกั้นท่าสังหารของฟู่จงชาน หลี่ฟู่เฉินก็หยิบเศษอาวุธออกมาทันที
แสงสีดำเปล่งประกายและหายไปกลางอากาศก่อนที่จะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งที่หน้าของฟูจงชาน
ฟูจงชานคำรามและระเบิดสภาวะพลังฉีของเขา
ปิสส…
เศษอาวุธมีความสามารถในการเจาะทะลวงอ่อนแอกว่าศรทลายปีศาจ แต่มันก็เหนือกว่าในด้านความแข็งแกร่ง เมื่อใช้ผ่านพลังฉี มันก็เจาะทุละร่างกายของฟูจงชานได้ในทันที
ฟูจงชานอาเจียนออกมาเป็นเลือดสดและบินกลับออกไปข้างหลัง
พลังของเศษอาวุธนั้นกระจายออกไปด้วยเกราะพลังฉีและพลังที่เหลือไม่สามารถเจาะเข้าร่างกายของเขาได้ แต่ส่งร่างกายของเขาบินกลับไปแทน
“กระหน่ำลม ฝน!”
ฟานเฉียนสงดูดุร้ายขณะที่เขาพุ่งเข้าไปยังฟูจงชาน พลองโลหะของเขาหมุนวนไม่หยุดกลางอากาศและเมื่อวงกลมมีขนาดเล็กลง พลังก็ขยายใหญ่ขึ้น ราวกับหัวสว่าน มันพุ่งทลวงไปที่ฟู่จงชานอย่างรุนแรง
“เพลิงดาวตกฉบับว่องไว!”
หลี่ฟู่เฉินเองก็ส่งการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดออกไปเช่นกัน ประกายไฟพุ่งเข้าหาฟูจงชาน
“พวกเจ้าทั้งหมดรนหาที่ตาย!”
ฟูจงชานกวัดแกว่งดาบของเขาและต่อต้านท่าสังหารของทั้งฟานเฉียนสงและหลี่ฟู่เฉิน ระหว่างที่ทำทั้งหมดนี้เลือดไหลออกมาจากปากของเขา
ปิสสส!
ศรทลายปีศาจอีกดอกถูกปักลงไปในร่างของฟูจงชาน ขณะที่ตัวศรเองก็กำลังสั่นสะเทือน
“เวร เวร เวรเอ้ย พวกเจ้าทั้งหมดมันเป็นตัวสารเลว!” หัวใจของฟูจงชานปุทะอารมณ์ทุกประเภทออกมา เช่นความโกรธ ความเดือดดาล ความเจ็บปวด ด้วยสิ่งนี้มันเกือบจะทำให้เขาบ้าคลั่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหลี่ฟู่เฉิน หากเป็นไปได้ เขาจะกินเนื้อและดื่มเลือดของมัน
ใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ ก้านพลองของฟานเฉียนสงก็เข้าไปปะทะที่หน้าอกของฟูจงชาน
แคร๊ก!
กระดูกซี่โครงของฟูจงชานสองสามซี่หัก ขณะที่ร่างกายของเขาบินไปข้างหลังอีกครั้ง
“ระเบิดเพลิงดาวตก!”
ในบรรดาทักษะดาบระดับลึกลับขั้นกลางทั้งสามที่หลี่ฟู่เฉินเชี่ยวชาญ วิชาดาบเพลิงดาวตกมีความน่ากลัวมากที่สุด ระเบิดเพลิงดาวตกอาจจะไม่มีอะไรมากมาย นอกเสียจากแสงอ่อนๆ แต่เมื่อมันสัมผัสกับพลังฉีของฟูจงชาน มันก็ระเบิดพลังโจมตีที่น่าประหลาดใจออกมา ส่งผลทำให้ฟูจงชานอาเจียนออกมาเป็นเลือด
“เจ้าทำให้ข้าต้องทำเช่นนี้เองนะ… ผ่าโลหิต!”
ร่างกายของฟูจงชานเปล่งประกายด้วยแสงสีเลือด มันทะลักเข้าไปในดาบยาว ด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว แสงดาบสีเลือดขนาดใหญ่ก็ถูกปลดปล่อยออกมา ซึ่งนวดเร็วมากและครอบคลุมหลายสิบเมตร
ปิส ปิสส!
หลี่ฟู่เฉินและฟานเฉียนสงบินกลับออกไปข้างหลังและเปียกโชกไปด้วยเลือด
ฟานเฉียนสงยังคงสบายดีและไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ใช่กับหลี่ฟู่เฉิน เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส โชคยังดีที่ฟานเฉียนสงมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือ เขาจึงเปลี่ยนกลับไปใช้เทคนิคเพลิงโลกันต์แล้ว ไม่เช่นนั้นดาบนี้จะแยกตัวเขาออกจากกัน
กระบวนดาบนี้ถูกใช้โดยฟูจงชาน มันเป็นเทคนิคลับระดับ 3 ดาวที่ถูกเติมพลังด้วยการเผาผลาญเลือดของตัวเอง เพื่อที่จะระเบิดออกพลังต่อสู้ที่น่าเกรงขามออกมา
“ข้าจะปล่อยให้เขามีเวลาพักฟื้นไม่ได้”
หลี่ฟู่เฉินบังคับตัวเองให้ตื่นตัว ประสานงานกับฟานเฉียนสงและโจมตีไปที่ฟูจงชานอีกครั้ง
“ตาย!”
หลี่ฟู่เฉินยิงศรทลายปีศาจลูกสุดท้ายออกไป
ลูกศรนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะที่มันเจาะเข้าไปในปอดของฟูจงชาน
ปอดเป็นอวัยวะที่สำคัญอย่างยิ่งของร่างกาย มันจำเป็นต้องใช้โคจรพลังฉี เมื่อปอดของเขาถูกลูกศรพุ่งทะลุ สภาวะพลังฉีที่ระเบิดออกมาของฟูจงชานก็ลดลงไปครึ่งนึงจากเดิมทันที
“ไปลงนรกซะ!”
อาวุธของฟานเฉียนสงเปล่งประกายสีเขียวและมีหลอดเลือดสีดำขึ้นตามมัน เขาโจมตีไปที่ฟูจงชานอย่างต่อเนื่อง ด้วยเสียงดัง ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง ที่ได้ยินในอากาศ กระดูกครึ่งหนึ่งของฟูจงชานก็หักลงและร่างกายเขาอ่อนแอปวกเปียก พลังฉีเองก็อ่อนลงเช่นกัน
แคร๊ก!
ฟานเฉียนสงใช้พลองของเขาบดขยี้ไปตรงระหว่างคิ้วของฟูจงชาน
“ไม่ดีแล้ว”
ในอีกด้านหนึ่ง หลี่หวูเซี่ยได้เห็นฉากนั้นและรู้สึกหวาดกลัว
ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มขึ้น เขาไม่เคยคาดหวังว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ จากมุมมองของเขา แม้ว่าหลี่ฟู่เฉินและฟานเฉียนสงจะร่วมมือกันก็ตามที พวกเขาก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของฟูจงชานได้
“หนี!”
หลี่หวูเซี่ยโบกธงสีเลือดของเขาเพื่อสลัดฟานเฉียนหยูทิ้ง และวิ่งไปทางหนึ่งในอุโมงค์
“ข้าจะตามเขาไป!”
ฟานเฉียนสงยังมีพลังกำลังอยู่มาก ขณะที่เขาไล่ล่าตามหลังหลี่หวูเซี่ยไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับหลี่ฟู่เฉิน เขาพบว่ามันยากที่จะยืนหยัดอยู่ได้ เขากินยาฟื้นฟูระดับลึกลับขั้นต่ำและนั่งไขว่ห้างเพื่อพักฟื้นอาการบาดเจ็บของเขา
ในช่วงเวลาสั้นๆ ฟานเฉียนสงก็กลับมา
“พี่ พี่ฆ่าเขาไปแล้วหรอ?” ฟานเฉียนหยูถาม
ฟานเฉียนสงส่ายหัวของเขา “บุคคลผู้นี้มีสิ่งประดิษฐ์มากเกินไป เขาหนีไปแล้ว”
“ด้วยฟูจงชานที่ตายไปแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาจะทำอะไรได้ไม่มากนัก” ฟานเฉียนหยูออกความคิดเห็น
ฟานเฉียนสงตอบ “การฆ่าเขาจะเป็นการดีที่สุด เขาจะเป็นตัวปัญหา หากเขาถูกปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไป”