Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 213
บทที่ 213
มรดก
หลังจากที่ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ในที่สุดหลี่ฟู่เฉินก็ฟื้นฟูสภาพเดิมกลับมาได้ 30% ถึง 40%
การบาดเจ็บครั้งนี้เป็นหนึ่งในอาการบาดเจ็บรุนแรงที่สุดที่เขาเคยประสบพบเจอมา หากว่าเขาประมาทแม้แต่เพียงเล็กน้อย ชีวิตของเขาก็คงจะจบสิ้นลงแล้ว
“เกือบไปแล้วจริงๆ” หลี่ฟู่เฉินสูดหายใจลึก ขณะที่กลิ่นเลือดเองก็เข้ามากลับการสูดหายใจครั้งนี้ เขาลืมตาขึ้น
ความสามารถของฟูจงชานน่ากลัวเกินไป หลี่ฟูเฉินใช้ความสามารถทั้งหมดของเขาไปแล้วและยังได้รับการสนับสนุนจากฟานเฉียนสงอีก แต่เขาก็สามารถเอาชนะฟูจงชานได้แบบฉิวเฉียดเท่านั้น
มันยากที่จะจินตนาการว่าหากฟานเฉียนสงไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาจะถูกกดดันไปจนถึงขั้นไหนกัน? หลังจากทั้งหมดแล้ว เขาไม่สามารถหลบหนีได้ แม้ว่าเขาจะทำได้ก็จริง แต่ฟานเฉียนหยูยังอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถละทิ้งเธอได้
“หลี่ฟู่เฉิน เจ้าตื่นแล้ว?” ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูมองมาที่เขา
หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า “ขอบใจพวกเจ้าทั้งคู่มาก”
ฟานเฉียนสงโบกมือก่อนจะกล่าว “ข้ายังไม่ได้เก็บถุงเก็บของของฟูจงชาน ไปดูกันว่าเขามีอะไรบ้าง และมาแบ่งกัน!”
หลี่ฟู่เฉินตอบกลับ “ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น กระเป๋าเก็บของฟูจงชานเป็นของพวกเจ้าสองคนแล้ว อย่าปฏิเสธข้อเสนอของข้า หากเจ้ายังถือว่าข้าเป็นเพื่อนอยู่”
มันไม่สำคัญว่าของสิ่งใดจะอยู่ในกระเป๋าของฟูจงชาน หลี่ฟู่เฉินไม่ได้มีความสนใจต่อเรื่องนี้เท่าใดนัก
“ก็ได้ ข้าจะทำหน้าให้หนาและรับมันไว้” ฟานเฉียนสงลังเลอยู่สักครู่ก่อนจะพยักหน้า
อาการบาดเจ็บของเขาจะไม่หายโดยไว้เพราะเม็ดยาฟื้นฟู้ระดับลึกลับขั้นต่ำ หลี่ฟู่เฉินกัดฟันของเขาและหยิบยาเม็ดฟื้นฟู้ระดับลึกลับขั้ยกลางออกมาจากถุงเก็บของเขา
ยาฟื้นฟูระดับลึกลับขั้นกลางมีค่าใช้จ่าย 100,000 คะแนนต่อเม็ด หากถูกแลกเป็นเหรียญทอง มันจะมีค่าเป็นสองเท่า ก่อนที่หลี่ฟูเฉินจะเริ่มการเดินทางของเขา เขาแลกยาฟื้นฟูระดับลึกลับขั้นกลางออกมาสองเม็ด โชคยังดีที่เขาได้รับเม็ดยาลึกลับขั้นกลางมาเพิ่มขึ้น เมื่อตอนที่เขาได้ฆ่าหลิวกวงเฟิงจากนิกายพัตเงิน และซูเหยชานจากนิกายสวรรค์ปีศาจ หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาก็อาจจะคงรู้สึกเสียดายเจียนตาย
เขาไม่ได้เพียงแค่กังวลแค่มูลค่าของมัน แต่หากเมื่อเขาต้องใช้ครั้งต่อไป เขาจะเอาที่ไหนใช้กันละ?
ท้ายที่สุดแล้วในโลกภายนอก มันยากที่จะค้นหาและซื้อยาฟื้นฟูระดับลึกลับขั้นกลาง เม็ดยาที่มีระดับสูงดังกล่าวจะปรากฏเฉพาะในระหว่างการประมูลเท่านั้น
ผลกระทบของเม็ดยาฟื้นฟูระดับลึกลับขั้นกลางนั้นมีคุณค่าสมกับราคา ในเวลาเพียง 15 นาที สภาพของหลี่ฟู่เฉินกลับมาอยู่ที่ 80% ผลกระทบจากยาที่ดูไร้สิ้นสุดเป็นเหมือนคลื่นที่พุ่งขึ้นสูง ขณะที่มันเข้ามากระทบกับบาดแผลของหลี่ฟู่เฉินอย่างต่อเนื่อง มันช่วยบำรุงโลหิตของเขา ช่วยเพิ่มความเร็วในการฟื้นตัวของเขาอย่างน้อยสิบเท่า
“ไปกันเถอะ!” หลี่ฟู่เฉินยืนขึ้น
พวกเขาล่าช้ามานานกันเกินไปแล้ว ของที่ยอดเยี่ยมจะไม่รอพวกเขาแน่
“เอาหล่ะ”
ฟานเฉียนสงรู้สึกพึงพอใจมาก เนื่องจากความมั่งคั่งที่อยู่ในถุงเก็บของของฟูจงชานนั้นหรูหราเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้ หลังจากมอบส่วนหนึ่งให้กับน้องสาวของเขา ส่วนที่เหลือก็ยังเพียงพอสำหรับเขาที่จะใช้มันต่อสู้ได้อีกเกือบปี
ครึ่งวันต่อมา หลี่ฟูเฉินและทั้งสองก็ออกจากเขาวงกตอุโมงค์แล้วก็ข้ามทะเลสาบ
ทะเลสาบมีสะพานไม้โดดเดี่ยวที่มีความยาวประมาณ 500 เมตรตั้งไว้อยู่
น้ำของทะเลสาบที่อยู่โดยรอบสะพานไม้นั้นมีสีเขียวเข้มและบางครั้งก็จะปล่อยฟองอากาศออกมา
ฟานเฉียนหยูโยนแผ่นเหล็กลงไปในทะเลสาบ และมองเห็นได้ด้วยตามนุษย์ ก่อนที่เหล็กจะจมลงไป มันก็เริ่มเป็นสนิมและละลายลง ความเป็นพิษอยู่ในระดับที่ทำให้เส้นผมของพวกเขาลุกชัน มันเต็มไปด้วยหมอกพิษ ทั้งคู่ไม่กล้าแตะต้องมันอีก
“มีพิษร้ายแรงอยู่ในน้ำของทะเลสาบ มันไม่สามารถแตะต้องได้อย่างแน่นอน และเราอาจจะข้ามไปไม่ได้เช่นกัน” 500 เมตรไม่ถือว่าเป็นระยะไกล ด้วยความสามารถของพวกเขา พวกเขาจะข้ามไปได้อย่างง่ายดาย แต่จุดที่สำคัญที่สุดก็คือ เจ้าของหลุมฝังศพอาจพิจารณาจุดๆ นี้ไว้แล้ว และอาจจะไม่อนุญาตให้พวกเขาข้ามไปได้อย่างง่ายดาย
“มาลองดูเถอะ!” หลี่ฟู่เฉินขว้างโลหะชิ้นหนึ่งไปยังที่อีกฝั่งหนึ่ง
วืดด!
ดูเหมือนว่าโลหะจะถูกบดขยี้เป็นเศษผงโดยแรงที่มองไม่เห็น พลังนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าทะเลสาบที่มีพิษ
“ดูเหมือนว่าทางเดียวที่ใช้ได้ก็คือสะพาน” หลี่ฟู่เฉินขมวดคิ้ว
การเดินบนสะพานไม้เดี่ยวอาจจะเป็นอันตราย แต่หากท่านต้องการข้ามฝั่ง วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือเดินบนสะพานไม้เดี่ยว
คลุมร่างกายทั้งหมดของเขาด้วยเจตจำนงเพลิงแดง หลี่ฟู่เฉินเริ่มข้ามสะพานไม้ก่อนคนแรก
เขาค่อนข้างแน่ใจมากว่าพิษในทะเลสาบเป็นพิษที่ร้ายแรงมาก และบวกกับแรงสั่นสะเทือนเหนือทะเลสาบ ทั้งสองอาจเป็นเจตจำนง เนื่องจากพวกมันคือเจตจำนง วิธีเดียวที่จะปกป้องตัวเองได้ก็คือการใช้เจตจำนงของเขาเอง อย่างน้อยก็อาจมีความหวังเพื่อความอยู่รอดได้บ้าง
เหยียบลงไปบนสะพานไม้เดี่ยว หลี่ฟู่เฉินจุดติดเจตจำนงเพลิงแดง
“อย่างที่คาดไว้”
พิษพลังฉีและแรงสั่นสะเทือนเป็นเจตจำนงจริงๆ โชคดีที่มีเกราะป้องกันจากเจตจำนงเพลิงแดง หลี่ฟูเฉินจึงยังคงยืนหยัดอยู่ได้
กลับไปที่ตีนสะพาน หลี่ฟู่เฉินกล่าวกับฟานเฉียนหยู “เจ้ายังไม่เข้าใจเจตจำนงเทคนิค ไปด้วยกัน”
ฟานเฉียนสงเข้าใจเจตจำนงเทคนิคแล้ว แต่ฟานเฉียนหยูยังไม่
หลี่ฟู่เฉินสันนิษฐานว่าเจตจำนงเทคนิคของเขานั้นเหนือกว่าเจตจำนงเทคนิคของฟานเฉียนสง และรู้ว่าเขาสามารถปกป้องฟานเฉียนหยูได้
ฟานเฉียนหยูพยักหน้าและติดตามไปอย่างใกล้ชิดอยู่ที่ด้านหลังของหลี่ฟู่เฉิน
ขยายเจตจำนงเพลิงแดง หลี่ฟู่เฉินคลุมร่างของฟานเฉียนหยูด้วยเจตจำนงเพลิงแดงนี้
ผ่านสะพานไม้ไปครึ่งทาง เจตจำนงเพลิงแดงก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลทำให้เจตจำนงเพลิงแดงเกือบจะหายไป
โชคยังดีที่พวกเขาทั้งคู่มาถึงฝั่งอีกได้อย่างปลอดภัย
“พี่ ระวังตัวด้วย” ฟานเฉียนหยูกล่าวกับฟานเฉียนสง
ฟานเฉียนหยูพยักหน้าและใช้เจตจำนงเทคนิคไร้กังวลของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง ในขณะที่เดินข้ามสะพานไม้
คล้ายกับฟานเฉียนหยู ผ่านสะพานไปครึ่งทาง ฟานเฉียนสงก็รู้สึกว่าเจตจำนงเทคนิคไร้กังวลของเขาสั่นสะเทือนอย่างรุงแรง โชคดีสิ่งที่เขาต้องทำก็มีเพียงการปกป้องตัวเอง หากเขาเป็นเหมือนหลี่ฟู่เฉินที่ต้องปกป้องฟานเฉียนหยูไปด้วย เขาอาจจะไม่สามารถข้ามสะพานไปได้
หลังจากผ่านไปสิบลมหายใจ ฟานเฉียนสงก็มาถึงอีกฝั่งนึกด้วยเช่นกัน
“หลุมฝังศพนี้อาจเป็นของผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงซึงอย่างน้อยๆ ก็อยู่ในขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณหรือสูงกว่า มีเพียงผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นที่สามารถใช้ความสามารถด้านเต๋าเจตจำนงต่อสู้ได้ถึงระดับที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้” ฟานเฉียนสงหัวเราะแห้งๆ
หลี่ฟูเฉินถาม “ขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณคือขอบเขตต่อไปต่อจากขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดใช่หรือไม่?”
ฟานเฉียนสงพยักหน้า “ถูกแล้ว เจ้ารู้จักตระกูลต้วนหลินหรือไม่? โครงกระดูกเทพยุทธ์วิญญาณของพวกเขากล่าวกันว่าเกี่ยวข้องกับขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณ นี่คือเหตุผลว่าทำไมตระกูลนั้นถึงมีความน่าเกรงขามและสามารถยืนหยัดเป็นกองกำลังระดับสูงในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกได้”
“ขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณ?ตระกูลต้วนหลิน?”
หลี่ฟู่เฉินตระหนักได้ว่าความรู้ของเขานั้นตื้นเขินเกินไป
ฟานเฉียนหยูกล่าว “เดิมทีทวีปยูนิคอร์นตะวันออกนั้นมีผู้เชี่ยวชาญปรามจารย์อยู่มากมาย แต่เพราะเหตุใดไม่รู้ การสู้รบครั้งใหญ่ก็ได้ปะทุขึ้นในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกซึ่งเกี่ยวข้องกับผู้เชี่ยวชาญปรามจารย์ทั้งหมด หลังจากนั้นไม่นานผู้เชี่ยวชาญปรามจารย์เหล่านี้ก็หายไป ว่ากันว่าพวกเขาถูกเนรเทศออกไป แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือเท็จ พวกเราเองก็ต้องรู้มันให้ได้จากการอ่านบันทึกโบราณบางอย่าง”
ฟานเฉียนสงกล่าวต่อ “เรายังห่างไกลจากขอบเขตนั้น อย่าพึ่งไปสนใจมัน ดูเหมือนว่าจะมีห้องโถงใหญ่รออยู่ข้างหน้านะ”
มีห้องโถงใหญ่อยู่ข้างหน้าและประตูก็ถูกเปิดออกแล้ว มีคนปรากฏอยู่รอบๆ ดูเหมือนจะไล่ตามบางสิ่งบางอย่าง
“เข้าไปข้างในกันเถอะ” หลี่ฟู่เฉินมุ่งหน้าไปยังห้องโถงใหญ่
ภายในห้องโถงใหญ่มีวิญญาณเล็กๆ ที่ดูเหมือนจุดแสงบินไปมาอยู่บนฟ้า ชูมู่หยู ซงฉิงเหอ และเหว่ยชานเห่อต่างก็ไล่ตามจุดไฟเหล่านั้น
“สิ่งเหล่านี้เป็นมรดก?” ฟานเฉียนสงยกคิ้วของเขาขึ้น
มรดกเฉพาะ พวกมันเป็นข้อมูลประเภทหนึ่ง ก่อนใครจะได้รับมันไป จะไม่มีใครรู้ว่ามีข้อมูลประเภทใดอยู่
มรดกถูกจัดเรียงเป็นมรดกหลักและมรกดรอง
มรดกรองเป็นทักษะต่อสู้และเทคนิคลับที่น่ากลัวต่างๆ มรดกหลักคือการส่งผ่านประสบการณ์ชีวิตจากผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง ซึ่งบรรจุทุกอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าใจ