Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 215
บทที่ 215
วิญญาณปีศาจ
ไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าใดแล้ว ข้อมูลที่อยู่ในบทดาบไร้สมบรูณ์นั้นในที่สุดก็ถูกส่งมอบอย่างสมบูรณ์
หลี่ฟู่เฉินตระหนักได้ว่าในดาบไร้สมบรูณ์ มันมีเพียงบทดาบเหล็กดำและบทดาบทองแดงเท่านั้นที่สมบูรณ์ นอกนั้นก็มีเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ของบทดาบเงิน
จากข้อมูลที่บันทึกไว้บทดาบเหล็กสีดำนั้นไม่ได้อ่อนแอกว่าเทคนิคลับระดับ 5 ดาวอื่นๆ เลย
ในส่วนของบทดาบไร้สมบรูณ์ทองแดง มันจะถูกจัดหมวดหมู่เป็นเทคนิคลับระดับ 6 ดาวแล้ว
เทคนิคลับดาบไร้สมบรูณ์นี้ไม่ควรใช้สำหรับโจมตีโดยตรง แต่กลับกันมันช่วยเหลือด้านพลังโจมตีโดยรวม
ประดุจดั่งเช่นดาบประดิษฐ์ ด้วยตัวเองมันไม่สามารถฆ่าใครได้ แต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของนักดาบ มันจะสามารถฆ่าได้
ทฤษฎีของดาบไร้สมบูรณ์ก็เป็นเชกเช่นเดียวกัน
ครั้นเมื่อหลี่ฟู่เฉินได้ก่อดาบไร้สมบรูณ์ขึ้นมา เขาจะสามารถใช้ไขกระดูกเป็นดาบ เพื่อปล่อยดาบพลังฉีได้โดยไม่ต้องใช้ดาบประดิษฐ์ แต่ถ้าเขาถือดาบประดิษฐ์ไว้ด้วย พลังฉีแห่งดาบก็จะสามารถเพิ่มขึ้นความน่าหวั่งเกรงได้ยิ่งขึ้นไปอีก
แน่นอน ส่วนสาระสำคัญของเทคนิคลับนั้นฝึกฝนยากมาก แม้แต่กระทั่งดาบไร้สมบรูณ์ทองแดงที่เป็นเทคนิคลับระดับ 5 ดาวก็ยังยาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝึกฝนมันภายในระยะเวลาอันสั้น มันสามารถฝึกฝนได้หลังจากผ่านไปหลายวันและหลายเดือนภายใต้การฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
เปิดดวงตาของเขา หลี่ฟู่เฉินตระหนักได้ว่าเขาเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้นมา
ทันทีที่หลี่ฟู่เฉินลืมตา ชูมู่หยูเองก็ตื่นขึ้นด้วยเช่นกัน
เธอไม่ได้มองมาที่หลี่ฟู่เฉินอย่างที่เขาคิด ‘เทคนิคลับระดับ 6 ดาวนี้เพียงพอสำหรับข้าแล้วที่จะทำลายกฎของทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่ข้าไม่สามารถเปิดเผยเทคนิคลับระดับ 6 ดาวนี้ให้กับทุกคนได้’
มันเป็นความจริงที่รู้กันว่าแม้แต่กระทั้งหุบเขานิรันด์ก็ไม่ได้มีเทคนิคลับระดับ 6 ดาว
หากสิ่งนี้ถูกเปิดเผย มันจะทำให้นิกายต่างๆ ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกกลายเป็นบ้าคลั่ง
“ข้าสงสัยว่าเทคนิคลับแบบใดกันที่เขาได้รับ?” ชูมู่หยูมองไปที่หลี่ฟู่เฉิน
จากสิ่งที่เธอสังเกตเห็น เทคนิคลับของหลี่ฟู่เฉินสมควรเป็นเทคนิคลับระดับ 6 ดาว บางทีมันอาจเหนือกว่าเธอ เพียงแค่ลักษณะจุดไฟของเขาก่อนหน้านี้ก็บอกได้แล้ว
สำหรับคนอื่นๆ มันสมควรเป็นเทคนิคลับระดับ 4 หรือ 5 ดาว
หลังจากได้รับบทที่ไม่สมบูรณ์ ดาบไร้สมบรูณ์แล้ว หลี่ฟูเฉินก็วางแผนที่จะไปไล่ตามจุดไฟอื่นๆ แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าจุดไฟเหล่านี้เริ่มกระจายและผสมผสานเข้ากับผนังของห้องโถงใหญ่
“ดูเหมือนว่าแต่ละคนจะได้รับมรดกเทคนิคลับได้แค่อันเดียวเท่านั้น” หลี่ฟู่เฉินคิดกับตัวเอง
“เค๊ก เค๊ก ตั้งแต่ที่พวกเจ้าได้อยู่ที่นี่แล้ว เราจะกินพวกเจ้าทุกคน มันควรจะสามารถเสริมสร้างร่างกายของพวกเราได้”
เมื่อทุกคนตื่นขึ้นมา บุคคลที่คุ้นเคยก็เดินเข้ามาจากประตูหน้าของห้องโถงใหญ่
พวกเขาคือฟูจงชาน ซูเหยชาน และศิษย์หลักทั้งสองจากนิกายเพลิงปฐพี และหลี่หวูเซี่ยเองก็ด้วยเช่นกัน
พวกเขาทั้งห้าคนไม่ได้ดูเหมือนเป็นมนุษย์ ตาขาวของพวกเขาเป็นสีดำและนัยตาเองก็ดูซีดหม่นหมอง มันดูแปลกมาก
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเขายังไม่ตาย?” ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูตกตะลึง
“มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” หลี่ฟู่เฉินขมวดคิ้ว
“เกาชิตี๋ หลูชิตี๋ เกิดอะไรขึ้นกับพวกท่าน?” ซงชานเห่อถามอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นศิษย์ของนิกายเพลิงปฐพีทั้งคู่เช่นเดียวกับเขา
พวกเขาทั้งคู่พยายามเข้ามาหา แต่ก็ไม่สามารถข้ามสะพานไม้เดี่ยวได้
“ใครคือเกาชิตี๋ของเจ้า” เด็กหนุ่มพูด ขณะที่เกาชิตี๋เลียริมฝีปากของเขา ลิ้นแฉกที่แปลกและน่าขยะแขยงแลบออกมา
ชูมู่หยูกล่าวอย่างจริงจัง “ร่างกายของพวกเขาถูกครอบงำโดยสิ่งชั่วร้าย” เธอคือผู้มีประสบการณ์หลายภารกิจและมีความรู้มากกว่าใครที่นี่
“สิ่งมีชีวิตที่ชั่วร้าย?” หลี่ฟู่เฉินกำลังคิดอย่างลึกซึ้ง
ดูเหมือนว่าหลังจากหลี่หวูเซี่ยหนีไป ผลลัพธ์สุดท้ายของเขาคงจะไม่ดีนัก แต่ก็ดี มันช่วยประหยัดความพยายามของหลี่ฟู่เฉินในการพยายามฆ่าเขาอีกครั้ง
แต่หลี่ฟู่เฉินไม่ได้ยินดีเลย หลี่หวูเซี่ยอาจจะตายไปแล้ว แต่สิ่งชั่วร้ายนี้ยากที่จะจัดการมากกว่าตัวหลี่หวูเซี่ยเองแน่นอน หากมันสามารถครอบครองร่างกายหรือศพได้ การจะจัดการกับมันจะง่ายดายได้ยังไง?
“ออกไปจากร่างของเกาชิตี๋ซะ!” ซงฉิงเห่อรู้สึกโมโห ขณะที่เขาตะโกนและส่งกำปั้นใส่ศัตรู
“เค๊ก เค๊ก ประเมินตนสูงไปแล้ว”
เงาพุ่งออกมาจากด้านหลังของ ‘เกาชิตี๋’ เสียงดังเกิดขึ้นมาจากหัว อากาศถูกฉีกขาด ขณะที่เงาดำพุ่งไปยังที่ที่ซงฉิงเห่ออยู่ ซึ่งนี้มันส่งให้เขาบินออกไป
ปิสส!
กระอักเลือดออกมาคำนึง ซงฉิงเห่อกลายเป็นตื่นตกใจ
ความสามารถของเขาอาจไม่ได้อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอในแบบที่คู่ต่อสู้ของเขาสามารถส่งเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ความสามารถของ ‘เกาชิตี๋’ ได้พัฒนาขึ้นมากเท่าใด?
“หาง!”
ดวงตาของหลี่ฟู่เฉินเบิกกว้าง เขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายที่เรียกว่า ‘เกาชิตี๋’ มีหางโผล่ออกมาจากด้านหลังของร่างกาย มันเป็นหางของงูที่มีเกล็ด เทียบขนาดได้เท่ากับงูยักษ์เลยมีเดียว
ปุบ ปุบ ปุบ!
หางของ ‘เกาชิตี๋’ แกว่งไปรอบๆ สร้างเสียงแหลมขึ้นในอากาศ
“รู้แล้ว มันเป็นวิญญาณปีศาจ!” ฟานเฉียนสงอุทาน
ทุกคนมองไปที่ฟานเฉียนสง
ฟานเฉียนสงอธิบาย “สัตว์ปีศาจระดับ 6 จะผลิตวิญญาณปีศาจออกมา ตราบใดที่วิญญาณปีศาจยังไม่ถูกพิชิต แม้ว่าร่างกายของมันจะพังทลาย มันก็ยังสามารถเกิดใหม่หรือครอบครองร่างกายที่เพิ่งสูญเสียวิญญาณไปได้ เมื่อมันเข้ายึดครองร่างของนักสู้และครอบคลุมมันด้วยพลังฉีปีศาจ มันจะกลายเป็นสิ่งดำรงอยู่ที่ไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือปีศาจ”
“ตอนนี้ข้าเห็นแล้ว” ชูมู่หยูพยักหน้า
เธอเองก็รู้ได้ว่าคนเหล่านี้ถูกวิญญาณปีศาจครอบงำ
คนที่โจมตีซงฉิงเห่อเห็นได้ชัดว่าเป็นวิญญาณปีศาจของสัตว์ร้ายประเภทงู
“อือ… ไม่เลว เจ้าค่อนข้างมีความรู้เกี่ยวกับวิญญาณปีศาจ ข้าคิดว่าทั่วทั้งยูนิคอร์นฝั่งตะวันออก มีเพียงนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดเท่านั้นที่จะได้รู้ถึงสิ่งเหล่านี้” ‘ซูเหยชาน’ กล่าว ปากของเขาเต็มไปด้วยฟันที่คมกริบและลิ้นที่มีกล้ามเนื้อยาว 15 เซนติเมตร ใบหน้าของเขามีตุ่มตะปุมตะป่ำอยู่มากมาย
“ถ้ามันเป็นวิญญาณปีศาจจริงๆ นี้ก็คงเป็นปัญหาแล้ว”การแสดงออกของเหว่ยชานเห่อกลายเป็นไม่พอใจ
วิญญาณปีศาจก่อนหน้านี้เป็นถึงสัตว์ปีศาจระดับ 6 แม้ว่าจะมีเป็นเพียงแค่วิญญาณปีศาจไปแล้ว มันก็ยังคงน่ากลัวยิ่ง วิญญาณปีศาจยังคงทักษะการต่อสู้ของพวกมันไว้ได้ และเมื่อวิญญาณปีศาจเหล่านี้กลับคืนสู่สภาพดั้งเดิมได้ แม้ว่าหลี่ฟู่เฉิน และคนที่เหลือจะโจมตีด้วยกัน พวกเขาก็จะไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่เพียงนิดเดียว
“วิญญาณปีศาจนี้น่ากลัวจริงๆ แต่ก็เป็นก่อนที่พวกมันจะตายเท่านั้น เมื่อพวกมันเกิดใหม่ ความสามารถของพวกมันก็จะใกล้เคียงกับความสามารถของร่างกายที่พวกมันมี”
“ถูกแล้ว นี่คือเหตุผลที่เราจะกินพวกเจ้าเพื่อเสริมสร้างความสามารถของเรา”
ฉีก!
เสื้อผ้าชั้นในของ ‘ซูเหยชาน’ แตกออกเป็นชิ้นๆ ในทันทีและทันใดนั้นเองร่างกายของเขาก็พองตัวขึ้น เพียงลมหายใจเดียว มนุษญ์ตุ๊กแกก็ปรากฏตัวในระยะที่ทุกคนเห็น
“นี่คือหลุมฝังศพ ทำไมถึงมีวิญญาณปีศาจ? ไม่ใช่ว่าสัตว์ปีศาจระดับ 6 ไม่ได้อยู่ในทวีปยูนิคอร์นตะวันออกแล้วหรือไง?” ฟานเฉียนหยูกล่าวออกมาด้วยความกังวล
“เป็นเด็กดีและมาเป็นอาหารของพวกเรา!”
‘ซูเหยชาน’ คำรามขณะที่เขาพุ่งเข้าหาพวกเขา
“ถอยออกไป!”
เคียวปรากฏอยู่ในมือของชูมู่หยู ขณะที่เธอกวัดแกว่งมัน แสงสีเขียวเข้มจะเปล่งประกายออกมา
ครืน!
เมื่อพลังฉีปะทะกันและระเบิดออก ชูมู่หยูและ ‘ซูเหยชาน’ ก็ถอยออกจากกัน
“น่าสนใจ เจ้าค่อนข้างมีความสามารถ” ‘ซูเหยชาน’ เลียริมฝีปากของเขา
บิสส บิสส บิสส…
สามารถได้ยินการสั่นสะเทือนที่รุนแรงจากด้านหลังของ ‘หลี่หวูเซี่ย’ ได้ มันมีปีกโปร่งใสปรากฏขึ้นและมันก็กำลังสั่นสะเทือน ร่างของเขาลอยขึ้นกลางอากาศ ในขณะที่ปากของเขายาวและแหลม เปลี่ยนไปคล้ายกับเข็มฉีดยา
นี่คือสัตว์ปีศาจประเภทยุง
“เข้าไปที่ห้องโถงด้านข้าง”
หลี่ฟูเฉินไม่ได้มีเจตนาที่จะปะทะกับวิญญาณปีศาจเหล่านี้ เขากล่าวกับฟานเฉียนสง และฟานเฉียนหยูก่อนที่จะข้ามไปยังห้องโถงด้านข้างของห้องโถงใหญ่
ส่วนที่เหลือของพวกเขาตื่นขึ้นมาจากการรับรู้และวิ่งไปที่ห้องโถงด้านข้างเช่นกัน
“อย่าหนีนะ”
วิญญาณปีศาจทั้งห้าเริ่มการไล่ล่าและ ‘หลี่หวูเซี่ย’ เองนั้นก็รวดเร็วที่สุดในบรรดาพวกเขา เขารีบไปหาซงฉิงเห่อที่ช้าที่สุดอย่างรวดเร็วและใช้เข็มแทงทะลุผ่านการเกราะป้องกันพลังฉีของซูฉิงเหอและร่างกายของเขา ด้วยการดูดอย่างรวดเร็ว ‘หลี่หวูเซี่ย’ ร่างของซูฉิงเห่อก็เริ่มที่จะเหี่ยวเฉาลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ร่างกายของเขาเองก็พองขึ้นและเต็มไปด้วยแสงสีสดของเลือด
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับ เรื่องนี้มีกลุ่มลับ ซึ่งตอนจะถูกกว่า TN กลุ่ม 3 เริ่มที่ตอน 216
ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ INDYNOVEL