Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 229
บทที่ 229
ศักยภาพระดับราชา
“ดูเหมือนว่าศักยภาพของฉันจะอยู่ในระดับเดียวกับโครงกระดูกระดับ 6 ดาว นอกจากนี้ มันอาจกระทั้งอยู่ในจุดสูงสุดของโครงกระดูก 6 ดาว”
หลังจากเห็นว่าเครื่องหมาย ‘ดาบ’ ของเขาน่ากลัวเพียงใด หลี่ฟูเฉินมีความรู้ใหม่เกี่ยวกับศักยภาพของเขาเองทันที
โครงกระดูกระดับ 6 ดาวถือเป็นโครงกระดูกที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปยูนิคอนตะวันออก
หากโครงกระดูกระดับ 5 ดาวมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเข้าสู่ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิด เช่นนั้นแล้วโครงกระดูกระดับ 6 ดาวก็มีโอกาส 80% ที่จะตัดผ่านเข้าไปในขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดและขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณ
ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์วิญญาณสามารถที่จะเอาชนะนิกายใดๆ ก็ได้ นั้นรวมทั้งนิกายนภาดารา ตระกลูต้วนหลิน และหุบเขานิรันดร์ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นกองกำลังที่ยิ่งใหญ่
ผู้เชี่ยวชาญเทพยุทธ์วิญญาณอาจเรียกได้ว่าเป็นราชาในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก ผู้ที่ติดตามพวกเขาจะรุ่งเรือง และจะไม่มีทางพบเจอกับเรื่องเลวร้ายใดๆ
หลี่ฟู่เฉินอาจมีโครงกระดูกแค่ระดับ 1 ดาวเท่านั้น แต่ศักยภาพของเขานั้นไม่ใช่เพียงแค่ 1 ดาวแน่นอน เขามั่นใจว่าตราบใดที่เขาไม่ได้ตายลงไป การตัดผ่านเข้าสู่ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นสำหรับเขา และมีโอกาสสูงที่เขาจะสามารถฝ่าฟันและตัดผ่านเข้าสู้ขอบเขตเทพยุทธ์วิญญาณได้
หลังจากทั้งหมดแล้ว เขาก็มีศักยภาพในจุดสูงสุดของโครงกระดูกระดับ 6 ดาว
หลังจากผ่านด่านที่สองของเส้นทางดวงดาส หลี่ฟูเฉินก็มาถึงส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาวเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อเทียบกับส่วนที่สองของเส้นทางดวงดาว แรงกดดันของสนามพลังฉีของส่วนที่สามเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
อีกนัยหนึ่งคือ สนามพลังฉีของส่วนที่สามคือสี่เท่าของส่วนแรกและสองเท่าของส่วนที่สอง
ยืนอยู่บนส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาว หลี่ฟูเฉินรู้สึกราวกับว่ามีลมพายุพัดเข้าใส่เขา ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายของเขาแล้ว
‘ดูเหมือนว่าข้าจะต้องชะลอความเร็วของข้าลง’ หลี่ฟูเฉินเริ่มวิ่ง ในขณะที่ปรับความเร็วของเขาอย่างต่อเนื่อง
เพียงไม่นาน หลี่ฟู่เฉินก็ปรับความเร็วของเขาให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมได้แล้ว ซึ่งใช้ความเร็วที่ 70% เมื่อเทียบกับส่วนที่สองของเส้นทางดวงดาว
หลังจากหลี่ฟู่เฉินออกไป ฮั่นเฟิงก็มาถึงด่านที่สองของเส้นทางดวงดาว
บางทีอาจเป็นเพราะสภาพที่ไม่ดีของเขา ฮั่นเฟิงตกลงไปในเทคนิคภาพลวงตาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากรูปปั้นหิน เขาใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงก่อนที่เขาจะดึงตัวเองออกจากภาพมายาได้
“นี่มันช่างเฉียดฉิวนัก” ฮันเฟิงยังคงมีความกลัวในจิตใจของเขา
หากเขาต่อสู้กับศัตรูตัวจริง หนึ่งชั่วโมงก็เพียงพอแล้วที่เขาจะถูกฆ่าตายได้มากกว่า 1,000 ครั้ง
เมื่อเขามายังหน้าอนุสาวรีย์ ฮั่นเฟิงเริ่มสำรวจอนุสาวรีย์หิน
เขาต้องการที่จะรู้ว่าหลี่ฟู่เฉินทิ้งเครื่องหมายไว้ที่ไหน
มีการทำเครื่องหมายในกลุ่มที่สามมากเกินไปและฮันเฟิงเองก็ไม่ได้งี่เง่าขนาดที่จะคิดว่าเครื่องหมายของหลี่ฟู่เฉินจะอยู่ในกลุ่มนั้น
ฮั่นเฟิงเริ่มค้นหากลุ่มที่สองอย่างช้าๆ
มีความคล้ายคลึงกันบ้าง แต่สัญชาตญาณของฮั่นเฟิงบอกเขาว่า ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของหลี่ฟู่เฉิน
หลังจากผ่านไปนาน การแสดงออกของฮันเฟิงเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงและเริ่มครุ่นคิด “เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะอยู่ในกลุ่มแรก?”
กลุ่มแรกเป็นพื้นที่ที่มีความหมายสำหรับโครงกระดูก 6 ดาวและพวกโครงกระดูก 5 ดาวที่มีความสามารถระดับท้าทายสวรรค์ แม้แต่กระทั้งฮันเฟิงก็ยังรู้สึกด้อยกว่าเมื่อเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้
(ความสามารถท้าทายสวรรค์ก็คือพวกระดับหัวกระทิอย่าง เช่นดาบไร้อารมณ์ ที่ฝีมือเกินขั้นตัวเองไปแล้วหรือตัวอย่างง่ายๆ ก็คือหลี่ฟู่เฉิน)
ด้วยทัศนคติที่ไม่เชื่อในความคิดตัวเอง ฮั่นเฟิงเริ่มค้นหาในกลุ่มแรก
เมื่อดวงตาของเขาตกลงไปที่เครื่องหมาย ‘ดาบ’ อันยิ่งใหญ่ ฮันเฟิงกลายเป็นมึนงง
เครื่องหมาย ‘ดาบ’ นี้ให้ความรู้สึกเหมือนกับหลี่ฟู่เฉิน
แต่เครื่องหมาย ‘ดาบ’ นี้ใหญ่มาก มันจะเป็นหลี่ฟู่เฉินไปได้อย่างไร? เขาเป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวที่อยู่ในระดับท้าทายสวรรค์หรือไม่?
สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง แม้แต่กระทั้งโครงกระดูกระดับ 5 ดาวที่มีความสามารถท้าทายสวรรค์ก็ไม่สามารถทำมันออกมาให้ใหญ่ได้เช่นนี้ใช่หรือไม่?
ความหมายของระดับท้าทายสวรรค์ไม่ใช่ว่าคือการได้ท้าทายสวรรค์จริงๆ มันหมายถึงการท้าทายความแตกต่างระหว่างโครงกระดูก ความหมายสำหรับระดับท้าทายสวรรค์ของโครงกระดูก 5 ดาวก็คือระดับฝีมือะวกเขาจะอยู่ในระดับโครงกระดูก 6 ดาว
ยกตัวอย่างเช่น โครงกระดูกระดับ 3 ดาวที่มีความสามารถท้ายทายสวรรค์จะสามารถต่อสู้กับพวกโครงกระดูกระดับ 4 ดาวได้ โครงกระดูกระดับ 4 ดาวที่มีความสามารถท้ายทายสวรรค์ก็จะสามารถต่อกรกับพวกโครงกระดูกระดับ 5 ดาว ตัวอย่างง่ายๆ ก็คือฝีมือของพวกเขาจะเกินระดับตัวเองไป 1 ดาว
หากเครื่องหมาย ‘ดาบ’ นี้ถูกสร้างโดยหลี่ฟู่เฉินจริงๆ นั้นก็หมายความว่าศักยของเขาไม่เพียงแต่จะเป็นโครงกระดูกระดับ 6 ดาว แต่มันเป็นโครงกระดูกระดับ 6 ดาวที่เหนือกว่าทั้งหมด และอยู่ในจุดสูงสุดของระดับ 6 ดาวนี้
ฮั่นเฟิงกลายเป็นโง่งม
หากศักยภาพของหลี่ฟู่เฉินอยู่ที่จุดสูงสุดของโครงกระดูกระดับ 6 ดาว แม้แต่กระทั้งนายน้อยนิกายนภาดาราก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้ เพราะเขาได้พบเครื่องหมายที่ถูกทิ้งไว้โดยปรมาจารย์สมัยยังเยาว์อยู่ในกลุ่มแรก
เครื่องหมายของปรามาจารย์สมัยยังเยาว์เป็นเพียงเครื่องหมายดาวดาษๆ แต่มันก็ยังเล็กกว่าเครื่องหมาย ‘ดาบ’ อย่างไม่ต้องสงสัย
‘เป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่เครื่องหมายของเขาแน่นอน ข้ายังไม่ได้แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากับเขาและยังไม่คุ้นเคยกับสภาวะพลังฉี ยิ่งไปกว่านั้น มีเครื่องหมาย ‘ดาบ’ มากมายในกลุ่มแรก และเมื่อมองไปในกลุ่มสองมันก็ยิ่งมากกว่าเดิม เครื่องหมาย ‘ดาบ’ ทั้งหมดเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง ซึ่งมีลักษณะที่ดูอันตรายและแหลมม บางทีเครื่องหมายของเขาอาจเป็นเครื่องหมาย ‘ดาบ’ อันอื่นๆ
จิตใต้สำนึกของฮันเฟิงปฏิเสธความเป็นไปได้นี้ เพราะมันน่าตกใจเกินไปและเขาไม่สามารถยอมรับได้
“ฮึ่ม ข้า ฮั่นเฟิงเป็นหนึ่งในเจ็ดนภาและฉันยังไม่ได้ทดสอบศักยภาพของตัวเอง อาจมีโอกาสที่ศักยภาพของข้าจะเป็นของกลุ่มแรกเช่นกัน สำหรับเขา… แน่นอนว่าเขาต้องมีสิ่งประดิษฐ์เอาไว้โกงครอบครองของอยู่”
ฮั่นเฟิงเชื่อมั่นว่าหลี่ฟูเฉินต้องครอบครองสิ่งประดิษฐ์พิเศษบางอย่าง
โลกมีขนาดใหญ่และมีความลึกลับนับไม่ถ้วน เช่นนั้นแล้วมันน่าจะมีสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่สามารถช่วยผู้ถือครองแบบไม่เปิดเผยอยู่แน่นอน
หยิบแปรงขึ้นมา ฮั่นเฟิงเริ่มร่างและทำเครื่องหมายของเขา
เครื่องหมายของเขาเป็นสัญลักษณ์ของใบเมเปิ้ล
สัญลักษณ์ใบเมเปิ้ลส่องสว่างและบินไปยังอนุสาวรีย์แห่งชื่อ
กลุ่มที่สาม… กลุ่มที่สอง
สัญลักษณ์ใบเมเปิ้ลหยุดอยู่ที่กลุ่มที่สอง และมันก็พบจุดที่ว่างเปล่า จากนั้นมันก็สร้างสัญลักษณ์ให้ตัวเอง
มองเห็นผลลัพธ์ ฮันเฟิงไม่ได้รู้สึกประสบความสำเร็จใดๆ
ศักยภาพของเขาอยู่ที่กลุ่มที่สองเท่านั้น และมันก็ไม่ได้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มที่สอง มีเครื่องหมายอื่นๆ อีกมากมายที่ใหญ่กว่าเขา
“ข้าไม่ได้อยากให้มันเป็นเช่นนี้!”
ในความเป็นจริง ก่อนหน้าทั้งหมดนี้ เขารู้ตัวดีว่าเขาจะต้องอยู่ในกลุ่มที่สอง
แต่ด้วยการปรากฏตัวของหลี่ฟูเฉิน มันทำให้เขามีความทะเยอทะยานมากกว่าเดิม
น่าเสียดายที่ความทะเยอทะยานนั้นถูกทำลายไปแล้วในขณะนี้
“ศักยภาพก็เป็นเพียงศักยภาพ มันไม่สามารถแสดงทุกอย่างออกมาได้ ข้า ฮันเฟิง จะทำลายตรรกะสามัญ และไปบนเส้นทางที่ท้าทายสวรรค์!”
ฮั่นเฟิงเป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวที่ยอดเยี่ยมซึ่งเต็มไปด้วยเจตจำนงที่แข็งแกร่ง ด้วยทั้งหมดเหล่านี้ เรื่องเพียงเล็กน้อยจึงไม่อาจทำให้เขาหมดกำลังใจได้ ดังนั้นเขาจึงออกจากความหดหู่ได้โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน
ที่นิกายนภาดาราของเขามีคนที่โครงกระดูกระดับ 1 ดาวแต่ก็ยังสามารถตัดผ่านเข้าสู่ระดับปฐพีได้ ผู้ที่เป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวชั้นยอดเช่นเขา แน่นอนว่าหวังที่จะทำลายตรรกะทั่วไป
ฟื้นฟูความมั่นใจของเขา ดวงตาของฮันเฟิงมีความเปลี่ยนแปลง ในขณะที่เขาก้าวเข้าสู่ส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาว
“แรงกดดันมากมายอะไรเช่นนี้? แข็งแกร่งเป็นอย่างน้อยสองเท่าจากส่วนที่สองของเส้นทางดวงดาว”
ร่างกายของฮันเฟิงทรุดตัวลงและรู้สึกว่าวิญญาณของเขาเริ่มที่จะแปรปรวน
หลี่ฟูเฉินอยู่ไกลมากแล้วและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นข้างหลังเขา
แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการที่จะรู้เช่นกัน
เป้าหมายของเขาคือตรงไปข้างหน้า อะไรก็ตามที่อยู่ด้านหลังของเขา เป็นเพียงเส้นทางที่เขาผ่านไปแล้ว
เขตแดนเร้นลับเส้นทางดวงดาวอาจเป็นที่ๆ ลึกลับและเป็นแม้แต่กระทั่งสถานที่ๆ ลึกลับที่สุดในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่เครื่องทองคำของเขาเป็นสิ่งที่ลึกลับมากกว่านั้น ระดับการบ่มเพาะของเขายังคงต่ำมาก แต่เมื่อระดับการบ่มเพาะของเขาเพิ่มขึ้น ความลับของเครื่องรางทองคำนี้จะต้องเผยออกมาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากเครื่องรางทองคำ ความมั่นใจในตัวเองของเขานั้นก็มั่นคงอย่างไร้ที่เปรียบเทียบ
ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่พรสวรรค์ของเขาหายไป มันก็ไม่อาจทำให้เขายอมแพ้และหมดหวังได้ แต่กลับกัน มันทำให้จิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นเหมือนดั่งเช่นตอนนี้
การมีอยู่ของเครื่องรางทองคำเป็นเหมือนกับการที่จู่ๆ ก็ได้โครงกระดูกมา
โครงกระดูกโดยธรรมชาติของเขาอาจไม่ดีเท่ากับคนอื่น แต่เขาก็มีโครงกระดูก ‘ที่ได้มา’ ของเขาอยู่แล้ว
นอกจากนี้ โครงกระดูกที่ได้มาของเขายังสามารถยกระดับตัวเองได้มากขึ้นและยังคงมากขึ้นไปอีก
***
มีใครบางคนในส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาวอยู่ด้วย
หลายกิโลเมตรข้างหน้าหลี่ฟูเฉินเป็นร่างที่วิ่งด้วยความเร็วค่อนข้างมาก
หลี่ฟูเฉินมองข้ามและคิดว่า “ดูเหมือนว่าบุคคลนี้เป็นบุคคลที่น่าเหลือเชื่อ เขาต้องเป็นโครงกระดูก 6 ดาวหรือเป็นโครงกระดูกระดับ 5 ดาวที่ท้าทายสวรรค์”
ความเร็วของบุคคลนั้นไม่ได้ช้าไปกว่าหลี่ฟู่เฉินมากนัก เมื่อเทียบกับผู้ชายคนก่อนที่ต้องการแข่งขันกับเขา บุคคลนี้ดีกว่ามาก
ในขณะเดียวกันที่หลี่ฟู่เฉินก็สังเกตเห็นเขา เขาก็สังเกตเห็นหลี่ฟู่เฉินเช่นกัน
“มีคนกำลังตามมา?”
บุคคลนี้มาอาการเหยียดหยามออกมาจากตาของเขา มีสภาวะพลังฉีที่ดูไม่เหมือนใครออกมาจากร่างกาย และดวงตาคู่นั้นมองราวกับว่ามันสามารถมองเห็นจิตวิญญาณของบุคคลนั้นๆ ได้