Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 230
บทที่ 230
เซี่ยฮัวชี่
ไม่กังวลกับร่างที่อยู่ด้านหน้า หลี่ฟูเฉินรักษาจังหวะของตัวเองและวิ่งต่อไป
หลังจากผ่านด่านที่สองของเส้นทางดวงดาวได้แล้ว ร่างกายของหลี่ฟู่เฉินก็รับพลังงานจากเส้นทางดวงดาวมามากกว่าเดิม
หากด่านแรกให้พลังงานเส้นทางดวงดาวมาหนึ่งส่วนแล้วนั้น ด่านที่สองของเส้นทางดวงดาวก็เท่ากับสองส่วน ทำให้มันรวมเป็นสามส่วน
ด้วยพลังงานเส้นทางดวงดาวทั้งสามส่วนที่สนับสนุนร่างกายของหลี่ฟู่เฉินอยู่ เขาจึงสามารถรู้สึกถึงคอขวดระดับ 4 ขอบเขตปฐพีที่ลดน้อยลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ หากถ้าในตอนแรกมันดูคล้ายเหล็ก งั้นแล้วในตอนนี้มันก็ดูเหมือนอิฐ
หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าตราบใดที่เขาใช้เวลาไปกับมันเล็กน้อย เขาก็อาจจะเข้าสู่ระดับที่ 4 ของขอบเขตปฐพีได้ในช่วงเวลาสั้นๆ
อะไรคือการก้าวขึ้นไปยังขอบเขตปฐพีระดับที่ 4? ด้วยเทคนิคลับมังกรเร้นลับและบทดาบไร้สมบรูณ์บทดาบเหล็กดำ การเพิ่มระดับการฝึกฝนของเขาทุกครั้ง นั้นถือว่าเป็นการปรับปรุงความสามารถของหลี่ฟู่เฉินขึ้นไปอย่างมาก มันเป็นการปรับปรุงที่มีนัยยะสำคัญ เมื่อถึงเวลาที่เขาจะไปลองชั้นที่สามของหอคอยศิษย์หลัก มันจะง่ายเหมือนการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ
สองสามกิโลเมตรอาจไม่ไกล แต่ก็ไม่ได้อยู่ใกล้เช่นกัน ความเร็วของหลี่ฟู่เฉินอาจเร็วขึ้นเล็กน้อย แต่เป็นไปไม่ได้ที่มันจะถึงในเวลาอันสั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสนามพลังฉีของเส้นทางดวงดาวเริ่มแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่หลี่ฟูเฉินวิ่งไปตามเส้นทาง
มันราวกับเป็นพายุ แต่มันก็ค่อยๆ กลายเป็นพายุที่รุนแรงแล้วในขณะนี้
สำหรับคนปกติ มันยากเกินไปที่จะเดินไปในพายุที่รุนแรง นับประสาอะไรกับการวิ่ง
หลี่ฟูเฉินไม่ได้อยู่ในสถานะที่คิดว่ามันยากที่จะเดิน แต่การวิ่งก็ยากลำบากสำหรับเขาเช่นกัน ส่งผลให้เขาลดความเร็วของเขาลงอีกครั้ง
แม้ว่าความเร็วของหลี่ฟู่เฉินจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ร่างที่ด้านหน้าก็เริ่มช้าลงอย่างรวดเร็วเชกเช่นเดียวกัน
เมื่อหลี่ฟู่เฉินทันเขา บุคคลนั้นก็กล่าวขึ้นมา “ข้าคือเซี่ยฮัวชี่ จากตระกลูเซี่ยฮัว ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าเจ้าผู้นี้มาจากนิกายใด?”
“ตระกูลเซี่ยฮัว? มันคือตระกูลต้วนหลิน?” หลี่ฟู่เฉินถาม
เซี่ยฮัวชี่พยักหน้า “ใช่เป็นมัน”
“คนจากตระกูลต้วนหลิน ข้าหลี่ฟู่เฉิน ศิษย์จากนิกายวารีคราม”
หลี่ฟู่เฉินไม่จำเป็นต้องคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากบุคคลผู้นี้เป็นคนจากตระกูลต้วนหลิน งั้นแล้วเขาต้องเป็นหนึ่งในสิบผู้ยิ่งใหญ่จากตระกูลต้วนหลินแน่นอน
ถึงอย่างไรตระกูลต้วนหลินก็เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลในจุดสูงสุด มันไม่แปลกเลยหากคนในตระกูลนี้มาถึงส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาว
และสิบผู้ยิ่งใหญ่ต้วนหลินเท่านั้นถึงจะมีความสามารถระดับนี้ได้
ในบรรดาสิบผู้ยิ่งใหญ่ต้วนหลิน แม้คนนั้นอาจไม่มีโครงกระดูก 6 ดาว แต่เขาก็ต้องเป็นโครงกระดูก 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์
การฝึกฝนของเซี่ยฮัวชี่นั้นอยู่ที่ระดับ 6 ของขอบเขตปฐพี ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นระดับที่ต่ำต้อยเลย ดังนั้นแล้ว มันจึงทำให้ศักยภาพของเขาโดดเด่นยิ่งขึ้น
หลี่ฟูเฉินประเมินว่าเขาสมควรที่จะเป็นหนึ่งในสองโครงกระดูกระดับ 5 ดาวระดับท้าทายสวรรค์จากสิบผู้ยิ่งใหญ่ต้วนหลินสักคน
สำหรับผู้ที่มีโครงกระดูกระดับ 5 ดาวท้าทายสวรรค์เหมือนกัน เซี่ยฮัวชี่อาจยอดเยี่ยมกว่ามาก เมื่อเปรียบเทียกับ ดาบไร้อารมณ์ เซี่ยเฟิง มันอาจจะเป็นไปได้ที่เขาจะสังหารเซี่ยเฟิงได้ในทันที
“นิกายวารีคราม? หือ” เซี่ยฮัวชี่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อค้นหาข้อมูลของนิกายวารีครามในใจของเขา
ในชั่วพริบตา เซี่ยฮัวชี่ก็นึกถึงบางอย่างเกี่ยวกับนิกายวารีครามได้
นิกายวารีครามเป็นเพียงนิกายธรรมดาสามัญ แต่ก็มีนิกายที่ดีกว่าเล็กน้อยข้างอยู่ใกล้พวกเขา มันเรียกว่านิกายสวรรค์ปีศาจ แต่เมื่อเทียบกับตระกูลตวนหลิน พวกนั้นก็ยังด้อยกว่ามาก
“ศิษย์จากนิกายวารีคราม ท้ายที่สุด นี่ก็นับว่าเป็นเกียรติมากที่เราได้พบกัน!” เซี่ยฮัวชี่หัวเราะและแสดงออกอย่างหลงใหล
‘ทำไมบุคคลนี้ถึงแสดงออกเช่นนั้น?’ หลี่ฟู่เฉินขมวดคิ้วอยู่ในใจ
ท่าทางการพูดของเขาอาจดูเหมือนหลงใหล แต่ด้วยประสาทสัมผัสที่แหลมคมของหลี่ฟู่เฉิน เขาจึงสามารถแยกแยะภาพรวมได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว แยกแยะระหว่างความหลงใหลอย่างแท้จริงหรือความหลงใหลจอมปลอม
สัมผัสได้ว่าเซี่ยฮัวชี่อาจมีแรงจูงใจซ่อนเร้น หลี่ฟู่เฉินจึงคุยกับเขาแค่สั้นๆ และไม่ได้พูดอะไรอีกเลย
แต่ทว่า เห็นได้ชัดว่าเซี่ยฮัวชี่ไม่ยอมที่จะปล่อยเขาไป “หลี่เซียง เนื่องจากเจ้าสามารถมาที่ส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาวได้ เจ้าต้องมีสิ่งประดิษฐ์อยู่บ้าง ทำไมไม่นำมันมาให้ข้าดู? ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่บอกเรื่องนี้แก่ผู้ใด ข้า เซี่ยฮัวชี่รักษาสัญญาของตนเสมอ เจ้าไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่อย่างใด”
หลี่ฟู่เฉินตอบอย่างเฉยชา “เขตแดนเร้นลับเส้นทางดวงดาวมีพลังเร้นลับบางอย่าง มีสิ่งประดิษฐ์ประเภทใดบ้างสามารถนำมาใช้โกงที่นี่ได้? เซี่ยฮัวชี่ล้อข้าเล่นแล้ว”
เซี่ยฮัวชี่ตอบกลับ “ดูเหมือนว่าหลี่เซียงคงยังไม่เชื่อใจข้า ไม่ดีเลย บนเส้นทางของเต๋าแห่งการต่อสู้ เพื่อนที่ดีก็เหมือนแขนเทียมที่มีไว้คอยช่วยเหลือ เราควรจะเปิดให้มีเพื่อนมากขึ้นและไม่หดหัวตัวเองอย่างเห็นแก่ตัวเพื่อสมบัติ ข้าเชื่อว่าหลี่เซียงคงเข้าใจในสิ่งที่ข้ากล่าว”
หลี่ฟู่เฉินเริกคิ้วของเขาขึ้น “ข้าไม่มีสิ่งประดิษฐ์ เซี่ยฮัวเซียงเลือกที่จะไม่เชื่อข้าก็ได้”
“คี่คี่ ดูเหมือนว่าหลี่เซียงจะไม่มีสิ่งประดิษฐ์จริงๆ หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะเชื่อหลี่เซียงแล้วกัน” การแสดงออกของเซี่ยฮัวชี่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เขากล่าวต่อ “หากหลี่เซียงสามารถก้าวไปยังส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาวได้โดยไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใดๆ มันก็เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างแท้จริง หากมีโอกาส ไว้มาดื่มด้วยกันในภายหลัง ข้ายินดีที่จะเป็นเพื่อนกับหลี่เซียง”
หลี่ฟู่เฉินคล้ายสนใจและไม่สนใจ “เซี่ยฮัวเซียงสุภาพเกินไปแล้ว”
“เอ๊ะ? มีคนกำลังติดตามจากด้านหลัง ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวันที่มีชีวิตชีวาที่สุดของเขตแดนเร้นลับเส้นทางดวงดาว!” เซี่ยฮัวชี่หันกลับไปมอง
ได้ยินเช่นนั้น หลี่ฟู่เฉินก็หันกลับไปมองด้วยเช่นกัน
“ตาย”
ฉับพลัน เซี่ยฮัวชี่ส่งหมัดไปที่หลี่ฟู่เฉิน
กำปั้นนี้ห่อหุ้มด้วยพลังฉีสีเหลืองแวววาว ดูดุร้ายและโดดเด่นอย่างมาก มันให้ความรู้สึกราวกับว่าสามารถบดขยี้ภูเขาและแยกก้อนหินออกจากกัน
เซี่ยฮัวชี่ไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นเพื่อนกับหลี่ฟู่เฉิน
เขาเริ่มต้นด้วยการถามนิกายของหลี่ฟู่เฉินก่อน เขากลัวว่าหลี่ฟู่เฉินจะได้รับการสนับสนุนจากเบื้องหลังที่แข็งแกร่งและถ้าเขาไม่สามารถฆ่าหลี่ฟู่เฉินได้ เขาอาจจะพบกับปัญหามากมาย
หลังจากนั้น เขาถามว่าหลี่ฟูเฉินมีสิ่งประดิษฐ์ใดๆ ที่จะช่วยเขาได้หรือไม่
หากหลี่ฟู่เฉินมี งั้นแล้วมันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีก แน่นอนว่าเขาจะเคลื่อนไหวเพื่อสังหารหลี่ฟู่เฉินและปล้นสิ่งประดิษฐ์นั้นไป
แต่ถ้าหลี่ฟู่เฉินไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใดๆ เช่นนั้นแล้วมันก็มีหลายเหตุผลที่เขาจะฆ่าหลี่ฟู่เฉิน
หากเป็นแค่ขอบเขตปฐพีระดับที่ 3 แต่ก็มาถึงส่วนที่สามของเส้นทางดวงดาวได้ เขาต้องมีศักยภาพในระดับราชาอย่างแน่นอน
มีบุคคลที่มีศักยภาพระดับราชามีอยู่จำนวนมากในทวีปยูนิคอร์นตะวันออก แต่พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ และ… แทบจะไม่มีเยาวชนคนไหนที่จะศักยภาพในระดับราชานี้
สำหรับเขาแล้วมันคงจะดีกว่าถ้ามีพวกเขาน้อยลง
กำปั้นนี้บรรจุพละกำลังทั้งหมดของเขาไว้มันรวดเร็วเป็นอย่างมาก หนึ่งหมัดของเขานั้นเอาถึงตาย เจตจำนงกำปั้นอันเยือกเย็นเล็งไปที่ล็อคหลังของหลี่ฟู่เฉิน
กำปั้นนี้ถูกใช้ออกโดยระดับที่ 6 ขอบเขตปฐพีอย่างเขา มันเพียงพอที่จะสังหารใครก็ตามที่อ่อนแอกว่าเขา นับประสาอะไรกับการลอบโจมตี
เขาเชื่อว่าหลี่ฟูเฉินจะต้องตายอย่างแน่นอน
ยิ้มอย่างชั่วร้าย เซี่ยฮัวชี่เห็นภาพของหลี่หู่เฉินที่ถูกกำปั้นเจาะทะลุ
วิสสส!
กำปั้นนี้ไม่โดนอะไรนอกจากอากาศ รัศมีของหมัดสีเหลืองเป็นเหมือนมังกรที่โกรธจัด เจตจำนงแห่งหมัดถูกระเบิดออกมา ณ เวลานี้เอง
หลี่ฟู่เฉินเป็นเหมือนภูตผีที่ล่องลอย เขาโผล่ออกมาทางด้านหน้า
หันกลับมา หลี่ฟู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและรังเกียจ “ข้ารู้ว่าเจ้าแอบลอบโจมตีข้า มันเป็นไปตามที่คาดไว้”
เมื่อเซี่ยฮัวชี่รู้สึกว่ามีคนอยู่ข้างหลังแล้วกล่าวอะไรบางอย่างกับเขา แต่ความรู้สึกของเขาเองกลับบอกเขาว่ามันไม่มีใครอยู่ข้างหลัง เขาแสร้งทำเป็นหันไปตามแผนของเซี่ยฮัวชี่
ทำไมเขาต้องแสร้งทำ? มันเป็นการทดสอบคู่ต่อสู้
เขาต้องการเห็นการตัดสินใจของบุคคลนั้นๆ
ล้มเหลวในการสังหารหลี่ฟู่เฉินด้วนการชกเพียงครั้งเดียว เซี่ยฮัวชี่ปล่อยรอยยิ้มจางๆ ออกมา ราวกับว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น “หลี่เซียงเป็นคนที่ระมัดระวังอย่างแท้จริง เจ้าปกป้องตัวเองตั้งแต่เริ่ม นี่ไม่ใช่วิธีการปฏิบัติต่อคนแปลกหน้าที่ดี”
“หากข้าไม่ได้ป้องกันตัวเองจากคนแปลกหน้าเช่นเจ้า ข้าคงจะตายไปแล้วในตอนนี้”
“บางทีข้าอาจเพียงแค่ต้องการหยอกล้อหลี่เซียงเล่น เจ้ารู้ไหม ว่าข้าได้ทำนายไว้แล้ว ว่าเจ้าจะสามารถหลบมันพ้ร ข้าแค่ทดสอบศักยภาพของเจ้าเท่านั้น”
“ข้าไม่คู่ควรกับการทดสอบของเจ้า ลาก่อน”
หลี่ฟู่เฉินไม่ต้องการคุยกับเขาอีกต่อไป และมันก็ไม่จำเป็นต้องทำ
แน่นอน เขาไม่คิดว่าธรรมชาติของเซี่ยฮัวชี่จะยอมเป็นเงา ไม่งั้น เขาคงจะเป็นแค่ตัวละครรองไปนานแล้ว
ความสำเร็จในอนาคตไม่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติของบุคคล
บางคนที่มีความเหี้ยมโหดก็ยังสามารถที่จะกลายเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้
มีคนหน้าซื่อใจคดบางคนที่สามารถเป็นนักสู้ขอบเขตหวนคืนต้นกำเนิดได้เช่นกัน
ความสำเร็จในอนาคตของผู้นึงเกี่ยวข้องกับความเชื่อมั่นในการต่อสู้ ตราบใดที่ใครมีความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งในเต๋าแห่งการต่อสู้ แม้แต่กระทั้งปีศาจก็สามารถสำเร็จมหาเต๋าที่ผู้ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน
ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่ในสายตาของหลี่ฟูเฉิน เซี่ยฮัวชี่เป็นบุคคลที่อันตราย
บุคคลประเภทนี้ชอบพูดคุยอย่างสนุกสนานและมีไหวพริบ พวกเขาสามารถฆ่าเหมือนมันไม่มีอะไรและสามารถหัวเราะออกมา แม้ว่าพวกเขาจะล้มเหลวในการโจมตี ท้ายที่สุดแล้วเขาเป็นคนที่ผิดปกติอย่างแน่นอน
แต่แม้ว่าศัตรูของเขาจะฉลาดแกมโกง ถึงอย่างงั้นหลี่ฟู่เฉินก็ไม่ได้โง่เหมือนกัน
เขาต้องทำให้ตัวเองให้อยู่ได้นานขึ้น และบุคคลที่เป็นอันตรายเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นคนกัดเกลาสภาวะจิตใจให้เขา