Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 237
บทที่ 237
เสี่ยวไบ๋ลงมือ
“หลี่ฟู่เฉิน ข้าหูหมิ๋งต้องการประลองกับเจ้า รีบมาเถอะ” หูหมิงกวัดแกว่งดาบใหญ่ ในขณะที่เขาทำเสียงขึ้นจมูก
“หลี่ฟูเฉินเจ้าต้องระวังตัว” ฟานเฉียนสงเตือนหลี่ฟู่เฉิน
หูหมิ๋งคนนี้อาจไม่ได้เป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในการจัดอันดับดารา แต่เขาก็อยู่ในระดับที่ 7 ของขอบเขตปฐพี
ศิษย์หลักระดับทองขอบเขตปฐพีระดับที่ 7 นั้นน่าหวาดกลัวอย่างไม่มีใครเทียบ พวกเขามีระดับการฝึกฝนและประสบการณ์ด้วยเช่นกัน และยังแตกต่างจากหลี่ฟู่เฉิน และก็ฟานเฉียนสงที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นศิษย์หลักระดับทองเพียงไม่กี่ปี จึงไม่มีเวลามากพอที่จะสะสมประสบการณ์ใดๆ ได้
ในสายตาของฟานเฉียนสง หูหมิ๋งผู้นี้อย่างน้อยก็อยู่ในระดับเดียวกับฟูจงชาน
ย้อนกลับไปที่สุสาน เขาและหลี่ฟู่เฉินต้องใช้วิธีการและสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดเพื่อสังหารฟูจงชาน
ความสามารถของหลี่ฟู่เฉินอาจเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดโดยทันที และตอนนี้ระดับการฝึกฝนของเขาอยู่ที่ระดับ 5 ของขอบเขตปฐพี แต่เขาก็ยังไม่ควรประมาทคู่ต่อสู้ของเขา ใครจะรู้ว่าหูหมิ๋งผู้นี้มีความสามารถเหนือกว่าฟูจงชานหรือไม่
“อย่าได้กังวล” หลี่ฟู่เฉินพยักหน้า
ก่อนที่ระดับการฝึกฝนของเขาอยู่ที่ระดับ 5 ของขอบเขตปฐพี เขาสามารถเอาชนะศัตรูอย่างฟูจงชานได้อย่างง่ายดาย ขณะที่เขาอยู่ในระดับที่ 3 ของขอบเขตปฐพีเท่านั้น
“นี่เจ้าโง่จริงๆ? หากเจ้ากลัวที่จะพ่ายแพ้ ก็แค่คลานไปรอบๆ สักสองสามครั้งให้ข้าดู และบางทีข้าอาจจะปล่อยเจ้าไป”
“ระวังลมอาจจะทำให้ลิ้นเจ้าขาดได้” หลี่ฟูเฉินเอ่ยขึ้นมาเบาๆ และขึ้นเวทีศิลปะการต่อสู้
“เหอะ งั้นลมก็อาจจะทำให้เอวของเจ้าขาดได้เช่นกัน และมันก็คงไม่สามารถตัดลิ้นข้าให้ขาดได้ หลี่ฟู่เฉิน เจ้าจะอวดดีเกินไปแล้ว ราคาที่เจ้าต้องจ่ายนั้นดูแล้วมีมากมาย ข้าไม่สนใจหรอกว่าเจ้าจะสังหารนายน้อยของนิกายหรือไม่ แต่ในสายตาของข้า เจ้าเป็นคนที่ตายไปแล้ว”
หูหมิ๋งใช้ถือดาบด้วยมือเดียว และส่งสายตาที่ดูเป็นอันตรายออกมา
“หลี่ฟู่เฉินผู้นี้มีปัญหาแล้ว”
ที่ชั้นบนของศาลาหลัก นอกเหนือจากฉินเค่อชือ ซึ่งเป็นเจ้าภาพและศิษย์หลักระดับทองของนิกายเฟื่องฟู ก็มีผู้เยาว์สวมเสื้อคลุมสีเงินและเขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีรายชื่ออยู่ในอันดับดารา อันดับ 98 หรันเฉียนฉิว
ฉินเค่อชือกล่าวออกมา “ข้าก็คิดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหูหมิ๋ง แต่เขาคงไม่มีปัญหาใดๆ สำหรับเรื่องการรับมือ”
หนึ่งในนั้นอยู่ที่ระดับ 5 ในขณะที่อีกคนหนึ่งอยู่ในระดับที่ 7 ของขอบเขตปฐพี มันมีช่องว่างอยู่สองระดับ และหากไม่มีเงื่อนไขพิเศษใดๆ หลี่ฟู่เฉินย่อมต้องด้อยกว่าหูหมิ๋ง และนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติแล้ว
แต่จากการแสดงออกอย่างสงบของหลี่ฟู่เฉิน มันทำให้ฉินเค่อชือลังเลเล็กน้อย
“ข้ารู้เรื่องของหูหมิ๋งผู้นี้ แน่นอนว่าเขาเป็นหนึ่งในสิบอันดับอัจฉริยะในหมู่ศิษย์หลักระดับทองของนิกายสวรรค์ปีศาจ ความสามารถของเขาควรจะอยู่ในอันดับที่เจ็ด และพลังต่อสู้ของหูหมิ๋งย่อมต้องอยู่เหนือกว่าคนระดับเดียวกัน หากจะสู้กับเขา ก็ย่อมเปรียบเหมือนเดินอยู่ในความฝัน”
หลันเฉียนฉิวและเสี่ยวไบ๋มีความสัมพันธ์ต่อกันและกัน ดังนั้นเขาจึงรู้สถานการณ์บางอย่างในนิกายสวรรค์ปีศาจ “เราจะรู้เมื่อเราเห็นมัน” ฉินเค่อชือปาดหน้าผากของเธอ ในขณะที่จ้องมองไปยังเวทีด้วยดวงตาที่งดงาม
บนเวทีศิลปะการต่อสู้…
ฟึบ!
หูหมิ๋งเริ่มขยับร่างกาย
ในเวลาไม่นาน หูหมิ๋งสี่คนก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน กวัดแกว่งกระบี่ขนาดใหญ่ที่มีวงแหวนเก้าวง และปิดพื้นที่หลบหลีกทั้งหมดของหลี่ฟู่เฉิน แสงกระบี่พุ่งขึ้นอย่างเจิดจรัส มันเป็นแสงที่ดูแล้วยะเยือกเย็นมันเปล่งประกายออกมาจากกระบี่
“นี่คือวิชากระบี่ของเจ้ารึ? ยังอ่อนหัดนัก”
สีหน้าของหลี่ฟู่เฉินสงบนิ่ง ขณะที่เขาเอี้ยวตัวหลบราวกับต้นหญ้าที่พริ้วไหวท่ามกลางสายลม หลบแสงกระบี่ของหูหมิ๋งทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย ชั่วครู่หนึ่ง เหมือนกับว่าจะมี ลี่ฟู่เฉินสี่คนออกมายืนทับซ้อนกัน
“อ๊ะ?!” แววตาของ ฉินเค่อชือแสดงออกถึงความประหลาดใจ
“ไม่ได้มีแค่เจ้าที่สามารถในการหลบเลี่ยงแสงดาบได้” หูหมิ๋งเองก็มีเซ้นด้านการต่อสู้ที่น่าประหลาดใจนี่ด้วยเช่นกัน “ตะวันตกตัดสายธาร!” หูหมิ๋งตะโกนด้วยความโกรธ และสะบัดกระบี่ของเขาออกไป กระบี่นี้มีพลังที่มากเหลือล้น
กระบี่พลังฉีสร้างคลื่นสายน้ำขนาดยาว และมันก็พุ่งเข้าไปหาหลี่ฟู่เฉิน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบไปได้ด้วยการหันข้างออก เพราะมันต้องใช้ความเร็วสูงมากๆ ในการหนีออกไปเท่านั้น
หลี่ฟูเฉินไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบเลี่ยง เขาดึงดาบทองคำดำออกมา และแทงไปที่กระบี่ยาวพลังฉี
ฉับ!
ราวกับว่ามีแรงผลักดันกลับ มันทำให้กระบี่ยาวพลังฉีถูกตัดออก และเหือดหายไปในทันที
“การรับรู้ด้านการต่อสู้น่ากลัวอะไรเช่นนี้ เขาพบจุดอ่อนของ ตะวันตกตัดสายธารได้ในเสี้ยววินาที”
การรับรู้ความสามารถในการต่อสู้แบบนี้ไม่น่าแปลกใจ หากมันมาจากบุคคลสำคัญในการจัดอันดับดารา แต่มันก็น่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมันปรากฏขึ้นในบุคคลนิรนาม
กระบวนท่าของทักษะต่อสู้ทั้งหมดมีข้อบกพร่อง แม้ว่าท่านจะเข้าใจเจตจำนงทักษะต่อสู้แล้วก็ตาม
นอกจากนั้น ทุกอย่างในสวรรค์และโลกก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน และการเคลื่อนไหวในทักษะต่อสู้ก็ย่อมไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อมีการเปิดเผยข้อบกพร่อง แม้แต่กระทั้งการกระบวนท่าของทักษะต่อสู้ที่น่าเกรงขามที่สุดก็จะสูญเสียการข่มขวัญศัตรู เฉกเช่นเดียวกับงูพิษที่ถูกจับคอได้
“เป็นไปไม่ได้ ความเร็วกระบี่ของข้ารวดเร็ว แล้วเขาจะใช้อะไรในการค้นหาจุดอ่อนของกระบวนท่ากระบี่ข้าา?” หูหมิ๋งรู้สึกชาไปทั้งตัว
“หูหมิ๋ง จงแสดงพลังออกมาให้หมด” เสี่ยวไบ๋ส่งข้อความถึงหูของหูหมิ๋ง
เมื่อได้ยินคำสั่งของเสี่ยวไบ๋ ดวงตาของหูหมิ๋งก็เปล่งประกายออกมา
“พลังฉีเทพยุทธ์อาชูร่า เปิดใช้งาน!” สภาวะพลังฉีของหูหมิ๋งถูกระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
เทคนิคลับระดับ 3 ดาวพลังฉีเทพยุทธ์อาชูร่า ส่งผลให้เขาระเบิดพลังฉีของเขาออกมาได้สองเท่า
“ตายให้ข้า!”
กระบี่ใหญ่เก้าดวงกลายเป็นกระบี่รุ้งยาว ซึ่งถูกตวัดผ่าลงมาอย่างรุนแรง ตวัดไปยังที่ๆ หลี่ฟู่เฉินยืนอยู่ ตอนนี้เอง ความเร็วกระบี่ของเขาไม่ได้เพิ่มเร็วขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่มันเร็วขึ้นถึงสองเท่า
“ข้าต้องรักษาตัวตนให้ดูต่ำเข้าไว้”
โดยไม่ต้องเปิดใช้งานเทคนิคมังกรลับ หลี่ฟูเฉินก็ยังคงสามารถทำลายกระบวนท่ากระบี่ของหูหมิ๋งได้อย่างง่ายดาย ความสามารถในการรับรู้การต่อสู้ของเขา ส่งผลให้เขาพบจุดอ่อนเจ็ดหรือแปดจุดได้ในทันทีที่กระบวนท่ากระบี่ถูกใช้ มันไม่สำคัญว่าความเร็วของกระบี่หูหมิ๋งจะเร็วแค่ไหน
แต่ทว่าหากเขาสัมผัสมันโดยตรง มันก็จะอันตรายยิ่งกว่าเดิม และจะไม่สามารถหยั่งรู้ถึงทักษะต่อสู้ของเขาได้
เขาตัดสินใจ เมื่อเปิดใช้งานเทคนิคลับมังกรเร้นลับแล้วสภาวะพลังฉีของหลี่ฟู่เฉินก็แข็งแกร่งขึ้นมากเช่นกัน
ดาบทองคำทมิฬพุ่งออกมา
บูม!
หูหมิ๋งถอยกรู และกระบี่พลังฉีของเขาก็หายไปในไม่ช้า
“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!” หูหมิ๋งกำลังจะบ้าไปแล้ว
หากเขาถูกต่อสู้ได้อย่างสูสีหูหมิ๋งอาจจะยอมรับได้ แต่ดาบของหลี่ฟูเฉินรู้ทุกจุดอ่อนของกระบวนท่ากระบี่ของเขา ซึ่งมันทำให้เขายอมรับมันไม่ได้
“หูหมิ๋งแพ้แล้ว” ฉินเคอชือกล่าวออกมาเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้
“น่าสนใจ…ความสามารถในการรับรู้การต่อสู้ของเขาค่อนข้างแข็งแกร่ง” หรันเฉียนฉิว มีอาการแสดงออกอย่างที่อึ้มครึม ผู้ที่ถูกจัดอันดับในการจัดอันดับดาราอย่างเขากลับคาดการณ์ออกมามั่วๆ มันช่างดูน่าขายหน้าเสียจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มันเกิดขึ้นต่อหน้าฉินเคอชือ
“รับดาบของข้า” หลี่ฟู่เฉินลอยขึ้นเหนือหูหมิ๋ง และฟันดาบลงไป
กระบวนท่าครั้งนี้คือ ทักษะดาบดาวตก ระเบิดดาวตก
ถ้ามันเป็นคนอื่นเป็นคนใช้กระบวนท่านี้ มันจะยังคงมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แม้ว่าพวกเขาจะสามารถเข้าใจเจตจำนงของดาบดาวตกได้ก็ตาม แต่เมื่อหลี่ฟู่เฉินเป็นคนใช้กระบวนท่านี้ การระเบิดพลังของดาวตกจะถูกระเบิดออกโดยตั้งใจให้มันแตกกระจายออกมา ราวกับว่าดาวตกทุกดวงมีวิญญาณเป็นของตนเอง
ปิส ปิส…
กระบี่ของหูหมิ๋งนั้นสามารถสกัดกั้นดาวตกบางส่วนได้ แต่พลังฉีป้องกันของเขาก็ถูกแผดเผาในทันที เวลาต่อมา ดาวตกก็พุ่งกระจายเข้าใส่ร่างกายของเขา แผดเผาผ่านเกราะหนังของเขาและเปิดแผลเลือดที่ไหม้เกรียม
“ป่าเถื่อน!”
เสี่ยวไบ๋ที่กำลังโกรธต้องการใช้ฝ่ามือสังหารหลี่ฟู่เฉิน
“เสี่ยวเซียง เจ้ากับข้าได้รับการจัดอันดับในการจัดอันดับดารา เจ้าจะเข้าร่วมประลองได้อย่างไร!”
ฉินเคอฉือไม่ได้คาดหวังว่าดาบของหลี่ฟู่เฉินจะไร้ความปรานี เมื่อเห็นความน่าสมเพชของหูหมิ๋งแล้ว เขาอาจจะต้องใช้เวลาสองถึงสามเดือนในการฟื้นฟูร่างกายอย่างสมบูรณ์ หากเขาไม่ใช้สมุนไพรหรือน้ำอมฤต เขาจะไม่สามารถพักฟื้นได้อย่างเต็มที่แน่นอน
แต่เธอไม่สามารถมองเสี่ยวไบ๋สังหารหลี่ฟู่เฉินอย่างเลือดเย็นได้ เสี่ยวไบ๋อยู่ในอันดับที่ 101 ในการจัดอันดับดาราและถ้าเขาต้องการสังหารหลี่ฟู่เฉิน เขาต้องใช้เพียงหนึ่งหรือสองกระบวนท่า เมื่อเสี่ยวไบ๋เคลื่อนไหวเธอก็ติดตามเขาไปอย่างใกล้ชิด
แต่ความเร็วในการประมวลผลของเสี่ยวไบ๋ก็รวดเร็วเกินไปและเขาก็เข้าใกล้หลี่ฟู่เฉินมากแล้ว0เช่นกัน
ฝ่ามือขนาดใหญ่ประดุจเมฆครึ้มห่อหุ้มหลี่ฟู่เฉิน
“หลี่ฟู่เฉินระวัง!” ฟานเฉียงสงและฟานเฉียนหยูตะโกนออกมา
ฮวงหยูเซียงส่ายหัว ในมุมมองของเขา เว้นแต่หลี่ฟู่เฉินจะสามารถต้านทานการกระบวนท่าจากเสี่ยวไบ๋ได้ เขาถึงจะรอด ไม่งั้นแล้วแม้แต่ฉินเคอฉือก็คงไม่สามารถช่วยเหลือได้ทันเวลา