Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 241
บทที่ 241
สตรีศักดิ์สิทธิ์แส้ปีศาจ
ในบางมุม ลั่วชิงหยุนย่อมต้องรู้สึกอับอายมากกว่าหูหมิ๋ง และซินหวูหยวน
หูหมิ๋งเป็นคนแรกที่ท้าทายหลีฟู่เฉิน ดังนั้นแล้วเขาสามารถพูดได้ว่าเขาไม่รู้ถึงความเก่งกาจของ หลี่ฟู่เฉิน และเขามีความมั่นใจและประมาทมากเกินไป
ซินหวูหยวนเป็นตัวอย่างที่น่าอับอายเป็นอย่างมาก
แต่ลั่วชิงหยุนก็ต้องทนทุกข์ทรมานมากกว่าเดิม แม้แต่กระทั้งยายของเขาก็ยังละอายใจแทนเขาเป็นแน่
ตั้งแต่ยังหนุ่ม เขาไม่เคยประสบกับความพ่ายแพ้ที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อน
อ็อก!
เลือดสดถูกพ่นออกมาเต็มปาก ขณะที่ลั่วชิงหยุนตัวซีดและดวงตาของเขาก็ดูไร้ซึ่งชีวิตชีวา
ทุกคนบนยอดเขาฝนใบไม้กลายเป็นโง่งม
แม้แต่นักดาบฟ้ากระจ่างลั่วชิงหยุนก็พ่ายแพ้ และมันก็ชัดเจนมาก พวกเขาชื่นชอบลั่วชิงหยุน และคิดว่าเขาคงไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักในการเอาชนะหลี่ฟู่เฉิน
แต่เขากลับพ่ายแพ้อย่างง่ายดาย
“ข้าฝันไปงั้นหรือ? มาตบหน้าข้าสักทีนึงสิ”
“ข้าไม่เข้าใจ หลี่ฟูเฉินผู้นี้เป็นใคร? เขาอยู่ที่ระดับ 5 ของขอบเขตปฐพีแน่ใช่มั้ย? เขาเอาชนะคนที่มีระดับมากกว่าตัวเองสามระดับ และเอาชนะนักดาบฟ้ากระจ่างลั่วชิงหยุนได้อย่างไร?”
“นิกายวารีครามมีเพียง ดาบคลั่งและดาบพยัคฆ์ที่โด่งดังนี่ หลี่ฟู่เฉินผู้นี้เป็นใครมาจากไหน?”
“บ้าเอ้ย ไม่มีใครหยุดยั้งความเย่อหยิ่งของเขาได้เลยรึไง?”
ทุกคนสามารถรู้สึกได้ถึงความรู้สึกร้อนผ่าวบริเวณใบหน้าของตนเอง ก็ในเมื่อที่หลี่ฟู่เฉินได้ใช้ข้อเท็จจริงเพื่อบอกพวกเขาครั้งแล้วครั้งเล่า มันเหมือนเป็นการตบหน้าพวกเขาถึงสามครั้งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหูหมิ๋ง ซินหวูหยวน หรือแม้แต่กระทั่งลั่วชิงหยุน พวกเขาทั้งหมดมีความมั่นใจในตอนเริ่ม แต่ก็ประสบความพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชในท้ายที่สุด
“จบการประลองแล้ว?” ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยู อุทานแบบตกตะลึงออกมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ประหลาดใจ ก็ในเมื่อพวกเขารู้ว่าหลี่ฟู่เฉินสามารถเอาชนะหูหมิ๋งและซินหวูหยวนได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้หลี่ฟู่เฉินเอาชนะลั่วชิงหยุนได้ เรื่องนี้สำหรับพวกเขาก็นับว่าเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ
แต่ทว่าที่ด้านข้าง ฮวงหยูเซียงมีอาการสับสนแสดงออกมา
“หลี่ฟู่เฉินผู้นี้มาจากโลกไหนกัน” ฮวงหยูเซียงพึมพำกับตัวเอง
เขายอมรับว่าเขาตัดสินผิดมาสามครั้งแล้ว
หลี่ฟู่เฉินนี้ต้องไม่ดูด้วยเหตุผลแบบปกติ ความสามารถในการรับรู้การต่อสู้ของเขาเหนือกว่าของลั่วชิงหยุน และแม้แต่กระทั้งผู้ที่ติดอันดับดารา
การจัดอันดับอาจไม่ทำให้เขาดูเหนือกว่าในแง่ของความสามารถในการรับรู้การต่อสู้ บางทีอาจมีเพียงผู้ที่มีชื่อเสียงในอันดับดาราเท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้
แน่นอน แม้ว่าเขาจะเห็นกุญแจในการไขปัญหา แต่ความประทับใจของฮวงหยูดเซียงที่มีต่อหลี่ฟู่เฉินได้รับการแก้แล้ว หลี่ฟู่เฉินทำให้เขาละอายใจครั้งแล้วครั้งเล่า และเขาก็ไม่สามารถทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อีกต่อไป เขาฝังความเกลียดชังไว้ส่วนลึกของหัวใจ
แคร็ก!
เสียงถ้วยชาถูกบีบแตกพร้อมๆ กันดังออกมาจากสองศาลา
คนบีบถ้วยชาก็คือหรันเฉียนฉิว และเสี่ยวไบ๋
หรันเฉียนฉิวรู้สึกว่าเขาได้รับความอับอายอย่างที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าฉินเคอชือ
เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น และรู้สึกไปเองว่าฉินเคอชือกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ในใจ
แต่เขาจะรู้ได้อย่างไรว่า แม้แต่ฉินเคอชือก็รู้สึกละอายใจ
เมื่อลั่วชิงหยุนเข้าสู่เวที ฉินเคอชือก็คิดอย่างเดียวกัน เธอคิดว่าหลี่ฟู่เฉินจะพ่ายแพ้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่กล่าวถึงมันก็ตาม
“เฮ้อ!”
ฉินเคอชือส่ายหัว แล้วกลับไปนั่งจิบชา พยายามสงบอารมณ์ของเธอ
หรันเฉียนฉิวยิ้ม และกล่าวอย่างงุ่มง่าม “หลี่ฟู่เฉินผู้นี้รู้วิธีป้องกันตัวเองจากการเสียหน้าโดยปกปิดความสามารถของเขา แต่เขายังไม่ได้เจอผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง หากเขาได้เจอกับผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง เขาคงจะตายเร็วขึ้นเป็นแน่ ถ้าเขายังคงปกปิดความสามารถของเขาไว้เช่นนี้”
ฉินเคอชื่อปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะในใจเธอไม่ได้คิดอย่างนั้น
‘การรับรู้มันไม่ได้มีไว้ใช่แค่ในด้านการต่อสู้เท่านั้น มันมีประโยชน์มากสำหรับการวิเคราะห์ความสามารถของคู่ต่อสู้ บางทีการรับรู้ด้านการต่อสู้ของเขารู้สึกว่าเขาเก่งพอที่จะปะทะกับเสี่ยวไบ๋!’ ฉินเคอชือคิดกับตัวเอง
ขณะที่ชาไหลลงจากนิ้วมือของเขา เสี่ยวไบ๋ปราศจากความรู้สึก ซึ่งเป็นตอนนี้เองที่เขาจ้องมองไปยังฉินเคอชือที่อยู่ในศาลา
ผ่อนลมหายใจเล็กน้อย แต่ท้ายที่สุดเสี่ยวไบ๋ก็ไม่ได้ก้าวออกมา
ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเขาก้าวเข้าไปและสังหารหลี่ฟู่เฉิน เขาอาจจะไม่ได้รับความขุ่นเคืองจากฝูงชน แต่ฉินเคอชือจะต้องขัดขวางเขา เขาจะต้องเสียหน้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทุกคนคงจะสงสัยในจิตวิญญาณความดีชั่วของเขา และคงจะคิดว่าเขามีแผนการที่ลึกซึ้งมาก แผนการที่ดูเหมือนเขาหาวิธีที่ตัวเองจะได้รับประโยชน์เข้าตัว หากสิ่งนี้เกิดขึ้น ก็คงจะไม่มีใครกล้าที่จะมีส่วนร่วมกับเขา ก็ในเมื่อพวกเขาอาจจะคิดตัวเขาพลิกลิ้น และไม่สนใจเขาเมื่อใด
‘ผู้ชนะจะเป็นผู้เขียนเรื่องราว ในขณะที่ผู้พ่ายแพ้จะต้องฟังผู้ชนะ’ คำพูดนี้ใช้ได้ตลอดเวลา
มันเป็นการกระทำแบบเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกัน ทำให้ผู้คนมีความคิดที่แตกต่าง
หากเสี่ยวไบ๋ต้องการลงมือ เขาต้องทำให้แน่ใจว่าเขาจะสังหารหลี่ฟู่เฉินได้ หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาก็ไม่ควรเคลื่อนไหว จะต้องเหตุการณ์เหนือความคาดหมายใดๆ
“ข้าจะให้เจ้าอยู่ต่อไปอีกซักพัก” เสี่ยวไป๋พยายามเพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างเต็มที่
“ใครอยากท้าทายข้าอีกหรือไม่!”
หลังจากเอาชนะลั่วชิงหยุนได้แล้ว หลี่ฟู่เฉินก็ตัดสินใจไปให้ตลอดทาง เขาต้องการดูว่าจะมีใครที่ไม่รู้ประเมินตัวเองตัวเองอีกหรือไม่
“หยิ่งเกินไปแล้ว เขาไม่ได้ใช้ประโยชน์งานเลี้ยงน้ำชาครั้งนี้ที่เสี่ยวไบ๋ไม่สามารถเข้ามาได้ใช่หรือไม่?”
“เจ้ามีผู้อื่นอีกไหม? นอกเหนือจากผู้ถูกจัดอันดับดารา ก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของเขาแล้ว”
“เฮ้อ มันก็คงเป็นเช่นนั้น”
ในขณะที่ทุกคนวิพากษ์วิจารกันอย่างร้อนแรง พวกเขาทั้งเจ็บปวดและหมดหนทางในเวลาเดียวกัน
“ข้าว่าจะดีกว่า หากเจ้าหยุดเท่านี้” ฟานเฉียนสงใช้พลังฉีของเขาเพื่อส่งข้อความไปถึงหลี่ฟู่เฉิน ขอให้เขาไม่รุกรานผู้คนจำนวนมากเกินไป
“ฉินเคอฉี เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าอยู่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลายและเพลิดเพลิน? หึ เจ้าเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้จริง แต่ช่างน่าเสียดายที่ข้า ถังชือฉี อยู่ที่นี่ ในตอนนี้เจ้าควรหยุดจัดงานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้นี่”
ภาพลักษณ์ที่สวยงามและน่าดึงดูดของสุภาพสตรีปรากฏขึ้นบนยอดเขา
ราวกับรอยเปื้อนของเงาดำ บางคนร่อนลงมาจากบนหลังคาศาลา
ผู้หญิงคนนี้มีอายุใกล้เคียงกับฉินเคอชือ ซึ่งมีอายุประมาณ 20 ปี รูปลักษณ์ของเธอด้อยกว่าฉินเคอชือเล็กน้อย แต่รูปร่างของเธอน่าดึงดูดและยั่วยวนเช่นกัน
สวมชุดหนังสีดำ หน้าอกของเธอตั้งตระหง่าน ในขณะที่ต้นขาสีขาวของเธอถูกเผยออกมา
“เธอคือสตรีศักดิ์สิทธิ์แส้ปีศาจ ถังชือฉี อยู่ในอันดับที่ 89 ในการจัดอันดับดารา”
“เธอเป็นศัตรูตัวฉกาจของฉินเคอชือ ทุกครั้งที่พบกัน พวกเขาจะแลกเปลี่ยนกระบวนท่าสองถึงสามร้อยครั้งถึงจะหยุด”
“ข้าได้ยินมาว่าถังชือฉีได้รับบาดเจ็บจากฉินเคอชือเมื่อก่อนหน้านี้ เธอต้องมาที่นี่เพื่อแก้แค้นแน่นอน”
“การแสดงที่ดีจะเริ่มขึ้นแล้ว” เมื่อทุกคนได้ยินถังชือฉีประกาศตัวตนของเธอ พวกเขาจำผู้หญิงคนนี้ได้ทันที
ฉินเคอชือยืนขึ้นและกล่าวอย่างเฉยเมย “ถังชือฉี หากเจ้ามีปัญหาใดๆ พวกเราค่อยมาชำระหลังจากงานเลี้ยงน้ำชา ไม่จำเป็นต้องสร้างปัญหาขึ้นที่นี่”
“ฮึ่ม หากข้ามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา เจ้าจะทำอะไรได้?”
แส้กระดูกสีขาวปรากฏขึ้นในมือของถังชือฉี ขณะที่แส้กระดูกขาวถูกตวัด เงาแส้อันทรงพลังพุ่งพล่านไปทางศาลาเจ้าภาพ กลางอากาศ มันเกิดเสียงระเบิดพร้อมกับเสียงสายฟ้า มันมีเสียงดังเพราะการกระเพื่อมในอากาศ
“ตราประทับร้อยดอกไม้!”
ดอกไม้ขนาดยักษ์เบ่งบานกลางอากาศและบดบังเงาแส้
“ถังชือฉีอย่าให้เกินไปนัก” ฉินเคอชือกล่าวอย่างเย็นชา
“ชุมนุมไร้พรมแดน!”
ถังชือฉีไม่ต้องการแม้แต่จะสนทนากับฉินเคอชือ แส้กระดูกสีขาวของเธอตวัดไปกลางอากาศ มีแส้เงาหลายเส้นเกิดขึ้น ขณะที่มันก่อตัวเป็นตาข่ายเพื่อกักขังฉินเคอชือ
ในทันที ทุกคนเริ่มแตกหือ และแยกตัวออกจากเวทีศิลปะการต่อสู้
ขณะที่สตรีศักดิ์สิทธิ์แส้ปีศาจ ถังชือฉีปรากฏตัว เสี่ยวไบ๋รู้สึกตื่นเต้น เขาลุกขึ้นจากที่นั่งและวิ่งตรงไปที่หลี่ฟู่เฉิน
“หลี่ฟู่เฉิน ตอนนี้มาดูกันว่าใครจะช่วยเจ้าได้ ตาย!”
เขารอช่วงเวลานี้มานานและในที่สุดโอกาสก็มาถึง
ตราบใดที่ถังชือฉีสามารถสกัดกั้นฉินเคอชือเอาไว้ได้ เขาก็จะมีโอกาสสังหารหลี่ฟู่เฉิน
เขาไม่กังวลเลยหากฉินเคอชือจะตำหนิเขาในภายหลัง ฉินเคอชือจะสังหารเขาเพราะหลี่ฟู่เฉินหรือไม่? หลี่ฟู่เฉินได้รับการชื่นชมหรือเปล่า?
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่กลัวฉินเคอชือเช่นกัน
“ครั้งนี้หลี่ฟู่เฉินโชคไม่ดี ตอนนี้เสี่ยวไบ๋กำลังจะสังหารเขาแล้ว”
“ก่อนหน้านี้ใครขอให้เขามีความจองหองเช่นนั้นละ เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าสตรีศักดิ์แส้ปีศาจ ถังชือฉีจะปรากฏตัว!”
“เสี่ยวไบ๋ สังหารเขา!” ทุกคนต่างร้องอุทาน
เพิกเฉยต่อผู้คนเหล่านั้นที่ดีใจในความโชคร้ายของเขา หลี่ฟู่เฉินเงยหน้าขึ้นและกล่าวว่า “เสี่ยวไบ๋ ข้าเองก็รอโอกาสนี้มานานแล้วเช่นกัน”
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels