Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 243
บทที่ 243
ความเที่ยงธรรมและเกียรติยศ
ที่หลี่ฟู่เฉินอยู่ในสภาพที่เท่าเทียมกับเสี่ยวไบ๋ก็เป็นเรื่องที่ตกตะลึงอยู่แล้ว แต่การที่ทำให้เสี่ยวไบ๋ ต้องถอยไปตั้งหลักนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครกล้าคิด
อันดับดาราไม่ได้เป็นเพียงแค่การประลองเพื่อจัดอันดับเท่านั้น แต่เป็นการพิสูจน์ความสามารถด้านการต่อสู้ของตัวเองด้วยเช่นกัน การแข่งขันจัดอันดับดาราจัดขึ้นเพียงหนึ่งครั้งในทุกๆ สามปี ผู้เข้าร่วมทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นอัจฉริยะทั้งนั้น มีเพียง 108 คนเท่านั้นที่จะถูกจัดอันดับดารา
อันดับดารา 101 อาจจะต่ำไปสักหน่อย แต่นั่นเป็นเรื่องก็เป็นคนที่ถูกจัดอยู่ในอันดับดารา สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในอันดับดารา มันนับเป็นเกียรติสำหรับพวกเขาแล้วหากเขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับดารา เพราะไม่ใช่ว่าทุกนิกายจะมีศิษย์ที่มีความสามารถมากพอที่จะมีชื่ออยู่ในการจัดอันดับดารา
ดังนั้น มันจึงไม่สำคัญว่าผลลัพธ์สุดท้ายของการต่อสู้จะเป็นอย่างไร แต่ถ้าหลี่ฟู่เฉินสามารถบังคับให้เสี่ยวไบ๋ถอยไปได้ด้วยดาบเดียว นั้นหมายความว่าเขาก็มีความสามารถที่จะมีชื่ออยู่ในการจัดอันดับดาราด้วยเช่นกัน
‘ทักษะดาบระดับลึกลับขั้นสูงย่อมคู่ควรกับระดับของมัน มันมีพลังถึงขนาดนี้แม้จะยังไม่เข้าใจเจตจำนงดาบ’
หลังจากทำให้เสี่ยวไบ๋ถอยกลับไปได้ด้วยดาบเดียว หลี่ฟู่เฉินเองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
ในความคิดของเขาทักษะดาบเพลิงปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าทักษะดาบดาวตกเพียงแค่ 30% เท่านั้น แต่ความสามารถในการโจมตีซึ่งๆ หน้าของมันก็ยังแข็งแกร่งกว่าทักษะดาบโคจรหลังไหลถึง 30% ทักษะดาบเพียงเล่มเดียวนี้มีการผสมผสานระหว่าทักษะดาบถึงสองแบบ
“ทักษะดาบลึกลับขั้นสูง?” เสี่ยวไบ๋สถบออกด้วยความโกรธ ในขณะที่เขากัดฟัน
เขาสามารถบรรุทักษะลึกลับขั้นสูงได้เพียงแค่ขั้นกึ่งสมบรูณ์แต่เพียงเท่านั้น และมันก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับเจตจำนงทักษะต่อสู้ระดับลึกลับขั้นกลาง สู้ไม่ได้ทั้งในแง่ด้านพลังหรือด้านความคล่องแคล่ว การใช้มันต่อหน้าทุกคนที่นี่ก็จะเป็นแค่เรื่องที่น่าอับอายแต่เพียงเท่านั้นเท่านั้น
แต่ทว่าหลี่ฟู่เฉินต่างออกไป ทักษะดาบลึกลับขั้นสูของเขาอยู่ในขั้นสมบูรณ์ และเหนือกว่าเจตจำนงระดับลึกลับขั้นกลางโดยสิ้นเชิง
“ทักษะลึกลับขั้นสูงนั้นต้องใช้พลังฉีมากกว่าปกติ มาดูเถอะว่าใครจะอยู่ได้นานกว่ากัน”
ด้วยพลังฉีเทพยุทธ์อาชูร่าที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเสี่ยวไบ๋ เขาพุ่งไปที่หลีฟู่เฉินอีกครั้ง
“เป็นเช่นนั้น?”
หลี่ฟู่เฉินรู้ดีว่าทักษะระดับลึกลับขั้นสูงนั้นใช้พลังฉีค่อนข้างมาก และเนื่องจากระดับการฝึกฝนของเขายังอยู่ในระดับต่ำ ความเร็วของการเผาผลาญพลังฉีก็จะเพิ่มมากขึ้น แต่ทว่า… สำหรับการสู้กับเสี่ยวไบ๋แล้ว ทำไมเขาจึงต้องการยืดเวลาการต่อสู้ให้นานออกไป?
ความตระหนักในการต่อสู้ของเขาควบคู่ไปกับทักษะดาบเพลิงปีศาจสามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย
หลี่ฟู่เฉินกวัดแกว่งดาบทองคำดำด้วยสองมือก่อนที่จะยกดาบขึ้นสูงและปักลง
ฉึบ!
เปลวเพลิงลุกโชนออกมาในขณะที่มีลาวาไหลทะลักออก เพลิงลุกไหม้ขณะที่ดาบพลังฉีถูกตวัดฟันออกไปอย่างรุนแรง
จังหวะและมุมของดาบนี้เป็นจุดสุดยอดของการโจมตีที่ดีที่สุด ซึ่งเสี่ยวไบ๋ไม่สามารถแม้แต่จะหลบได้ทัน และเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขัดขวางมัน
“อีกครั้งนึง!”
หลี่ฟู่เฉินโจมตีเสียวไบ๋อีกครั้ง ในขณะที่ดาบเพลิงพลังฉีก็ถูกตวัดฟันออกไปอีกครั้ง
ปิส!
เสี่ยวไบ๋ไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ ขณะที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีแดงสด
“เป็นไปไม่ได้! นี่ข้าไม่ใช่คู่ต่อเขาจริงๆ งั้นหรือ?” ดวงตาของเสี่ยวไบ๋แดงก่ำ และไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
เขาเป็นคนในอันดับดารา หากมีดาบคลั่งอยู่ที่นี่ล่ะก็ เขาก็ยังคงมีความมั่นใจที่จะกำราบเขาอยู่ย้าง แต่เขาจะยอมรับมันได้อย่างไร ความสามารถของเขาถูกทำให้ต้องงัดออกมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่าว แต่เขาก็กำลังถูกกำราบลงไปอยู่ดี
“ตาย!”
ทันใดนั้นเองก็มีลูกดอกปรากฏขึ้นในมือของเสี่ยวไบ๋ ขณะที่เขาซัดมันไปยังหลี่ฟู่เฉิน
ความเร็วสูงสุดของลูกดอกนั้นดูเหมือนจะไม่สนใจช่องว่างระหว่างทั้งสอง
หลี่ฟู่เฉินเหลือบมองมัน และเห็นว่าลูกดอกนั้นเจือปนไปด้วยยาพิษ
นอกจากนี้ กลางลูกดอกที่กำลังบินอยู่ เป็นคริสตัลที่ฝังอยู่
คริสตัลนี้เปล่งแสงสลัวๆ ซึ่งเพิ่มพลังให้กับการบินของมัน หลี่ฟูเฉินรู้สึกว่าถ้าเขายังคงอยู่ ลูกดอกที่กำลังบินมานี้จะเจาะทะลุเกราะพลังฉีของเขา มันอาจทำให้เขาบาดเจ็บสาหัญหรือแม้แต่กระทั้งสังหารเขาได้
“ลูกบินนี้ไม่ได้ง่ายเช่นนั้น” หลี่ฟูเฉินคิดกับตัวเอง
ฟึบ ฟึบ!
ลูกดอกบินโดยธรรมชาติแล้วมันจะไม่สามารถโจมตีหลี่ฟู่เฉินได้
ด้วยความตระหนักในการต่อสู้ที่น่ากลัวของเขา หลี่ฟู่เฉินจึงสามารถรักษาความระมัดระวังได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อลูกดอกบินปรากฏขึ้น ร่างกายที่แท้จริงของหลี่ฟู่เฉินก็ได้หายไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงภาพติดตา
ลูกดอกทะลุภาพติดตาม และไปปักอยู่ที่ศาลาด้านหลัง ไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วพวกมันบินไปที่ใด
“เจ้าจะต้องแพ้!”
หลี่ฟู่เฉินยกดาบขึ้นในมุมเฉียง บังคับให้เสี่ยวไบ๋ต้องบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
แต่เสี่ยวไบ๋เองก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เช่นกัน ดาบที่สองของหลี่ฟู่เฉินไม่ได้โจมตีไปยังเสี่ยวไบ๋โดยตรง แต่ทว่าโจมตีเพียงโล่ที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าเสี่ยวไป๋แทน
เช้ง!
ประกายไฟพุ่งออกมาเหมือนสายฝนที่โหมกระหน่ำ ส่งผลทำให้เสี่ยวไบ๋บินไปพร้อมกับโล่ของเขา ในขณะที่เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง
ในศาลาทุกคนต่างกลายเป็นมึนงงไปหมด
ความแข็งแกร่งของหลี่ฟู่เฉินไม่สามารถอธิบายได้ด้วยคำพูด
ไม่ว่าจะเป็นซินหวูหยวน ลั่วชิงหยุน หรือแม้แต่กระทั่งเสี่ยวไบ๋ พวกเขาทั้งหมดล้วนขึ้นไปบนเวทีเพื่อถูกหลี่ฟู่เฉินจัดการโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
พวกเขาสงสัยว่าปัจจุบันหลี่ฟู่เฉินใช้ความสามารถทั้งหมดแล้วรึหรือยัง? เขายังคงมีความแข็งแกร่งอื่นที่ยังไม่ได้ใช้อยู่อีกหรือไม่?
“หลี่ฟู่เฉินแข็งแกร่งเกินไปแล้ว”
ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูคิดว่าพวกเขากำลังอยู่ในความฝัน และเกิดความรู้สึกเหนือจริงขึ้น
พวกเขาตระหนักว่าตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาได้พบกับหลี่ฟู่เฉิน พวกเขาไม่สามารถก้าวตามเขาทันได้อย่างสมบูรณ์
“เราทุกคนประเมินเขาต่ำไป เขาอาจไม่อยู่ในอันดับดารา แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นก็บอกได้เลยว่าเขาเป็นอัจฉริยะที่สุดในรุ่น หากเขาได้รับเวลาในการพัฒนา ก็คงมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถต่อกรกับเขาได้” ฉินเคอชือคิดกับตัวเองในขณะที่เธอถูกขัดขวางอยู่ในการต่อสู้ที่รุนแรงกับถังชือฉี
ไล่ตามเสี่ยวไบ๋ไปในทันที หลี่ฟู่เฉินกวัดแกว่งดาบอีกครั้ง
เช้ง!
โล่บินออกมาจากมือของเสี่ยวไบ๋ แขนทั้งสองข้างของเขายกขึ้นไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะมันทั้งเจ็บและชา
โล่อาจทำลายไม่ได้ แต่พลังจากทักษะดาบเพลิงปีศาจก็ยังคงส่งผ่านมา
เสี่ยวไบ๋รู้สึกประหลาดใจ ในขณะที่เขารีบวิ่งไปยังศาลาของเจ้าภาพ ซึ่งหาคนที่สามารถช่วยเหลือเขาได้
“เจ้าจะวิ่งหนีไปไหน!”
หลี่ฟู่เฉินใช้ทักษะสังหารของดาบเพลิงปีศาจ เมื่อดาบของเขาถูกทำลาย เงาสีแดงเข้มก็เข้าไปห่อหุ้มเสี่ยวไบ๋
ปิส ปิส ปิส ปิส!
มีรอยแผลเป็นลึกตื้นมากมายปรากฏขึ้นบนร่างกายของเสี่ยวไบ๋
“หรันเซียง เจ้าจะไม่ช่วยข้าเลยหรือ?”
เสี่ยวไบ๋คำรามใส่หรันเฉียนฉิว
ในขณะนี้หรันเฉียนฉิวที่มีสีหน้าดูมืดมน เริ่มเจตนสสังหารขึ้น
หัวใจของหลี่ฟู่เฉินเกิดเสียงดังขึ้นในฉับพลัน ในขณะที่เขาเรียกคือพลังงานหนึ่งในสามของกระบวนท่าเขากลับมา
ครืน!
ศาลาเจ้าภาพสั่นสะเทือนขณะที่ร่างของหรันเฉียนฉิวกระโจนสูงขึ้นราวกับนกยัษ์ในตำนานที่กางปีกออก มีไม้อาญาสิทธิ์สีทองซีดถูกเหวี่ยงลงมาอย่างโหดเหี้ยม
กระบวนท่าดาบของเขาถูกทำให้เป็นกลาง หลี่ฟู่เฉินถอยห่างออกไปสามก้าว
หรันเฉียนฉิวปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเสี่ยวไป๋และกล่าวอย่างเฉยชา “เจ้ากล้าอาละวาดในงานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้ เจ้าไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาของเจ้าจริงๆ? เนื่องจากเป็นเช่นนี้ ก็อย่าได้กล่าวโทษข้า หรันเฉียนฉิว ได้ทำผิดกฎ”
เจตนาสังหารได้ปะทุออกมาจากร่างของหรันเฉียนฉิว ส่งผลทำให้สภาวะพลังฉีของเขานั้นเหนือกว่ามากเมื่อเทียบกับเสี่ยวไบ๋
อาการบาดเจ็บของเสี่ยวไบ๋ไม่ถือว่ารุนแรง แต่ทว่าถึงเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากการโจมตีของหลี่ฟู่เฉิน แต่ถ้าหรันเฉียนฉิวไม่ก้าวเข้ามา เขาก็จะเป็นคนที่ตายอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นหรันเฉียนฉิวลงมือ เสี่ยวไบ๋รู้สึกโล่งใจอย่างมาก ขณะที่เขามองไปยังหลี่ฟู่เฉินและกล่าวด้วยความแค้น “หลี่ฟู่เฉิน วันนี้เจ้าจะต้องตาย”
หากหลี่ฟู่เฉินไม่ตาย เขาก็จะไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบ ก็ในเมื่อปีศาจตนนี้จะต้องทรมานเขาอยู่ตลอดเวลา
“ไปช่วยหลี่ฟู่เฉินกันเถอะ!” เมื่อเห็นหรันเฉียนฉิวลงมือ ฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยูตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“เจ้าทั้งสองคนอนู่ดูการแสดงนี้ดีกว่า”
ซินหวูหยวนและศิษย์หลักระดับทองคนอื่นๆ จากนิกายกระบี่ยาวเข้าขัดขวางฟานเฉียนสงและฟานเฉียนหยู ในขณะที่นิกายดาบธารเมฆาเองก็จ้องมองพวกเขาจากางด้านข้างด้วยความละโมบ
“เจ้าสองคนไม่ต้องลงมือ” หลี่ฟู่เฉินสามารถสัมผัสได้ถึงความปั่นป่วนที่อยู่ข้างๆ
“เจ้าสนุขน้ำท่อ เจ้าควรดูแลตนเองก่อนเสียจะดีกว่า ข้าอนุญาตให้เจ้าอาละวาดมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่เจ้าต้องจ่ายราคา” หรันเฉียนฉิวไม่พอใจหลี่ฟู่เฉินอยู่นานแล้ว เขาจะขึ้นไปบนเวทีเพื่อสอนหลี่ฟู่เฉิน ถ้าหากเขาไม่ได้กลัวว่าจะถูกตำหนิโดยฉินเคอชือ
มันเป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบพอดีที่ตอนนี้เสี่ยวไบ๋ได้ขอร้องให้เขาช่วย ถ้าฉินเคอชือเกิดอการคุ่นเคืองเขา เขาสามารถอธิบายได้อย่างง่ายดายว่ามันเป็นการช่วยเสี่ยวไบ๋ ฉินเคอชือจะไม่ทำให้มันเรื่องยากสำหรับเขาเพราะคนที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำใช่ไหม?
“ฮี่ฮี่ หลังจากนี้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องร้องขอความตายและเจ้าก็จะไม่ได้รับอนุญาต หลี่ฟู่เฉิน อนาคตของเจ้าจะต้องเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเท่านั้น” เสี่ยวไบ๋คลี่รอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา ตอนนี้ เขาไม่ได้ทำตัวสูงส่งและดูมากอำนาจเหมือนก่อนหน้านี้ ตอนนี้เขาทำตัวเหมือนปีศาจเสียมากกว่า
เขาละทิ้งความเที่ยงธรรมและเกียรติยศทั้งหมดไปแล้ว
สิ่งที่เขาต้องการก็คือการทรมานหลี่ฟู่เฉิน เพราะมันจะง่ายเกินไปสำหรับหลี่ฟู่เฉินหากเขาได้รับความตาย เสี่ยวไบ๋ต้องการทรมานหลี่ฟู่เฉินเป็นเวลาสามถึงห้าวันก่อนที่จะสังหารเขา
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels