Eternal Reverence เทพบุตรฟ้าประทาน - ตอนที่ 250
บทที่ 250
ดาบคลั่ง
การต่อสู้ระหว่างทั้งสองนั้นรุนแรงมาก
ในขณะที่ทั้งสองคนเป็นนักดาบ กระบวนท่าเพลงดาบของหลินเถิงเจ้าเล่ห์และโหดร้าย ราวกับงูพิษที่พุ่งออกมาจากโพรง
กระบวนท่าเพลงดาบของเฉินหยวนหูมีความโดดเด่นและเกรี้ยวกราด ราวกับเสือดุร้ายที่ลงมาจากภูเขาเพื่อล่าอาหาร ในการออกดาบทุกดาบของเขามีความรุนแรงและโหดร้ายแฝงไว้ มันเป็นความแข็งแกร่งที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า
ตู้ม!
พื้นผิวของแผ่นดินถูกยกขึ้น และได้รับความเสียหายจากดาบพลังฉีของพวกเขา ขณะที่เฉินหยวนหูและหลินเถิงต่างถอยออกไปตั้งหลัก
“หลินเถิง ข้าประเมินเจ้าต่ำไป” เฉินหยวนหูในตอนนี้มีสีหน้าเคร่งเครียด
ความสามารถของ หลินเถิงนั้นเหนือกว่าความสามารถของเหอเหลียนเป่าแน่นอน แม้ว่าหลังจากที่เฉินหยวนหูลงมือใช้กระบวนท่าสังหารของเขาไปไปแล้ว มันก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆ ให้กับหลินเถิงได้แม้แต่น้อย
“ข้าเองก็ประเมินเจ้าต่ำไปเช่นกัน” การแสดงออกของ หลินเถิงคล้ายกับเฉินหยวนหู
มีเพียงสมาชิกในนิกายของเขาเท่านั้นที่รู้ ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะผู้ที่อยู่ในอันดับดาราระหว่างอันดับที่ 90 ได้ แต่ทว่าความสามารถของเฉินหยวนหูนั้นเหนือกว่าพวกนั้นอย่างเห็นได้ชัด
“หากเฉินหยวนหูต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขา เขาจะต้องมีลงมือใช้กระบวนท่าอย่างน้อย 300 กระบวนท่า”
การรับรู้ของ หลี่ฟู่เฉินนั้นตื่นตัวอย่างมาก มากจนเสียเขาไม่ปล่อยให้รายละเอียดใดๆ หลุดรอดไปจากสายตาของเขานระหว่างการประลองของเฉินหยวนหูและหลินเถิง
“แต่… เฉินหยวนหูมีจุดอ่อนอยู่ กระบวนดาบของเขาโหดเหี้ยมเกินไป และเมื่อกระบวนดาบของเขาถูกเพิ่มพลังไปจนถึงขีดสุด ก็จะเกินช่วงความเสถียรของพลัง ช่วงเวลาดังกล่าวอาจเกิดเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่มันก็เป็นจุดอ่อนร้ายแรงอย่างไม่ต้องสงสัย”
“ในขณะที่ หลินเถิงเองก็มีจุดอ่อนของเขาเช่นกัน กระบวนดาบของเขามุ่งแสวงหาความปราดเปรียวและดุร้าย ซึ่งอาจพลาดโอกาสบางอย่างไป”
ในแง่ของความสามารถในการรับรู้ และทักษะการต่อสู้ หลี่ฟู่เฉินได้แซงหน้าผู้ที่อยู่ในการจัดอันดับดาราทั้งหมดไปแล้ว แม้เมื่อการแข่งขันจะถูกจับคู่อย่างเท่าเทียมกัน เขาก็ยังคงค้นหาจุดอ่อนจากทั้งสองผ่ายได้อยู่ดี
เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง เช้ง…
ประกายไฟที่ลุกโชติช่วงโหมกระหน่ำไปทุกทิศทาง
100 กระบวนท่า 200 กระบวนท่า 300 กระบวนท่า…
หลังจาก 300 กระบวนท่า ทั้งสองฝ่ายก็คุ้นเคยกับรูปแบบการโจมตีของกันและกัน และสังเกตเห็นจุดอ่อนกันและกันด้วยเช่นกัน
“จงพ่ายแพ้ไปสะ!”
มันเป็นการใช้ท่าสังหารพร้อมกัน แต่การโจมตีของพวกเขา ทั้งมุม เวลา และท่าสังหารของพวกเขากลับแตกต่างกัน
ปิสส!
ไหล่ของหลินเถิงมีเลือดพุ่งออกมา และลู่ลง ขณะที่เฉินหยวนหูได้รับบาดแผลที่หน้าอกเนื่องจากดาบ
บาดแผลจากดาบนี้อาจจะตื้น แต่มันก็เป็นแผลที่ถูกเฉี่ยวใกล้จุดสำคัญที่สุด
หากบาดแผลลึกกว่านี้แม้แต่หนึ่งนิ้ว มันก็จะทำให้หลอดเลือดแดงในหัวใจของเฉินหยวนหูขาดออก
ในช่วงเวลาสำคัญ ทั้งสองฝ่ายโจมตีไปที่จุดอ่อนซึ่งกันและกัน
จุดอ่อนของเฉินหยวนหูคือความเสถียรของเขา เมื่อกระบวนดาบของเขาถูกเพิ่มพลังไปถึงขีดจำกัด หลินเถิงคว้าโอกาสนั้นไว้ได้ และต้องการที่จะทะลวงการป้องกันของดาบด้วยการตวัดฟังลงมา แต่กระบวนท่าของเขายังไม่สมบูรณ์แบบและทำได้เพียงแค่สร้างบาดแผลตื้นๆ ไว้ที่หน้าอกของเฉินหยวนหูเท่านั้น
“เจ้าแพ้แล้ว!”
เมื่อมองลงไปที่หน้าอกของเขา เฉินหยวนหู่ประกาศอย่างไม่แยแส
การแสดงออกที่มืดหม่นของหลินเถิงนั้นเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจและไม่ยอมรับ เขาเพิ่งแพ้เพราะพลาดไปหนึ่งนิ้ว และถ้าเขาได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาจะเอาชนะคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างแน่นอน
คะแนนของการต่อสู้ในตอนนี้คือ 2 ต่อ 3 ต่อไปจะเป็นรอบที่หก
บางทีสวรรค์อาจเข้าข้างนิกายวารีคราม ก็ใยเมื่อศิษย์หลักระดับทองจากนิกายวารีครามที่เสียเปรียบก็กลับมาชนะอีกครั้ง
หากนับคะแนนก็เป็น 3 ต่อ 3
เหลือการแข่งขันอีกแค่เพียงนัดเดียว
“การต่อสู้นี้ดูสูสีมาก ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่นิกายธารเมฆาจะกดขี่นิกายวารีคราม อย่างดีที่สุด พวกเขาก็แค่เหนือกว่าเล็กน้อย”
“ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะศิษย์หลักอันดับ 1 ของนิกายธารเมฆาลู่หยุนไม่ได้อยู่ที่นี่ ถ้าเขาอยู่ที่นี่ เขาก็จะสามารถเอาชนะเฉินหยวนหูได้อย่างง่ายดาย”
“ดาบคลั่งของนิกายวารีครามก็ไม่ได้อยู่ที่นี่เช่นกัน”
“อันดับดาราของดาบคลั่งต่ำกว่าลู่หยุนมาก”
“การจัดอันดับนั้นผ่านมามากกว่าหนึ่งปีแล้ว ในช่วงเวลานี้ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงมากมายนัก ยกเว้นพวกอันดับต้นๆ คนอื่นๆ จะไม่สามารถรักษาอันดับของตนไว้ได้ ข้าคิดว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว”
ผู้ชมกำลังถกเถียงกันอย่างดุเดือด
ในรอบที่เจ็ด ศิษย์หลักระดับทองของนิกายวารีครามถือไพ่เหนือกว่า และมีข้อได้เปรียบที่ชัดเจน
ในที่สุดหลี่ฟู่เฉินก็สามารถหายใจออกมาอย่างโล่งอกได้
ในฐานะศิษย์หลักจากนิกายวารีคราม เขาจึงสงวนความภาคภูมิใจให้กับนิกายของเขาอย่างมากที่สุด และไม่ต้องการให้นิกายวารีครามต้องพ่ายแพ้โดยนิกายดาบธารเมฆา
“เจ้าจะต้องพ่ายแพ้!”
หลังจากที่ใช้กระบวนท่ามากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง ศิษย์หลักของนิกายวารีครามก็ร่อนขึ้นสู่ท้องฟ้าและตวัดดาบของเขาลง
ราวกับกับดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แสงดาบทะลุทะลวงเข้าไป ส่งผลทำให้ลบล้างกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้าม และทำให้เขาได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
“พวกเราชนะแล้ว!” ศิษย์ของนิกายวารีครามกล่าวออกมาอย่างมีความสุข
ในตอนแรกพวกเขาหมดความหวัง และไม่คาดคิดว่าจะมีการเกมกลับมาได้
แต่ก็ยังโชคดีที่เซี่ยเฟิงรีบเข้ามา หากไม่มีเขานิกายวารีครามก็จะไม่มีวันได้รับชัยชนะ
ในขณะเดียวกัน โชคดีที่เฉินหยวนหูเอาชนะหลินเถิงได้ และทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียขวัญ
“ไปให้พ้น!”
ปิสส!
เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากปาก ขณะที่ศิษย์หลักของนิกายวารีครามกำลังหันหลังกลับ
“ช่างเป็นสภาวะพลังฉีแห่งดาบที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้!”
ผู้ชมมองไปอีกด้านหนึ่ง และเห็นร่างวิ่งเข้ามา
“นั่นมันศิษย์หลักอันดับ 1 ของนิกายดาบธารเมฆา ลู่หยุน”
“นิกายวารีครามจบสิ้นแล้ว ด้วยลู่หยุนที่อยู่ที่นี่ เฉินหยวนหู่จะไม่สามารถต้านทานเขาได้แน่นอน”
การแสดงออกของ เฉินหยวนหูและเซี่ยเฟิงดูสิ้นหวัง
ตามกฎที่พวกเขาตั้งไว้ นิกายวารีครามนับว่าชนะแล้ว และฝ่ายตรงข้ามก็ทำผิดกฎ
ความเร็วของลู่หยุนเร็วมาก และใช้เวลาเพียงพริบตาเขาก็มาถึงสถานที่ประลอง เขามีคิ้วที่สั้นและมีดวงตาที่แหลมคม ไม่มีใครกล้ามองเขาโดยตรง
ลู่หยุนติดอันดับ 72 ในการจัดอันดับดารา ศิษย์หลักอันดับ 1 ของนิกายดาบธารเมฆา
“ลู่หยุน นี่มันหมายความว่าอย่างไร?” เฉินหยวนหูพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะระงับความโกรธ
ลู่หยุนกล่าวอย่างเฉยเมย “ไม่มีอะไรมาก ข้าก็แค่ไม่ชอบนิกายวารีครามของเจ้า”
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าอยู่ในอันดับที่ 72 ของการจัดอันดับดารา ให้ข้าได้ประลองกับเจ้า!” เซี่ยเฟิงคำราม
ลู่หยุนกล่าว “เจ้าไม่มีคุณสมบัติ เข้ามาพร้อมกันทั้งสองคนเลยจะดีกว่า”
“มันจะโอหังมากเกินไปแล้ว เซี่ยเฟิงเจ้าอยู่ที่นี่แหละ”
เฉินหยวนหูจะอดทนต่อการดูถูกเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ด้วยโทสะ และความโหดเหี้ยม
เช้ง!
ลู่หยุนไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว และป้องกันกระบวนดาบของเฉินหยวนหูได้อย่างง่ายดาย
“ทักษะต่อสู้ทรงพลังอย่างแท้จริง” หลี่ฟู่เฉินหรี่ตา
เขาไม่เห็นว่าดาบของลู่หยุนเป็นอย่างไร แต่มันก็โจมตีได้อย่างสมบูรณ์แบบ โจมตีไปยังบริเวณที่เป็นจุดอ่อนที่สุดของดาบของเฉินหยวนหู มันให้ความรู้สึกราวกับว่ามันเป็นเรื่องง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความสามารถพื้นฐานของลู่หยุนจะเหนือกว่าของเฉินหยวนหู
พื้นฐานของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างระหว่างความสามารถในการรับรู้ ทักษะ และท่าสังหาร
“ไปให้พ้น!”
ด้วยการสั่นแขนของลู่หยุน เฉินหยวนหูถูกบังคับให้ลอยกลับไปตั้งหลักใหม่
ในช่วงเวลาต่อมาร่างของลู่หยุนก็หายไป และเมื่อเขาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็อยู่ตรงหน้าเฉินหยวนหูแล้ว เขาใช้ดาบในมือขวา เพื่อปลดอาวุธ ขณะที่ใช้ดาบมือในซ้ายชี้ไปยังหน้าอกของเฉินหยวนหู่
ปิส!
เฉินหยวนหู่หน้าซีด และสำลักออกมาเป็นเลือดสดๆ
เขาพ่ายแพ้ ทั้งๆ ที่ไม่มีการตุกติกหรือลูกเล่นใดๆ
ไม่ใช่เพราะเขาขาดเพียงความสามารถพื้นฐาน แต่ทักษะการต่อสู้ของเขาด้อยกว่าก็เท่านั้น
เมื่อมีความแตกต่างระหว่างทักษะพื้นฐาน ทักษะต่อสู้ที่ท่วมท้นก็เพียงพอที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้โดยไม่ต้องใช้ท่าไม้ตายใดๆ
ย้อนกลับไปที่งานเลี้ยงน้ำชาฝนใบไม้ หลี่ฟู่เฉินขาดความสามารถพื้นฐาน เขาก็ใช้ได้เพียงแค่ทักษะที่เหนือกว่า เพื่อเอาชนะหรันเฉียนชิวและเสี่ยวไบ๋
สำหรับความสามารถพื้นฐาน จริงๆ แล้วมันหมายถึงระดับการฝึกฝน ระดับเจตจำนงของดาบ และระดับท่าสังหาร
เมื่อเซี่ยเฟิงเห็นว่าเฉินหยวนหูพ่ายแพ้ เขาก็รีบขึ้นไปขัดขวางลู่หยุนทันที
ปิส!
น่าเสียดายที่ระดับการฝึกฝนของเซี่ยเฟิงนั้นอ่อนแอกว่ามาก เขาจึงพ่ายแพ้ไปในทันที เนื่องจากลู่หยุนนั้นอยู่ในระดับที่ 9 ของขอบเขตปฐพี ซึ่งเขาไม่มีทางเข้าใกล้ลู่หยุนได้เลย
“ข้าต้องแสดงตัวออกไปจริงๆ?” ขณะที่หลี่ฟู่เฉินกำลังยิ้มอย่างขมขื่น ก็มีรัศมีส่องสว่างไปทั่วดวงตาของเขา
“ไปให้พ้น!”
ในขณะที่หลี่ฟู่เฉินกำลังจะเปิดเผยตัวเอง พายุที่คล้าบกับดาบก็พุ่งเข้ามา สภาวะพลังฉีแห่งดาบนี้มีความรู้สึกคล้ายกับพลังฉีแห่งดาบของนิกายต้นกำเนิดดาบ ซึ่งเต็มไปด้วยพลังสวรรค์และโลก
“มันคือดาบคลั่ง!”
มีคนจำเขาได้
ติดตามได้ก่อนใครที่เพจ indynovels